4 กรกฎาคม 2552 14:40 น.

ดั่ง..แสงตะวัน...!

พุด


อาจจะเป็นนางใจนางในฝัน
เพื่อสร้างสรรโลกงามนิยามค่า
อาจจะเศร้าดายเดียวชั่วชีวา
อาจเหว่ว้าในเส้นทางอ้างว้างวน

หากปิติจิตกับชีพนี้ที่เมตตา
หอมปัญญาสะสมบุญสร้างกุศล
ใครพิพากษาเช่นไรไม่หลงตน
โอบกมลด้วยรักสลักใจ

บทกวีเรียบง่ายหมายฝากขวัญ
มหัศจรรย์ปลายปากกาสู่ยิ่งใหญ่
วิมานทิพย์วิมานทองคล้องหทัย
พาเธอไปพบแสงธรรมระร่ำริน

กี่ปีแล้วพิสูจน์ภักดิ์ด้วยศักดิ์ศรี
ที่เพียรพลีรจนามิรู้สิ้น
แม้นเหน็บหนาวเศร้าสร้อยรอยชีวิน
ใจดวงดินดวงดีมีผันแปร

รักแสนรักร่มเรือนไทยในดวงจิต
เฝ้าลิขิตสอนใจไม่ยอมแพ้
พรหมชะตาฟ้าดลงามดวงแด
จักแน่วแน่แม้ปิดทองหลังองค์พระปฏิมา

พันเรื่องราวยาวนานทั้งหวานโศก
สยบโลกย์พานพบดินกลบหน้า
สายธารดาวรับร่างรานกัปป์กาลเวลา
เพียงปรารถนาสถิตนิจนิรันดร์

ในแสงเทียนบูชาหน้าพระพุทธ
ให้มวลมนุษย์ข้ามพ้นสู่แดนขวัญ
แดนเงียบงามเกินใดมหัศจรรย์
เพื่อฝ่าดั้นพ้นลวงบ่วงติดตม

ปลดสายใจวันนี้ที่ร้อยรัด
สร้อยวงวัฏฏเสน่หามาห้อมห่ม
ไม่ติดสุขทิ้งทุกข์อดีตตรม
แม้นระทมเลิกวนภพลบด้วยลืม....!



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3816.html
ดวงตะวัน 

ดวงตะวัน
ที่เคยส่องแสงให้ความ สว่าง
กำลังจะจาง
กำลังจะเลือนหายไป
คนที่ดี ที่มีแก่ใจให้กัน มาก่อน
กำลังจะลืม กำลังจะเดินหนีไป
ท้องฟ้าก็คงมืดมน
และคงมีคนเสียใจ อา!!
แค่เพียง อยากรู้ว่าทำไม
ตอบได้ไหมเล่าดวงตะวัน
แม้แต่ดาว ที่พราวบนฟ้าก็ดู
เลือนลาง
และมันก็จาง ไม่พอจะแทนที่ใคร
คนใด
มีแต่เธอ เป็นเพียงตะวันไม่มี
คนอื่น
และเธอเท่านั้น
คือดวงตะวันที่หายไป
ท้องฟ้าก็คงมืดมน
และคงมีคนเสียใจ อา!!
แค่เพียง อยากรู้ว่าทำไม
ตอบได้ไหมเล่าดวงตะวัน

ท้องฟ้าก็คงมืดมน
และคงมีคนเสียใจ อา!!
แค่เพียง อยากรู้ว่าทำไม
ตอบได้ไหมเล่าดวงตะวัน
ตอบได้ไหมเล่าดวงตะวัน... 
 
				
3 กรกฎาคม 2552 09:34 น.

เสียงกระซิบ...จากขอบฟ้าฝัน..!

พุด

sea.jpgwhite-dress-jan-easters-cumber.jpgnew_courtyard_lrg_04.jpgnew_courtyard_lrg_01.jpg
ไกลกันสุดขอบฟ้า
เสมือนว่าแนบชิดสนิทใกล้
เนานิจในดวงใจ
ยอดหฤทัยสร้อยชีวิต

พรากลานานแค่ไหน
เพียงใดเหว่ว้าพรหมลิขิต
มหัศจรรย์เมตตานิรมิต
คืนทิพย์เทวีกลับมา

ยอดขวัญ...
กี่วันกี่คืนปรารถนา
ระหว่างเราในเงาตา
มิเคยร้างลาแรมไกล

เหมือนดวงดอกไม้ผลิแย้มกลีบ
ให้ชีพโชนช่วงไสว
ต่อหวังพลังยิ่งใหญ่
เกินใดงดงามเปรียบปาน....!



ดลบันดาลใจ จากภาพงาม
คิดถึง..เพชรเม็ดงามแห่งอันดามัน
หนึ่งนุชนวลมณีผู้เป็นที่รัก...

พะงันพ้อทะเลเพ้อรอเธอกลับ
เฝ้าคอยนับรับดวงใจคืนสู่ขวัญ
ลมระบัดฟ้ายังงามท่ามคืนวัน
เป็นนิรันดร์รักยิ่งใหญ่เหนือใดปาน

คือแดนดินถิ่นรักทะเลใต้
ดวงดอกไม้บานชูช่อหวานแสนหวาน
จันทร์ดวงโตลอยดวงให้เบิกบาน
ดั่งวิมานประดับหล้าใต้ฟ้าไทย

เรือมนุษย์มากมายหมายฝั่งฝัน
พากันดั้นด้นมาจากแดนไหน
มาวางวายก่อนถึงฝั่งสัจจใจ
ด้วยเหตุไม่ใช้เข็มทิศธรรมส่องนำทาง

ดั่งนาวานำชีวิตผิดเป้าหมาย
จึ่งเวียนว่ายทะเลโลกย์โศกอ้างว้าง
เรือลำน้อยค่อยค่อยจมอับปาง
ในระหว่างพายุกล้าน่าเศร้านัก...!

.............................................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song346.html
เสียงกระซิบจากเกลียวคลื่น 


พี่พุดครับ

ที่หนาวเหน็บเจ็บช้ำเกินรำพัน
คือคืนวันฝันสลายกลายเป็นตรม
รักเคยชื่นกลับกลายเป็นขื่นขม
เคยภิรมย์สมรักกลับพังภิณท์...

รำลึกถึงพี่สาวที่แสนรักครับ...

จากรอยหมึก...ทราบว่าพี่พุดกลับบ้าน

เป็นอย่างไรบ้างครับ 
กับการไปชาร์จแบตครั้งนี้ 
หาก..
ไม่เป็นการรบกวนพี่สาวที่แสนดี 
เล่าให้น้องชายที่ทุกข์ตรมคนนี้ฟังบ้างสิครับ

ผมรักมาลัยรักอักษราของพี่พุดครับ

................

น้องชายคนดีที่แสนน่ารัก

พี่พุดเพิ่งกลับจากพะงันค่ะ
และ..
เที่ยวนี้ดวงชีวีพี่พุดก็อิ่มเต็ม ค่ะ
มาตรแม้น..
ดวงจันทราที่นั่นยังไม่เต็มอิ่มพูนดวง
พาลอยล่วงพ้นผืนน้ำทะเล..ระยิบระยับ
ยามอาบด้วยพรายแสงจากสายธารน้ำผึ้งพระจันทร์ผ่องพรรณราย
เหนือฟากฟ้าทะเลฝัน
อันพร่างพราวด้วยมวลหมู่ดารารายดาระดาดแสนสุกใส
ดูใกล้แสนใกล้จนแทบเอื้อมมือคว้าไขว่ได้เลยค่ะคนดี


พี่พุด..เดินริมชายหาด
ที่ลมพัดแรงราวแกล้งให้หนาวเนื้อ...หนาวนวลค่ะ
แล..
โลกของพี่พุดที่ชอบสวนกระแสโศกสุข..
ก็...
กลับแสนสงบเงียบงาม ในท่ามปาร์ตี้ริมหาด
ที่กำลังอึกทึกครึกโครม ด้วยความเมามันส์ 
น่ากลัวเสียจนขวัญจะหาย

หาก..
นี่คือธรรมดาชีวิต ธรรมดาชีวี
แห่งวัยวันของการเสาะแสวงหาความสุขของคนรุ่นใหม่
ที่มาจากต่างแดนแสนไกล*เมืองศิวิไลซ์วัตถุ* คนละทิศคนละทาง
บ้าง....
อาจจะกำลังค้นหาเส้นทางแห่งประสบการณ์เพื่อสร้างตัวตน
ตราบจนกว่าจะค้นพบว่า
*สุขใดเกินกว่าความสงบเป็นไม่มี*

พี่พุดปูเสื่อเหนือเนินทรายสวยแล้วก็ปล่อยร่างระทวย
นอนดูดาววะวาววับ แสนสุกใสสกาว
เห็นดาวพระรัตนตรัย แสนไสวเกษมเลยค่ะ

พร้อมนั่งทานข้าวฝีมือน้องสาวคนดีที่มีครัวเคียงทะเล
แกล้มเสียงเกลียวคลื่นซัดฝั่ง
ดังเป็นระลอกระลอก...
ค่อยๆทะยอยทอยทอดเคลียเเคล้า
เล้าโลมปลอบปลุกผืนทราย
หมายมั่นสัญญาจะไม่มีวันทิ้งทอด
และจะ..
โอบกอดอย่างสัตย์ซื่อถื่อมั่น..
ไปตราบ...
จนอนันต์นิรันดร์โลกมลาย....


พี่พุด..ได้ปีนเขาขึ้นไปสู่*วิมานลอย*
ที่ดินพี่พุดที่ลอยละลิบ
ให้แลลอดทอดทัศนาเห็นเวิ้งอ่าวสามด้าน
ปานวิมานเมืองแมนแม่นแล้วค่ะ
...............

และ..
พี่พุด...
ได้ไปนั่งนิ่งนิ่ง..เหนือที่ดินอีกที่ของพี่พุดค่ะ
ชื่อ*วิมานวนา*ในท่ามฟ้าโพล้เพล้

แล้วก็
ตกอยู่ในภวังค์ฝัน ฝัน ฝัน แสนหวาน
ไปกับดวงตะวันสีแดงแช๊ด
ที่กำลังอ้อยอิ่งอ้อนอำลาผืนน้ำทะเลตรงหน้า
ระหว่างเกาะแตนอกกับแตใน

ในท่ามมนต์ม่านเมฆวิเวกสงบหากแสนงดงาม
ด้วยรัศมีสีรุ้งแสนจรุงจรัสใจ
ณ..ลานศิลาวัดเขาถ้ำ
ที่มีต้นลั่นทมโผล่อยู่ในแง่งหินงาม บานสล้าง
ระร่ำรินมาชั่วนาตาปี
เป็นดอกไม้รักอมตะนิรันดร์
ที่เปรียบประดุจดั่งตำนานฝันพะงันงามมานานช้าแล้วค่ะ


พาให้หยาดน้ำตามาคลอครองเต็มนัยน์ตา
เมื่อโหยหาหวนไห้
รำลึกนึกถึงอดีตยามวัยเยาว์
ที่..
เคยพาร่างมานั่งเงียบเหงาอย่างเหว่ว้า
เพื่อรอท่าดูดวงตะวันลา 
ดูทะเลกว้างใหญ่จรดขอบฟ้าแลละลิบ เบื้องล่าง
อย่างอ้างว้างดายเดียว..เดียวดายเป็นที่สุด

และ..
กับฉากสุดท้าย ท้ายสุด
ที่..
พี่พุดนั่งมองฟองคลื่นสีขาว
แตกพรายกระจายไปรายรอบลำเรือ
ที่..
ค่อยๆพาร่างพี่พุด ให้พรายพลัดพรากจำจากลา
มาไกลบ้านอีกคราและอีกครา

และ..
คงนานเนา..
ตราบจนกว่า...คำอธิษฐานภาวนาจะเป็นจริง.!



กระท่อมไพรบนเนินผาท้าสรวงสวรรค์
มีทะเลฝันตรงหน้าให้คว้าไขว่
มีดาวสวยทรายขาวหาดยาวไกล
มีน้ำใจมีความรักมีดวงตะวัน....

ยามเช้านอนดูดวงดอกไม้มาทายทัก
หวังยอดรักคืนอ้อมใจในอ้อมฝัน
ลมทะเลเห่ครวญรำพึงรำพัน
ดุจสวรรค์บนดินถิ่นรักเรา

รอเรือหาปลาลำน้อยค่อยคืนฝั่ง
ฝากใจหวังพรานทะเลคงไม่เหงา
ใครบางคนเฝ้ารอมานานเนา
คืนว่างเปล่าเขากลับมาหาเสียที

ใจดายเดียวดูตะวันผันเรี่ยน้ำ
ฟ้าสีครามงามดั่งทองอาบแสงสี
จุดตะเกียงเขียนกลอนฝันมอบวันดี
กระท่อมไพรนี้มีใจภักดิ์เฝ้ารักรอ

แสงพริบพราวราวไฟในทะเลกว้าง
แสนอ้างว้างห่างแค่ไหนใจไม่ท้อ
กี่คืนฝันกี่วันปีที่รักรอ
กระท่อมซอมซ่อผุพังฝังร่างนี้ที่รอรัก ..รอพรานทะเล!


ท่ามกลางจันทร์ลอยดวง ดึกดื่นดายเดียว..
นะกระท่อมน้อยเชิงผา
ในราตรีหนึ่งที่ระดะดาวพราวพร่างสุกใสแสนใกล้

ราวกับจะเอื้อมคว้าไขว่มาประดับใจได้
พุดพัดชานั่งฟังเสียงคลื่นสะท้อนจากก้อนหินริมฝั่งทะเล
ราวกับเหว่ว้าเสียเต็มประดากับการรอคอย..พรานทะเล..ที่พรากไกล..
ก้อนหินได้ยินได้ฟังก็เพียงแค่รับฟัง ดั่งเพื่อนใจปลอบประโลม..
...................



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song346.html
เสียงกระซิบจากเกลียวคลื่น 

เสียง คลื่น ซัด ฝั่ง
มัน คลุ้ม คลั่ง ฝัง รอย สวาท ใจ
มันซุก มันไซร้ มันซบทรวงทราย
แทรก ซึมไม่มีวันวาย
มันเคลิ้ม มันคลุก มันเคล้า มิคลาย
รสทรายรื่นรมย์
เสียง กระ ซิบ แผ่ว
ฟัง หวาน แว่ว พริ้ว ตามเกลียวคลื่น มา
เรารัก กันหนา มาหา มาชม
คลื่น คอยติดตามเกลียวลม
มาร้อย รอยรัก มาทัก คลื่นชม
ภิรมย์เพียงฝั่ง
ฟัง ซิคลื่น มันละ เมอ
ฝาก สวาท เหมือน เธอ ละเมอเพ้อให้ ฟัง
เห็น ใจฝั่งบ้างหรือ ยัง
ฝั่ง รัก จี รัง เหมือนคลื่น ยืนใจ
เสียง คลื่น ซัด ฝั่ง
กระ ซิบ สั่ง ฝัง รักตลอด ไป
มันซุบ มันซิบ กันชื่นใจ มันซบ มันหนุน จนอุ่นไอ
กระซิก กระซี้ กันเรื่อยไป
จะรัก กันไว้ ตลอด กาล
เสียง กระซิบ กระซิบ ตลอด กาล
กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล
กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล
กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล
กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล
เสียง กระซิบ กระซิบ ตลอด กาล
เสียง กระซิบ กระซิบ ตลอด กาล... 
 
  
Shahzad_Rose2.jpgV261682.jpgV263209.jpgbayview_lrg_06.jpgexecutive_lrg_05.jpg				
2 กรกฎาคม 2552 20:20 น.

จุดไฟรักรจนา....ฝากอาทร....!

พุด


ร่ายรจนาบทกวีแสนสวยงาม
ในนิยามหญิงหนึ่งซึ่งช่างฝัน
ในดวงใจวัยเยาว์นิจนิรันดร์
มหัศจรรย์ราวสายรุ้งสุนทรีย์

มีบทเพลงในฤดีที่หวานแว่ว
ระฆังแก้วแพรวพรายพิเศษศรี
กับงามเงียบเรียบง่ายในชีวี
กับวันที่ดายเดียวลำพัง

เหมือนดวงดอกไม้แย้มบานในดวงจิต
ชื่นชีวิตชุบชีวาต่อเติมหวัง
เหมือนนวลนางนกไพรพรากรวงรัง
ทิ้งความหลังบินสู้ฟ้าท้าฝันไกล

ตามดวงดาวประจำชีพซึ่งโชนช่วง
ชัดฉายดวงส่องสว่างช่างสุกใส
กับแก้มอิ่มยิ้มรอเลิกหนาวใจ
พร้อมจุดไฟรักรจนาฝากอาทร....
ฝากอาวรณ์จากใจดวงอรชรพุดพัดชา...!

.........................................



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song48.html
ไม่รักไม่ว่า 

รู้รู้อยู่ มิควรคู่ กับจอมใจ 
วาสนาเราแสนไกล หนักหนา
แต่ความรัก หักฉันใดไม่เลือนลา
แค่เพียงไม่เห็นดวงหน้า เหมือนว่าจะบ้าตาย
สุดเหลือ จะบอกเขา ให้เข้าใจ
ว่าเรา รักเท่าใดจริงแค่ไหน ทั้งใจและกาย
ให้คิด เลิก รัก ไปเหมือนให้ตาย
มันโหดร้ายเกินไปแก้วตา
จอมใจไม่รัก ก็ไม่ต้องรัก ต้องฝืน
จอมใจไม่ชื่น ก็ไม่ต้องฝืน เวทนา
เพียงแต่ขอ ให้พี่รักภักดีสุดา
ก็สุขอุราเป็นวาสนา พี่นัก
ใจเธอนั้นจะรักชอบมอบผู้ใด
จะเป็นของใครเมื่อไหร่ ไม่ห่วงเลยที่รัก
ชาตินี้ พี่ น้อย บุญนัก เจียมตนสู้ข่มรัก
สร้างกุศล รอชาติใหม่มี

จอมใจไม่รัก ก็ไม่ต้องรัก ต้องฝืน
จอมใจไม่ชื่น ก็ไม่ต้องฝืน เวทนา
เพียงแต่ขอ ให้พี่รักภักดีสุดา
ก็สุขอุราเป็นวาสนา พี่นัก
ใจเธอนั้นจะรักชอบมอบผู้ใด
จะเป็นของใครเมื่อไหร่ ไม่ห่วงเลยที่รัก
ชาตินี้ พี่ น้อย บุญนัก เจียมตนสู้ข่มรัก
สร้างกุศล รอชาติใหม่มี... 
.................................................
 
				
2 กรกฎาคม 2552 08:55 น.

อย่าร้องไห้..เพื่อฉัน..นะเธอ...!

พุด


อย่าร้องไห้เพื่อฉันนะเธอ
หากว่าเผลอรู้จักจิตชีวิตขวัญ
นวนิยายหลายร้อยเล่มพัน
ฤาจะทันรานเศร้าเท่าเรื่องดวง

อย่าร้องไห้เพื่อฉันนะเธอ
ไม่ต้องเพ้อไม่ต้องพร่ำว่าห่วงหวง
ผ่านโลกหลอนสอนรู้ลวง
ผ่านจากบ่วงเสน่หามายาทุกข์

อย่าร้องไห้เพื่อฉันกับวันเก่า
กับโง่เงางมงายไร้สิ้นสุข
อย่าร้องไห้เพื่อฉันวันรานรุก
เหมือนติดคุกวิบากพรากดวงใจ

อย่าร้องไห้เพื่อฉันวันที่ล้ม
วันที่จมน้ำตาจนพร่าไหว
อย่าร้องไห้เพื่อฉันฝันผ่านไป
อย่าเสียใจกับชีพนี้ตราบมีรัก....!


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1965.html
คู่กรรม 

ช...ดังนรกชัง ฤาสวรรค์แกล้ง
แกล้งทรมาน ให้ฉันได้เจอ
ญ...เกลียดชิงชัง สุดท้ายรักเธอ
แต่พอเผลอ พรากเธอดับสูญ
ช...เวรกรรมหรือไร แต่ปางไหนนั่น
ญ...สุขเพียงชั่ววัน แต่ช้ำทวีคูณ
ช...ให้ห่างไกล สุดฟ้าอาดูร
ญ...สูญสิ้นเธอ ตลอดกาล
ญ...อธิษฐานจิตใจหากเกิดชาติไหน
ช...ฐานันดรใดใด ทุกสถาน
ช-ญ...ดลให้เรา ได้พบเจอเป็นคู่กัน
วอนสวรรค์ ได้ไหม
ช...วิญญาณฉันรอ ที่ทางช้างเผือก
เลือกเธอรักเธอ ได้ร้างลาไกล
ญ....ดั่งหิ่งห้อย เฝ้าคอยจนชีพวาย
ใต้ลำพู รอคู่กรรม

ญ...อธิษฐานจิตใจหากเกิดชาติไหน
ช....ฐานันดรใดใด ทุกสถาน
ช-ญ....ดลให้เรา ได้พบเจอเป็นคู่กัน
วอนสวรรค์ ได้ไหม
ช....วิญญาณฉันรอ ที่ทางช้างเผือก
เลือกเธอรักเธอ ได้ร้างลาไกล
ญ....ดั่งหิ่งห้อย เฝ้าคอยจนชีพวาย
ใต้ลำพู รอคู่กรรม... 
 
  				
1 กรกฎาคม 2552 21:22 น.

จาก..สายใจเจ้าพระยา..สู่..แดนฟ้าจรดทราย...!

พุด


เย็นแล้ว....
ดวงเดินเดียวดาย
เช่นทุกวัน
กับเส้นทางแห่งความฝัน
ที่ยังมีทุ่งกว้างร้างไร้ให้หมายมอง

ดวงดอกลั่นทมริมรั้ว
แย้มยั่วยิ้มตลอดทาง
ดงดอกหญ้าระบัดใบอ้างว้าง
อย่างไร้ใครไยดี

ตะวันสีโศกลอยเรี่ยลงมา
เหนือนวลนภาเจ้าพระยาสีทอง
ที่กำลังไหลล่องเรื่อยระริน
อย่างมิสิ้นหวัง

ดวงได้ยินเสียงลำนำบทเพลง
*ลุ่มเจ้าพระยา*
ลอยลมมา
กับฟ้ากว้าง กับเส้นทางสายเศร้า
กับ..หนาวลมหลังฝนรำเพยพัด...วน...

..............................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song25.html
ลุ่มเจ้าพระยา 

ลุ่มเจ้าพระยาเห็นสายธารา ไหลล่อง
เพียง แต่มองหัวใจให้ป่วน
น้ำไหลไป มักไม่ ไหลทวน
ชีวิตเรา ไม่มีหวน ไม่กลับทวนเหมือนกัน
เรา เกิดมา ผูกใจรัก กันดีกว่า
เพราะว่าชีวา แสน สั้น
เรา อย่าได้ สะเทือนหัวใจต่อกัน
ทิ้งชีวิตอัน สุขใจ
อย่าแตกกันเลยรักไว้ชมเชย ชิดมั่น
จง ผูกพันรักกันด้วยใจ
ขอจงเป็น เหมือนเช่น นกไพร
ที่เหิรบินคู่กันไป หัว ใจ คู่กัน

เรา เกิดมาผูกใจรัก กันดีกว่า
เพราะว่าชีวา แสน สั้น
เรา อย่าได้ สะเทือนหัวใจต่อกัน
ทิ้งชีวิตอัน สุขใจ
อย่าแตกกันเลยรักไว้ชมเชย ชิด มั่น
จง ผูกพัน รักกันด้วยใจ
ขอจงเป็น เหมือนเช่นนกไพร
ที่เหิรบินคู่กันไป หัว ใจ คู่ กัน... 

............................................


ในความสงบสงัด
ดวงประหวัดจิตไปถึงสองดวงใจ
จากสายธาราใจอันแสนเกษมสุข

เธอ..
จากแดนดินฟ้าจรดทราย
ที่กำลังจะกรายเหิรบินกลับมาสู่
วิมานดินวิมานดวง
มานอนนิ่งในเตียงโบราณ
ให้หวานชื่นทรวงในดวงใจผู้เฝ้ารอ

เธอ...
คนดีที่งามจิตดั่งดวงมณีดาราราย
เธอ...
ที่ทำให้ชายหนุ่มละเมอหมาย
หากต้องร้องไห้คร่ำครวญ
เมื่อเธอล้วนบอกให้รักเธอเฉกเช่นมิ่งมิตร
อย่าได้ตามติดสนิทเสน่หามากมายเลย
เธอ...
ที่เฉยชาชินกับการไม่ถวิลภักดิ์รักผู้ใด
หากตราบใดที่ยังไม่พบเจอคนที่
ใช่เลย และใช่เลย

เธอ...เล่าว่านาทีนี้มีหนุ่มนักบิน
มาถวิลรักมาทายทัก
อยากพาเธอร่อนไปในเวิ้งนภากาศ
ด้วยแรงฤทธิ์พิสวาทอันเพิ่งเริ่มต้น
หากกมลเธอก็เงียบเฉย
ราวไร้ใจไฉนเลย

เธอ... คนดี
กำลังจะกลับมาและก่อนนิทรารมย์
เธอจะเล่าถึงประสบการณ์ที่เพาะบ่ม
ห่มใจเธอให้หอมพราว
ถึงทุกเรื่องราว
ที่เธอผ่านพบ ไม่ว่าจะซีกโลกไหน
ดั่งนวลนางนกไพรใจอิสรา
ที่กล้าทายท้าพายุกล้าลมแรง

วันนี้
เธอ..รับบทผู้จัดการ
สายการบินสาวพราวเสน่ห์
ที่เก๋ตรงรอยยิ้มพริ้มเพรา
ลบเหงาโศก
ลบวิปโยคให้แด่ทุกดวงใจ
ยามเธอหยาดน้ำค้างคำน้ำค้างใจ
ที่ใสงามระรินหยาดให้อย่างไม่เลือกที่รักมักที่ชัง

...................................


และ
อีกดวงใจ*ไข่มุกงามแห่งทะเลอันดามัน*
เธอ...
ต่อสายหมายฝากฝัน
ฝากความคิดถึงอันตรึงตรา
มากระซิบคำบอกว่า
เธอ..นั้นหนา
ได้รับการโปรโมทงานให้เป็นจีเอ็ม
ทั้งๆที่อายุน้อยนัก
เธอ..เลยต้องขอพักขอถอย
ไม่ยอมรับตำแหน่ง
อย่างผู้อ่อนน้อมถ่อมตน
อย่างคนที่ต้องการเรียนรู้
ให้ถึงพร้อมเป็นที่ยอมรับ
ใช่...รักอยากได้เพียงเงินงาม

เธอ...
ผู้ให้นิยามความรักว่าใช่สำคัญ
หากชีวีนั้นหาคนที่เข้าใจกันและกันไม่พบ
เธอ...
ไม่อยากจบชีวิตแบบนกน้อยในกรงทอง
ทั้งๆที่มีมหาเศรษฐีพาเธอและเพื่อน
ไปลอยล่องท่องทะเลงามกับเรือยอร์ชลำหรู
ที่สาวๆหลายคนคง
ร้องกระตู้วู้
หมายปองอยากครองเคียง

และ..
นี่คือโลกและชีวิต
ผู้ชิดใกล้ในสายใจดวง
ผู้ที่งดงามทั้งภายนอกภายใน
ด้วยใจดวงโบราณ
ที่มิหวังร่ำรวยฤาสวยเพียงเปลือกนอกหลอกตา
หรือ
หาทางเพียงรวยลัด
เธอ..
ยืนหยัดบนลำแข้งสองขา
กับใบหน้าที่งามเฉิด
กับใจดวงประเสริฐที่รู้คุณค่าชีวี

และ..
นี่คือความภาคภูมิใจ
ในจิตดวงใสประภัสสรอรชรดวงนี้
กับ
วันคืนที่ล่วงลานี้
ที่คงมิใช่มี...เพียงบทโศก
ที่..
โลกหยิบยื่นให้เพียงด้านเดียว..!

...............................				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด