10 มีนาคม 2550 07:17 น.

สลัก..ลึก..!

พุด

8237_b1_061215045142.jpg
http://www.salathaila.com/karakniran.html
รักเธอนิรันดร์


อษาวดีอีกคราแล้ว
ดวงดอกแก้วร้างต้นสิ้นไร้หวาน
กับทิวาวันผันผ่านราตรีกาล
กับรักรานแรมร้างอ้างว้างใจ

กี่วสันต์ฝันค้างให้เหว่ว้า
กี่สายน้ำตาอาวรณ์สอนอ่อนไหว
กี่รอยคำรักมั่นฝังฝากใจ
กี่สายใยตัดไม่ขาดพิศวาสรอ

เพราะ..
คือสายใจในกัปป์กาลเคยพันผูก
ดั่งเคยปลูกดอกไม้ภักดิ์เฝ้าเพ้อพ้อ
หากกุศลมิเทียมเท่าหนาวใจรอ
อธิษฐานขอกี่ภพชาติเล่าเจ้าดวงใจ

เสมือนหมายเดือนบนฟ้าไกลเกินฝัน
ภักดิ์นิรันดร์เพียงจำพรากฤาไฉน
มีเพียงหยาดน้ำตาเหน็บหนาวเฝ้าทำใจ
เก็บหฤทัยเฝ้ารอ..ก็สุขเกิน....ก็สุขพอ...!

.................................



เป็นบทรจนา แทนดวงใจ ใครคนหนึ่ง
ที่..
แม่ดวงดอกพุดไพร
แสนรักเอยแสนรักในกมล
และแสนเข้าใจ...
ใน..
ความไหวหวั่น หวั่นไหว
ราวขวัญหายในวันนี้ นาทีนี้..
ของผู้เป็นที่รักดั่งแก้วตาดวงใจค่ะ

แด่เธอ..
อัญมณีอันดามัน

ผู้ที่ขวัญเฝ้ารักเสมอมา เป็นนิรันดร์ค่ะ..
................................



http://www.salathaila.com/karakniran.html
รักเธอนิรันดร์
ศิรศักดิ์ อิทธิพลพานิชย์

Intro ...........  

ได้ยิน เสมอ นี่เธอ ใช่ไหม 
หรือเสียง ใบไม้ที่ไหวต้องลมเท่านั้น 
แม้ ว่าเราจะไกลห่างกัน แต่ในใจนั้นเราคิดถึงกันเสมอ 
จะนาน แค่ไหน ที่ในมุมนี้ 
ทุกวินาทีฉันยังคอยเฝ้า เฝ้ารอคอยเธอ 
ฉัน เฝ้ามองดวงดาวเสมอm 
ยังเห็นเธอส่งสายตาหากันเรื่อยไป 
ฟ้าอาจ จะพราก ให้เราจากกัน 
แต่ไม่ มีวัน พราก เธอนั้น จากใจฉันได้ 
ฉัน จะอยู่ เพื่อรักเธอ ตลอดไป 
แม้สิ้นลม หาย ใจ รักเธอ นิรันดร์ 

ดนตรี 8 Bar ..6..7 ...  

จะนาน แค่ไหนที่ใน มุมนี้ 
ทุกวินาทีฉันยังคอยเฝ้า เฝ้ารอคอยเธอ 
ฉันเฝ้ามองดวงดาวเสมอ ยังเห็นเธอส่งสายตาหากันเรื่อยไป 
ฟ้าอาจ จะพราก ให้เรา จาก กัน 
แต่ไม่ มีวันพราก เธอนั้น จากใจฉันได้ 
ฉัน จะอยู่ เพื่อรักเธอ ตลอดไป 
แม้สิ้นลม หาย ใจ รักเธอนิรันดร์ 
ฉันจะอยู่ เพื่อรักเธอ ตลอดไป 

แม้สิ้นลม หาย ใจ รัก...เธอ....






				
9 มีนาคม 2550 08:41 น.

หอม..หอม..อวล...นวลดอกไม้..ริมชายหมอน..!

พุด

8158_b1_061023230709.jpg
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song339.html
กระซิบสวาท



หอมเอยหอมกลิ่นการเวก
ราวมนต์เสกในคืนหวานเสน่หา
ดลดวงจิตสนิทนวลนัยนา
เกินจักกว่าหยาดน้ำผึ้งตรึงตรา

หากหอมใดไหนเล่าเท่าหอมภักดิ์
เมื่อตระหนักเนื้อแท้หอมยิ่งกว่า
หอมบุญหอมคุณความดีหอมศรัทธา
เนาปรารถนานิรันดร์เจ้าขวัญดวง

เคลียเคล้าภิรมย์ดอกไม้บูชา
นิทราลอยล่องสวรรค์สรวง
เกินกว่าทิพย์บุปผาทั้งหล้าปวง
ดั่งดาวดวงดารารายหมายนำทาง

คือทุกสิ่งแสนงามนิยามรัก
วางใจภักดิ์แทบเท้าจักหมายสร้าง
เคียงคู่ขวัญลบลืมโลกไร้ร้าง
ในเส้นทางธรรมทองหมายครองดี

ตราบชีพนี้...นิรันดร์..!

.......................................

อรุณรุ่ง กับฝันดี
ควานคว้าหมอนนุ่มมาแนบอกนวล
พบเพียงการะเวก 
ที่วางไว้ใกล้หมอน...กลีบกระจาย

หาก..ในจินตนาการ
ราวได้ยินเสียงพระเอกนักรบโบราณ
เฝ้ากระซิบร่ำพร่ำบอกความนัยอยู่ริมหู
*กลิ่นหอมใดไหนเล่า
จะเท่ากลิ่นการเวกยามฟ้าสาง
เสกหวานหว่านพรม
ห่มอยู่บนเรือนกาย นางผู้เป็นที่รักนิรันดร์...!!!

......................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song339.html
กระซิบสวาท 

ยามนี้เธอนอน หัวใจร้าวรอน หรือเปล่า
โถคงทั้งซึมทั้งเซา เฝ้าตรมมิเบา ทรวงอยู่
เมื่อเธอฝากใจ ฉันมีเยื่อใย เอ็นดู
แต่วางท่าเฉย เพียงครู่ รั้งรอเพื่อดูใจกัน
เธอร้อนอารมณ์ พะวงหลงตรมเสียก่อน
แหมชาย นะชายแสนงอน เข้าใจหญิงรอน หรือนั่น
ผู้ชายอะไร น้อยใจก็เมิน ไปพลัน
ไม่รอ ให้หญิงจำนรรจ์ หญิงจึงอัดอั้น ตันใจ
จึงฝากลมพาพัดใจ ฉันมาซ่อนไว้ ใต้หมอน
เมื่อเธอซบหน้า แนบนอน
ได้ยินที่หมอนกระซิบ บ้างไหม
โปรดฟังถ้อยคำ สำเนียงที่ครวญ พิไร
เสียงกระซิบ กระซิบเผยใจ
สวาทอาลัย ท่วมท้นอาวรณ์
กระซิบเบาเบา หัวใจสองเรา เคล้ามั่น
ฉันเองรักเธอเหมือนกัน เฝ้ารอสัมพันธ์ ดังก่อน
หลับตาไม่ลง พะวงแต่เธอ ยามนอน
คร่ำครวญให้หวล มาวอน
หัวใจคอยอ้อน อิงเธอ

จึงฝากลมพาพัดใจ ฉันมาซ่อนไว้ ใต้หมอน
เมื่อเธอซบหน้า แนบนอน
ได้ยินที่หมอนกระซิบ บ้างไหม
โปรดฟังถ้อยคำ สำเนียงที่ครวญ พิไร
เสียงกระซิบ กระซิบเผยใจ
สวาทอาลัย ท่วมท้นอาวรณ์
กระซิบเบาเบา หัวใจสองเรา เคล้ามั่น
ฉันเองรักเธอเหมือนกัน เฝ้ารอสัมพันธ์ ดังก่อน
หลับตาไม่ลง พะวงแต่เธอ ยามนอน
คร่ำครวญให้หวล มาวอน
หัวใจคอยอ้อน อิงเธอ... 
 

 



8189_b1_051018054826.jpg				
8 มีนาคม 2550 11:21 น.

ลบระทมในแววตา..ฟ้าเปิดทาง...!

พุด

8238_b1_060531061102.jpg
หลับตานิ่งทิ้งทุกข์สรรพสิ่งไว้ภายนอก
โลกหลอนหลอกเรรวนมายาฝัน
กับกาลเวลาเคยซาบซึ้งตรึงผูกพัน
ทั้งคำมั่นคำลวงบ่วงดวงใจ

นั่นทะเลรอรับวิบากรัก
คลื่นจงพัดพายุฝันอันหวั่นไหว
ข้ามมหานทีสีทันดรอันกว้างไกล
รู้ทำใจรู้ทันเท่าหนาวพันธนาภักดิ์

ปลดปล่อยจิตให้วางกระจ่างแจ้ง
ให้สายธรรมแสงทองส่องประจักษ์
รักคือทุกข์ทุกข์คือรักนะที่รัก
กล้าหาญหักตัดเสน่หาอย่าตรอมตรม

แหงนมองฟ้าสิคนดีมีวันใส
เสมือนใจดวงงามผ่านขื่นขม
รอวันพบฟ้าสีทองหวังชื่นชม
ลบระทมในแววตา..ฟ้าเปิดทาง...พรหมเปิดทาง..!



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song293.html
หนี้รัก 

หากจะรักแล้ว รักใคร ก็จง รักเถิด
ความรักบรรเจิด พริ้งเพริด หนักหนา
ชีวิตคนเรา นั้นสั้น เหลือคณา
อย่า รอ ช้า ปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไป
หากมีหนี้แล้ว ขอให้ เป็นหนี้ รักเถิด
ดอกเบี้ยที่เกิด คือพลังรัก พิไล
รักเธอเสมอ รักเธอ จากดวงใจ
ยอดพิศมัย หลอมอยู่ใน กาย เธอ
หากวันใด ที่แสงทองของ ชีวิตผ่าน
โลกตระการ จะมืดครึ้ม หมองเหม่อ
วาระนั้น จะได้อดีตไฟรักปรนเปรอ
หล่อเลี้ยง บำเรอ ต่อชีวิตให้ชื่น บาน
หากเป็นหนี้แล้ว ขอให้ เป็นหนี้ รักเถิด
หนี้รักบรรเจิด พริ้งเพริด แสนหวาน
รักกันเสมอ แม้เวลา ผัน ผ่าน
สองเราสราญ เพราะหนี้รัก สลัก ใจ

หากเป็นหนี้แล้ว ขอให้เป็นหนี้รักเถิด
หนี้รักบรรเจิด พริ้งเพริด แสนหวาน
รักกันเสมอ แม้เวลา ผัน ผ่าน
สองเราสราญ เพราะหนี้รัก สลัก ใจ... 
 





เส้นทาง..แห่งชีวิต..! ....ทวารวดี 


ทุกสิ่งในโลก...มนุษย์อยากเรียนรู้
เพื่อ..
เสพสุข หนีทุกข์ เป็นเช่นนี้อยู่ร่ำไป...
แต่....
สุขหรือทุกข์นี้..อยู่ที่ใจ
เพราะ..
ผู้รับสุขและทุกข์ ที่แท้แล้ว..คือใจที่มีกิเลส หาใช่ตัวเราไม่

อยากมีสุขมากกว่าทุกข์ จะทำเช่นไร
พึงทำบุญมากๆกว่าทำบาป

และ..
ถ้าจะมีสุขอย่างเดียว ต้องทำเช่นไร
พึงทำแต่บุญไม่ทำบาป

ถ้าเสพสุขนานๆแล้วจะเป็นเช่นไร
ก็จะเริ่มทุกข์จากน้อยไปหามาก
เพราะ...
ต้องการเสพสุขที่ละเอียดมากขึ้นๆ
นั่นคือ...
การสั่งสมกิเลส เช่นนั้น
สักวันหนึ่งก็จะเริ่มก่อกรรมทำบาป 
เพราะ...
เสพสุขมากเกินไป 
ขว้างวิบากไปรอไว้ในอนาคต 
รอวันชดใช้ เช่นเดิม เหมือนเดิม ซ้ำๆซากๆ
เป็นมายาวนาน นานแสนนาน

พึงละการก่อกรรม
ยามเสวยกรรม ก็รู้ทุกข์ จักพบธรรม
ยามเสวยสุข จงมีสติรู้อยู่ว่า ไม่เที่ยง 
มีได้ก็หมดได้.....
พึงอ่อนน้อมถ่อมตน สั่งสมบุญต่อไปอย่าได้ขาด
จน...ละกิเลสได้เบาบาง

ต่อไปนี้ทุกข์ก็ไม่เที่ยง สุขก็ไม่เที่ยง 
ไม่ใช่เรา เป็นเพียงกิเลสเกาะเกี่ยวพัวพัน 
พึงสลัดได้ ด้วยสติสัมปชัญญะ 
มีโพธิปักขิยธรรม ๓๘ ประการ 
เป็นเส้นทางปฎิบัติแห่งการหลุดพ้น

อธิษฐาน ข้ามภพชาติ เช่นนี้เรื่อยไป 
อาจบรรลุสัจจธรรม สู่นิพพานได้เป็นแน่แท้..
แล...
จักสงบสุขตราบชั่วนิรันดร์ ....!!!! 
 ..................................................


หยุดคิด เสียทีดีไหมเธอ 

ค่ำคืนนี้ จันทร์ครึ่งดวง ลอยเอียง เคียงคู่ฟ้า ยามราตรี 
แสงจันทรา นวลละออ ทอแสง ขับความมืดหม่น บนผืนฟ้า 

อากาศ....ร้อน...อบอ้าว ไร้ลมรำเพย 
แต่...ใจดวง..กลับสงบงาม นิ่งฉ่ำเย็น อย่างน่าแปลก 

จันทร์ครึ่งซีก กำลังสอนใจ ใครบ้างล่ะหนอ.....
ที่กำลังอยากแบ่งปันฝันฝากใจไปกับ 
มวลหมู่ดาราบนฟ้ากว้าง......... 


จันทร์ครึ่งซีก รอวัน....บานเต็มดวง......
เหมือนทุกดวงใจ รอบานเบิก ดังบัวในบึงกว้าง 
ที่รอบาน..หวานแย้ม...รับแสงอาทิตย์อุทัย 
และ ..
ดั่งใจเราที่รอแสงธรรม แสงทอง ส่องใจ 
ให้...
หยดน้ำค้างบนใบบัวและหยดน้ำตาในใจเรา 
มลายหายไปกับแสงอรุณรุ่ง...เพื่อชีวิตนี้ 
ที่มิมีวันมอดสิ้นหวัง 
ขอ..
แค่เพียงเติมต่อ คิดดี ทำดี มีรัก ใช่ไหมเล่าเธอ....... 


จันทร์กระจ่างฟ้า กระจ่างใจ สว่างไสว 
เปรียบดังยามใจเราเป็นสุข 
ยามเราทุกข์ ดังจันทร์แรม 
รักก็แรมร้างลา พาใจให้มืดหมองหม่น..... 

ธรรมชาติของจันทรา และดารางาม 
หมุนเวียนเปลี่ยนผัน กำลังสอนใจเรา 
ให้ยอมรับความจริงแท้ แน่นอน....นะดวงใจ 


ดวง....หยิบหนังสือ บนหัวนอน เพื่อนคู่ยากหลากหลายเล่ม

ก้าวรักในรอยจำ..A  WALK TO REMEMBER
หอมกลิ่นภูเขา..ของสร้อยแก้ว คำมาลา
ไร้พรมแดน...ของลาวคำหอม
และ..
โลกสีน้ำเงิน ของอัศศิริ มาประโลมใจ
ไปกับคืนค่ำนี้ ที่จันทราท้าแสงนวล 
โลมไล้หมองหม่น บนฟากฟ้า..... 


แลลอดผ่านหน้าต่างบานกว้าง 
ผ่านใบจำปี กวัดไกว ไหวลม 

แสงทองอาบส่องยอดไม้มา 
เยือนแย้มยิ้มอยู่ ภายในใจ ดวงงามยามนี้ ให้ใสงาม ฉ่ำเย็น.... 

แสงจันทร์อาบกายให้แสนหวานละมุน 

และ.....
ดวงกำลังหยิบ หนังสือของ..หลวงพ่อเทียน... 
ที่ดังแสงเทียน แสงทอง ส่องสว่าง 
อาบเส้นทางใจ ให้แสนสงบงาม ไปตามกัน..... 

แสงจันทร์...แสงธรรม..แสงเทียน 
กำลังหลอมละลายให้ดวงนอนหลับฝันดี ในราตรีนี้ 
ที่เราทุกคนมีสิทธิ์ เลือกอบร่ำ พร่ำบ่มใจ 
เพื่อเอิบงาม ได้เท่าเทียมกัน..... 


คิด.....ไปทำไมเล่า..
คนเรานั้นคิดอยู่เสมอ เหมือนดังกระแสน้ำ 

การหลงติดกับความคิด ก็เหมือนกับ 
การตักน้ำมาเก็บไว้ 
แต่...ถ้ามีสติรู้เท่าทันความคิดนั้นๆ 
ก็เหมือนน้ำไหลมา แล้วก็ผ่านไป... 
การหลงติดในความคิด ทำให้เกิดทุกข์......... 


หยุด... ให้เป็น..ทันที ที่คิด 
จับดวงจิตที่คิดเพ้อให้หยุด..ให้ทัน..ท่วงที 
มิมีสานต่อ ก่อตรมระทมทุกข์ 

โอ้ดวงใจ.....คนดี...
ไม่ว่ายามนี้ อยู่หนใด 

คิดดี คิดร้าย คิดหมาย คิดมั่น คิดฝัน คิดปอง คิดอยากลอง 
คิดอยากเล่น คิด......คิด....คิด....จะตาย จะเป็น ใครเล่ารู้.....
นอกจาก..
ใจเราดวงนี้ที่ทุกข์ทน...เกินทาน. 


ดวง....ขอวอน...ด้วยใจดวงนี้ 
ที่พลีให้ เพื่อนร่วมโลก ลดโศกเศร้า รานร้าวฤดี 
ด้วยค่ำคืนนี้ ที่แสนงาม 
ผ่าน..
จันทร์เสี้ยวดวงเศร้า 
ทุกคราครั้งที่นั่งมองนะคนดี ที่แสนรัก.......
..........................



8129_b1_061023225554.jpg				
7 มีนาคม 2550 00:09 น.

มงกุฎดอกเศร้า..!

พุด

8233_b1_060316071236.jpg
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3577.html   


นอนนับดาวเหนือเนินผาในวันหนาว
ทะเลเศร้าสายหมอกพรมห่มพรายพร่าง
ฟ้าพยับโพยมจันทร์เต็มดวงลอยอ้างว้าง
เอนอิงร่างรับรินร่ำฉ่ำหวานใจ..

เปิดดวงใจภายในฟังงามเงียบ
น้ำค้างเฉียบรินรดระริกไหว
หนาวแสนหนาวร่างเร่าร้อนใกล้ดวงใจ
ปิติใจจนน้ำตาช้าช้าริน..

จากเรียวตาสู่เนียนแก้มนวลหมองหม่น
หอมกลิ่นคนในอดีตสายถวิล
มือสากสากประคองไล้น้ำตาริน
จูบนวลสิ้นละเมียดร่างมิร้างลา..

ลั่นทมปลิดปลิวพลิ้วดอกลอยควะคว้าง
คนดีพลางประคองหอมเสน่หา
กระซิบรักร้อยมงกุฎดอกไม้ให้แก้วตา
อย่างช้าช้าลูกผู้ชายบรรจงทำ..

แกมเกศเกล้าพราวดอกไม้งามมงกุฎ
โลกยังหยุดมองดูบทเพลงร่ำ
จันทร์โปรยสายหวานน้ำผึ้งซึ้งใจจำ
คืนโชนหวังจันทร์โชนแสงเติมแล้งใจ..

มงกุฎลั่นทมฝากระทมถึงคืนนี้
เมื่อคนดีตอกย้ำจำได้ไหม
นานเกินรอรักนิรันดร์ฝันค้างใจ
รับบทใหม่ใส่มงกุฎหนามมงกุฎดอกเศร้าเฝ้าทิ่มแทง!

......................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3577.html
มงกุฎดอกส้ม   

ผิดหรือไร
เมื่อใจหนึ่งดวงนี้
อยากทะยาน ให้ไกลดังใจฝัน
ผิดก็ยอม
ไม่เคยเสียใจ ในความเป็นไป
ขอเพียงมีสิทธิ์รัก เท่านั้น
แหละหัวใจ ไม่เคยจะยอมแพ้
เจ็บเท่าไร ไม่เคยจะหยุดฝัน
ผิดก็ยอม
จะเป็นหรือตาย เอาใจเดิมพัน
ขอเพียงมีวันหนึ่ง
ฝันจะเป็นจริง
สวมชุดเจ้าสาว ขาวบริสุทธิ์
สีของความมั่นคง ในรักแท้
รอคอยเพียงเธอ
ไม่เคยเปลี่ยนแปร
จะขอรอเพียงแต่เธอ ผู้เดียว
ผิดหรือไร ถ้าคนหนึ่งคนนี้
จะรักใคร สักคนสุดชีวิต
ผิดก็ยอม
เมื่อใจรักเธอ เพียงเธอคนเดียว
แม้จะนานเท่าไหร่ ฉันยังรอเธอ

สวมชุดเจ้าสาว
ขาวบริสุทธิ์
สีของความมั่นคง ในรักแท้
รอคอยเพียงเธอ
ไม่เคยเปลี่ยนแปร
จะขอรอเพียงแต่เธอ ผู้เดียว
ผิดหรือไร ถ้าคนหนึ่งคนนี้
จะรักใคร สักคนสุดชีวิต
ผิดก็ยอม
เมื่อใจรักเธอ เพียงเธอคนเดียว
แม้จะนานเท่าไหร่
ฉันยังรอเธอ... 





8235_b1_060316075038.jpg				
4 มีนาคม 2550 23:36 น.

เพลง..พะงัน..!

พุด

V226760_RCJ58.jpg
http://www.salathaila.com/kacykabtale.html
บทเพลงทรายกับทะเล

ค่ำคืน..นี้
ทะเล...เดินไปเด็ดดวงดอกไม้ไทยรายรอบเรือนจำปี
มีลั่นทม พุดซ้อน อรชรอ้อนใจ
เข็มขาว
ที่กำลังชูช่อไสวพราวนวล..แน่นกองาม
มาสามสี่ช่อดอกดก
แล้ว..
ค่อยๆละเมียดละไม
จัดแบ่งใส่เหยือก..เหลือง..ขาว..แดง..สามสี
แล้วนำไปวางไว้ตามมุมต่างๆของวิมานดิน
ให้...กลิ่นหอมหวานอวลพร่าง

ในท่ามราตรี..
ที่นวลจันทรากำลังลอยหน้าหวานบานแจ่มแย้มยิ้มอย่างใจดี
พลีปลอบประโลมใจมวลมนุษย์ทั้งโลกหล้า
อยู่บนท้องนภา..ฟ้าสีกำมะหยี่ 
และในท่ามราตรีที่แสนสงบสุขเงียบงันเสียเหลือเกิน


หูได้ยินเสียงเพลง
 *ทะเลทะเล*หลากหลายบทเพลง
ที่ร้องกับเพื่อนๆเมื่อคืนนี้
แว่วมาในมโนนึก 
ให้..
รู้สึกคิดถึงทุกๆคนที่เพิ่งพานพบกัน
และ..
ต่างจำพรากจากลากันไปอีกหน
ตามหนทางแห่งชีวิตเส้นทางแห่งชีวิต
ที่พรหมลิขิตสวรรค์บันดาลให้ไปรับภาระหน้าที่ต่อแผ่นดิน
คนละมุมของประเทศอย่างแสนน่าภาคภูมิใจ


http://www.salathaila.com/kacykabtale.html
ทรายกับทะเล

จะเหนื่อยเพียงไหน จะทุกข์เพียงใดโปรดรู้ 
ตรงนี้ยังมีฉันอยู่ พร้อมจะดูแลหัวใจ 
หากมรสุม จะทำเธอเหน็บหนาวใจ 
พายุจะแรงแค่ไหน จะคอยอยู่ข้างเคียงเธอ 

หากมีวันไหน ที่เธอไปไกลจากฉัน 
ในหัวใจไม่เคยหวั่น และจะคอยเธอย้อนมา 
ก็ใจมันรู้ คลื่นลมจะคอยพัดพา 
คอยซัดทะเลเข้าหา หาดทรายแห่งนี้ดังเดิม 

คือผืนทราย ที่โอบทะเลไว้ 
จะวันใด มั่นคงเหมือนดังที่เป็น 
อยู่เคียงข้างเธอ ใจไม่ไหวเอน 
และยังคงชัดเจน อย่างนั้น 
หาดทรายยังสวย รายล้อมทะเลด้วยรัก 
คงไว้ด้วยใจแน่นหนัก ไม่หวั่นยามพายุผ่าน 
จะมีเพียงฉัน และเธอตราบนานเท่านาน 
มีรักในใจผสาน ดั่งทรายอยู่คู่ทะเล 


หาดทรายยังสวย รายล้อมทะเลด้วยรัก 
คงไว้ด้วยใจแน่นหนัก ไม่หวั่นยามพายุผ่าน 
จะมีเพียงฉัน และเธอตราบนานเท่านาน 
มีรักในใจผสาน ดั่งทรายอยู่คู่ทะเล 

(จะมีเพียงฉัน และเธอตราบนานเท่านาน) 
มีรักในใจผสาน ดั่งทรายอยู่คู่ทะเล.

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song2461.html

ทะเลไม่เคยหลับ ดิอิมพอสซิเบิ้ล 

มอง ซิมองทะเล
เห็น ลม คลื่นเห่จูบหิน
บาง ครั้งมันบ้าบิ่น
กระแทก หินดัง ครืน ครืน
ทะเล ไม่เคยหลับไหล
ใครตอบ ได้ไหม ไฉน จึงตื่น
บาง ครั้งยังสะอื้น ทะเลมันตื่น อยู่ร่ำ ไป
ทะเล หัวใจของเรา
แฝง เอา รักแอบเข้าไวั
ดู ซิเป็นไปได้ ตื่นใจเหมือนดัง ทะเล ครวญ
ยาม หลับไหล ชั่วคืน
ก็ถูก คลื่นฝัน ปลุกฉัน รัญจวน
ใจ รักจึง เรรวน
มิเคย จะหลับ เหมือนกับ ทะเล

ทะเล หัวใจของเรา
แฝง เอา รักแอบเข้าไว้
ดู ซิเป็นไปได้ ตื่นใจเหมือนดัง ทะเลครวญ
ยาม หลับไหล ชั่วคืน
ก็ถูก คลื่นฝัน ปลุกฉัน รัญจวน
ใจ รักจึง เรรวน
มิเคย จะหลับ เหมือนกับทะเล... 
 

 

ทะเลโอบไหล่เพื่อนรัก ด้วยใจดวงที่ตระหนัก
ถึงเนื้อแท้แห่งความเมตตาโอบเอื้อ 
ที่เรามีกันและกัน
และต่างพันผูกกันมาตั้งแต่ยามวัยเยาว์
ด้วย...
บทเพลงแห่งบ้านเรา
หาดทรายสายลม แสงแดดและเสียงคลื่นทะเล
ที่กล่อมเราทุกคนให้นิทราฝันดีเสมอมา
และ..
จักนานเนาเป็นเช่นนั้น
ตราบจนชั่วนิจนิรันดร นะทุกเพื่อนรัก..!

...............................................



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song34.html
พรานทะเล 

ชีวิตที่คร่ำ กลางน้ำเวียนวน
ลอยล่องกลางชลไม่พ้นทนไป
อยู่กับเรือเบื่อใจ ผองพรานทะเลเร่ไป
อยู่ห่างไกลกลางสายชล
มองน้ำตรงหน้า จรดฟ้าไกลไกล
ว้าเหว่ดวงใจไม่เห็นผู้คน
คลื่นและลม สู้ ทน ทุกข์ใจปานใดไม่บ่น
สู้แดดฝนลำบาก กาย
อยู่หว่างทะเล นาน นาน
ท้องเรือเป็นบ้าน ท้องธารเรือนตาย
สิ้นชีพสิ้นชนม์ เคราะห์ร้าย
ศพฝังโดยง่าย ฝากเอาไว้ใต้ คงคา
เพียงเห็นริมฝั่ง สักครั้งดีใจ
มาบกทีไรให้แสนปรีดา
ใกล้แผ่นดิน เข้า มา
เหมือนมีวิมานตรงหน้า
ปลื้มหนักหนา แทบจูบดิน
อยู่หว่างทะเล นาน นาน
ท้องเรือเป็นบ้าน ท้องธารเรือนตาย
สิ้นชีพสิ้นชนม์ เคราะห์ร้าย
ศพฝังโดยง่าย ฝากเอาไว้ใต้ คงคา
เพียงเห็นริมฝั่งสักครั้งดีใจ
มาบกทีไรให้แสนปรีดา
ใกล้แผ่นดินเข้ามา
เหมือนมีวิมานตรงหน้า
ปลื้มหนักหนาแทบจูบดิน... 
 


V262812.jpgแม่ดอกผักบุ้งทะเลเหว่ว้าใจ!


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song251.html
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song152.html


เดียวดายปลายโลกร้าง! พุดพัดชา 


ฉันนั่งรอเธอเดียวดายที่ปลายโลก
หลบมุมโศกเหลือมุมใจเพียงในฝัน
รักและรอ รอและรัก ชั่วกับป์กัลป์
หลับตาฝันฉันมีเธอในอ้อมใจ...

ที่ปลายโลกไยโศกเหมือนร้างไร้
มันคล้ายคล้ายตะวันลาราตรีไหน
มีเพียงฝันวันแสนงามไว้ปลอบใจ
คำหวานใดก็ลมลมตรมน้ำตา...

ฉันเดียวดายคล้ายโลกนี้เล่นตลก
และเหมือนนกปีกหักใจอ่อนล้า
อยากคืนหลังจูบผืนทรายใกล้ธารา
และซบหน้าหมายมาดสวาทไกล...

ตะวันตกดินถวิลรอที่บ้านเก่า
รอคนเหงาซับน้ำตาอย่าร้องไห้
อีกไม่นานได้คืนร่างหลับสบาย
ให้เม็ดทรายคลื่นทะลเห่กล่อมขวัญนิรันดร!

......................




http://thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_41827.php
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song161.html
......................

คิดถึงบ้าน
คิดถึงแม่
คิดถึง....
น้ำทะเลสีน้ำทะเล
ไล่โทนสีน้ำเงินสดกระจ่าง
เขียวเทอควอยซ์เขียวมรกตเขียวสดเขียวใสเขียวไพลเขียวพร่าง
ไปทางน้ำเงินหลากโทนหลากสีที่ไล่ไล่ลงมาให้งามตาน่าดูน่าชม



คิดถึงหาดทรายสะท้อนแดดเป็นสีเงินยวงวะวาววับ
รับกับท้องฟ้าสีเงินจัดจ้ากระจ่างใสในวันที่ฟ้าสีสดใสสดสวย
แกมด้วย..
ลมทะเลพัดไกวไหวกิ่งมะพร้าวโบกโบยสะบัดพัดพลิ้วราว
กวักมือเรียกหาเธอทุกดวงใจ
ให้มานอนในเปลยวนใต้ร่มเงาต้นทองหลางร้างไร้ใบ
ที่มีแต่ดอกแดงพร่างกระจ่างใจเสียไม่มี



คิดถึงลั่นทมไหวกอระทมช่อพราวกิ่ง
บนเชิงชะง่อนผาภูสูง
ที่มีหินลาดชันกว้างไกลให้เห็นท้องทะเลไกลรอบทิศ
กับ
ดงมะพร้าวละลิบอยู่เบื้องล่างนับหมื่นนับแสนต้น
ที่ทะเลจะพาดวงใจดวงเล็กเล็กดวงน้อยน้อยหนีความสับสน
ไปนอนอ้อยสร้อย 
นอนหลับบนผาโดดเดี่ยวเดียวดาย ตั้งแต่ยามเยาว์
เป็นความเหงาที่สร้างสงบสุข ลึกล้ำดำดื่ม
ผิดแผกแตกต่างดวงใจเด็กไหนใครอื่น..



บางครั้งยามสนธยาเย็นย่ำ ทะเลจะเฝ้านั่งรอดู
พระอาทิตย์จากบนภูผานี้ 
ที่จะเห็นทะเลไกลตรงหน้าไร้สิ่งใดกีดขวาง
รอแสงงามสายทอง
จะทอทอดทาบอาบไปทั่วทั้งผืนน้ำทะเล..



และแลราวเกาะมหัศจรรย์รายรอบถูกโอบกอด
ด้วยเงื้อมงามแห่งหัตถาสวรรค์สรรเสกหวานสล้างเสลา..
พร้อมเพราด้วยเมฆสลับสล้างพร่างสีพริ้งพรายพรรณ
เฉิดฉันท์พราวละออง ผ่องชมพูสลับเทาทอง ซ้อนทับสลับเหลืองละออ

ราวสายหมอกสายเหมยสายไหมสายไยฝัน
ที่กวีร้อยพันก็มิอาจสลัดฝีแปรงมาเทียมเทียบแย่งพรสวรรค์
จากจิตรกรแห่งเงื้อมเงาธรรมชาติวาดเวิ้งงามไปได้..


ทะเล..จะไม่มีวันลืมคืนฝันวันงามเหล่านั้น 
ทะเลหวงแหนพะงันงามในมโนนึกทุกนาที
และ
ยังโชคดี 
ที่ทะเลมีที่ดินผืนงามสล้างไศลเนิน
ให้ฝากฝังร่างยาม  ดาวดวงแห่งชีวีถึงเวลาจำพรากจากลา 
เลยลับดับดวง กลับคืนกลับเป็นหนึ่งเดียวกับผืนดิน 
ยามสนธยาแห่งชีวินสิ้นวันสิ้นไร้ห่วงใดใด

และไม่ว่าเกิดชาติไหนๆ
ดวงใจทะเลก็จะสถิตแนบเนานวลนึกกลับ
มานอนนับดาวเดือน
ฟังเสียงคลื่นพ้อล้อพรายฝั่งนะริมฝั่งฝันแห่งนี้..


ฟังเสียงนกไพรละเมอครวญหวนไห้ละห้อยหา
กลางพงไพรพะงันงามนามเพราะ
ที่แวววับจับกลางดวงจิตกลางดวงใจ
กลางวิญญาณใสใสดวงนี้ มีมีเสื่อมสลายลา...



ทะเลคิดถึงดงมะพร้าวซ้อบซบไสวที่ยามนี้คงโอนเอนไหว
พ้อพร่างพรายทายท้าลมพายุแรงฤดูเดือนสิบสอง
ที่น้ำทั้งในทะเลและลำธารจะนองเนือง
จากเทือกเขากลางไพรพะงัน 
ละหลั่งลงมาสู่ท้องธาราทะเลกว้าง..




ดังสายน้ำไม่ไหลกลับลับล่วงควงพลิ้ว
ไปสู่ท้องทะลใหญ่
ที่รอรับรักร้างอย่างสงบเงียบงาม...อย่างเข้าใจ
พาสู่มหาสมุทรใหญ่มหาสมุทรใจแห่งโลกมนุษย์นี้
ที่มากมีมากมายอารมร์ถมเท่าไรมิรู้จบรู้สิ้น
ได้แต่ถวิลรองรับอย่างเดียว..


เกลียวเอ๋ยเกลียวแห่งสายชลวนว่อง
ท่องทุกหนห้วยละหาน...
จนกว่าจะท่องฝ่าธารธรรมน้อมนำใจให้หลุดพ้น..
วังวนกรรมรักภักดีพลีมั่นอันโง่งมงาย
มิวายเวียนวนหลุดพ้นยากยิ่งนักแล้ว..นะดวงแก้วดวงใจ



และคิดถึง
ยามที่เรานุ่งผ้าถุงทำเป็นลูกโป่งลอยประหนึ่งชูชีพน้อยๆ
แบบธรรมชาติๆดิบเดิมของเด็กบ้านนอกคอกนาราคาไม่แพง
 และ
ไม่ต้องแย่งกันเล่นน้ำในสระเทียม
ที่ต้องจ่ายเงินงามๆ
ถึงจะได้ว่ายตามๆกันไป 
กินน้ำลายใครต่อใครที่ลอยฟ่องบางครั้งบางหน..
สำหรับเด็กบ้านนอกคอกนาอย่างเราเรา
ทุกชั่วโมงฟรีพลีตลอดกาลตลอดวัน..


เรามีสไลเดอร์ธรรมชาติ
คือเส้นทางลดเลี้ยวเคี้ยวคดสองข้างลำธารสายสวยสายใส
มีตอไม้หรือไม่ก็เถาวัลย์
ให้ท้าประลองจนปากช้ำปากเขียว
เพราะเล่นหวาดเสียวนานไป
จนบางทีปากไปกระแทกเข้ากับกอไม้ใหญ่

ที่เราพยายามแสดงอภินิหารย์ใจกล้า
คว้าไว้ใช้ห้อยโหนโจนทะยานยึดไว้มิให้กระแสน้ำหลาก
ลากตัวเราลอยละล่องละลิ่วลงไปไกล
ถึงทะเลใหญ่ลึกล้ำดำมืดน่ากลัว
ที่รอรับรอร่างอยู่ปลายทาง.....


เมื่อมองย้อนภาพหนหลัง..
ภาพเด็กผู้หญิงหน้ากางยิ้มหวานกลางผ้าถุงพริ้มเพรา
หัวเราะเบิกบานเริงร่าไร้ทุกข์ร้อนอนาทรสิ่งใดใด

แม้หัวใจและครอบครัวจะทุกข์ทนยากไร้ร้าง
ห่างจากโลกวัตถุแสงสีศิวิไลซ์ไกลปีนเที่ยง
 กลางเกาะงามเงียบพะงัน.ลำพัง...


และมิเคยที่หัวใจดวงนี้จะหวาดหวั่นหวาดกลัว ต่อสิ่งใด
ราวกับใจดวงงามได้รับการหล่อหลอมกล่อมเกลี้ยง
จากมวลสรรพสิ่งที่นิ่งงามเงียบรายรอบ

ให้น้อมรับวิถีไพรวิถีใจอันร้างไร้
จากดวงดาวยามค่ำพรายพริบฟ้า 
จากเหว่ว้ายามสนธยา
ยามสุริยาลาลับฟ้าอ้อนอำลาไปกับผืนฟ้าผืนน้ำทะเล...ที่ละนิดละน้อย

เป็นยอดสร้อยหอมงามแห่งธรรมชาติมา..ทายทัก
ให้เรียงร้อยเรียงรักถักถ้อยเป็นสร้อยโซ่ฝันรัดรึง
ประดับตรึง.. งามในคะนึง...ล้ำค่า 
ดั่งสร้อยเพชรพร่างสว่างกลางใจ..
ที่มิมีผู้ใดอาจเอื้อมมาขโมยไปจากใจเราได้เลย..



ขอบคุณ..หาดขาว ดาวสวย 
แดดกล้า  พายุไหว 
ท้องทะเลกว้างไกลลิบหล้า
พาให้ดวงใจมีจินตนาการไกลตาม
ขอบคุณงามแห่ง ทิวมะพร้าว
ขอบคุณน้ำใจพิสุทธิ์ใสน้องพี่
ที่รู้รักอภัยแบ่งปันทั้งคืนฝันวันดี..มีน้ำใจให้แก่กัน..


ให้เป็นพลังหล่อหลอมย้อมเนื้อดวงใจให้กล้าแกร่ง แฝงอ่อนโยน
สร้างเนื้อใจให้ละมุนละม่อมน้อมรับธรรมชาติ
มาตั้งแต่อ้อนแต่ออกบอกใครในงามดวงใจนี้
ที่ไม่มีใครหยั่งรู้หยั่งเห็นงามตามที่นึกคิดในกมล..

เป็นพลังหวานเรื่อยระริน
ที่มวลพลังธรรมชาติทั้งสิ้นรายรอบ
จากเกาะที่เป็นคำดั่งตำนานค่าล้ำคำไข่มุกงามกลางอ่าวไทย
ที่พระเจ้าเบื้องบนนำมามอบเสกสรร
นำมาแบ่งฝันปันใจมอบให้มวลมนุษยโลก..


หรือจากกุศลกรรมกาลแต่ปางก่อนเก่า
ที่ทำให้เราแสนโชคดี
ได้พบแย้มยิ้มพร้อมพลีดีใจภาคภูมิยิ่งนัก
กับหัวใจดวงรักดวงร้าวดวงเศร้าดวงหวานไหวละไมละมุนนี้ 
ที่มิยอมแลกด้วยน้ำเงินแม้กองนับล้าน
ก็จักมิหาญมิขายให้ใคร
และ..
ภาวนาขอทุกภพทุกชาติไป
จะสุขเศร้าใจจะไหวครวญช้ำกับเพรงกรรมเพลงกาล
เพลงไร้หวานรักร้าวสักเพียงไหน
จากเนื้อใจคนคนมากมายมากมี
ที่ไม่เข้าใจมากระหน่ำซ้ำซัด
ก็จักมิยอมแลกใจดวงนี้ 
ที่พร้อมพลีจะยอมรับเพรงกรรรม มิไหว้วอนผู้ใดเลย..


หัวใจสาวชาวเกาะหรือสาวบ้านนา
ที่บางคนทายท้าด้วยความไม่เข้าใจว่า..
เกาะมหัศจรรย์นั่นละหรือมี..ท้องนา..
ป่าเขา ลำเนาไพร มีกล้วยไม้ใไพรในดวงใจหนึ่งเดียว..
นามมงกุฎไพรที่หอมงามกระฉ่อนไปทั้วโลก
ขึ้นท่ามกลางป่าดงดิบ..เทือกเขาไพรพะงัน
และ..


โอ้ละหวา อยากร้อง..ดังดัง
แล้วบอกว่าหากยังมีชีวา
จงพาร่างไปพบเกาะสวาทหาดสวรรค์
เกาะแห่งมหัศจรรย์รัก..
ที่คนทั่วโลกพากันกล่าวขวัญแห่กันมาทายทัก
*พระจันทร์ดวงงามที่สุดในโลก*
ตามคำร่ำลือตามคำเขาว่า
จนกว่าจะทอดทัศนาด้วยดวงตาตนเองให้ชื่นฉ่ำใจว่า..


พระจันทร์งามพิลาสพิไลสวยบาดใจสุกปลั่ง
ราวส้มสุกสีทองดวงใหญ่ใบเท่ากระด้งนั้น
ราวสวรรค์บันดาลบันดลให้ได้คอมโพสสิชั่น
ให้ค่อยค่อยโผล่พ้นน้ำทะเลเขียวมรกตขึ้นกลางอ่าวงาม..นามหาดริ้น

ที่ทรายละเอียดราวแป้งนวลนุ่มหยุ่นเท้า
ยามได้ลอยเลื่อนเต้นรำ ราวฟลอร์สวรรค์
ฟลอร์ระยับประดับด้วยกลีบดอกไม้ฟ้าประทาน
ทุกย่างเท้าราวลอยเลื่อนละลิ่วละล่อง
กลางฟองฝอยเมฆหวานม่านหมอกมนตรา
รองรับ นางฟ้านางสวรรค์
ที่พากันมาเฉลิมฉลองแลกสุขหมดทุกข์ใจ



ทะเลคิดถึงดงมะพร้าวซ้อนซบไสว
ที่ยามนี้คงโอนเอนไหวไกวกราวกราว
พ้อพร่างพรายทายท้าลมพายุแรงฤดูเดือนสิบสอง
ที่น้ำทั้งในทะเลและลำธารจะนองเนืองๆไหลละล่องลงมา
จากเทือกเขากลางไพรพะงัน ..


ทะเลฝันเห็นดอกจิก
ต้นไม้แห่งความฝันวันเยาว์ยังยืนต้นหวาน
หว่านโปรยปรายสายสวยชมพูพร่างดอกกระจิ๊ดนิดน้อย
ลอยคว้างอย่างอ้างว้างลงกลางสายชล
 ค่อยๆลอยละล่อยหมุนวนควะคว้าง
อย่างดายเดียวราวเกลียวรักเกลียวสวาทที่มิอาจหวนคืน..



ดังสายน้ำไม่ไหลกลับล่วงลับ
ลาร่วงควงพลิ้วไปสู่ท้องทะลใหญ่
ที่รอรับร่างรักร้างอย่างสงบเงียบงามอย่างเข้าใจ
พาสู่มหาสมุทรใจแห่งโลกมนุษย์นี้

ที่มากมีมากมายอารมณ์
ถมเท่าไรมิรู้จบรู้สิ้นได้แต่รองรับอย่างเดียว
เกลียวเอ๋ยเกลียวแห่งสายชล
จนกว่าจะวนว่องท่องธารธรรมน้อมนำใจให้หลุดพ้น.
วังวนวนกรรมรักภักดีพลีแล้วที่ไม่ได้ดั่งหวังดั่งใจ....



คิดถึงต้นเต่าร้าง..
เด็กเล็กเด็กน้อยตีนเท่าฝาหอยคงงง 
ต้นอะไรชื่อประหลาดราวกับว่าจะมีเต่ามาวางไข่แล้วราร้างห่างหายไป 
จะเป็นเฉกนั้นหรือไม่ ทะเลก็ยังไม่ได้สืบค้นหาตำนาน
เอาเป็นอันว่าเรียกเต่าร้าง ว่างๆไว้ก่อนละกันนะ

ต้นเต่าร้างนี้จะมีลักษณะทางพันธุกรรมไซร้
จากการให้นิยามของ..ทะเลนักพนา..สมัครเล่นไว้ดังเช่นเฉกนี้นะคะ..


คือเหมือนกอจันทร์ผา
แต่ทว่าใบจะมีหนามยาวเรียว
 และลูกพร่างสีส้มแสดแดงแรงร้อนเร่าเหลือบล้ำชมพู
ดูสลับสล้างพร่างเฉดสีสดราวสัปปะรดพันธุ์หนึ่งประมาณนั้นค่ะ
และ..



วันดีคืนดีทะเลจะไปยิงภาพมาให้ 
หากน้องชายทะเลยังมิฟาดฟันทิ้งไปตามคำสั่งของพี่คนนี้
ที่อยากกราบกราน ทุกบังกาโลว์
ให้สงวนพันธุ์ไม้งามใบเรียวหนามแหลม  ลูกดก

ที่งามประหลาดล้ำในคลองตาคลองใจ
ของสาวทะเลคนช่างฝันพิลาส   คนนี้นะคะ 
เก็บสงวนพันธุไม้ให้มลังเมลืองประเทืองฝันประเทืองงาม
ประดับเกาะมหัศจรรย์ของสาวทะเลไพรพงพะงัน
 มิให้ฝันร้ายโค่นจนตายเหี้ยนคามือคัน..
ให้มันคงมั่นแสนงามไปชั่วกาลคู่เกาะแบบฟอร์เอฟเวอร์..นะ..



คิดถึง..ต้นทองหลาง
สลัดใบควะคว้างกลางพื้นกราวเกลื่อน
เหลือสล้างพร่างพราวด้วยดอกดวงสีแดงแปร๊ดจัดจ้า
ตัดกับฟ้าสีน้ำเงินใสกระจ่างสดชื่นสว่างตา
พาบานเบิกใจเสียไม่มี..



และหากเรานี้นั่งเรือลำน้อย
หรือเรือเฟอรี่ลำเท่ายักษ์เท่าบ้าน
วิ่งฝ่าทะเลเงินงามน้ำกระจายเข้ามาหาฝั่งฝัน

พลันจะเห็นงามไสวจรัสใจนั้น
ให้โดดเด่นพราว ราวภาพฝันของจิตรกรเอก
เสกสลัดฝีแปรงฝากงามไว้ให้ประจักษ์แก่ตา
อย่างมิมีวันอยากลาอยากลืมเลือนเลยเชียวนะจะขอบอก..



คิดถึง..ต้นมะม่วงหิมพานต์ที่ป่านนี้
ทั้งดวงดอกคงหอมพราวพร่าง
เม็ดสล้างคงห้อยย้อยโผล่พร้อยพลอมแพลม
แทงออกมาเป็นเม็ดอ่อนอ่อน
ก่อนกลายเขียวใสไปถึงเขียวแก่ 

และดำเมื่อแก่จัด
รอเก็บลงมาปลิดตากแดดให้แห้งดี
 แล้วทำตามกรรมวิธีพื้นบ้าน..ใส่กาละมัง
สังกะสี ที่ใช้ทางมะพร้าวมัดจุดไฟคั่ว
จนกว่าไฟจะลุกไหม้ยางทุกเม็ด ให้ดำสนิท
แต่ไม่นานนักอย่าพักให้ไหม้กลายเกรียม
เสียก่อนจะนำมาทุบปอก  ถลอกเปลือกกิน  แล้วขม....


คิดถึง..ระฆังหง่างเหง่งวังเวงแว่ว
ก้องสะท้อนสะท้านหวานแว่วแผ่วเศร้าไปทั่วทั้งราวไพร
กลางไกลหุบเขาที่ราวกับเมืองสวรรค์
บนผาเนินสลับสล้างในดงไม้รำไรเขียวไพลพร่าง

เจดีย์ทองผ่องผุดบนภูสูงที่โผล่พ้นทิวไม้
ในฉากสลัวเรืองราง..
งามท่ามกลาง
ม่านเมฆราวเมืองแมนแดนย่ำสนธยาต่อราตรี.....



และสุดท้าย ท้ายสุดของเรื่องประเทืองประทับใจ

คิดถึงแม่ดอกผักบุ้งทะเล.
นางเอกแสนหวานอรชรบอบบางม่วงละมุนละเมียด
ราวเนื้อสาวเนื้อละเอียดละออที่ทอทอดยอดทายทัก
เบียดเลื้อยประดับหาดทรายขาวยาวเหยียด
ให้พร่างสีสวยใสไสวหวาน..
ปานดอกเยาว์แย้มบานรอรุณรุ่งรางน้ำค้างหอมหอม..



ทะเล..ขอจบเรื่องหวานบานเบิกใจ
ไม่บวกรานร้าวเศร้าใจให้มากมายนะคราวนี้นะคนดี...!




V262949.jpgV262746.jpg				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด