3 ธันวาคม 2546 08:03 น.
พุด
แด่เพื่อนรักน้องพี่
ฉันท์มิตรไมตรีในร่มรักเรือนไทยแห่งนี้
ที่ดวงรักดั่งดวงใจค่ะ ...
*********
ดวงมีรักมากมายหลายรูปแบบ....
ซ่อนซึ้งไว้จ่ายแจก....
และหลั่งรินให้ใจทุกดวง....
ทั้งคนชิดใกล้.... ทั้งคนไกล....
และสำหรับเพื่อนมนุษย์ทุกทุกคน....
ที่ดวงได้รู้จักและผ่านพบ....
ในค่ำคืนนี้....
ท่ามกลาง
พระจันทร์ครึ่งดวงลอยเด่น....
ลอยหน้าลอยตา....
ยิ้มแฉ่ง ทายทักอยู่บนฟากฟ้า.... แสนหวาน....
ดวงอยากแจกรักของดวง
ผ่านจันทร์ดวงงาม....
ถึงใจของเพื่อนผู้อ่านทุกดวง....
ให้จันทร์ดวงสวยนั้น.... ดวงงามนั้น....
เป็นสื่อประโลมใจ....
ให้เรียนรู้ ที่จะหยุดพัก.... หยุดคิด....
ทุกสิ่งที่ปวดร้าวภายในดวงใจ....
แต่อย่าหยุดฝัน....
เพื่อต่อเติมใจให้มีพลัง
ที่จะได้ใช้ ใจดวงงามละมุนบริสุทธิ์ใส....
ลืมตาดูโลกอย่างมีความสุข.... ความหวัง....
และเมื่อใจเราแสนดี.... ก็จงอย่าลืม....
แจกจ่ายและแบ่งปัน.... ให้กับคนที่เรารัก....
เพื่อนของเรา ที่ยังหมองหม่น.... ทนเศร้า....
หาแสงสว่างไม่พบเจอ....
ด้วยโชคร้ายมากมายที่รายล้อม....
คนเราทุกวันนี้.... ใจไม่ละมุน....
เพราะเราอยู่ในป่าคอนกรีต....
ไม่มีเวลาแม้แต่จะเงยหน้าขึ้น ชื่นชมดาวเดือน....
ทุกนาที คือการแข่งขัน.... แข่งกับตัวเอง....
กับระบบที่บีบคั้น.... ตั้งแต่เด็กถึง การทำงาน....
ดวงเขียนเรื่องบางเรื่อง
ใช้ภาษาสวยงามตามฝันใฝ่....
เพื่ออยากให้ทุกคนรู้ว่า....
โลกนี้ ถ้ามีแต่ความ เร่าร้อน.... แย่งชิง....
โลกก็จะยิ่งร้อนรุ่ม....
มนุษย์พันธุ์แบบดวงคงเหลือน้อยลง....
กลายเป็นคน ประหลาด.... คิดประหลาด....
พูดประหลาด.... เขียนประหลาด.... และทำอะไรประหลาด
ในสายตา ของคนรุ่นใหม่....
ดวงอยากสารภาพว่า....
ดวงรักการภาษาใช้ไทยให้งดงาม....
เพราะภาษาพูดคือภาษาใจ....
ถ้าใจเรางาม.... บริสุทธิ์ใส....
ภาษาพูดก็จะสื่อออกมาบริสุทธิ์ใสเพียงนั้น....
ขอเพียงเราซื่อสัตย์.... ต่อตัวเอง
พูดสิ่งใดขอให้ตรงไปตรงมาอย่างจริงใจ....
และจงใช้ปัญญา.... คิดก่อนพูด....
ให้พูดในสิ่งที่ดีงาม.... สวยงาม และจรรโลงใจ....
ไม่เพิ่มทุกข์ และทำร้ายผู้ใด....
ดวงอยากกลับไปเป็นครู....
สอนเด็กๆเหลือเกิน....
เพื่อสร้างแบบฉบับให้ทุกคนรู้จัก....
ที่จะรักโลก.... รักธรรมชาติ....
รักเพื่อนมนุษย์.... ให้เป็น....
และให้มากกว่านี้.... และให้รู้ว่า
เราโชคดีนักที่ได้เกิดมา พบพระพุทธศาสนา....
ที่เป็นที่พึ่งพาพักพิงใจในยามที่เรา เดียวดายไร้หวังสิ้น....
เพื่อช่วยนำทางเราให้ไปถึง....
ที่แห่งหนึ่ง.... ที่ที่คนดี....
ที่ถึงพร้อมด้วย..
ศีล..สมาธิ และปัญญา เท่านั้นจะไปได้ถึง....
ดวงเขียนอะไร มักวกไปถึงศาสนาเสมอ....
เพราะดวงคิดว่าไม่มีอะไรในโลกนี้ที่จะตามติด
เยียวยาใจของเราเองได้
ยามที่เรา ทุกข์
ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาของวัยใดในชีวิตนี้....
คำสอนของพระพุทธองค์....
จะพร่ำบ่มให้ใจเรา เยือกเย็น.... สงบงาม....
ทุกคืนค่ำ.... ดวงสวดมนต์ให้....
เพื่อนมนุษย์ทุกคนให้มีดวงใจ
และดวงตาสว่างใสมองเห็น.... ธรรม....
นำชีวิตเพื่อนำทาง....
และพาไปสู่ สิ่งที่เป็นสัจจะแน่นอนของชีวิต....
ด้วยดวงจิต.... ดวงใจ.... ที่ถึงพร้อม....
คืนนี้ดวงเศร้าอีกแล้ว....
ทุกคราครั้ง ที่ดวงพานพบกับโลกและมนุษย์
ที่ดวงอยากช่วย.... และช่วยไม่ได้....
ดวงจะเกิดความหมองหม่นใจ....
ดวงพยายามแล้ว....
และดวงคิดว่า
พระเบื้องบนเท่านั้นที่จะรับรู้ และรับทราบ....
ค่ำคืนนี้....
เพื่อนดวงขับรถมาหา....
มาแลกทุกข์.... สุข.... ทุกปัญหา....
ดวงนิ่งฟังด้วยใจสงบ....เพื่อให้เพื่อนได้ระบาย....
เพื่อนรัก....
ผู้สูญเสียผู้เป็นที่รักสามคนในเวลาไล่เลี่ยกัน....
นี่คือโลกที่มีทุกข์ทุกอณู....
เตือนใจ.... เตือนสติ ให้เราอย่าได้หลงลืม
ความจริงแท้แน่นอนของชีวิต....
ให้เราเกิดปัญญายอมรับความจริงว่า....
โลกนี้ไม่มีอะไร แน่นอน....
แปรผันยอกย้อน.... ได้ทุกคืนและทุกวัน....
ในทุกเวลาของชีวิตนี้ ที่อาจยืนยาวหรือแสนสั้น....
แล้วแต่ชะตาฟ้ากำหนดนัด
เพื่อนรัก....
ใช้ทุกสิ่งเยียวยาความบอบช้ำใจ....
น้ำตาระบาย.... เป็นเดือน.... เป็นปี.... ยาวนาน....
ทำบุญ.... ฝึกจิต.... ล้างใจ....
สร้างกุศลเพื่อพ้นทุกข์....
จนกระทั่ง.... คืนหนึ่ง....
หลังจากที่เธอวนเวียน.... มืดมน....
กับทุกข์ที่ถมทับจนใจใกล้จะทานทน....
เธอสะดุ้งตื่นด้วยเสียงที่ก้องกังวานจากเบื้องบน....
เป็นเสียงมากพลัง.... ทรงอำนาจ....
สะเทือนสะท้านสองหู....
สู่ใจที่มืดบอดริบหรี่....
เจ้าสวดคาถาชินบัญชร....
และพระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกเสีย....
แล้วใจของเจ้า.... จะสงบ.... พาไปสู่ปัญญา....
นี่คือเรื่องจริงที่ดวง....
คิดว่าใจดวงที่สะสมบุญ.... บารมีเท่านั้น
ที่เบื้องบนจะมีเมตตา.... มาเปิดใจ.... เปิดตา
ให้พบกับแสงสว่าง
นำทางชีวิตให้สว่างไสว.... พ้นทุกข์.... เฉกเช่นกัน....
เรื่องนี้
เขียนด้วยรัก.... ปรารถนาดี.... มากล้นจากใจ
ที่อยากให้เพื่อนมนุษย์ทุกคน ทุกวัย....
รักและเข้าใจกัน ช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน
ไม่ว่าทางวัตถุหรือจิตใจ....
เพื่อเป็นหนึ่งที่จะช่วยกัน จรรโลงโลกของเรานี้....
ให้มีแต่ความดีงาม....
ดำรงอยู่สืบไป.... ตราบชั่วนิจนิรันดรนะคะ....
**********
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=6196
รัก..........
บท เพลงพระราชนิพนธ์ : : Key Eb
รักทะเล
อันกว้าง ใหญ่ไพศาล
รักท้องฟ้า โอฬาร สีสดใส
รักท้องทุ่ง ท้องนา ดั่งดวงใจ
รักป่าเขา ลำเนาไพร แสนสุนทร
รักพฤกษา รุกขชาติ ที่ดาษป่า
รักปักษา ร้องกู่ บนสิงขร
รักอุทัย สว่าง กลางอัมพร
รักทั้ง รัตติกร ในนภดล
รักดารา ส่องแสง สุกสว่าง
รักน้ำค้าง อย่างมณี มีโภคผล
รักทั้งหมด ทั้งสิ้น ที่ได้ยล
รักนวลนาง รักจน หมดสิ้นใจ
รักพฤกษา
รุกขชาติ ที่ดาษป่า
รักปักษา ร้องกู่ บนสิงขร
รักอุทัย สว่าง กลางอัมพร
รักทั้ง รัตติกร ในนภดล
รักดารา ส่องแสง สุกสว่าง
รักน้ำค้าง อย่างมณี มีโภคผล
รักทั้งหมด ทั้งสิ้น ที่ได้ยล
รักนวลนาง รักจน หมดสิ้นใจ...
********************
เมื่อคืนนอนดูจันทร์ครึ่งดวงค่ะ
และจะเห็นแสงดาวพราวพร่างเต็มอ้อมฟ้าอ้อมใจ
เห็นแสงไฟกระพริบจากเครื่องบิน
ที่พุดคืดว่าน่าจะไปสมุยค่ะ
และ
ทุกคืนพุดจะปูเสื่อนอนเรียบง่ายใกล้กระจกกว้าง
มองดูจันทร์ดวงงามอวดดวงสวย
อย่างซึ้งเศร้า
อย่างเข้าใจโลก..และชีวิตนี้..
ที่หมุนมาพาให้เรามาพานพบพรากจาก
เป็นธรรมชาติใจธรรมดารัก
...
และหากเมื่อเรา..*นักอยากจะรจนา*
ได้มาพบกับสวรรค์หวาน
ท่ามกลางร่มไม้งาม
มีร่มรักเรือนไทยแสนเงียบสงบงาม
ในทุกโมงยาม
ให้เราได้หนีพ้นจากโลกอารยะอันวายวุ่น
ได้มาพักพิงใจ
เอนอิงไหล่ไปด้วยกันฉันท์น้องพี่
ได้มาฝากใจกับจันทร์ฝากฝันกับดาว
ฝากเพลงยาว
ถึงแม่สาวเนื้อนวลในทุกฤดูทุกฤดีงาม
แล้วไซร้..
จงได้เพียรเฝ้าทนุถนอมรอยทรงจำ
ให้เกสรในแววตาพร่างพรายราวสายเพชร
ทุกคราครั้งที่ได้รจนาหรืออ่านผ่านดวงตาดวงใจ
ให้หัวใจได้ตระหนักลึกซึ้งถึงสร้อยรักอักษราค่าคำ..
ว่ารักรักรัก...
รักคือ
พลังถักทอใจ
ผลักดันทุกดวงใจให้มีพลังสรรสร้าง
สิ่งดีดี ที่เรานี้มีพรสวรรค์พรแสวง
มีสมองสองมือดั่งเพชรพร่างพราย
รอหว่านโปรยปรายสู่ผองชนผู้ทนทุกข์ยาก
ก่อนดวงชีวาจะลาลับหล้าตราบชั่วฟ้าดินสิ้นโลกนี้ไป
ทิ้งเพียงความดี อาจจะมีเหลือเพียงงานงาม
ที่จะให้คนที่รักเราและเรารัก
ได้จดจำรำลึกไปตราบชั่วกาล..นะทุกดวงใจ
3 ธันวาคม 2546 07:08 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=3700
(ม่านไทรย้อย)
รักนักร้องคนดีทีชื่อดั่งนกนางนวล
********
ไพลเขียนเรื่องนี้ ตอนตีห้าค่ะ
กับแสงเทียนจากตะเกียงโบราณ
ซึ่งไพล ชอบใช้จุดเวลาเขียนหนังสือ....
เพื่อสร้างบรรยากาศ....
เสียงนกร้อง.... ตู้วู้.... ตู้วู้.... จุ้บจิ้บๆ....
รายรอบ บ้านไพล ซึ่งมีแต่ต้นไม้....
นกคงเริ่มบินออกจากรัง....
ออกล่าหาเหยื่อ.... เหมือนคนใน (กรง) กรุงเทพ
ที่คงต้องเริ่มแยกย้าย ออกจาก รวงรังของตัวเอง
เพื่อออกทำมาหากิน หาเลี้ยงชีวิตชอบเช่นกัน....
อากาศหนาวนิดๆ....
ไพลหยิบเสื้อหนาว สาวแม้วมาใส่....
มองออกไปจากระเบียง.... ผ่านดงไม้....
เห็นชาวสวนหลังบ้าน....
ก่อฟืนหุงข้าว แสงไฟลุกโพลง อยู่ในเตา....
ทำให้ใจไพลลุกโพลงเช่นกัน....
ไพลชอบไฟจากเตาถ่าน.... มากกว่าเตาแก๊ส....
บอกไม่ถูกนะคะว่าเพราะอะไร
อาจจะเป็นเพราะชีวิตไพลคงโต....
มากับสิ่งที่เป็นธรรมชาติเหล่านี้ก็ได้....
ไพลยังเคยคิดว่า....
บ้านชนบทของไพล.... ในอนาคตอันใกล้นี้....
ไพลจะทำห้องครัว.... โดยไม่เทพื้น ปูกระเบื้องสวย....
แต่จะบอกให้สถาปนิก ...
ว่าไพลจะใช้ทรายธรรมชาติสะอาดๆเป็นพื้นแทน....
คงเป็นครัวที่ไพล รักที่สุด....
และเมื่อเวลาไพลปรุงอาหาร คงเป็นอาหาร.... จานอร่อย
เมื่อไพลมองออกไปเห็นทะเล
เห็นพระอาทิตย์ค่อยๆโผล่พ้นทิว มะพร้าว
จากเหลี่ยมเขาด้านหลังในยามเช้าที่แสนสดชื่น....
และค่อยๆตกแตะ
พื้นน้ำในยามเย็น.... ทิ้งแสงสวยไว้ให้ไพล....
ใจเบิกบานที่จะปรุงอาหารจานอร่อย
ให้คนที่ไพลรักได้ลิ้มชิมรส....
ไพลกำลังได้ยิน เสียงเพลงแสนหวาน
ที่ไพลเปิดคลอใจในยามเช้านี้....
มาฟังด้วยกันสิคะ....
***********
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=3700
ลืม....
ลืมหมดแล้วหรือไร
แสงจันทร์ที่เคยเป็นใจ
หลบบังร่มไทรย้อยกิ่ง
กระซิบรำพัน แสงจันทร์เคยแอบเอนอิง
หนาวลมแนบอกเธอผิง สุขซึ้งใจจริงหาใดปาน....
ลืม.... ลืมหมดแล้วน้ำคำ
ซึ้งจำติดรอยใจพิมพ์ เคยชิมว่าเป็นน้ำตาล
ยังหวานตรึงใจ รสใดจะเปรียบประมาณ
แท้จริงลมปากเธอหวาน หลอกฉันมานานร้อยหมื่นอย่าง....
กิ่งไทรย้อยร้อยรักไว้
ร่มไหวไทรเอน ใจเต้นคล้ายลาง
แอบยอดชู้ ชูกิ่งพลาง
ไทรเจ้ากางใบบัง งามเหมือนดังม่านทอง....
ลืม....
ลืมหมดแล้วสายลม
แม้ไทรที่เคยชื่นชม
รื่นรมย์แทนเรือนหอห้อง
ไทรเอ๋ยเคยเอน พักเป็นแดนสุขเคียงครอง
เย้ายวนกันอยู่เพียงสอง ขาดรักไทรมอง หมองวิญญา....
*************
ไพลซื้อ.... ซี ดี.... ชุดนี้ของคุณเบิร์ด มาฟัง
เพราะได้อ่านบทสัมภาษณ์จากใจของ คุณเบิร์ด แล้ว
อยากชูนิ้วโป้ง สองโป้งให้
และคงรวมกับหลายนิ้วโป้งของคน หลายล้านทั้งประเทศ
รวมทั้งเทใจ.... เทคะแนนรัก
ให้ด้วยใจทั้งดวงเลยค่ะ....
ซุปเปอร์สตาร์คนนี้ ใจกายแสนจะติดดินมากเลย....
และที่สำคัญรักคุณแม่ เป็นที่สุด....
คนอะไร.... เกิดมา.... หล่อ....
เสียงดี คิดดี.... แล้วยังเข้าใจอ้อนมิตรรักนักเพลง
มีทัศนคติที่เลิศล้ำ....
ไพลจึงคิดว่า ทุกสิ่งที่หล่อหลอม....
ให้คนๆหนึ่งประสบความสำเร็จถึงจุดสูงสุด นั้น....
ต้องมีหลายองค์ประกอบ....
ความอดทน.... ทุ่มเท.... ฝ่าฟัน
ความเข้าใจโลก เข้าใจชีวิต....
การเริ่มจากดิน.... ถึงดาว ยาวระยะทางนั้น
มากล้นคุณค่าพอที่จะ สะสมให้เข้าซึ้งถึงความจริงของชีวิต....
และทำให้มิลอยเหลิงลมดั่งว่าว คราวชีวิตเป็นดั่งฝัน....
เพลงเก่าทุกเพลงที่คุณเบิร์ดนำมาร้อง....
จะเป็นเพลงรักที่นำความชุ่มชื่น มารินรดใจ....
ให้หวนทวนคิดถึง.... ความหลังที่งามงดฝังใจ....
เหมือนดังเราย้อนกลับ ไปดูอัลบั้มเก่าของครอบครัว....
แล้วแย้มยิ้มชื่นใจ กับอดีตแสนหวานของคืนวัน
ที่ ผันผ่านมานานเนาเหล่านั้น....
ให้สดใสสว่างกลางใจ.... ทุกโมงยาม ที่รำลึกถึง....
ไพลชอบคำพูดของคุณเบิร์ด....
ที่ว่าด้วยเพลงรักสมัยก่อน....
ความรักสมัยก่อน....
เป็นความรักที่สวยงาม
เพราะกว่าเขาจะคิดว่า.... รักกันนี่....
เขาต้องเขียน ความเป็นมาต่างๆอย่างละเอียด....
แม้แต่จะเลิกกัน เขาก็พร่ำพรรณนา
ถึงความเศร้าเสียใจต่างๆนานา....
ถึงคนฟัง ฟังแล้วแทบไม่อยากเลิกกับใคร
ต่างกับสมัยนี้ บทจะเลิกก็พูดไปเลยตรงๆ....
ก็เลิกกันแล้ว ไม่มีอารมณ์ อาลัย อาวรณ์ อะไรทั้งสิ้น....
ไพลคิดว่า.... ใช่เลยค่ะ....
ไพลถึงพยายามเขียนถึงความสวยงาม
ของเพลงเก่าเสมอ ฝากไว้ ในงานของไพล....
ด้วยหวังกล่อมจิต.... กล่อมใจ
ให้ผู้อ่านที่รักของไพล.... ได้รัก.... และรู้จัก....
ภาษาอันละเมียด ละมุน....
กล่อมใจทั้งดวงให้มองโลกอย่างแสนหวาน แสนงาม....
ไปตามบทเพลงไงคะ....
ไพลรักคุณ มิใช่ตรงที ่รูปหล่อ
หรือร้องเพลงไพเราะ เพียงอย่างเดียวนะคะ....
แต่ไพลแสนรักนกนางนวล....
ผู้มีใจอิสระ เริงร่า ทางความคิด
มีรักที่สวยงามจากใจบริสุทธิ์
นำมาจ่ายแจกให้กับชีวิตผู้คน.... อย่างเข้าถึง....
และทำให้ โลกนี้ที่เร่าร้อน.... เยือกเย็น....
ด้วยเสียงกล่อมประโลมใจทุกดวง....
ให้ฝันถึงสิ่งดีๆ.... ฝันแสนดี.... แสนหวาน...
เพื่อให้มีพลังสู้กับโลก.... กับชีวิต....
ที่บางครั้งแสนทดท้อ.... รอคนเคียงข้าง....
ปลอบใจให้หยัดยืน....
อยู่อย่าง ไม่เดียวดายไร้หวังจนเกินทน....
2 ธันวาคม 2546 10:59 น.
พุด
พระบารมี เปรียบร่มฉัตรเทิดเหนือใจ ไทยคุ้มครอง
พระประดุจ ทุกธารน้ำใส ในโลกนี้
พระประดุจ ทุกความดี แสนยิ่งใหญ่
พระประดุจ เป็นขวัญเกล้า ของชาวไทย
พระรวมใจ ราษฎร์จงรัก และภักดี
ทุกดำเนิน แห่งพระบาท ยามไทยทุกข์
ทุกกลียุค หยาดน้ำใจ ไม่ถอยหนี
ทุกยากไร้ ชาวไทย จำได้ดี
พระบารมี เปรียบร่มใจ ไทยคุ้มครอง
ทุกพระราชดำริ ทุ่มเทให้ ไทยทั้งชาติ
ทุกเสโท ที่หยาด เพื่อไทยผอง
ทุกปัญญา คิดกอบกู้ เฝ้าทดลอง
หวังไทยต้อง อยู่ด้วยรัก สามัคคี
ทุกดำรัส จดจำไว้ ในชีวิต
น้อมดวงจิต ของชาวไทย ทุกชีพนี้
ให้ทุกคน ล้วนมุ่งทำ แต่ความดี
เป็นราชพลี เทิดพระบาท ปราชญ์ของไทย
หกสิบล้านดวงใจไทยวันนี้
ทุกความดี เย็นชื่นฉ่ำ หยาดน้ำใส
ทุกทุกชึพ พลีเรียงร้อย ถวายพระพรชัย
ยอดกษัตริย์ไทย ฉลองรัฐ เฉลิมสุข ตราบนิรันดร์
*******
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า พุดพัดชา
www.thaipoem.com
2 ธันวาคม 2546 08:53 น.
พุด
พี่ที่รัก........
ฟ้าใกล้สว่างแล้ว...เสียงนกการ้องจุ๊บจิ๊บระงม.....
อากาศเย็นสดชื่น......กลิ่นการะเวก แก้ว..
จำปี ...และพันธุ์ไม้ไทยนานา...ส่งกลิ่นหอม......
อวลละมุนมากับสายลมเยือกเย็น....ยามอุษาสาง
หวันจุดเทียนหอม...ตามมุมต่างๆของบ้าน....
และจุดตะเกียงโบราณแสนรักเพื่อเขียน
จดหมายถึงพี่....เปิดเพลงซึ่งอยากฝากไปกับสายลม....
ให้พี่ได้ยินคำครวญคร่ำ.........
ตอบใจตัวเองมานาน...
แอบรอคอยเธอก็รู้.......
อยากให้เธอลองตรองดู......
ในความทรงจำ..เก็บไว้.....
ต่างคนมีทาง..ต้องเดิน ........
.อาจมีเวลาต้องไกล.....
หนึ่งคนยังคงรอใจ
ยังคงคอยไปอย่างนั้น ..........
อยู่ไกลกันเกินครึ่งฟ้า....
หากยังมีใจคุ้นกัน...
.จะโยงใยความสัมพันธุ์
มาจนพบกันใกล้ตา.......
ต่อเติมแรงใจเมื่อท้อ.....
แบ่งปันในยามทุกข์ตรมไม่หวั่น.....
ต่างคนเติมใจให้กัน เติมใจซึ่งกันจนเต็ม ...
หวันคิดถึงพี่เหลือเกินค่ะ
ในเวลาอย่างนี้ บรรยากาศอย่างนี้..และกับใจดวงนี้..
ที่แสนสงบสุข...แต่ว้าเหว่ลึกล้ำ....จนเกินใจจะทน......
หวันตื่นมาเพื่อเตรียมของจะไปใส่บาตร...
เช้าวันนี้......เป็นวันสำคัญของคนไทยทั้งชาติ.....
.พี่คงทราบดี คงซึ้งดี ว่าวันที่ 5 ธันวาคม
ของทุกปีนั้น เป็นวันที่ยิ่งใหญ่
มีค่ามหาศาลต่อใจของพสกนิกรชาวไทยเพียงใด.....
หวันเป็นเพียงธุลีเล็กๆที่ตั้งใจจะทำทุกสิ่งที่ดีงาม.
.เพื่อถวายแด่พระองค์ท่าน
หวันคิดว่าวันนี้คือวันที่..เรา..คนไทยทุกคนได้ร่วมร้อยดวงใจเป็นหนึ่งเดียวกัน...
เพื่อประสานสามัคคี..และ..แสดงความจงรักภักดี
ที่ตราตรึงในใจของเราทุกคนชั่วกาลนาน
พี่คะ....
หวันเตรียมจัดของไปวัดด้วยใจที่อิ่มเอิบอย่างเหลือเกิน........
ใจดวงเล็กๆดวงนี้อยากย้อนวันคืนกลับ....
ไปเป็นเด็กหญิงตัวน้อยอีกครั้งหนึ่ง
หวันยังจำได้ดีถึงยามเช้าแสนงาม..
ของชีวิตบ้านนอกของหวัน....
ยามเช้าที่เป็นวันสำคัญๆของชีวิต...
ที่หวันจะต้องตามคุณย่าไปวัด..ไปทำบุญตามประเพณีไทย
ของเรา....ที่หล่อหลอมให้วิถีไทยของเรามีความสงบงาม..
เรียบง่าย มากล้นน้ำใจ.. ต่อทุกสรรพสิ่ง.....
หวันจะตื่นมาพร้อมกับเสียงไก่ขัน เอ้ก อี เอ้ก เอ้ก.......
กลิ่นดอกราตรี โมก และดอกพุดริมรั้ว
ได้น้ำค้างยามเช้าพรมพร่าง มาหอมอวลปลุกนิทรา เสียงถ่านประทุ
กลิ่นข้าวหอมร้อนๆที่เดือดปุดๆบนเตา
เสียงตำน้ำพริก เสียงภาชนะกระทบกัน
ล้วนแล้วแต่เป็นเสียงที่ทำให้หวันลุกจากที่นอน......
หวันมีหน้าที่จะต้องเตรียมดอกไม้เพื่อไปถวายพระ...
เป็นดอกไม้ที่หวันเก็บจากริมรั้วบ้าน
ชบาแดงจัดจ้าน .....
บานชื่นหลากสี
ที่หวันคิดว่าคงแทนความเบิกบานร่าเริงใจ......
ดาวเรืองเหลืองละออ....แทนความสว่างไสวของชีวิตชีวา.....
ทุกๆดอกคือความงามที่หวัน คัดสรรด้วยใจดวงงามของหวันเอง.....
เอาความอิ่มเอิบของใจที่ใสงามและเย็นฉ่ำราวน้ำค้างยามเช้า
มาผูกเป็นช่อร้อยรัด ........
ทุกๆสิ่งที่เรานำไปวัดมาจากใจที่งามล้ำค่าดั่งมณี....
หวันจะช่วยคุณย่าจัดของทุกอย่างใส่ลงใน..กะเฌอ.....
ซึ่งบ้านหวันเรียกอย่างนี้..
.กะเฌอ..คือภาชนะที่สานละเอียดยิบ
ด้วยไม้ไผ่ตอกละเอียด ด้วยฝีมือวิจิตรบรรจงของคนทางใต้
นำมาถักทอเป็นลวดลายงาม
ทุกวันนี้ที่บ้านหวันยังมีอยู่หลายใบ
และพี่จำได้ใช่ไหม มีใบหนึ่งเป็นใบเล็กๆที่พี่อุตส่าห์
แอบไปให้เค้าสานให้หวัน เป็นของขวัญชิ้นพิเศษ
ที่หวันน้ำตาซึมเมื่อได้รับ ความพิเศษที่เหนือค่า เหนือราคา...
.เพราะหวันซึ้งใจเหลือเกินที่คนที่หวันรักนักรักหนา ..
และเรียกว่าผู้ชายคนพิเศษ ของหวัน...
เข้าใจและมองเห็นความงามความละเอียดอ่อนเฉกเช่นใจเราเป็นดวงเดียวกัน
พี่คะ........ หวันเคยกลับไปบ้านที่เกาะ
และพยายามหามาเก็บไว้ เพราะหวันทราบดีว่า
ของเหล่านี้นับวันจะหายากยิ่ง......
หาคนใจดวงละมุนฝีมือละไมละม่อม....ที่จะมาประดิษฐ์
ประดอย ด้วยใจดวงงามทั้งดวง..ทุ่มเท..ถ่ายทอดยากยิ่งนัก.....
บางครั้ง..เวลามีงาน หวันจะนำมาใส่ผลไม้
และหวังว่าแขกของหวันสักคน
ที่มีใจละเอียดอ่อนจะมองเห็นรายละเอียดของงานแห่งชีวิตนี้.....
.แต่น้อยคนนัก
ทุกคนมัวแต่ดื่มกิน เฮฮาปาร์ตี้จนหลงลืมและมองข้ามไป
เราคนไทยยังโชคดีนัก ที่..
สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถองค์มิ่งขวัญ..ของเรา
พระองค์ท่านทรงรัก ทรงห่วงใยงานศิลปกรรมทุกประเภท
และมีโครงการศิลปาชีพ เพื่อส่งเสริม สนับสนุน
และอนุรักษ์งานศิลปของไทยให้ดำรงอยู่ เพื่อเป็นมรดกทางวัฒนธรรม
ที่น่าภาคภูมิใจชั่วกาลนาน
พี่คะ...โลกทุกวันนี้หมุนเวียนเปลี่ยนผันไป
ชีวิตทุกคนรีบเร่ง..ต่อสู้ แย่งชิง
เพื่อให้ได้มาสนองโลกแห่งวัตถุ
คงมีน้อยคนที่จะมีเวลามามองเห็นความงามประณีตของวิถีชีวิต
และมีเวลามาประณีตกับจิตภายใน แม้กระทั่งการเตรียมของไปวัด....
หวันถึงแสนเสียดาย เสียใจกับวิถีชีวิตสงบงาม
ที่หวันเคยมีเคยเป็น เคยได้สัมผัส
แต่หวันยังเชื่อมั่นว่า ในบางชนบท
ที่ห่างไกลของประเทศเรานี้จะยังคง
เหลือวัฒนธรรมทางใจ
ให้โลกนี้มีวิถีที่จะนำเราเดินไปตามเส้นทางสายงามของชนบท
ที่รายเรียงไปด้วยนาข้าว
พระอาทิตย์ดวงโต ลัดเลาะผ่านกองฟาง ข้ามลำประโดง...
เพื่อใช้เส้นทางสายสวยที่ธรรมชาติหยิบยื่นมาให้นี้.......
นำเราไปสู่เส้นทางใจ
ที่จะกล่อมเกลา ให้ใจของเรา สะอาด สว่าง สงบ.....
และสร้างรากฐานความสุขทั้งสิ้นทั้งมวลของชีวิตเราหนึ่งนี้
ที่เราต้องอาศัย ใจที่สว่างล้ำด้วยปัญญาแห่งการเรียนรู้
เพื่อจะมองโลก มองชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น...
พี่คะ........พี่ทราบดีทุกๆโอกาส
ที่หวันเดินทางกลับบ้านเกาะของเรา
หวันจะออกจากบ้าน ตอนตีสาม ตีสี่
หวันจะเตรียมของใส่ท้ายรถเอาไว้
และไม่ลืมเลยที่จะเตรียมของพร้อมที่จะใส่บาตร
ไปด้วยทุกครั้งครา.......
หวันจะชงกาแฟหอมอ่อนๆ
มีกลิ่นช่อเล็บมือนางจากประตูรั้วบ้านแกล้มกลิ่นกาแฟ
ในรถ เพื่อรับอรุณรุ่งแสนงามของชีวิต
และจะเปิดเพลงเย็นๆคลอเคล้า......
ยามอุษาฟ้ากระจ่าง ทั่วนภางค์สว่างแล้ว....
ตื่นนิทราเสียเถิดน้องแก้ว
สว่างแล้วนะแก้วตา.....
แจ้วจำเรียง เสียงกระซิบสั่งดังสัญญา
กระซิบคำรักว่าอุษาสวาทวอน
อย่าข้องใจมอบฤทัยไว้ด้วยกัน
ยามน้องหนาวตัก
พี่ซบดวงพักตร์อบไอรักให้อุ่นพลัน....
อย่าโศกสันต์ ขวัญตา
เจ้าอย่าลืมสัมพันธุ์ปองรักกันจนวันตาย.........
*********
และเมื่อพ้นจากกรุงเทพ.....
แหงนมองออกไปยังฟากฟ้ายามเรื่อเรือง
ดาวดวงโตที่ระยิบระยับ
จันทร์สีทองสุกปลั่งค้างฟ้า
จะทำให้ใจเรา มีพลังรับความเบิกบานในเช้า วันใหม่ของโลก
เมื่อเข้าเขตเพชรบุรีเมืองน้ำตาล....
พี่ที่รักจะเห็นสองข้างทางที่จะทำให้ ต้องตื่นจาก ภวังค์....
พระอาทิตย์จะค่อยๆชักรถโผล่พ้นดงตาลออกมาเยี่ยม
เยือนทายทักโลก ....
ลำแสงสีทองจะค่อยๆ ทาบทา โลมไล้นาข้าว ราวกับจะค่อยๆ
พรมจูบลูบไล้ทุกรวงเรียวเพื่อเผยอแย้มบานรับพลังแห่งชีวิต
นกกา..ผีเสื้อบินว่อน..
นกกระยางขาวราวภาพวาดสลับกับความเขียวขจี
ของพืชพรรณทุกกิ่งใบ
ทุกสรรพสัตว์ตื่นมาอย่างเริงร่าเพื่อสู้ฝัน สู้วันใหม่
ทิวเขาสลับสล้าง....
.เป็นฉากงามตระการตาตระการใจจนตื่นตาตื่นใจ.......
เบื้องหน้านั้นคือโลกแห่งความฝัน..หรือโลกแห่งความจริง.....
ใกล้ตาใกล้ใจจน เราสัมผัสได้ .....
.และที่นั่นจะมีพระภิกษุเดินเป็นแถวยาวเพื่อให้ชาวบ้านใส่บาตร
หวันพรรณนาความงามที่ธรรมชาติเมตตา
ให้แก่มวลมนุษย์ออกมาเป็นภาษา เขียนยากลำบากยิ่ง
นาทีนั้น
หวันอยากเกิดมาเป็นกวี
อยากเกิดมาเป็นนักประพันธ์ เอก
อยากเกิดมาเป็นนักวาดรูป......
ที่จะได้สะท้อนใจ ....สะท้อนความงามออกมา
ให้โลกรับรู้ได้อย่างหมดจด
เท่าที่ใจของหวันได้สัมผัสเห็นงามละเมียดละไมนี้
จากใจที่อ่อนโยนดวงนี้
พี่คะ.......หวันเล่าไปยาวเลย
เพราะอยากจะบอกผู้ชายคนดีคนพิเศษสุด
ของชีวิตหวันให้ได้รับรู้ถึงความคิด.
.ความรู้สึกของหวันที่ยากนักที่ใครจะได้สัมผัสและ หยั่งถึง ดังเฉกเช่นพี่
ซึ่งพร้อมเปิดห้องหัวใจที่จะเข้าใจเสมอมา..
และคงตลอดไปนะคะ
หวันกลับจากวัดก็มาเขียนจดหมายนี้ต่อ
คงเป็นจดหมายที่ยาวมาก เพราะหวัน
ใช้ใจทั้งดวงของหวันเขียนทุกสิ่งถึงพี่....
ไปวัดวันนี้ หวันมีความสุขมากล้น
ลั่นทมขาวคู่ใจหวันยังบานอวดดอกสะพรั่ง
หวันทรุดตัวนั่ง..และเก็บดอกร่วงหล่นมาทัดหู
ใจหวังจะให้หอมไปถึงเส้นผม โลมไล้แทรกซึม
ไปประโลมใจดวงร้าวให้สร่างซาจากคิดถึงพี่......
หวันชอบวัดนี้
เพราะเป็นวัดที่มีต้นไม้มากมายราวจำลองป่ามา
หวันชอบเดินทอดน่องชมนกชมไม้......
.และคิดไปว่านี่คือสวนแห่งธรรม..........
ธรรมชาติจริงๆ........
ที่นี่มีหนังสือธรรมมะมากมายให้อ่าน เพื่อกล่อมเกลาจิตใจ
และค้นหาแสงธรรมแห่งจิตวิญญาน
เหล่าพระสงฆ์ที่เป็นตัวแทนของพระบรมศาสดา
ได้เขียนชี้ทาง นำทาง หลวงพ่อพุทธทาส....หลวงพ่อปัญญา.....หลวงพ่อเทียน...
หลวงพ่อชา ....หลวงพ่อจรัญ.........และอีกนับไม่ถ้วน..............
ในเส้นทางสายจิตนี้
อยู่ที่เราจะมีดวงตามองเห็นธรรมหรือไม่......
และค่ำคืนนี้......
หวันก็ไปที่ศูนย์เมืองทองใกล้บ้าน
ซึ่งกำลังมีงานค่ะ....เพื่อไปจุดเทียนถวาย
พระพรแด่พระองค์ท่าน.
.มิ่งขวัญของใจปวงชนชาวไทยทุกๆดวง.....
หวันน้ำตาซึม.....
เมื่อมองเห็นแสงเทียนพริบพราว สว่างไสว ตอกย้ำใจให้รู้ว่า
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น..
ใจของคนไทยทุกดวงก็ยังมีที่ยึดเหนี่ยว แน่นเหนียวเป็นหนึ่งเดียว
ด้วยพระเมตตา บารมีจากน้ำพระทัย
ที่ปกเกล้า..ปกกระหม่อมมานานนับหลายทศวรรษ
หยดน้ำตาเทียน ทำให้นึกถึงพระเสโทจากพระวรกายของพระองค์......
ที่ยอมทุ่มเทจนแทบทานทนไม่ไหว เพื่อพลีให้แผ่นดินนี้ มีสุข สงบ ร่มเย็น
เป็นแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง เพื่อลูกหลานชาวไทย.........
หากแฝงไว้ด้วยความละเมียดละไม
หวันน้ำตาซึมด้วยปลื้มปิติ ด้วยสำนึก ด้วยใจที่ตั้งมั่น....
ว่าแม้เราจะเป็นเพียงธุลี แต่ทุกธุลีนี้
คือส่วนหนึ่งที่จะหลอมรวมให้ไทยนี้ มีแผ่นดิน
ที่เราจะเชิดหน้าบอกใครได้อย่างภาคภูมิ
ว่า......เราคือคนไทย ..เรามีแผ่นดินของเรา .....
เรามีพระมหากษัตริย์ไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
เกินจะเปรียบปาน.....
พี่ที่รัก.....
หวันหวังว่าพี่ซึ่งเป็นข้าราชการ.
ข้าของแผ่นดินนี้ คงทำหน้าที่ได้มากกว่าหวัน
งานของพี่ปกป้องแผ่นดินนี้โดยตรง...
หวังว่าพี่คงรู้ว่าหน้าที่ของมนุษย์นั้นคืออะไร โดยเฉพาะหน้าที่
ของลูกผู้ชายคนดี ต่อแผ่นดิน ต่อชาติ
และเพื่อให้ผู้หญิงคนนี้ของพี่ภูมิใจ........
หวันคิดถึงพี่มากล้น
มากเกินกว่าจะบอก มากเกินกว่าจะนำสิ่งใดๆมาเปรียบเปรย
แผ่นฟ้า แผ่นดิน แผ่นน้ำ น้อยไป
เมื่อเทียบกับใจดวงนี้ที่รักพี่แน่นหนักนัก
หวันขอฝากบอกเพียงว่า
เหนือความรักระหว่างเราสอง
หวันอยากให้พี่รักแผ่นดิน
ของเรา เพราะเราได้เกิดมาเพื่อพบ.....
และรักกันก็เพราะผืนดินไทยแห่งนี้......นะคะคนดี
*************
บทเพลงพระราชนิพนธ์
ความฝันอันสูงสุด........
ขอฝันใฝ่ ในฝัน อันเหลือเชื่อ
ขอสู้ศึก ทุกเมื่อ ไม่หวั่นไหว
ขอทนทุกข์ รุกโรม โหมกายใจ
ขอฝ่าฟัน ผองภัย ด้วยใจทะนง
จะแน่วแน่ แก้ไข ในสิ่งผิด
จะรักชาติ จนชีวิต เป็นผุยผง
จะยอมตาย หมายให้เกียรติดำรง
จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา
ไม่ท้อถอย คอยสร้างสิ่ง ที่ควร
ไม่เรรวน พะว้าพะวัง คิดกังขา
ไม่เคืองแค้น น้อยใจ ในโชคชะตา
ไม่เสียดาย ชีวา ถ้าสิ้นไป
นี่คือ ปณิธาน ที่หาญมุ่ง
หมายผดุง ยุติธรรมอันสดใส
ถึงทนทุกข์ ทรมาน นานเท่าใด
ยังมั่นใจ รักชาติ องอาจครัน
โลกมนุษย์ ย่อมจะดี กว่านี้แน่
เมื่อมีผู้ ไม่ยอมแพ้ แม้ถูกหยัน
ยังยืนหยัด สู้ไป ใฝ่ประจัญ
ยอมอาสัญ ก็เพราะปอง เทอดผองไทย ..
1 ธันวาคม 2546 17:18 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=452..ฟ้าต่ำแผ่นดินสูง
สายลมใต้ปีกฝันวันนกไพรพเนจร
เป็นสายลมใต้ปีกแห่งความหวัง
เป็นพลังเจิดจ้าอาทิตย์ใส
เป็นสายลมยกปีกเธอโผบินไป
ฝ่าพายุใจพายุร้ายกรายกล้ำมา..
.
แม้นโผผินบินไกลสุดขอบฟ้า
ในดาราคือตาฉันฝันห่วงหา
เธออยู่ไหนใจหลอมใจนิรันดร์มา
เกินครึ่งฟ้าศรัทธารักภักดิ์ดำรง.
แม้นเหน็บหนาวร้าวรวดปีกโรยล้า
คอยเช็ดเลือดและน้ำตานะยอดขวัญ
มีอ้อมตักให้พักใจชั่วกัปป์กัลป์
สัญญามั่นพันผูกใจไม่แรมลา..
หลับตาลงคงเห็นฉันในฝันแน่
มิผันแปรปลอบดวงใจไยเหว่ว้า
ในแดดสายในแมกไม้สายธารา
ในเมฆาในม่านหมอกดอกไม้งาม..
ฉันซ่อนรักภักดีฝากต้นไม้
อาจซ่อนกายในสายฝนวสันต์หวาม
อาจเคลียใคล้ใกล้ชิดทุกโมงยาม
ทุกหวานหวามหวานหวังสั่งด้วยใจ..
ฉันอยู่ใกล้กลางใจใช่ไหมนะ
หรือเธอจะเขี่ยออกบอกได้ไหม
รักหรือชังฟังเหตุผลของหัวใจ
ใครเล่าใครรู้ใจเธอยามเพ้อครวญ..
อาบอาทรอ่อนหวานผ่านผ้าห่ม
อย่าตรอมตรมลมหนาวเคล้าพัดหวล
รอเวลาคืนรังแนบเนื้อนวล
ฝากลมครวญใต้ปีกว่าอย่าลาแรม...
ห่างแค่ไหนไกลกันเกินครึ่งฟ้า
มองจันทราแล้วยิ้มหวานริมเรียวแก้ม
ฝากสายลมพรมจูบเธอคืนเดือนแรม
รอหอมแก้มรับขวัญวันกลับมา!..
*******
ดวงใจ..
แทนน้ำใจแทนช่อดอกไม้งาม
แทนความงามแห่งห่วงใยในวันพรากจาก
ขอมอบบทกวีนี้..แทนรัก
ให้ทุกนาทีที่เธอโผผินบินไกล
ไม่ว่ากำลังกางปีกพเนจรแรมไกลแรมไพร
ณ..ที่ใดในหล้าโลก
ขอรับรู้ว่า..
ฉันคือสายลมใต้ปีกเธอ..
ที่จะประคองฝันฟันฝ่าพายุร้ายพายุใจ
มิให้กรายกล้ำทำร้ายเธอ.
.ด้วยปีกแห่งรักนี้
ที่จะตามไปพยุง
ซุกซบ
ในอ้อมอกอ้อมใจเธอ
ทุกหนแห่งทุกแหล่งหล้า
ตราบชั่วฟ้าดิน..
และ..
จะเฝ้านับวัน..รอ..รอ..รอ
วันกลับรังของเธอนะ
นกไพรพเนจร!