พระพิรุณพรายสายในคืนหม่น เสียงสายฝนกระซิบระรินร่ำ วสันต์สอนบทเรียนสัจจธรรม ฟ้ามืดดำรู้รักษ์ใจไม่มืดตาม ดั่งอัญมณีเพชรพร่างณ..กลางจิต เพรงชีวิตลิขิตฟ้าฝ่าขวากหนาม ถึงทุกข์ทนเพียงใดใจยังงาม ในโมงยามแห่งวิบากภพลบด้วยบุญ มายาภาพโศกสุขสิ้นบันทึก เพียงรู้สึกตามไปตราบโลกหมุน แสงอาทิตย์สาดส่องรับอรุณ ใจละมุนอุ่นโอบเอื้อเพื่อแบ่งปัน ฝันให้ไกลไปให้ถึงซึ่งแดนฟ้า โศกเหว่ว้าไร้ตัวตนมายาฝัน สิ้นภพชาติสิ้นสวาทเสน่หารู้เท่าทัน คือจิตขวัญหวังจบพบพระนิพพาน...
วันที่ฟ้าใสแดดสวยส่องทอกระทบ ทะเลสาบผืนเรียบจนกลายเป็นสีเงินงาม ใบไม้ริมทางพร่างแสงพราว ราวใบไม้ทิพย์ใบไม้แก้วแวววะวับ ยามไหวโอนโบกระบัดรับสายลมแรกแห่งอรุณ ในเส้นทางสายสู่ชนบท.. สวรรค์วนาวิมานมนตราทวารวดี ที่จะพลิกผันรอยไถแปรกลายเป็น ทุ่งทองทานตะวัน ที่ณ..บัดนี้ เมล็ดพันธุ์ได้ถูกหว่านพลีรอพร้อมผลิอยู่ในพื้นพสุธาแล้ว เพียงแค่.. รอท่าหยาดพระพิรุณโปรยสายปรายละอองลงมาเพียงนั้น ให้ดินได้ชุ่มชื่นฉ่ำแลทุกเมล็ดฝันทุกพืชพันธุ์แห่งรัก ได้จักชูช่อละออบานไสวอย่างงามงด อีกไม่นาน....นับเนื่องจากนี้..! ผม...ขับรถอย่างช้าช้า ไปตามเส้นทางนาข้าว เส้นทาง ที่อ้างว้างหากให้ความรู้สึกปล่อยวาง กระจ่างแจ่ม ณ บ้านภายใน ในหอมห้วงหัวใจผมอย่างที่สุดแล้ว ผม..ทอดตาช้าช้า ดูท้องนาหลังการเก็บเกี่ยว ดูดวงดอกไม้ที่ สิ้นไร้ดอก ปลิดปลิวร่วงโรยบอกสัจจธรรม ที่กำลังรอบานหวานรับฤดูร้อน... ให้โอบเอื้ออรชรอ้อนออดใหม่ ในฤดูกาลหน้า..ที่กำลังใกล้จะมาถึง.. และ.. ในคลองตาก็แลเห็นแผ่นป้ายงาม คำแสนสิริมงคลสวัสดิ์ความว่า โครงการแปลงนาสาธิตในพระราชดำริ เพื่อวิถีไท วิถีทอง วิถีทุ่ง ให้มุ่งรู้รักการเกษตร รู้รักษ์ความพอดี มีชีวีแบบเศรษฐกิจพอเพียง น้ำตาผมคลอเบ้า อย่างเข้าใจ อย่างสำนึกในหยาดน้ำพระทัย แห่งพระเมตตามหากรุณาธิคุณ อันยิ่งใหญ่ของพระพ่อหลวงที่พลีให้ แด่พสกปวงชนชาวไท ชาวนา แล..ด้วยบุญญาบารมีแห่งพระขวัญฟ้า พลัน.. ราวกับว่าฟ้าในดวงใจผมที่เคยเทาทึมมืดมน ก็เลิกหมองหม่น..ณ..บัดนั้น.. หัวใจดั่งดวงธุลีหล้าข้าแห่งแผ่นดินไทนี้ ที่มีชีวีหยัดยืนอย่างทรนงคงอิสรา มาได้จนเติบใหญ่ ไฉน...จักยอมพ่ายเพียร ไม่ยอมเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ธ..ผู้ทรงยอมทนทุกข์ยาก สละหยาดพระเสโทุกหยดรินรดวาดวน สอนสัจจะกมลให้คนไทยทุกคน.. รู้รักสามัคคี รู้จักความพอดี พอเพียง เลี่ยงกระแสโลกกิเลสวัตถุ รู้สร้างงาน สร้างงาม และ.. รู้นิยามค่าคน..ให้พ้นโพยภัย ในแดนดินถิ่นไทยด้ามขวานทองนี้ไป ตราบชั่วนิจนิรันดร..! ..................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song314.html บ้านเรา บ้าน เรา แสน สุขใจ แม้จะอยู่ ที่ไหน ไม่สุขใจ เหมือนบ้านเรา คำ ว่าไท ซึ้งใจ เพราะใช่ ทาสเขา ด้วยพระบารมีล้นเกล้า คุ้มเรา ร่มเย็น สุขสันต์ รุ่ง ทิพย์ ฟ้า ขลิบทอง พริ้วแดดส่อง สดใส งามจับใจ มิใช่ฝัน ปวง สตรี สมเป็นศรีชาติ เฉิดฉัน ดอก ไม้ชาติไทยยึดมั่น หอมทุกวัน ระบือ ไกล บุญ นำพา กลับมาถึงถิ่น ทรุดกายลงจูบดิน ไม่ถวิลอายใคร หัว ใจฉัน ใครรับฝาก เอาไว้ จาก กัน แสน ไกล ยังเก็บไว้ หรือเปล่า เมฆ จ๋า ฉัน ว้า เหว่ ใจ ขอวานหน่อยได้ไหม ลอยล่องไป ยังบ้านเขา จง หยุดพัก แล้วครวญรับฝาก กับสาว ว่าฉันคืนมาบ้านเก่า ขอยึดเอา ไว้เป็น เรือน ตาย...
เพราะหัวใจใสงามดั่งดวงแก้ว จึงพราวแพรวในท่ามพายุฝัน เมฆหมอกใดฤาจะลบงามนิรันดร์ คงแค่ผันพัดผ่านมาทายท้าใจ ไม่เสียใจไม่ไหม้หมองครองโศกราน ไม่สิ้นหวานไม่สิ้นหวังกับสิ่งไหน ใจเหนือโลกย์พ้นพันธนาวิปโยคใด ไม่หวั่นไหวไม่ยึดสุขทุกข์ปล่อยวาง ประคองจิตลมหายใจชีวิตอันแสนสั้น สร้างสัจจะขวัญลบเลือนโลกอ้างว้าง หอมใดเล่าเท่าหอมบุญจิตกระจ่าง ในท่ามกลางกระแสโลกโศกมายา ดั่งบัวบานตระการรับแสงธรรมทอง กุศลส่องนำทางใจเมตตาฟ้า อธิษฐานวอนไหว้เทพเทวา ทั้งชาตินี้ชาติหน้าเกิดมามี..อัญมณีใจ..! (สิ้นไร้รักพันธนาใด ใครครอบครอง) http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song72.html หนึ่งในร้อย พราว แพรว อันดวงแก้วแวว-วาว สด สี งาม หลายหลากมากนาม นิยม นิล-กาฬ มุกดา บุษรา คัมคม น่า ชม ว่างาม เหมาะสม ดี เพชรน้ำหนึ่ง งามซึ้ง จึงเป็น ยอดมณี ผ่อง แผ้วสดสีเพชรดี มีหนึ่งในร้อยดวง ความ ดี คนเรานี่ ดีใด ดี น้ำ ใจที่ให้แก่คน ทั้งปวง อภัย รู้แต่ให้ไปไม่หวง เจ็บ ทรวง หน่วงใจให้รู้ ทัน รู้ กลืน กล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน ชื่น ชอบตอบ ผล ร้อยคน มีหนึ่งเท่านั้นเอย รู้ กลืนกล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน ชื่น ชอบตอบผล ร้อยคน มีหนึ่ง เท่านั้นเอง...
ในราตรี... ที่สายวสันต์พร่างพรายมากับฟ้าหนาว ใจดวงนวลกลับงามพราว..ด้วยปิติเกษมบุญ หอมหอมกรุ่นดวงดอกพุดซ้อนอรชร ที่เอื้อมเด็ดมาวางไว้ในรถ ให้กลิ่นหอมสดหยาดเย็นหวานเศร้า มาคลุกเคล้าให้ใจสองดวงยิ่งละมุนละไมเป็นยิ่งนัก ในท่ามราตรี ที่ดวงจันทราเร้นไร้..หายไปในท่ามฟ้าฝน ม่านเมฆหม่น ดวงกมล...กลับเต็มไปด้วยพลังหวังหวานมิรานโศก ไปตามกระแสโลกย์ กระแสวิบากกรรมที่ย้ำรอยวน ตั้งจิตใส ใจดวงกุศลงาม ไปกรานกราบองค์พระพุทธพิสุทธิ์ค่า ให้ครบเจ็ดวัด ด้วยแรงบุญศรัทธาในวันมหามงคลสมัย มาลัยมะลิ..เจ็ดพวง พร้อมดวงจิตแห่งความสอาดสว่างกระจ่างสงบ ขอเพียรเพียงพบ..ทางทองทางธรรม น้อมนำมาระรินร่ำ มิให้ชีวิตซ้ำวนหลงในหนทางแห่งทุกข์พันธนา ลูก..กรานศิระหน้าโบสถ์คร่ำ ในท่ามกลางสายฝนระร่ำริน และ.. ณ..เบื้องพระพักตร์ทอง อันงามผ่องพิสุทธิ์ของหลวงพ่อโต พร้อมกับกล่าวคำ..ถวายสัจจวาจาณ..ภายในใจ ไม่ว่าชาตินี้ ชาติหน้า ชาติไหน ให้ดวงใจลูกได้ไสวสว่างกระจ่างแจ่ม ดั่งจันทร์แสงหยาดเย็นเหนือนภา หากว่าลูกยังต้องเกิดมาชดใช้กรรม และ.. หากฟ้าเมตตา ดินบันดาล สิ่งศักดิ์สิทธิ์รับรู้ ขอให้ลูก ได้เกิดมาหยัดยืนอยู่เพื่อยังประโยชน์ ในแผ่นดินแห่งสวรรค์หล้าฟ้าพุทธภูมิ ใต้ร่มรัตน์ฉัตรเพชรไสว นามว่าไทย ไท อิสรา ตราบจนกว่า..ดวงชีวาลูกจักหลุดพ้นสู่แดนว่าง กระจ่างจิตไปชั่วนิจนิรันดร์.... และ.. ราวมีทิพยญาณจากดวงตาสวรรค์เมตตา เมื่อนาทีนั้น พลัน... ลูกแหงนเงยเห็น.... หยาดสายพระพิรุณกำลังพร่างละมุน เป็นหยาดละออละอองทอง ผ่องพราย ในคืนที่ลูกอยากร่ำไห้ด้วยปิติเกษมเกินกล่าวแล้ว...! ............................ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song420.html รางวัลชีวิต พระพุทธองค์ ท่านทรงสอนเรื่องเวรกรรม คนไหนใครทำ กรรมเคยก่อเอาไว้อย่างไร ก่อน นั้น เคยทำกรรมไว้ชาติใด ชาตินี้ต้องได้ รับกรรมที่ทำก่อนนั้น ตัวฉันคงทำ แต่กรรมซ้ำอยู่เสมอ ชาตินี้จึงเจอ เวรกรรมเก่าเข้าย้อนผูกพัน ปวด ร้าว ตรอมตรมขื่นขมอนันต์ ทำดี สารพันรางวัลที่ได้ก็คือเคราะห์กรรม โธ่ เอ๋ย พระเจ้าไม่เคยปราณี ในชาตินี้ ทำดีไม่เคยก่อกรรม หวัง ให้ ผลบุญได้น้อมนำ ล้างเวรที่เคยทำ แต่ชาติ ปาง ก่อน สิบนิ้วประนม สวดมนต์พร่ำบ่นบูชา กุศลนำมา จงนำข้าสิ้นเวรดั่งวรณ์ หากแม้ ชีวีสิ้นลับดับมรณ์ เวรกรรม ทุกชาติก่อน บรรเทาผันผ่อน อย่าตามซ้ำเลย...
สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักคุณพุดค่ะ เป็นน้องใหม่ในเว็บนะคะ คนอะไรทำไมเก่งกาจฉกาจฉกรรจ์อย่างนี้ ขอคารวะมาอย่างจริงใจ ชื่นชมมากตั้งแต่มค.48 ถึงปัจจุบัน คำประพันธ์ของคุณในเว็บนี้ มีทั้งหมด 439 บทแล้ว ก่อน ๆ นั้นล่ะ มีรวมเล่มบ้างหรือเปล่า จะค่อย ๆ อ่านไปวันละ2-3 บทนะคะ เพราะมีรูปสวย ๆ ให้ดู มีเพลงเพราะ ๆ ให้ฟัง และ.. ยังมีเนื้อเพลงเก่าแถมมาให้อีกด้วย อยากรู้จักมากกว่านี้ค่ะ เราเกิดเดือนเดียวกันด้วยนะ คุณโอ้ละหนอ..ดวงเดือนในดวงใจพุดเอย.. พุด..ปิติใจมากค่ะและซาบซึ้งใจมากนะคะ กับ..น้ำคำน้ำใจ ที่แสนใสหยาดเย็น ที่ระรินรดหยดมาให้พุดค่ะ พุด...ดีใจและเป็นเกียรติเช่นกัน ที่ได้รู้จักคุณ นะคะ และขอขอบคุณสำหรับกำลังใจ ที่ทำให้พุด.. นักรักรจนาคนนี้ได้มีไฟฝันปันเอื้อโอบรัก ในถนนสายไพรสายดวงดอกไม้งาม สายธรรม...ธรรมชาติ ไปอีกนานนะคะ พุด...เขียนที่นี่ *ในร่มรักเรือนไทยเรือนทองแห่งผองเรา* (ที่ที่พุดเรียกเองด้วยใจภักดิ์รัก ที่แห่งนี้) มานานหลายปีแล้วค่ะ ชีวิตพุด ไม่เคยค่อยมีเวลาท่องเวบ นอกจากที่แห่งนี้ ที่เดียวค่ะ เพราะหัวใจพุดเกาะเกี่ยวอยู่กับที่แห่งนี้ ที่นาทีนี้ต้องถือโอกาสกล่าว คำขอบพระคุณ*คุณปีกฟ้า* ที่กางปีกโอบกอดนักรักรจนาทุกคน อย่างมีเมตตา...มาอย่างช้านาน และถึงจนนะวันนี้มีสมาชิกนับหมื่นๆแล้วละค่ะ และ.. ขอขอบพระคุณ ท่านผู้ดูแลระบบ รวมทุกท่านที่บริหารเกี่ยวข้องค่ะ ที่มากล้นน้ำใจทุ่มเทเสียสละ จนทำให้สถานที่งดงามแห่งนี้ ได้สร้างสรร ผลงานฝัน อันหวังจักจรรโลงใจแลโลกบ้างไม่มากก็น้อย งานพุด มีนับพันเรื่องแล้วละคะ เพราะ.. นอกจาก440 บทแล้ว ยังมีในหน้ากล่องเก็บกลอนอีกประมาณ566บทค่ะ รวมทั้งสิ้นเฉพาะในนามปากกาพุดพัดชาก็พันกว่าแล้วค่ะ ส่วนในอีกนามปากกาหนึ่งค่ะhttp://www.thaipoem.com/forever/my_home.php?mid=6042 *สาวบ้านนา* รวมทั้งหมดทั้งสิ้นคงประมาณ110 บทค่ะ และ..พุดยังคงรักที่จักรจนาต่อไปค่ะ ตราบใดดวงใจยังมีไฟฝัน และตราบที่ร่างกายยังแข็งแรง มีพลังใจนะคะ พุดพลีบทกวีบทนี้แด่คุณโอ้ละหนอนะคะ โอ้ละหนอดวงเดือนในดวงใจ แม่ดวงดอกพุดไพรสาวนาผู้ว้าเหว่ ล่องเรือรักเรือดอกไม้มาจากทะเล หวังกล่อมเห่โลกหล้าฝากอักษราทิพย์ พาหัวใจดวงทองล่องธารธรรม ระรินร่ำหยาดน้ำค้างพร่างให้จิบ เอื้อมคว้าดาวพราวแพรวระยับระยิบ ให้พรายพริบประภัสสรณ..กลางใจ... ถวายจิตชีวิตนี้ธุลีหล้า แด่ร่มฟ้าร่มรัตน์อันไสว เดินตามรอยพระพุทธพิสุทธิ์ใจ อัญมณีใดไหนเล่าจักเท่าเทียม..จิตกระจ่างพร่างแสงธรรม..! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song635.html ลาวดวงเดือน โอ้ ละ หนอ ดวง เดือน เอย พี่ มา เว้า รัก เจ้า สาว คำ ดวง โอ้ ว่า ดึก แล้ว หนอ พี่ ขอ ลา ล่วง อก พี่ เป็น ห่วง รัก เจ้า ดวง เดือน เอย โอ้ ละ หนอ ดวง เดือน เอย พี่ มา เว้า รัก เจ้า สาว คำ ดวง โอ้ ว่า ดึก แล้ว หนอ พี่ ขอ ลา ล่วง อก พี่ เป็น ห่วง รัก เจ้า ดวง เดือน เอย ขอ ลา แล้ว เจ้า แก้ว โก สุม เฮ้อ เออ เออ เออ เอย เฮ้อ เออ เออ เออ เอย เฮ้อ เออ เออ เออ เอย เฮ้อ เออ เออ เออ เอย พี่นี้รัก เจ้า หนา ขวัญ ตา เรียม จะหาไหน มา เทียม โอ้เจ้าดวงเดือนเอย จะหาไหนมาเทียม โอ้เจ้าดวงเดือนเอย หอม กลิ่น เกษร เกษร ดอก ไม้ หอม กลิ่น คล้าย คล้ายเจ้าสูเรียมเอย หอม กลิ่น กรุ่น ครัน หอม นั้น ยัง บ่ เลย เนื้อ หอม ทราม เชย เอ๋ย เรา ละ หนอ เนื้อ หอม ทราม เชย เอ๋ย เรา ละ หนอ หอม กลิ่น เกษร เกษร ดอก ไม้ หอม กลิ่น คล้าย คล้าย เจ้า สู ของ เรียม เอย หอม กลิ่น กรุ่น ครัน หอม นั้น ยัง บ่เลย เนื้อ หอม ทราม เชย เอ๋ย เรา ละ หนอ เนื้อ หอม ทราม เชย เอ๋ย เรา ละ หนอ...