12 เมษายน 2550 23:11 น.

สงกรานต์หวานหฤทัย....!

พุด

image0020.jpgสงกรานต์เสน่หา!

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song5453.html
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song607.html
บทเพลงสงกรานต์บ้านนา สงกรานต์น้ำตา
.....................



ยามเช้า...แสนหวาน
วันที่ฟ้าใส..
วันแห่งงามใจไทยทุกดวง
*วันสงกรานต์*
วันแห่งความภาคภูมิปิติใจ
ในการร่วมมือรวมใจสามัคคีกันอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีไทย
ที่มีมาแต่โบราณกาล


ให้หนุ่มสาวไทยทุกวัยวัน
ต่างพากันแต่งตัวด้วยผ้าไทยผ้าไหมแสนสวยแสนงาม
จากฝืมือภูมิปัญญาชาวบ้านในทุกวิถีทิศ

ที่สามารถหยิบจับ
มาให้เกิดก่อลายมหัศจรรย์..*หนึ่งเดียวในโลก*
ด้วยสองมือหยาบกร้าน..มือชาวบ้านชาวนา
มือที่ไร้เพชรนิลจินดา..


มาหมุนเกลียวด้ายมาสาวสายไหม
มาใช้เพียงพลังหอมแห่งหัวใจ
จากสายใจสายใยรัก...
ภักดิ์เพียรมิท้อ..มิพ้อมิพ่าย..

ให้เราได้เสพสุนทรีย์มีผ้าผืนงาม
มาวางไว้ในตู้ไว้หยิบดูชื่นชมศรัทธา


มาไว้สวมใส่ครอบครองเป็นเจ้าของ
ได้จับจองอุดหนุน..

เพื่อเติมต่อตาม.*.ให้น้ำใจ*
รักษาวัฒนธรรมไทยอันหอมร่ำด้วยเครื่องแต่งกาย
ให้คงไว้เป็นเอกลักษณ์ไทย
มิพักสูญหายสลายหล้าลาจากพรากไปในเร็ววัน

มาคลี่คลุมกาย
มาหมายพาใจให้ได้นวลละมุน
ตามแรงรักหอมกรุ่นละมุนละไม

อย่างรู้ค่าแรงใจแรงกาย
แรงที่ต้องใช้ทั้งพลังสมองแลสองมือ
พร้อมพลีหยาดเหงื่อรินพร่าง
ถึงจะได้งานงามทอสวยสม..ล้นคุณค่า..เกินกว่าตาแล


และ....
ก่อนที่เราจะได้หยิบจับ
ชมความงามระยับเป็นเจ้าของปองขวัญ
เพื่อต่อสายใจสายใยฝันสวรรค์ผ้าไทย

รู้ภูมิใจ
ในงานงามจากสองมือทอง
จากมือแม่ดวงดอกน้ำค้าง

จากธารน้ำใจแสนสวยใสของมิ่งมิตรน้องพี่
ผู้ที่ถึงแม้คนดีจะมีชีวีชีวิตแสนยากไร้อย่างไร
หากได้ฝากงานงามจากใจ


ได้ครองจิตใสนวล
ได้เติบโตมาอย่างมีหัวใจดวงดีที่แสนอ่อนหวานอ่อนโยน

อย่างรู้ละเมียดไม่รีบร้อนเกร็งเครียด
ไม่เบียดเบียนใคร

ให้คิดผิดแผกแตกต่าง
ห่างจากใจมนุษย์เมืองเรืองรุ่งในโลกศิวิไลซ์

ที่ต่างพากันเร่งรีบร้อนไม่ทันใจไปเสียหมด
จนต่างยกโลกให้กับเครื่องจักร

ที่นับวันจะสร้างมลพิษ
ในทุกสรรพสิ่ง

ให้มาลิขิตเสนอสนอง
ครองความอยากที่แสนมากมีมากมาย
มาสนิทแนบร่างใจให้ใกล้สิ้นไร้
ให้ยิ่ง
มิลอยห่างวนพ้นดงกรรมผสานกล้ำลมหายใจไปทุกวันๆ



วันนี้..
วันที่ฟ้าไสวลมระรื่น
พาให้ใจสาวไทยในร่างงามอรชรอ้อนแอ้น
ควงแฟนหนุ่มในชุดหนุ่มโบราณนานที

ต่างเดินยินดีเข้าไปสร้างทิพยนิรมิตในดวงใจ
ให้ยิ่งสวยใสแสนสดชื่นอิ่มบุญ
หนุนนำให้ใจยิ่งฉ่ำเย็น


ไปตักบาตรทำบุญ
ที่วัดให้น้องพี่ได้พลีจิตอธิษฐาน

พี่ชายตักบาตรด้วยข้าว 
น้องสาวน้องหญิงตักบาตรด้วยของคาวหวาน 


ในเวลานั้นใจดวงงามดวงขวัญจะได้รับพรจาก
พระสงฆ์ที่จะสวดคาถา พาหุง  

แล้ว..
ช่วยกันยกอาหารคาวหวานไปกราบกรานถวายพระ 
ขณะพระฉัน ก็ฟังการอ่านประกาศสงกรานต์
ยกมืออนุโมทนา ด้วยพลังใจอิ่มท้นล้นบุญ


แล้ว...
ก่อเจดีย์ทราย ถวายวัด
จะก่อเป็นเจดีย์ขนาดไหน
ให้งามสะบิ้งสะบัดทิ้งทวนปักธงอย่างไรก็ได้

ตามแต่กุศลจิตคิดดีคิดเพียรให้เวียนวนกลับวัด
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ ให้ได้ใช้ในการก่อสร้าง 
เป็นกุศโลบายจะได้เหลือทรายไว้ถมพื้นที่ 
เป็นเรื่องที่น้องพี่จะได้
ทำบุญและสนุกสนาน 


แล้ว
พากันไปปล่อยนกปล่อยปลา 
เป็นการทำบุญเพื่อแสดงความกรุณาต่อสัตว์

ตามมาด้วยการสรงน้ำพระ 
มีทั้งสรงน้ำพระพุทธรูปและภิกษุ สามเณร 
เพื่อความเป็นศิริมงคล
ในโอกาสขึ้นปีใหม่อันเป็นเวลาที่อากาศร้อน 


แล้วกลับไปรดน้ำผู้ใหญ่ 
เพื่อพลีใจแสดงคารวะ
ด้วยความเคารพนับถือ 

นำผ้า ๑ สำรับ คือ ผ้านุ่ง ๑ ผืน ผ้าห่ม ๑ ผืน 
มอบให้ท่านพร้อมกับ ดอกไม้ธูปเทียน
ขอพรท่าน


ให้ท่านให้ศีลให้พร
ให้มีความสุขปีใหม่ 
ตั้งแต่วันสงกรานต์เป็นต้นไป

แล้วทำบุญอัฐิ
นิมนต์พระ 
ชักบังสุกุลอัฐิของญาติที่ล่วงลับไปแล้ว

 
แล้วอุทิศส่วนกุศลให้ 
โดยนิมนต์พระไปยังสถานที่เก็บหรือบรรจุอัฐิ 
หรือถ้าไม่มีอัฐิ
จะเขียนชื่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้วก็ได้ เมื่อบังสุกุลแล้ว
ก็เผากระดาษแผ่นนั้นเสีย 
........


แล้ว
มาสาดน้ำ เป็นการสนุกสนานรื่นเริง
ใช้น้ำสะอาดมีน้ำอบน้ำหอม
หรือแป้งหอมผสมบ้างมิร้างรัก

มีเวลาก็ดู..
การแห่นางแมว 
เพื่อขอฝนในวันรื่นเริงเถลิงศกใหม่
เพื่อขอโชคชัยดับความแล้งไร้
ซึ่งเป็นเรื่องสนุกสนานรื่นเริง
แต่ก็แกมแถมหวังผลในทางเกษตรกรรมด้วย... 
.......


และ
ในวันนี้หลังเสร็จทุกพิธีการ


ในเส้นทางธรรม..ธรรมชาติ
เส้นทางทองทาบอาบรวงเรียว..นาข้าวเขียวไสว
เส้นทางสายใต้...
 ที่ทอดตัวคดเคี้ยวเลี้ยวลัดเลาะราวงูเลื้อย


เลียบขนานไปตามสองฟากฝั่งทะเลใต้แสนงาม 
นาม...อันดามัน...และอ่าวไทย 
ที่มากมายเกาะแก่ง แหล่งท่องเที่ยวมากมาย


ที่มาตรแม้นจะดีจะร้าย..
เพิ่งพ้นผ่านธรรมชาติฝากพิโรธฝากสอนบทเรียนไว้
 หากแดนดินถิ่นนี้
ก็ยังมีมนต์ขลังให้ฝากฝังสวาทหวามเสน่หา
ยังเต็มไปด้วย..


หาดทราย..สายลม..แสงแดด...เกลียวคลื่น..น้ำทะเลเขียวมรกต
ที่แสนงดงาม 
ในท่ามทะเลสีทอง 
สายฝนพร่างหอมห่มพรมพรำเกือบตลอดปี


ให้สวนยางที่สูงไสว เรียงเป็นระเบียบ..
ราวปราการไพรปราการแรงแห่งรัก
ที่เพียรเฝ้าเททุ่มอุ้มชู
ให้ได้หยัดยืนฝืนร้อน..สอนใจ
ให้เราชาวสวนชาวไพร
ได้พากันเรียนรู้สัจจะแห่งความอดทน


น้ำยางข้นคือเลือดน้ำแรงแห่งรักจากแรงกายภักดิ์พลี
ที่เฝ้าทนทะนุถนอมฟูมฟักตั้งแต่แตกช่อกออ่อน
ได้สอนได้บอกถึงความกตัญญุตา
ไม่ว่ากับคนหรือต้นไม้หากเราให้น้ำใจรักทุ่มเท
เพียรเฝ้ากล่อมเกลิ้ยงดูแล...


ไม่ช้านาน...
ก็จะพากัน..
ผลิบานแตกช่อกอกตเวทิตาคืนกลับ..แด่โลกงาม และแด่เจ้าของคนดี

ที่ยอมอดหลับอดนอนมานานปี
สู้ยอมตื่นมากรีดเลือดรักจากยางใหญ่
ที่ยอมสละเลือดจากลำต้นไพรให้คนไทยได้ส่งออกได้มีกิน
................
..............


รถสปอร์ตสีแดง...
วิ่งมาด้วยความเร็วพอประมาณ
ตามเส้นทางสายธรรมชาติ

ที่ยามนี้
สายแสงทองยามตะวันอรุณรุ่ง
กำลังอาบไล้ทาบทาไปทั่ว..นาข้าวเขียวไพลราวแพรพรม..
ที่กล้าห่มหอมไปทั่วทั้งท้องนาไกล
ดูราวดรุณียังเยาว์วัยแรกรุ่น ..ละมุนนวล
เจ้าของรถค่อยๆประคองรถให้ค่อยๆช้าลง...ๆ


เมื่อขับเข้าเขตเมือง
น้ำตาลหวานงาม
ที่มีตราประจําจังหวัดเพชรบุรีเป็นรูปเขาวัง ผืนนา และต้นตาลโตนด

เขาวังหมายถึง เขาที่ตั้งของพระนครคีรีซึ่งรัชกาลที่4 ทรงสร้าง 
และพระเจดีย์ พระธาตุจอมเพชร


นับเป็นเจดีย คู่บ้านคู่เมือง
ผืนนาหมายถึง เมืองเกษตรกรรม
และความอุดมสมบูรณ์
 ต้นตาลโตนด หมายถึง ต้นไม้ สัญลักษณ์ ของจังหวัดจังหวัดเพชรบุรี 


ใช้ อักษรย่อว่ า พบ
คําขวัญของจังหวัดเพชรบุรี

 เขาวังคู่ บ้าน ขนมหวานเมืองพระ 
เลิศลํ้าศิลปะ แดนธรรมะ ทะเลงาม
และ
นี่คือเมืองเพชรบุรีศรีไทยแสนงาม..
ที่เป็นเมืองหนึ่งในดวงใจไทยทุกดวง
และเป็นหนึ่งในแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองของไทย
ที่ควรค่าแห่งการจารึกรัก..
.............


เจ้าของรถวงหน้านวลรูปไข่ผมยาว
ที่พันทบเกล้าตลบสูงแล้วเสียบไว้ด้วยปิ่นปัก

ยิ่งงามแผกหากพิศร่าง
ยามเยื้องย่างก้าวลงมาในผ้าถุงชาวเขาสีดำ
เชิงชายแดง
และมีลูกปัดเงินแวววะวับปักประดับงามตามขอบริม..


เธอ..
ค่อยๆลงจากรถมาพร้อมหูแว่วบทเพลงแสนหวาน
........


..............
เพชรบุรีศรีไทย..
บุรีเอยบุรีรมย์ เรือง โฉมเอยโฉมเมือง 
งามประเทืองเรืองฝัน
พริ้งพราวราวพรหมภินันท์ 
เพชรบุรีรัมย ์ลอยฟ้ามาสู่ ดิน
พร่างเพชรพลอยแพร้ว 
สมแล้วเมืองปราณวิมานถิ่นถวิล
เลิศบุรินทร์ เลื่องลือระบิลสินไพร
เพชรเอ ยเพชรบุรีศรีไทย 
แผ่นดินแดนใจของผองไทยทั่วกัน
บุรีเอ๋ยบุรีโอฬารรักเคยสําราญ
แก่งกระจานธารใส
วิมานสถานชั้นใด
 เพชรบุรีให้ เราไว้ในอุรา
พร่ างเพชรพลอยแพร้ว 
สมแล้วเมืองปราณตาลนํ้าตาลหวานซ่านดินฟ้า
ใครได้ มา จากไปโศกาซมซาน

เพชรเอ๋ยเพชรบุรีศรีไทย 
แผ่นดินแดนใจของผองไทยทั่วกัน

บุรีเอ๋ยบุรีรมย์ ราย พระเคยเยื้องกราย
เดินหาดทรายสนาน
เขาหลวงเป็นสรวงสําราญ
เขาวังเป็นบ านสถานสถิตองค์ 
พร่ างเพชรพร้อมพริ้ม แย้มยิ้มยวนใจ 
ทักทายขวัญให้ โลมหลง
ลืมไม่ ลง ไม่ ตายแล้วคงพบกัน

เพชรเอ ยเพชรบุรีศรีไทย แผ่นดินแดนใจของผองไทยทั่วกัน
..................


เธอ..คนดี..
จึงลงมาหยุดยืนนิ่ง
ทิ้งใจฝันฝัน
กับเงาตาโศกราน
หวานเศร้าดายเดียวราวน้ำผึ้งรวง
ที่ราวรอร่วงหยาดสายหวาน
ปานประหนึ่งจะรอปลอบประโลมโลกย์หล้าแลฟ้าดิน


เธอ..ยิ่นนิ่งนาน
ใต้ร่มเงาต้นตะแบก  แบกพราวดวงดอกดก
ที่ไล่โทนสีชมพูพริ้งพราย ขาวนวลแกมม่วงหม่น
จนถึงปลายพวงกิ่งทิ้งช่อพ้อลมพร่างไสว


และ..
ในคลองตา..
คือคูนเหว่ว้าเหลืองพราวราวสายฝนสีทอง
ที่กำลังอวดดอกเหลืองไสว
สดกระจ่างในท่ามเขียวไพลไปทั้งสองฟากฝั่งถนน


ให้น้ำนัยน์ตาเธอเริ่มซึมซึ้งวะวับวาวด้วยคิดถึงใครบางคน
ในกมลลึกลึกในรำลึกแห่งบึ้งใจเธอ

ที่กำลังเกิดนิรมิตกระจ่างใส
จากจิตภายในใจดวงแสนงามของเธอเอง


คูนไสว..สว่างพร่างพราว...
ราวธรรมชาติ
กำลังอยาก
กระซิบฝากบทเรียนสอนสัจจะใจสัจจะจริงทิ้งสัจจธรรมไว้ให้


ให้ทุกดวงใจไหวรู้รำลึก
รู้สึกว่า...
ธรรมชาตินี้หนา
ช่างแสนมากมีมหัศจรรย์แห่งรัก..พลังแห่งรัก
ที่...
สามารถสร้างสรร..สีสัน
มารับขวัญพลีกำนัลแด่โลกและมวลมนุษยชาติ
ให้พิลาสพิไลในทุกสรรพสิ่ง


ให้ได้พึงพิงพึ่งพา โอบอ้อมเอื้อหล้า
ด้วยพลัง...แห่ง..ดิน..น้ำ..ลม..ไฟ
พอเหมาะพอดี..ที่จะมีชีวิตรอด

พร้อมประทานพร..
มอบดวงตาแสนงาม
ให้รู้รับรสสดฉ่ำสล้างนาม
*สุนทรีย์ธรรม ธรรมชาติ*

อย่างแสนน่าอัศจรรย์ใจ..
อย่างแสนยิ่งใหญ่..อย่างแสนงามเสียเหลือเกิน!


ธรรมชาติให้สีแก่ดวงดอกไม้
ให้สายธาร..ระรินร่ำ

ให้สายฝนพรำพรมห่มห้วยหนองคลองบึง
ท้องไร่ท้องนา
ทั่วฟ้าทั่วเมืองทั่วพงพฤกษ์ไพร


ให้ปีกนกไพรผกโผผินเหิรบินบนฟ้าได้
ให้อากาศหนาวร้อนฝน
ผ่อนคลายกลายฤดูคู่ฤดี


ให้มีรักคู่ชีวีชาวโลกลบโศกเหงาเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย

ให้มวลดอกไม้แมลงได้แสร้งชมดอมดมผสมพันธุ์เกสรสล้าง
สร้างดอกดวงใหม่ มิให้โลกแล้งไร้กลายเป็นทะเลทราย


ให้น้ำมันกำนัลแดนเผ่าที่ขาดแล้งน้ำเพื่อตามเติมชดเชย
ให้หมอกเหมยราวเรียวรุ้งเมืองหนาวร้อนได้อ่อนหวานอ่อนโยน
ให้ห่อหุ้มโลกไม่เพิ่มโศกร้อนจนมากไป


ให้ลมหายใจ  มวลมนุษยชาติ
ได้อากาศบริสุทธิ์ที่พอเหมาะพอดี
ให้ไฟคือ..พระอาทิตย์สีแดง
ดวงแรงร้อนสอนพลังธรรม ธรรมชาติอันแสนยิ่งใหญ่


ให้ทุกดวงใจยังมีพลังหวังหวาน
ตื่นมารับสายแสงแสนงามราวเรียวรุ้งยามอรุณรุ่งทอประกายจรัส
เพื่อเริ่มต้นนับหนึ่งกับปัจจุบันขณะ..
เริ่มต้นชีวิตใหม่..
หากใครทำผิดพลาดไปมิอาจหวนไปในอดีตเรียกคืนมา..


ที่..
ไม่ว่าจะพบเศร้าร้าวรานในอดีตสักแค่ไหน
ก็แค่กาลเวลาที่ผ่านมาผ่านไป
ที่สอนความไม่เที่ยงแท้แน่นอน
ทุกเหตุปัจจัยที่ไม่เคยมีวันคงที่คงทน


ให้เราทุกดวงกมล
คนในธุลีหล้าได้ตระหนักว่า
*เรามวลมนุษย์หาได้ยิ่งใหญ่กว่าธรรมชาติไม่!*
เพราะ..
ไม่ช้านาน..ร่างรานใจร้าวอย่างไรก็ต้องถึงกาลแตกดับ..
คืนกลับลงสู่พสุธา..


หาก...ทว่า
ดวงสุริยันแลจันทรา
จะยังคงเยือนแย้มหล้าฝากงามไปนานแสนแสนนาน..
ยากที่ใครจะมาดับดวงได้
แม้มากมีบารมีเงินตรามากองไว้จนท่วมพสุธา..

ก็อย่าหวังเลย...!!!
..........................................
...........................................



ติดตามภาคสองค่ะ
นางเอกล่องไพร..ไปพบกับ...อะไร..ใครกันละหนอ..รออ่านนะคะทุกดวงใจ




http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song11.html
(เสน่หา)

ความ รัก เอย
เจ้า ลอยลมมาหรือ ไร
มาดลจิต มาดลใจ เสน่-หา
รัก นี้จริงจากใจหรือเปล่า
หรือ เย้า เราให้เฝ้าร่ำหา
หรือแกล้งเพียง แต่แลตา
ยั่วอุรา ให้หลง ลำพอง
หื่อ ฮือ ฮือ ฮื้อหื่อ ฮือ ฮือ ฮือ
ฮื้อ ฮือ ฮือ หื่อ ฮือ
หื่อ ฮือ ฮือ ฮื้อหื่อ ฮือ ฮือ ฮือ
หื่อ ฮือ หือ ฮือ ฮือ ฮื้อ
สง สาร ใจ ฉันบ้าง วาน อย่าสร้าง
รอยช้ำซ้ำเป็นรอยสอง
รักแรกช้ำ น้ำตานอง
ถ้าเป็นสอง ฉันคงต้องขาดใจตาย
หื่อ ฮือ ฮือ ฮื้อหื่อ ฮือ ฮือ ฮือ
ฮื้อ ฮือ ฮือ หื่อ ฮือ
หื่อ ฮือ ฮือ ฮื้อหื่อ ฮือ ฮือ ฮือ
หื่อ ฮือ หือ ฮือ ฮือ ฮื้อ
สง สาร ใจ ฉันบ้าง วาน อย่าสร้าง
รอยช้ำซ้ำเป็นรอยสอง
รักแรกช้ำ น้ำตานอง
ถ้าเป็นสอง ฉันคงต้องขาดใจตาย...


...................................................

ash_bkg.jpg
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song50.html
บทเพลงโลกกับความรัก

เพียงพลีพร้อมยอมรับความพลัดพราก
แม้นต้องจากจำเจ็บจนเหน็บหนาว
เพราะชีวิตคือลมหายใจใช่..ยืนยาว
ยอมรับเศร้ายอมรับโศกโลกสมมุติ..ก็แค่นั้น...!

เพียง..พลีพร้อม...!



ฉันเขียนเรื่องนี้ บนบ้านต้นไม้ 
ในยามที่..
หยาดสายพิรุณกำลังโปรยสาย 
พร่างพรายราวรวงเพชรพร่างพรม 

แก้ว...เกลื่อนกระจาย
กลางพื้นขาวนวลหอมกรุ่นกำจาย..

เสียงสายฝนกระทบหลังคา เปาะแปะๆ กระชั้นถี่ 
ราวเสียงดนตรีจากท่วงทำนองธรรมชาติ 
ที่คีตกวีคนไหนก็คงมิอาจจะสร้างท่วงทำนอง
ได้หวานไพเราะเพราะพริ้งพราวได้เทียมเท่า


นั่น..โคมไฟ แกว่งไปมาตามแรงลม 
ที่ฉันใช้กรงนกเล็กๆสานละเอียด 
ฝีมือประณีตละเมียดละไม
ด้วยใจดวงละมุนของผู้ผจงจักถักทอจากภูมิปัญญาไทยพื้นบ้าน 
จากใจชาวบ้านแถบเมืองกาญจน์ 
ที่ฉันผ่านตาและมองเห็นค่างานงาม หอบหิ้วมาวางไว้
เพื่อรอเวลารอหาที่แขวนล้อใจไหวล้อลมเล่น จนได้ในยามนี้
ยามที่วสันต์สะเทือนลา..

แล้วก็นั่นละ..ชะลอม..ใบน้อยจากร้านเลมอนฟาร์ม 
ก็งามด้วยสมองสองมือทองของคนไทยทำอีกเฉกเช่นกัน
ที่ฉันใช้แขวนใส่ดอกไม้แห้ง ดอกไม้สดหอมงาม 
จาก
สวนสวรรค์เล็กๆรายรอบบ้านที่ไม่ต้องซื้อหา 
หอมจรุง ทั้งกุหลาบ จำปี การะเวก มะลิซ้อน มะลิลา
เล็บมือนาง พร่างสีสลับมาให้ได้เด็ดดมพรมจูบจนหนำใจ
แม้นเมื่อโรยรา ฉันก็จะอบแห้งไว้ให้หอมงาม
ได้อีกนานเนิ่นในชะลอมออมฝันนั่นเอง ..


ฉันจุดเทียนหลากสีหลายกลิ่น ทั้งแอปเปิ้ล องุ่น 
รวมทั้งสมุนไพรกลิ่นตะไคร้ 
ที่หอมอวลไปไกลให้จรุงใจ ราวอยู่ในดงไม้หอม

ยามราตรี ฉันจะจุดตะเกียงลาน 
ที่สานทับด้วยไผ่ตอกเส้นลายละเอียด
หรือไม่ก็ให้แสงไฟลอดผ่านโคมดินเผาด่านเกวียน
ที่งามลายละลานตา วะวูบวับจับดวงใจ  
สวยซึ้งกับแสงสาดส่องอบอุ่นอ่อนโยน
คลายหนาวใจ ในทุกยามค่ำคืน


ฉันจะใช้หมอนขวานเอนอิงพิงร่าง
รจนางานฝันบรรเจิดใจให้พริ้งพราย
ที่ใช้สายตา สายใจ สายไยรัก ถักทอจากสมอง
และ..
ถ่ายทอดสู่มือนี้ที่ตั้งใจฝันฝากงาม
มอบให้ทุกดวงใจสวยใสเย็น เห็นงามง่ายใกล้ตัว
ที่มิพักลงทุนมากแค่เปิดใจเปิดตาคว้าไขว่

เคียงข้างจะมีตั่งเตี้ยๆที่ใช้วางของกระจุกกระจิก
แสนรัก และกองหนังสือที่ยังอ่านค้าง 
กับบางเล่มที่เป็นเล่มโปรด  ที่ต้องอยู่คู่ใจใกล้ตัวตลอดเวลา



ราตรีนี้ .....
ฉันกำลังอินกำลังซาบซึ้งไปกับหนังสือแปล
ชื่อว่า..หนึ่งปีแสนสุขในโปรวองซ์..
ที่คุณงามพรรณ เวชชาชีวะ นำมาแปล
จาก..
บทประพันธ์นักเขียนชาวอังกฤษ
ที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม
ฉันอ่านซ้ำแล้าซ้ำเล่า 
พลันหัวใจดวงร้าว  ก็ราวดอกไม้ไพร 
ยามได้รับหยาดฝนพรำ ชุ่มฉ่ำล้ำลึก
ไปกับงานงาม ในโลกจริงของผู้เขียน  
ที่ฉันเองอยากฝากใจฝัน
ไปเยือนเมืองเล็กๆในชนบทแห่งนี้
ที่แสนสงบสุข..ตามไปด้วย

ฉันเคยบอกนักเขียนน้องรักคนหนึ่ง
ที่มีงานอวดแผงว่าน่าจะเขียนถึง
บ้านเกิดของเราในแนวนี้นะ
เพราะว่า..
ตอนนี้เขาคนนั้น 
เขียนเรื่องเกาะพะงันจนแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้ว


เพราะ..
บ้านเกิดของฉันงามดั่งเกาะสวาทหาดสวรรค์
หากไม่มีขยะมนุษย์มากมี
มาย่ำยีเหยียบหยามลบงามฝากรอยรัก
รอยแผลระบมไว้มากมาย 
จนจะกลายกลับเป็นเหมือนดั่งพีพีในวันนี้
ที่..
อาจจะต้องปิดเกาะก่อนที่จะกลายเป็นเกาะขยะมากมี
ที่เกลื่อนกาะให้เน่าหม็น หมดงาม เสื่อมไปตามคนที่ไม่รู้ค่า รู้รักธรรมชาติ



เพียงหวังทะเลมิเคยหลับไหล 
ให้หัวใจคนดียังมีอีกมากมาย 
ที่จะช่วยกันประสานใจดั่งคลื่นซัดสาดรอยทรายลบเลียแผลร้าย 
แผลใจให้หายลับกลับมางามได้ดั่งเดิม

เฉกเช่นใจคนเรานี้ที่จะมิมีวันยอมแพ้ ต่อชะตา
รอโลกหมุนวน รอใจหมุนเวียน 
ดังคลื่นฝันกระทบฝั่งใจ ให้มิมีวันมอดหวัง
ตั้งหน้าสร้างพลัง    เรียนรู้ และเริ่มต้นใหม่ด้วยไฟฝัน..ไฟแรง..
แข่งไปกับกระแสโลกที่ผกผัน จนกว่าจะถึงวันพรากจากเป็นนิรันดร์


เสียงนกร้องปลุกฉันตื่นจากภวังค์ฝัน 
ประสานเสียงสอดทอดรับกันระงม
ช่างไพเราะเพราะพริ้ง จนยากบรรยาย
ฉันลองหลับตาและจรดปลายปากกาไล่เลียนเสียง
แล้วรจนาร่ายออกมาเป็นภาษาได้เฉกนี้
กุ๊กๆกรู กุ๊กๆกรู ๆๆๆๆจิ๊บ จิ๊บๆๆๆๆๆ เปาะ เปาะ ๆๆๆๆ
เอ้กอีเอ้กเอ้กๆๆๆๆๆๆๆ



และ...........

นาทีนั้นฉันคิดถึงพี่นกตะวัน 
ที่คงจะมีโสตประสาตแยกแยะเสียงธรรมชาติเหล่านี้
ของมวลหมู่นกไพรนานาพันธุ์ได้ดีกว่าฉันเป็นแน่ 
และคงรู้อย่างแน่แท้ว่าเป็นนกประเภทใดบ้าง....


ฉันทอดตานิ่ง ดูความเขียวใสใบเรียวละออ
และ..กลีบนวลเนื้อหอมของดอกดกพราวรายรอบกอกิ่ง 
จากต้นจำปี สูงใหญ่เหนือหลังคา
ที่ราวร่มคันใหญ่แผ่ก้านใบปกคลุมคุ้มใจ 
คุ้มแดดฝนมานานนับสิบปี
จนถึงวันนี้......
ที่ฉันแค่เอื้อมมือก็เด็ดดมมาชมชิดเชยได้แล้ว

เขียวใส ใบบอบบางอ่อนโยนละมุน 
ราวแก้มเด็กอ่อนอุ่น

ใบหนา เข้มขึ้น
ราวมากมีประสบการณ์
ผ่านร้อนหนาวมาหลายฤดูกาล

สุดท้ายใบเหลืองทองสุกปลั่ง ราวกับอิ่มเต็มพลัง 
พร้อมจะร่วงราโรยปลิดปลิวลิ่วควะคว้าง ร้างไร้ไยดี


*เพียงพลีพร้อม... *
ยอมรับ เพื่อคืนกลับทับถมพื้นพสุธา 
เป็นหนึ่งเดียวกับโลกไร้โศกสุขไม่ยินดียินร้าย
เพียง..
หมายมาด ให้ไม้ใหม่ผลัดใบ    
รอรับตะวันอ่อนอุ่นหวานละมุนแทนที่
เพื่อยังประโยชน์ให้ผืนดินนี้ ได้พักใจในร่มเงา 
เป็นนิรันดร์รักที่จักหมุนวนเวียนมิรู้จบ..ชั่วอนันตกาล... 
 



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song50.html

โลกกับความรัก 
 
โลกนี้มี มืดแล้วสว่าง
มืดแล้วสว่าง
อย่างนี้เรื่อยไป
โลกผิดรักที่
สว่างไสว
ไม่มีกลางคืน
ไม่มีกลางวัน
โลกนี้เรา
ว่าแสนกว้างใหญ่
มิเทียบเปรียบได้
ครึ่งรักผูกพัน
โลกใหญ่ก็ใหญ่
อยู่เพียงแค่นั้น
ใจรักฉันใหญ่
ใหญ่ เหลือคณา
มนุษย์เล็กๆ
คนหนึ่งอย่างฉัน
มีใจรักมั่น
ต่อเธอเท่าฟ้า
จะเอาอะไร
อีกไหมขวัญตา
เธอเอาชีวา ฉันก็จะให้
โลกหมุนไป
ไม่รู้สิ้นสุด
ถึงโลกจะหยุด
ไม่หมุนต่อไป
ทุกสิ่งในโลก
หยุดการเคลื่อนไหว
แต่เธออย่าได้
หยุดรักฉันเลย

โลกหมุนไป
ไม่รู้สิ้นสุด
ถึงโลกจะหยุด
ไม่หมุนต่อไป
ทุกสิ่งในโลก
หยุดการเคลื่อนไหว
แต่เธออย่าได้
หยุดรักฉันเลย... 
 


kail1_2.gifp11_01.gif1081470109songkarn.gif128-1-1.jpgp11_01.gifaishwarya_rai_01.jpg				
10 เมษายน 2550 13:25 น.

ทิพย์..น้ำค้าง..!

พุด

5copy.jpg
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song842.html
หยาดฝนแห่งความรัก 

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem88780.html

จินตภาพรำพึง รักษ์รัก 

เนื้อเอยแม่สาวเนื้อทอง
แหงนมองจ้องจันทร์จ้ากระจ่าง
เมลืองโลมโฉมฉายในนภางค์
ฉวีพรรณสรรพางค์กระจ่างตา 

แสงตะเกียงเรียงเรือนเรืองรอง
น้ำปริ่มริมคลองเข้าท้องป่า
อึ่งอ่างครางครืนชื่นชีวา
ฟังสิโสภาเวลาเพ็ญ

เมื่อเช้าเพรางายกระไรเอ๋ย
ข้าวหมิ้นกลิ่นระเหยเชยเล่น
นวดเนื้อแน่งน้องแม่ยองเย็น
แลเห็นเป็นทองผ่องประไพ

พาดแถบทาบชมมาห่มเนื้อ
เรืองเรื่อเยื่อย้อมยังหอมไหม
แขขุนขนุนหน่อยบนรอยใย
นวลไขแนบข้างน้องนางนวล

ฟักทองรองน้ำพริกเพียงโถ
เคียงโสนนุ่มอุ่นพอกรุ่นหวน
แกงเลียงร่ายข้าวโพดรสรัญจวน
ขนมกวนเปียกฟ่างสู่ทางวัด

ย่างเท้าเบาหน่อยค่อยค่อยหนา
เรืองศาลาคร่ำคร่าตามฟ้าพลัด
ลมล้อช่อคูนหมุนพัด
เงียบสงัดสงบไหมในอาราม

เทียนทองส่ององค์พระปฏิมา
จุดธูปบูชาปิฎกทั้งสาม
วันทาอภิวาทหัตถ์ประณาม
สมงามธรรมสารประทานพร

ทั้งมวลล้วนเหลืองเรืองหยด
รูปรสกลิ่นเสียงพี่เรียงสอน
บรรยายสีต่างนัยน์ตาอร
แสงสะท้อนถึงไหมในเงาตา

....................


เช้านี้..กับฟ้าหลังฝน
ที่ยังแสนสดชื่นระรื่นร่ำแสนสดฉ่ำกมลเสียไม่มี
แม่ดวง ดอกพุดไพร..สวมวิญญาญกระวีกระวาด
ที่ช่างแสนพิลาสพิไล ใส สว่าง กระจ่างแจ่ม
แลไหวหวานปานสายน้ำผึ้งทองผ่องพิสุทธิ์บริสุทธิ์ค่า

ขอพลีรจนา
พร่างสายพรายพร้อย
ประดุจดั่ง..
สร้อยฝนโซ่ฝันรักอักษรา 
ภาษาฝัน ฝัน
พลัน.... 
หยาดรินสู่สู่อกหล้า อกแผ่นดิน 
ฝากถวิลถึงทุกดวงใจในร่มรัก
ที่รัก..รัก รักบทร้อยกรอง บทกวีร้อยใจ
อันแสนอ่อนไหวอ่อนหวาน..ปานกัน..พอกัน


แม่ดวงดอกพุดไพร..จึ่ง
พาจิต..ถอยกลับไป
อ่าน..
งานงาม.บทกวีละเมียดละไม
จากใจผู้มีศิลปะในเชิงประพันธ์
ของ...
น้องชาย นายรักษ์ 
ที่..
มากมีผู้อ่านที่อาจปริวิตก..อกระทึก
เมื่ออ่านบทคึกคักบทรักอัศจรรย์ระรี้ระริก

อันคิดให้ดีดีก็แค่คือ สื่อ..ศิลปภาษา
อันคือธรรมดา ธรรมดาชีวีชีวิตมนุษย์ปุถุชน


ที่..
ยังอาจมิหนีพ้นความรัก รัก รัก
ต้องรอวัยวันและกาลเวลา
พาพัฒนาเพาะบ่มห่มหอม ธรรม สัจจะ
จนรู้ทันเท่าทุกข์ผัสสะ
แล้ว..
นำมาเฝ้ามอง..จิตภายในใจเราเอง 
ให้เห็นในเพรงพรหมชะตา
วิบากรักพันธนา วิบากกรรมสิเหน่หา
ยั่วยวน กวนกิเลส
ให้..
พบทุกข์สุขเวทนา
ดั่งกงเกวียน กงกรรมคอยย้ำวน


ให้รู้เหตุ รู้ผล จนปล่อยวางละวาง
ได้ในที่สุด

ในที่สุดเมื่อได้เรียนรู้ทุกข์ ทุกรัก
จากเหตุไปหาผล
ดั่งพระพุทธองค์ ผู้ทรงเบื่อหน่ายคลายกำหนัด
แล้ว
ทรงปวารณา..จักสลัด..สละออก
ออกมา..จากเวียงวัง
ที่สะพรั่งสุขด้วยรูปรสกลิ่นเสียงเคียงบำเรอ
มา..
บำเพ็ญเพียร..ให้พ้นทุกข์จนค้นพบอริยสัจจ์สี่



และ..
เช่นฉะนี้ คือชีวีชีวิตธรรมชาติธรรมดา ธรรมดา
แห่งมวลมนุษยชาติปุถุชนมากหน้า
ใต้ฟ้าไท ใต้ฟ้าพุทธภูมิ..
ที่จัก.
ควรภาคภูมิปิติใจ
ว่าโชคดีนักแล้วที่ได้เกิดมามีลมหายใจ
บนแผ่นดินทอง แผ่นดินธรรม
แผ่นดินที่ระร่ำรินด้วยกลิ่นดวงดอกไม้เมืองร้อน
และ..
แผ่นดินอุดมที่หล่อหลอมให้รู้ค่าคำว่ารักสามัคคี
มีน้ำใจใสเย็นโอบเอื้อ เมตตากรุณา แบ่งปัน
อันเป็นพื้นฐานสำคัญ
อันจัก..
ทำให้โลกนี้เป็นหนึ่งเดียว
มิมืดดำ มอดดับ สลายลาลับ..เร็วเกินไป..!!!

........................



ในท่ามนาทีนี้ที่ลีลาวสันต์ผันสายพรายพร้อย

พุดไพร ใจสาวบ้านนา
จึงกำลัง..
มองหยาดฝนจากหลังคากระท่อมมุงจาก
ที่กำลังระรินร่วง...ทิ้งพวงแก้วกุดั่นเพชรพริ้ง
ราว..
หยาดน้ำตาจากนางฟ้าพิสุทธิ์
แล..ด้วยแรง
บันดาลใจจากงาน
น้องชายรักษ์..ที่รัก รัก
ที่มองเห็นแววศิลปในภาษางามค่ะ
.........



นำเสนอผลงานน้องรักษ์ ในหน้าส่วนตัวของน้อง
ที่แสนน่าสนใจ ค่ะ
http://www.thaipoem.com/forever/my_poem.php?mid=12839...


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song842.html
หยาดฝนแห่งความรัก 

ช...อยากน้ำยามใด
พริบตาเดียวได้ดื่มลิ้มชิมเชย
ดื่มพลันผ่านเลยดื่มแล้วไม่เคย
รื่นรมย์โน้มนำความชื่น
ญ...ดื่มทิพย์วาริน
โหยใจหายสิ้นสุขทั้งวันคืน
ชีพยังยั่งยืน
แห้งแล้งกลับคืนชุ่มชื่นฉ่ำดวงกมล
ช...น้ำนวลผุดผาดหยาดเย็น
เธอเปรียบเช่นน้ำฝน
ญ...เลี้ยงใจหล่อใจท่วมท้น
รักป้อนรักปรน
รักเปี่ยมจนหลงใหล
ช...ดื่มน้ำนางเดียว
คิดปรามใจเปลี่ยวดื่มน้ำนางใด
ดื่มนวลด่ำใน
ชญ...ดับร้อนดั่งไฟ
ด้วยฝนแห่งใจจากเธอ

ช...อยากน้ำยามใด
พริบตาเดียวได้ดื่มลิ้มชิมเชย
ดื่มพลันผ่านเลยดื่มแล้วไม่เคย
รื่นรมย์โน้มนำความชื่น
ญ...ดื่มทิพย์วาริน
โหยใจหายสิ้นสุขทั้งวันคืน
ชีพยังยั่งยืน
แห้งแล้งกลับคืนชุ่มชื่นฉ่ำดวงกมล
ช...น้ำนวลผุดผาดหยาดเย็น
เธอเปรียบเช่นน้ำฝน
ญ...เลี้ยงใจหล่อใจท่วมท้น
รักป้อนรักปรน
รักเปี่ยมจนหลงใหล
ช...ดื่มน้ำนางเดียว
คิดปรามใจเปลี่ยวดื่มน้ำนางใด
ดื่มนวลด่ำใน
ชญ...ดับร้อนดั่งไฟ
ด้วยฝนแห่งใจจากเธอ...
 
layingdown_aishwarya_rai_wallpaper_215.j				
9 เมษายน 2550 07:01 น.

ตะแบกหวาน..บาน..สอนใจ..!

พุด

312ok.jpg
หอมบุญ.... กำลังยืนใต้ร่มเงาตะแบกริมทาง
ที่ดวงดอกม่วงละมุน...พราวสล้าง..
กำลังแย้มกลีบบางเบาอย่างแสนอ่อนไหวอ่อนหวาน
ล้อสายลม มิแล้งราน ไปตาม..คิมหันตฤดู

เธอแหงนเงยเชยชมด้วยนัยน์ตาที่ยิ้มได้
พร้อม..กับได้ยินเสียงจากภายใน
จากหัวใจดวงนิดดวงน้อยดวงนวล
คอยกระซิบพร่ำย้ำสอนเตือนจิตตัวเองแลโลก..
ให้รู้ทันเท่า...
เฝ้ามองเห็นสัจจธรรมจากธรรมชาติ



ในทุกความสวยงามแห่งมากมวลดวงดอกไม้สยายกลีบ
ประดับหล้า... 
ดั่งคลับคล้ายว่าแฝงฝังความทุกข์ประดังมากมายมากมี
พอกับดวงฤดีแห่งอิสตรีที่ดูแสนงาม
ที่ใช่จัก..งามเพียงภายนอกหลอกตา
หาก..หาญกล้า
เพียรแบกรับภาระกิจ
แห่ง...
*ความเป็นเมียเป็นแม่ของโลก*

ผู้ไม่ยอมแพ้โชคชะตา 
เฝ้าฟันฝ่าโศกสุข..ทุกข์ระทมชีวิต

แม้น..บ้าง..จะถูกลิขิตจากเพรงพรหมชะตา
ให้รับ*วิบากรัก*..แบกสิ่งอันแสนหนักหนา
หากทว่า..
นั่นคือสิ่งที่มิอาจหลีกลี้หนีพ้นพันธนา
จากสัญญาเดิม

ฤา...!..จักหามาเพิ่ม เติมต่อขึ้นมาใหม่
ในโลกลมหายใจแห่งความเป็นปัจจุบันกาลกรรม
กามกรรม กิเลสกรรม*


และ
นาทีนี้..ในท่ามสายลมรำเพย
ฟ้าที่ยังเผยเย็น..ฉ่ำชื้น
ด้วยหยาดละออละอองฝนพรายพรม
ห่ม..พสุธาไทพสุธาทอง ให้ยังผ่องพิสุทธิ์
 จาก...
ยอด*ภูมิพลังแห่งแผ่นดิน*

แล..
ในทุกถิ่นที่ ใต้หล้าฟ้าไทย
ให้ดวงดอกไม้ศรีไทย ศรีชาติ
ได้บานไสวไม่มีวันหยุดตระการ

และ..

ดั่ง...

ตะแบกม่วง..

ที่กำลังบานฟ้อนอวดพวงดวงดอกดกอรชร

ในยามนี้...

ที่กำลังบานไสว 

ประดับใจ ประดับโลกแล้งอย่างแสนงดงาม.....!!!!!!


...............



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4721.html
ข้าวคอยเคียว 

ได้ยินไหมพี่ เสียงนี้ คือสาวบ้านนา
พร่ำเพรียกเรียกหา ตั้งตานับเวลารอคอย
คอยเช้า คอยเย็น ไม่เห็นสักหน่อย
ปีเคลื่อนเดือนคล้อย
รักเอ๋ยจะลอยรักเอ๋ยจะลอยแรมไกล
อีกเมื่อไรรักจะคืนรื่นรมย์
ตะแบกบานแล้วร่วง สีม่วง ที่พี่ชื่นชม
หรีดหริ่งระงม พี่ปล่อยน้องให้ตรมคนเดียว
รวงเอ๋ยรวงทอง ต้องร้าง คนเกี่ยว
รวงข้าวคอยเคียว
น้องนี้คอยเหลียวคอยนับวันรอพี่มา
กลับเถิดหนาสาวบ้านนายังคอย

ตะแบกบานแล้วร่วง สีม่วง ที่พี่ชื่นชม
หรีดหริ่งระงม พี่ปล่อยน้องให้ตรมคนเดียว
รวงเอ๋ยรวงทอง ต้องร้าง คนเกี่ยว
รวงข้าวคอยเคียว
น้องนี้คอยเหลียวคอยนับวันรอพี่มา
กลับเถิดหนาสาวบ้านนายังคอย... 
 



brunette-aishw.jpgAISHWARYA%20RAI.jpg				
4 เมษายน 2550 08:51 น.

นางฟ้า...ในดวงใจ...!

พุด

14.jpg
คือหอมหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า
คือนางฟ้าเหนือนิยามงามคุ้มขวัญ
คือดวงใจแห่งรักชั่วกัปป์กัลป์
คืองามจันทร์งามใจยิ่งใหญ่นัก

คือดวงดอกไม้ป่าบริสุทธิ์พิสุทธิ์ค่า
คือขวัญหล้าขวัญไทโลกประจักษ์
คือนิยามความดีพลีให้นะที่รัก
คือสร้อยสลักเคียงคู่ขวัญนิรันดร์กาล....
....................



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4061.html
Right here waiting 

Oceans apast
day after day
and I slowly go insane
I here your voice
on the line
But doesn't stop the pain
If I see you next to never
How can we say forever
Wherever you go,whatever
you doI will be right here                                                                  
waiting for you Whatever
it takes, or how my heart
breaks I will be right
here waiting fou yor
I look for granted,
all the time That I
though would last somehow
I here the laughter
I test the tears
But I can't get nere
you now
Oh! can't you see it,
babyYou got me going
carzy Wherever you go
Whatever you do I will
be right here waiting
for you Whatever it
takes, or how my heart
breaks I will be right
here waiting for you

I wonder how we can
survive this romance
But in the end, if I'm
with youI'th take
the chance

Oh! can't you see it,
babyYou got me going
carzy Wherever you go
Whatever you do I will
be right here waiting
for you Whatever it
takes, or how my heart
breaks I will be right
here wating for you
wating for you
Right here waiting 
Richard Marks 
Oceans apast
day after day
and I slowly go insane
I here your voice
on the line
But doesn't stop the pain
If I see you next to never
How can we say forever
Wherever you go,whatever
you doI will be right here                                                                 
waiting for you Whatever
it takes, or how my heart
breaks I will be right
here waiting fou yor
I look for granted,
all the time That I
though would last somehow
I here the laughter
I test the tears
But I can't get nere
you now
Oh! can't you see it,
babyYou got me going
carzy Wherever you go
Whatever you do I will
be right here waiting
for you Whatever it
takes, or how my heart
breaks I will be right
here waiting for you

I wonder how we can
survive this romance
But in the end, if I'm
with youI'th take
the chance

Oh! can't you see it,
babyYou got me going
carzy Wherever you go
Whatever you do I will
be right here waiting
for you Whatever it
takes, or how my heart
breaks I will be right
here wating for you
wating for you

wating for you
....................



เธอ..กำลังก้าวอออกมาจากห้องผู้โดยสารขาเข้า
เข้ามาสู่อ้อมกอดแห่งรักรัดร้อยดั่งสายสร้อยโซ่แห่งใจ

เนานานมา.... 
และ
จักเป็นเฉกเช่นนั้นตราบชั่วนิจนิรันดร....

ร่างงามอรชร ในบุคคลิกแสนเชื่อมั่น
ในท่ามโลกทิวาวันอันแสนหมุนวน
หาก..
เธอคนดี ....ไม่มีวัน..
จะคล้อยตามนิยามแห่งโลกมายาวัตถุนิยมหรูเริศ  

เธอ..คือนางฟ้า
ผู้ผ่านหล้าพบโลก พบโศกสุขหม่นหมอง
ครองรานในแววตาแห่งผู้คนผู้ทนทุกข์ยากไร้
มากมายนักในธุลีหล้า ใต้ฟ้างามนี้

และ..
หวังจิตดวงดี ดวงกุศล ดั่งดวงแก้วแววประภัสสร
จัก..
แผ่รัศมีบุญ
ให้หอมกรุ่น หอมให้ ไปตราบชั่วกาล..นานเนานิรันดร์...

......................



bobby_deol_11.jpgหยาดน้ำผึ้งฤาว่าอสรพิษ...!

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6080.html


ผมกำลังยืนรอรับเธอ..
แม่ดวงดอกรัก..ดอกบานไม่รู้โรยในดวงใจผม
ที่กำลังจะเหินฟ้าบินกลับมาสู่อ้อมอกอ้อมใจผมในวันนี้...!



วันที่ฟ้าจริงและฟ้าในใจผม
แสนไสวสว่างกระจ่างแจ้งจรัสจรุง...พอกัน

ราวมีอัญมณี..เพชรพร่างพราย
กระจายรัศมีสีชมพูพริ้งพราว
ณ...ภายในเรือนใจผมเลยทีเดียว



วันที่ตะวันแดง..ดวงแรงร้อน
*แห่งแดนดินทะเลทราย*
 มิหมายกรายกล้ำ
มาทำให้ร้อนอกร้อนใจไปได้เลย...แม้นเพียงนิดน้อย

หากมีเพียงสายน้ำรักระริน ระริน
ในสี่ห้องหัวใจ
กำลังไหวออดอ้อน
อ้อยสร้อยเซาะไซร้กระซิก กระซี้  กระซิบ  
พิรี้พิไรรำพึงรำพัน
เพียงเท่านั้น...เท่านี้... ณ บึงใจ..!

เพียงคำสั้นสั้นซึ้งซึ้งแสนสุขซ่านหวานใจ
ว่ารักรักรัก..เหนือสิ่งใดในหล้าโลกแล้ว..



ผม..มีความสุข...

สุขนี้
เหนือความคิด ความฝัน
เหนือความคาดหวัง คาดเดา

หากเป็นเพียงเงาชะตาฟ้าดินลิขิต
และหวังเมตตาสวรรค์จักปรานี
ให้สถิตทอดในดวงใจรักไปเป็นนิรันดร์



ผม...
คือ..ผู้ชายในฝันในภาพนี้ 
ที่มีเลือดเนื้อและชีวิตจริง
และ..
ยังยืนนิ่งๆอยู่ตรงนี้
เพื่อที่จะทอดตา..ดูเวิ้งฟ้า
ที่กำลังจะพาดวงใจผมคืนกลับมา..จากแผ่นดินของเธอ



ผู้หญิง..แสนงามใจราวนางฟ้า
ที่
มิใช่งามเพียงใบหน้า
ที่นับวันรอโรยร่วง..ล่วงสลายไปตามวัยวัน

หากทว่า
เธอคือ..

ผู้หญิง..คนดี..
ที่ชอบถ่อมตัวเสมอมา
และ
ชอบใช้ชีวีธรรมดาๆ..ดิบเดิมติดดิน
แม้นชีวินเธอจะร่อนบินราวนกไพร
จำต้องเหินบินไปกับนกเหล็กลำใหญ่สีเงินงาม
ได้สัมผัสโลกแสนศิวิไลซ์ไปทั่วทุกถิ่นที่..ทั่วโลกนี้ก็ตาม



คนดี..ที่ชอบเดินตามพิพิธภัณฑ์
ดูศิลปวัฒนธรรมในเมืองต่างๆ
แทนการเดินในศูนย์การค้า

คนดี..ที่รู้คุณค่าของการมีลมหายใจ 
ไม่เคยคล้อยชีวิตหลงไป...ตามกระแสกิเลสโลกย์
ไม่หลงเสพโศกเพียง*วัตถุสุขนิยม..*

มิหลงลมยกยอปอปั้นว่าเธอคือคนงามหนึ่งในปฐพี
มีเพียงคุณความดีและค่าคำกุลสตรีไทย
ที่เธอยึดมั่นไว้ในหัวใจดวงพิสุทธิ์ดวงใสแสนดีของเธอ




คนดี..ที่ผมสารภาพว่า..
*ผมหลงรักเธอ..และรักเธอ*
จนเกินกว่าจะบอกกล่าว
นับตั้งแต่นาทีแรก..ที่พบ..เห็น

เธอ...
ผู้..มากับสายลมร้อนผ่าวในแดนดินทะเลทราย
มาปรากฎกายราวโอเอซิส ในยามเช้า
ราวดวงดอกไม้เมืองร้อน
ที่แสนน่าทนุถนอมอ่อนหวาน

ที่ผม..ได้แต่คุกเข่าให้พระเจ้าเบื้องบนได้ประทานพร
ให้หัวใจผมลูกผู้ชายหัวใจดวงทรนง
หากทว่าอบอุ่นมั่นคง

และ
หากรักใครแล้ว..จักซื่อตรงรักอย่างจริงแท้
อย่างแน่วแน่หนักแน่น
ไม่แคลนคลอนไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย
และ
ตราบสิ้นลมหายใจสุดท้ายแห่งชีวิต...

ให้ผมได้พบความสุขสมหวัง
มีเธอเคียงข้างเป็นดั่งนางใจ
ไปตราบนานเนาตราบจนชั่วนิจนิรันดร....



ผม..ลูกผู้ชาย...
ที่เลิกเดียวดายอ้างว้าง
นับตั้งแต่ได้พบเธอ
ย่างเท้าก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในชีวิต

ผู้หญิงที่กำลังเนรมิต...ให้โลกผมเป็นสีชมพู..ชมพู
โลกที่น่าอยู่ยามมีเธอเคียง

โลกที่ผมเคยคิดว่าแสนลำเอียงไม่ยุติธรรมเสมอมา



เพราะ
*ผมกำลังมีความรัก*
ภาวนาให้ผมนะครับ
ให้ผมสมหวัง...

เพราะ
เธอ..คนดีที่ผมแสนรักนักรักหนา
เธอแสนระมัดระวังตัวไม่ผลีผลาม
และเคยตั้งคำถามกับผมว่า...



*ผมคือหยาดน้ำผึ้งฤาว่าอสรพิษ
มาให้ชิดเชยชิมลองลิ้มหวาน
แล้วพรากลาดวงดอกไม้ให้ร้าวราน
ทิ้งพิษผลาญสวาทวาย..ตายทั้งเป็น...*





ระหว่างเราทั้งคู่...
พระเจ้าคงกำลังเฝ้าดูอยู่
และ
รอวันเวลาพิสูจน์ใจ

รอ...ให้หัวใจดวงงามดวงดีดวงทองผ่องผุดของเธอ
ตัดสินใจ....
ที่จะพลีใจมอบร่างให้กับผม..

ผู้ชาย...ที่เธอ
บอกว่ามีเพียงสิ่งเดียว
ที่เธอ..หลงประทับใจ

มิใช่ความหล่อ..ความรวย 
หากคือความทรนง ทรนง...
จะทรนง..แบบไหน..ฤาอย่างไรนั้น
วันหลัง
ผมจะกลับมาเล่าให้ฟังอีกทีนะครับ..
...............................




http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6080.html

POWER OF LOVE ......Celine Dion 


The whispers in the morning
Of lovers sleeping tight
Are rolling like thunder now
As I look in your eyes
I hold on to your body
And feel each move you make
Your voice is warm and tender
A love that I could not forsake
'Cause I'm your lady
And you are my man
Whenever you reach for me
I'll do all that I can
Lost is how I'm feeling
lying in your arms
When the world outside's
too Much to take
That all ends when I'm with you
Even though there may be times
It seems I'm far away But Never
wonder where I am
Cause I am always by your side
'Cause I'm your lady
And you are my man
Whenever you reach for me
I'll do all that I can
We're heading for something
Somewhere I've never been
Sometimes I am frightened
But I'm ready to learn
About Of the power of love

The sound of your heart
beating Made it clear
Suddenly the feeling
that I can't go on
Is light years away
'Cause I'm your lady
And you are my man
Whenever you reach for me
I'll do all that I can
We're heading for something
Somewhere I've never been
Sometimes I am frightened
But I'm ready to learn
'Bout Of the power of love


bobby_deol_6.jpg				
31 มีนาคม 2550 13:07 น.

ใน...สาย..วารีรัก...!

พุด

V246262_092.jpg
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song839.html
บทเพลงสายน้ำไม่ไหลกลับ อรวี สัจจานนท์


เนื้อทิพย์คนดี...
ผู้หญิงผิวสีดั่งทองละมุน
มีนัดกับตัวเองในวันนี้
บนตึกสูงสวย ตระหง่านริมชานเมือง 
เพื่อมาผ่อนคลาย...


พาร่างกายมาสถานที่เรียกว่าสปา 
ที่ที่มีทุกอุปกรณ์เครื่องกีฬา
ในการออกกำลังกายทุกรูปแบบ
พร้อม...
มีทั้งสระว่ายน้ำบนดาดฟ้า
ที่แลละลิบเห็น...วิว..
ทิวทัศน์รายรอบเมืองทิพย์นิรมิต....เมืองฟ้าอมร
 


มีห้องซาวน่า ที่ร้อนแสนร้อนทุรน 
และ...
หากคนไม่เคยเข้าไปครั้งแรก..
แทบจะทนไม่ได้ด้วยอุณหภูมิที่ร้อนกว่าร้อยองศา
ตามมา..
ด้วยการลงไปแช่ในน้ำเย็นแสนเย็นราวน้ำแข็งขั้วโลก
ให้ร่างกายได้แข็งแรงด้วยวิธีการนี้สลับสักสามสี่ครั้ง...

ก่อนจะ...
กลับบ้านด้วยร่างกายเฉิดเฉลาเบาสบายคลายเมื่อยล้า


และ..
เพื่อกลับมา...
เผชิญโลกย์โศกสุขทุกข์ร้อน..ไปตามเพรงพรหม
ที่เวียนหมุนวน มาให้พบ..
สัจจธรรม ธรรมดา ธรรมดา..
ธรรมชาติแห่งทุกข์ทุกดวงชีวาชีวิต
ให้เฝ้ารู้ทันเท่า มิเศร้าเหงาใจ

เพียร..
มีสติ สมาธิ ปัญญาพาตามทันทุกลมหายใจ..


ว่า.....

แท้เที่ยงแล้วไซร้..

เราจำต้องจบจากพรากลาซึ่งกันและกัน

ในวันหนึ่ง 

*ที่ซึ่ง..จักรอเราเป็นนิรันดร์ *

อันยากจะหนีพ้นในทุกถ้วนหน้า...
ไม่ช้าก็เร็ว..นะทุกยอดดวงหฤทัย..

.....................



นอนนิ่งนิ่งทิ้งตัวลอยกลางสระว่าง
มองฟ้ากว้างไร้สิ่งใดมาขวางกั้น
ใจดวงนวลดวงน้อยเริ่มเงียบงัน
หลับตาฝันสวรรค์สรวงลอยสู่ใจ

คือความว่างกระจ่างแจ่มในดวงจิต
เสมอเสมือนชีวิตลอยเหนือโลกสิ้นโศก..ไสว
มีเพียงเรากับเงียบงามกลางดวงใจ
ไร้ยึดมั่นฝันไกลไปกว่านี้

เป็นปัจจุบันอันสงบสยบทุกข์
คือความสุขเรียบง่าย..ใจดวงนี้
ในวังวนเกรียวทุรนคนมากมี
ให้..สายวารีประโลมขวัญ...นิรันดร์กาล...!!!
..................




http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song839.html
สายน้ำไม่ไหลกลับ อรวี สัจจานนท์ 

โอ้ความรักที่ร้าวรานไกล
ดุจสายน้ำไหลผ่านไป
ลงไหลไปแล้วไม่เคยคืน
มา หา
สาย น้ำเชี่ยวโกรกไหล
วกวนแล้วไหล ไป
ไหลไปแล้วไม่กลับมา
คิด เปรียบไปก็คล้ายเหมือนว่า
รักเอยไม่คืนหวนมา
จากลาไปยังหนใด
คิด ถึงเมื่อก่อนเคย
รักฉันเป็นสุขเอย
ไหนเลยจึงต้องจากไกล
คอย เฝ้าคอยคร่ำครวญหวนไห้
รักเอยจากไปแล้วไย
จากไปเหมือนสายน้ำวน
ร้าง ไปร้างไกลสุดหวัง
ล่องลอยไปไกลเหมือนดัง
สู่วังแม่เอยสายชล
ฉัน สิยังคร่ำครวญเพ้อบ่น
ไหว้วอนให้สายน้ำวน
ช่วยดลให้รักฉันคืน
เขา คงไม่กลับมา
หัวใจพร่ำเรียกหา
น้ำตาหลั่งนองกล้ำกลืน
นอนหลับตาต้องผวาตื่น
สายน้ำไม่เคยไหลคืน
ไม่คืนเสียแล้วรักเอย

เขา คงไม่กลับมา
หัวใจพร่ำเพรียกหา
น้ำตาหลั่งนองกล้ำกลืน
นอนหลับตาต้องผวาตื่น
สายน้ำไม่เคยไหลคืน
ไม่คืนเสียแล้วรักเอย
คงไม่คืนเสียแล้วรักเอย 


V254844_CROP2.jpg				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด