28 มิถุนายน 2550 09:56 น.

เจ้าช่อเอ๋ย..เจ้าช่อดอกขจร...!

พุด

Scan0044.jpg
ยัง..ซึ้งใจจำ...
ถึง..
คืนค่ำที่ดาวดวงระดะเต็มอ้อมฟ้า..อ้อมฝัน

ยามใกล้รุ่ง...
สองข้างทาง..ดูอ้างว้างเหว่ว้า
ท่ามม่านหมอกสลัวมัวหม่นเลือนลางแห่งวสันตฤดู

บัว..ริมทุ่ง ในคู..
ค่อยๆคลี่กลีบแย้มเผยอเกสรแสนหวาน
บานรอรับหยาดละออละอองน้ำฝนหยดน้ำค้าง
ในยามดึก
ที่กำลังพร่างพรมห่มหอมให้ไพรพฤกษ์..
อย่างเงียบงาม

ดาวประกายพฤกษ์ ทอดวง..
เหนือนวลนภาทะเลสาบสีเงิน
ดูสุกใสแสนใกล้
ราวกำลังลอยทายท้าให้เราสอง..
สองเรา เอื้อมมือไปคว้าไขว่
มาประดับเรือนใจ..ให้สวยใสงาม

แล..ประดุจดั่ง..
ดวงดาวพราวไสวกำลังสอนสัจจธรรม

ไม่มีฝันใด เป็นจริง..
หากไม่เพียรพยายาม
ไม่...แม้..มีฝัน ....
อันคือเป้าหมายแลทิศทางแห่งชีวีชีวิต...



ในท่ามความเงียบ...
ในคืนฝันวันไร้ฝน
ดวงกมลแห่งสองเรากำลังสัมผัสได้
ถึงเสียงสายน้ำรักนิรันดร์
กำลังครวญคร่ำกระซิบ...พ้อ..เพ้อ
ฝากลมละเมอ..ให้เฝ้าถามมวลมนุษย์

ชาติหนึ่งนี้...
เจ้ามาพลีลมหายใจเพื่อสิ่งใดกันเล่า...

ให้แสนหนาวเหน็บในคำนึง...



ฟ้าเริ่มรุ่ง...
สุริยาสาดแสงดั่งสายรุ้งฉายส่องอาบไล้
ไปตามใบไม้ ใบหญ้า บึงบัว 
ทั่วทุ่งข้าวกล้าเรียวรวงระย้าระยับ
ให้ดูราวกับสุกปลั่งมลังเมลือง
ดั่งทองทาบทาไปทั่วทั้งแผ่นดิน


นกกา บินว่อนร่อนโฉบหาเหยื่อเพื่อดำรงรอด
สู่รวงรัง..เป็นวัฏฏธรรม ธรรมชาติ แห่งการมีชีวิต..

ดงดอกหญ้า...ฟ้อนร่ายระบำไปกับสายลมอรุณไหวเอน

ไพล..พาตัวไปนอนนิ่งๆใต้เงาไม้ 
ใช้หมวกสานสวยฝีมือชาวบ้านปิดหน้า
แล้วปล่อยภวังค์พาเพลินอย่างแสนสุขสงบใจ


ในขณะที่ฟ้าสาย ฉายแสงแดดสีเงิน
ลอดส่องพรายผ่านใบไม้
ก่อให้เกิดแสงระยิบพริบพราวพลิกพลิ้ว
กระทบกับผองใบ..
จนเกิดเป็นประกายแก้ววะแวววับ..



แล้ว..
กับความเงียบงามในท่ามความแล้งไร้..นั่น
พลัน..หัวใจไพล..ก็ลอยล่องท่องไปในทิพยนิรมิต
ติดปีกอิสรา
และ..
ราวกับได้ยินเสียงกระซิบ..ว่า...

ทุกบทเพลงฝันบทเพลงแห่งชีวิต

กำลังเริ่มต้นบรรเลง..ใหม่..ในวันวนวงกรรม..

อันจัก..มิมีวัน..สายเกิน....!!



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3238.html
นกขมิ้น ดิอิมพอสซิเบิ้ล 

ค่ำ คืน
ฉันยืนอยู่เดียวดาย
เหลียวมองรอบกาย
มิวายจะหวาดกลัว
มอง นภามืดมัว สลัวเย็นย่ำ
ค่ำคืน เอ๋ย ฮืม
ยามนภาคล้ำไป ใกล้ค่ำ
ยินเสียงร่ำ คำบอก
เจ้าช่อไม้ดอก เอ๋ย
เจ้าดอก ขจร
นก ขมิ้น เหลืองอ่อน
ค่ำแล้ว จะนอน ไหน เอย
เอ๋ย เล่า นก เอย
อก ฉัน ทุกวันเฝ้าอาวรณ์
เหมือนคนพเนจร
ฉันนอนไม่หลับเลย
หนาว พระพายพัดเชย
อกเอ๋ยหนาวสั่น สุดบั่น ทอน
ฮืม
ยามนี้เราหลงทาง กลางค่ำ
ยินเสียงร่ำ คำบอก
เจ้าช่อไม้ดอก เอ๋ย
เจ้าดอก ขจร
ฉันร่อนเร่ พเนจร
ไม่รู้จะนอน ไหน เอย
เอ๋ย โอ้ หัวอก เอย

บ้าน ใด
หรือใครจะเอ็นดู
รับรอง อุ้มชู เลี้ยงดูให้หลับนอน
นก ขมิ้น เหลืองอ่อน
ค่ำไหน นอนนั่น
อกฉัน หมอง ฮืม
ทนระกำช้ำใจ ยามค่ำ
ยินเสียงร่ำ น้ำตก
โอ้หัวอก เอ๋ย
โอ้อก อาวรณ์ ฉันไร้คู่ ร่วมคอน
ต้องฝืน นอน หนาว เอย
เอ๋ย โอ้ หัวอก เอย
เมื่อ มอง
หมายปองก็แลเห็น
หวิวในใจเต้น
เหมือนเป็นเพียงแต่มอง
เหมือน พบรัง จะครอง
แต่หมองเกรงที่
หวั่นจะมีเจ้าของ
ฮืม
ฟังสำเนียงเสียงเพลง
ครวญคร่ำ ใครหนอร่ำ คำบอก
เจ้าช่อไม้ดอก เอ๋ย
เจ้าดอก ขจร
นก ขมิ้น เหลืองอ่อน
ค่ำนี้ จะนอน ไหน เอย
เอ๋ย นอน ที่นี่ เอย... 
 
  

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song2121.html

โลกมายา ดิอิมพอสซิเบิ้ล 

รุ่งสุริยาขอบฟ้าขลิบทอง
วิหคเร่าร้องเสียงก้องพงไพร
ม่านฟ้าเรืองแสงทองยองใย
โลกตื่นจากหลับไหล สู่ความโสภา
รุ่งแจ้งแสงทองแซ่ซ้องปักษิน
บ้างก็ผกผินเหิรบินเมฆา
โลกสวยด้วยแสงสุริยา
มองสุขสันต์หรรษา ดูน่าภิรมย์
โลกเรานี้ ล้วนมีมายา
เฮฮาหัวร่อ แล้วก็ระทม
มัวเศร้าอยู่ใย ร้องไห้ ร้องห่ม
ทำไมให้เสียน้ำตา
รุ่งสุริยาม่านฟ้าตระการ
วิหคขับขานก้องดานดงป่า
โลกฝันมายิ้มกันดีกว่า
ลืมโลกแห่งมายา มาร่าเริงกัน

โลกเรานี้ ล้วนมีมายา
เฮฮาหัวร่อ แล้วก็ระทม
มัวเศร้าอยู่ใย ร้องไห้ ร้องห่ม
ทำไมให้เสียน้ำตา
รุ่งสุริยาม่านฟ้าตระการ
วิหคขับขานก้องดานดงป่า
โลกฝันมายิ้มกันดีกว่า
ลืมโลกแห่งมายา มาร่าเริงกัน... 
 



saba_2.jpgFE-Sunflower-field-220Med.jpgprop3568_12135.jpgdec_sunflower.jpglodge_outside.jpg				
27 มิถุนายน 2550 08:37 น.

ร้อยมณีดวง พวงบุปผา คารวะ แด่บรมครูกลอน..สุนทรภู่...!

พุด

SF050.jpg
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4689.html
บทเพลง..ร้อยบุปผา


ดั่งดวงแก้วส่องนำทางกลางป่าใจมวลมนุษย์
สร้างพิสุทธิ์สร้อยอักษราภาษาฝัน
เป็นกวีแก้วแววฟ้าวิลาวัลย์
เป็นเทพสรรค์สวรรค์ส่งประดับดิน

บรมกวีภู่ครูกลอนอักษรสร้อย
มาถักร้อยเป็นมณีแห่งศรีศิลป์
เป็นสายธารหวานหอมแห่งแผ่นดิน
เป็นอวลกลิ่นรสชื่นสุคนธา

เป็นดาวพรายพราวพร่างสว่างใจ
เป็นน้ำใสดับโลกแล้งทุกแหล่งหล้า
เป็นยอดขวัญอัญมณีเพชรหนึ่งในพสุธา
เป็นฝันฟ้าประโลมใจวรรณกวี

เป็นงามใจงามไทยศรีแห่งชาติ
เป็นหวังวาดในโลกฝันแห่งสร้อยสี
เป็นครูกลอนสอนสัจจธรรมสร้างค่าคนค่าชีวี
เป็นกวี..พลีงามฝากสายธารบุญสนองคุณแห่งแผ่นดิน..!
.........................


บรรจงใจร้อยมาลัยกลอนอย่างอ่อนหวาน
ศรัทธาธารแทนด้ายรักอักษรขวัญ
คารวะบรมครูกวีศรีชาติดั่งตะวัน
คุณอนันต์ต่อฝันไทยใจทุกดวง..

ดั่งสร้อยเพชรนามบทกลอนงามอ่อนไหว
ดั่งสร้อยใจมิ่งมงคลงามใหญ่หลวง
ดั่งสร้อยรักภักดิ์ภาษางามเรียงรวง
ดั่งดาวดวงจรัสแสงจากแรงใจ..

พลีดอกไม้ฟ้าบูชากวีแก้ว
งามเพริศแพร้วพิลาสล้ำคำไหนไหน
สุภาษิตสอนหญิงมิ่งกมลงามดวงใจ
อันหวานใดไม่เทียบเท่าเจ้าจอมภักดิ์

พุดเพียงหิ่งห้อยน้อยแสงแฝงเรือนไม้
ใช่ดาวพรายฉายแสงหรูอยู่ด้วยรัก
เป็นนักฝันรักคำงามตามพ้อภักดิ์
ดวงใจรักหอมละมุนกรุ่นกลิ่นไพร

เป็นนักกลอนอ่อนไหวใจอ่อนหวาน
กลอนชาวบ้านสาวชาวนาพิสุทธิ์ใส
กลอนธรรมดากลอนตลาดหญิงชาวไพร
ฝากหอมใจฝากหอมงามตามเห่กล่อม.

จุดเทียนทองส่องบูชานาทีนี้
กราบบรมกวีแก้วกลางใจพร่างพรมหอม
หวังกมลพุดคนดีที่ตรมตรอม
ปลูกพะยอมงามกลางใจ..ไทยทุกดวง..

.....................


ฉันอยู่ไหนในโลกนี้...ที่เธอฝัน..ลำน้ำน่าน

ฉันอยู่ไหนในโลกนี้...ที่เธอฝัน              
ในเงาจันทร์หรือเงาดาว..พราวไสว    
อยู่บนดินปวงพฤกษ์ป่า..หรือพงไพร        
หรือหัวใจอันแสนล้า....นภาราย              

อยู่ในรักหรืออ้อมกอด..มวลดอกไม้           
ในรอยทรายหรือรอยแยก..แตกสลาย       
ในเเสงทองท้องทะเล...หรือหาดทราย         
หรือเลือนหายเวียนว่าย...ในเวิ้งวรรณกรรม        

อยู่ใต้หล้าบนฟ้ากว้าง....ทางแห่งสุข             
หรือเงาทุกข์โถมเล้า......ระทมร่ำ           
หรือเป็นเพื่อนเตือนตอกย้ำ...ชะตากรรม     
หรือแสงธรรมอันพร่างพราว...คราวมืดมน      

อีกไม่นานจะกลับมา...หาบ้านเก่า                 
แนบนานเนาดวงใจ...มิสับสน                 
จะอยู่ไหนใจเตือนว่า...ยังเวียนวน                  
ตราบถึงจนวันคืนคอน....นอนแนบดิน    
 

       
ฉันอยู่นี่ที่กลางใจในโลกฝัน...พุดพัดชา

ฉันอยู่นี่ที่กลางใจในโลกฝัน
คอยเคียงขวัญในเงาใจไม่ไปไหน 
ในเงาดาวใต้เงาจันทร์ยามฝันไกล
ในดวงใจในดวงตาดารากาล..

อยู่ในรักในอ้อมกอดของยอดรัก
ฝากใจภักดิ์รักเพียงเธอเพ้อคำหวาน
ในแสงทองท้องทะเลดอกไม้บาน  
ในสายธารหวานชื่นฉ่ำลำนำไพร

อยู่ใต้หล้าฟ้าพริบพราวเคล้าใจสุข
ไร้รอยทุกข์สุขเคียงขวัญวันไหนไหน
เงาอดีตแค่กรีดรอยฝากแผลใจ
ไม่เป็นไรยอมรับโศกโลกนี้คือละคอน

รอและรอ..ขอคืนหลังยังบ้านเก่า
ลบลืมเหงาเงาใจใครลวงหลอน
พร่ำสวดมนต์ภาวนาเพื่อขอพร
เลิกร้าวรอนสิ้นร้าวรานนานนิรันดร์!..
 
......................


แด่ดวงตาดารางามนามนักเขียน ....  พุดพัดชา  

พระจันทร์สีส้มสุกดวงโตสุกปลั่ง
กำลังสาดส่อง
ทอประกายนวลละอองดั่งทองทา 

เมื่อแหงนเงยหน้า ขึ้นดู
บนฟากฟ้าสีน้ำเงินงามเข้มดั่งกำมะหยี่ 

ในราตรีที่ดวงดาวราวเร้น
หลีกหลบประกายกล้า
มิหาญกล้าทายท้าแสงนวลใย 
หายเข้าไปในหน้าต่างเมฆ..

ฝากดอกไม้ไทยที่พากันเอาใจ 
บานละออชูช่อรอหยาดน้ำค้าง 
ที่คงหยาดสายพรายพร่างในยามดึก...

ผ่านม่านมนต์เมฆเสกเสน่หา
ให้มวลมนุษย์ 
มองหาสวรรค์ฝันหวานหวาน
ฝาก...
ผ่านถึงดวงใจ..
ทุกดวงที่ยังห่วงใยเกี่ยวกระหวัดรัดรึง
ให้ละเมียดละมุน
ด้วยความงามนี้ที่ร่มรักเรือนไทยเรือนใจ

และ..
ผ่านดวงตาดารางามนามว่า
*นักอยากจะเขียนเพียรสร้างฝัน*
กันมิว่างเว้นในยามนิทรา..

ที่ทุกดวงตาอื่นๆนั้นพากันหลับไหล 
ไฉนเลย..!
เราจึงมาเดินบนถนนสายเดียวกัน 
ในมิติฝัน..
อันแสนลี้ลับมหัศจรรย์...ไร้กาลเวลา.

นอกเสียจาก..
ใจจักนำพาให้เราได้มาพบและรักกัน
ได้โอบเอื้อแบ่งฝันอันละเมียดใจ 
ในทุกอณูหนึ่งนี้...
กับโชคดี
ที่กาลเวลาได้ประทานของขวัญ
อันแสนเลอล้ำค่ามลังเมลืองใจ ..เกินกล่าว..แล้ว ... !
 


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4689.html
ร้อยบุปผา สุนารี ราชสีมา 

ร้อยบุปผา บานพร้อมพรัก
ร้อยสำนัก ประชันแข่งใจ
มวล ดอก ไม้ พร่างพรายมา พ้อง พาน
ร้อยดอกงาม เด่นตระการ
แย้มบานในดวง ใจ
ชู่ ช่อ ธรรม สง่า งาม ในนาม ศิลปิน

มาสร้าง งาน ศิลป์ ชุบชีวิน มนุษย์ชาติ
สะอาดสดสวย ด้วยบทเพลง แห่งสวรรค์
ให้มาลัย ฝากรัก มอบใจภักดิ์ ร่วมกัน
จุดไฟ ความฝัน พร่างพลัน ประกาย เพลิง

มาเถิด พี่น้อง ร่วม ร้อง เพลงเพื่อ
กลั่นจาก เลือด เนื้อ หยาดเหงื่อ เร่าร้อน
เราจะเร่ง แนวรบ ไม่สยบ อ้อนวอน
เริงระบำ รำฟ้อน ร้อยกรอง กวี กานต์

มาร่วม ใจรัก พร้อม พรักพลีชีวาตม์
ผงาด อาจ หาญ สร้างตำนานตระการฟ้า
แต่งเติม โลกศิลป์ ให้ผ่องพิณ โสภา
ด้วยวิญ ญานท้า ทรนงเทิดคง ธรรม

ร้อยบุปผา บานพร้อมพรัก
ร้อยสำนักประชันแข่งใจ
มวล ดอก ไม้ พร่างพรายมา พ้อง พาน
ร้อยดอกงาม เด่นตระการ
แย้มบานในดวง ใจ
ชู่ ช่อ ธรรม สง่างาม ในนาม ศิลปิน 
 




115340704TRhbwV_ph.jpgflower.jpg08-2.jpgMalaj06N.jpgprofile.jpgTD-10.gif				
26 มิถุนายน 2550 23:23 น.

นานเท่าไร...แล้ว..?

พุด

SurpriseLakeClose2.jpgMtDelLake6th.jpg

นานเท่าไรแล้ว...ที่คุณลืมแหงนเงยขึ้นดูท้องนภา
                          ฟากฟ้าที่ระยิบด้วยแสงดาวพราวพร่าง
นานเท่าไรแล้ว...ที่คุณปล่อยให้เดือนอ้างว้างเดียวดาย
                           รอแย้มยิ้มปลอบประโลม
นานเท่าไรแล้ว...ที่ดวงดอกไม้รอทายทัก
                          ให้คุณดอมหอมกลิ่นกรุ่นแล้วเก้อ
นานเท่าไรแล้ว...ที่สายลมละเมอรอคุณส่งรอยจูบฝากไปให้ใครบางคน
                          ที่เขาแสนคิดถึงคุณ
นานเท่าไรแล้ว...ที่แสงแดดสีทองผ่องพรายฉายฉานเฝ้ารานรอให้
                           คุณออกมานั่งรับอุ่นอวลในยามอรุณรุ่ง
นานเท่าไรแล้ว...ที่คุณไม่เคยทอดตาดูสายรุ้งแสนงามยามฟ้าหลังฝน
นานเท่าไรแล้ว...ที่ดวงกมลคุณไม่เคยเปิดใจรับสายแสงแห่งธรรม
นานเท่าไรแล้ว...ที่คุณไม่เคยฟังเสียงระรินร่ำยามสายฝนพรำโปรย
นานเท่าไรแล้ว...ที่คุณปล่อยให้ดวงดอกไม้ปลิดกลีบโรยร่วงโดยไม่เคย
                           มองเห็นสัจจธรรม
นานเท่าไรแล้ว...ที่คุณปล่อยให้โลกเป็นสีดำแทนสีชมพู
นานเท่าไรแล้ว..ที่ชีวีคุณมีคู่เคียงแค่เทคโนโลยี่ศิวิไลซ์   
นานเท่าไรแล้ว...ที่คุณละเลยหัวใจปล่อยให้เหนื่อยล้า
                           ด้วยการหลงยึดมั่น ถือมั่นไม่สิ้นสุด
นานเท่าไรแล้ว...ที่คุณติดตมอยู่ในโลกสมมุติ มายาฝัน
นานเท่าไรแล้ว...ที่คุณไม่เคยได้รับหยาดน้ำผึ้งพระจันทร์
                          จากผู้เป็นที่รัก
นานเท่าไรแล้ว...ที่คุณลืมสิ้นภักดิ์ อ้อมตักอ้อมขวัญ
                           ลืมสายธารน้ำนมอันมากล้นค่าเมตตาการุญย์
                           จากอ้อมอกอุ่นของผู้มีพระคุณล้นฟ้า ลืมสิ้นแม้นความ
                           กตเวทิตาคุณ ผู้รอท่าอยู่ทุกทิวาวัน
                           ให้คุณคืนหลังกลับมาให้ชื่นชม...
นานเท่าไรแล้ว...ที่คุณลืมหลงโลกแห่งธรรมชาติ 
                          ธรรมดาๆแห่ง ชีวาชีวิต  

นานเท่าไรแล้ว......... 
และ..
นานเท่าไรแล้ว.........ทุก..คนดี...ที่รัก....!
.....................                           





http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song287.html
นัดพบ เพ็ญศรี พุ่มชูศรี 

ถ้าเราจะนัดพบ กัน
เมื่อตะวันลับไม้
ฉันไม่หลอกจะบอกให้ อย่าเอ็ดไป สิจงฟัง
ฟัง สิฟัง สัก นิด
แล้วอย่าคิดว่าฉันสอน ว่าฉันสั่ง
ฟังสิฟัง ฟังกันเล่นเพลินเพลิน
แต่มันสุขเหลือเกิน ไม่เชื่อเชิญ ลองจำ
ถ้าเราจะนัดพบ กัน
เมื่อตะวัน พลบค่ำ
ธรรมชาติชุ่มฉ่ำ ฉ่ำชื้น ชื่น ใจ
ใต้ ร่มไม้ใบบางบาง แสงสว่างรำไรรำไร
ไม่ต้องระวังไม่ต้องระไว
จะอายทำไมกับพระจันทร์
ถ้าเราจะนัด พบ กัน
ควรให้จันทร์ เห็น ใจ
ลมอ่อนอ่อนพัด ผ่าน
ชูกิ่งก้านช่อใบ
บ้างก็แกว่งบ้างก็ไกว
บ้างเขยื้อนสะเทือนไหว
สะบัดใบไปตามลม
ผสมน้ำค้าง พร่าง พรม
เรไรจิ้งหรีดหวีดผสม
ต่างคลอต่างคล้อต่างล่ออารมณ์ เรา
ให้ชมให้ชื่น ใจ
นี่แหละถิ่นนัดพบ
แต่เราไม่พบกับใคร
เพียงแต่พบกับธรรมชาติ
แล้วเราก็อาจจะสุขใจ
ไม่ต้องไปพบ กับใคร ที่ไหน
เพลินใจ เพลิน ตา... 
 



princessbride.jpgtruelove.jpg
lewismith-lake.jpgLake%20Pend%20Oreille.jpgMirror%20Lake%20Reflections.jpg				
26 มิถุนายน 2550 11:22 น.

ดั่งอัญมณีไสว..แห่งไพรพฤกษ์..!

พุด

bride_400.JPG
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6196.html
อัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ 
รัก


ดอกรักนิรันดร์บานกลางใจในวันนี้
เมื่อคนดีเกาะกุมมือนำทางขวัญ
ใจหลอมใจรวมหนึ่งเดียวตราบชั่วกัลป์
สัจจะมั่นอธิษฐานรอมิท้อใจ

ให้หอมงามน้ำใจใสดั่งแก้ว
วะวับแวววะวับวาวน้ำค้างใส
หยาดระรินดับทุกข์โศกโลกหมุนไป
ทุกดวงใจผู้ชิดใกล้ได้รับรัก

ดอกไม้ฝันบานสะพรั่งราวเพชรพร่าง
ผลิกระจ่างจากบึงใจซึ้งสลัก
ฝากความดีพลีพร้อมให้นะที่รัก
จากจิตภักดิ์รักธรรมนำกมล

แล้วชูช่อไสวในแสงทอง
ให้พรายผ่องพรรณรายทุกแห่งหน
พสุธาไทพระพุทธรัตนาบันดาลดล
ให้จิตคนบานเหนือโลกย์เหนือโศกวน..

เหนือโศกกรรม..!
........................




http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6196.html
อัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ 

รัก

รักทะเล
อันกว้าง ใหญ่ไพศาล
รักท้องฟ้า โอฬาร สีสดใส
รักท้องทุ่ง ท้องนา ดั่งดวงใจ
รักป่าเขา ลำเนาไพร แสนสุนทร
รักพฤกษา รุกขชาติ ที่ดาษป่า
รักปักษา ร้องกู่ บนสิงขร
รักอุทัย สว่าง กลางอัมพร
รักทั้ง รัตติกร ในนภดล
รักดารา ส่องแสง สุกสว่าง
รักน้ำค้าง อย่างมณี มีโภคผล
รักทั้งหมด ทั้งสิ้น ที่ได้ยล
รักนวลนาง รักจน หมดสิ้นใจ

รักพฤกษา
รุกขชาติ ที่ดาษป่า
รักปักษา ร้องกู่ บนสิงขร
รักอุทัย สว่าง กลางอัมพร
รักทั้ง รัตติกร ในนภดล
รักดารา ส่องแสง สุกสว่าง
รักน้ำค้าง อย่างมณี มีโภคผล
รักทั้งหมด ทั้งสิ้น ที่ได้ยล
รักนวลนาง รักจน หมดสิ้นใจ... 
 
  



bride2-L.jpgbride.jpg				
26 มิถุนายน 2550 09:45 น.

อาญารัก...!

พุด

107084-Bride-in-car-0.jpg
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1112.html
ได้รักเธอก็พอ 
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1111.html
อาญารัก


เราพบกันวันที่ฟ้าสีหวาน
ดอกไม้บานเต็มต้นบนทางฝัน
ปาฏิหารย์รักแท้รอชั่วกัลป์
มหัศจรรย์ราวฟ้าดินดลบันดาล

แล้ว...
วันนี้ฟ้าก็แปรเป็นสีโศก
โลกทั้งโลกสีน้ำเงินหมดสิ้นหวาน
รักนิรันดร์กลายฝันเป็นร้าวราน
แค่ทางผ่านแห่งหัวใจสอนบทเรียน

ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์
คำพระพุทธสอนมาเคยอ่านเขียน
แท้สัจจธรรมย้ำรอยวนวิบากเวียน
มิแปรเปลี่ยนชั่วกัปป์กาลเวลา

จึ่ง..ทบทวนทุกข์ท้นบนทางรัก
ดั่งแอกหนักแบกระทมเสน่หา
ตัดสินใจครั้งสุดท้ายเอ่ยคำลา
แม้น..น้ำตาเป็นสายเลือดยอมเชือดใจ...!!!


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1111.html

อาญารัก 

เพราะบุญ เคยทำ
ฤา จากกรรม ปางไหน
ที่ทำให้ ทุกชีวา
ต้องมา พบกัน
ร่วม ร้อย ร่วม เรียง
เรื่องราว ที่ผูกพัน
แต่ละคน ต่างที่ มา
ชดใช้ เวรกรรม
ที่ เคยทำ กันไว้
ได้ เจอวัน ที่ หวานชื่น
คืนแห่ง น้ำตา
ไม่อาจฝืน เส้น ทาง
ถูกวาง ให้เกิดมา
ตาม ชะตา เกิดเป็นใคร
ล่องเรือ ชีวิต
ที่ลิ ขิตมาด้วย กัน
แต่ ละวัน
แล้ว แต่กรรม พาไป
ไม่มี ใครรู้
จะสิ้น สุดลงที่ ใด
จุดจบ ที่ปลาย
ใครเศร้า ใคร สุขสันต์
ขอจง มั่นใจ
ให้ ความดี คอยคุ้ม
สุข ห่างหาย
ทุกข์รายรุม
ล้อมอยู่ ทุกวัน
หมด เวร เมื่อไร
หมดกรรม ที่ผูก กัน
อีกไม่นาน คงได้ ดี

ล่องเรือ ชีวิต
ที่ลิ ขิตมาด้วย กัน
แต่ ละวัน
แล้ว แต่กรรม พาไป
ไม่มี ใครรู้
จะสิ้น สุดลงที่ ใด
จุดจบ ที่ปลาย
ใครเศร้า ใคร สุขสันต์
ขอจง มั่นใจ
ให้ ความดี คอยคุ้ม
สุข ห่างหาย
ทุกข์รายรุม
ล้อมอยู่ ทุกวัน
หมด เวร เมื่อไร
หมดกรรม ที่ผูก กัน
อีกไม่นาน คงได้ ดี
หมด เวร เมื่อไร
หมดกรรม ที่ผูก กัน
อีกไม่นาน คงได้ ดี
ทำดีไว้ ต้องได้ ดี... 
 




http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1112.html
ได้รักเธอก็พอ 
ละครทีวี อาญารัก 
ฉัน ไม่รู้ ฉัน ไม่รู้
ว่าจะอยู่ อย่างไร
แต่ ที่รู้ และไม่เคย สงสัย
อยู่ที่ไหน ต้องมีเธอ
เคย ได้รู้ เคย ได้รัก
แต่เพิ่งประจักษ์ ใจฉัน
ว่า ความรัก
ที่ได้เคย รู้นั้น
ไม่เหมือนที่ฉัน ได้รักเธอ
ฉัน ไม่รู้
ชีวิต เกิดมา เพื่อใคร
แต่ ที่รู้
ต้องอยู่ ต่อไป เพื่อเธอ
จาก วันนี้
ตราบที่ ฉันยัง หายใจ
ต้องเจ็บ ปวดเท่าใด
ก็ยัง รักเธอ เสมอ
ถึง พรุ่งนี้ เป็น อย่างไร
ฉันเต็มใจ ยอมรับ
ไม่ เป็นไร
แค่เพียงยัง มีเธอ
ให้ฉัน ได้รัก ก็พอ

ฉัน ไม่รู้
ชีวิต เกิดมา เพื่อใคร
แต่ ที่รู้
ต้องอยู่ ต่อไป เพื่อเธอ
จาก วันนี้
ตราบที่ ฉันยัง หายใจ
ต้องเจ็บ ปวดเท่าใด
ก็ยัง รักเธอ เสมอ
ถึง พรุ่งนี้ เป็น อย่างไร
ฉันเต็มใจ ยอมรับ
ไม่ เป็นไร
แค่เพียงยัง มีเธอ
ให้ฉัน ได้รัก ก็พอ... 
 



abercrombie_bride.jpgbeach%20bride.jpgFaktorBride1012x634-160.JPG				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด