ฟ้าใกล้ค่ำแล้ว..เรือเฟอรี่ลำใหญ่ที่บรรทุกทั้งผู้คน และรถรา กำลังพาทุกสรรพชีวิต ให้ไกลห่างฝั่งฝันพะงันงามออกมา..ทุกทีทุกที.. ผม..นั่งนิ่งนิ่งทอดตาเศร้าดูฟองคลื่นพรายน้ำ ในขณะที่เรือกำลังค่อยๆฝ่าสายธาราทะเลงามเงียบสีเงินยวง ที่กำลังสะท้อนเงาแดดระยับระยิบ... ฟ้าเบื้องบน ราวสวรรค์สรวงในคลองตา หัวใจผม..ราวได้สดับรับรู้...ถึงหัวใจผู้เป็นที่รัก ยามเธอได้รำพึงรำพันถึงช่อชั้นฝันวิจิตรแห่งนิรมิตเมฆ *ยามเย็น..อาทิตย์ดวงโตสีส้มสุก..ใบใหญ่เท่ากระด้ง..ใกล้ลาลับฟ้า.... แตะต้อง..ทายทักทะเล..อย่างอ่อนโยน.. นิ่มนวล..รู้ใจ..ร่ำลา..อ้อยอิ่ง..ทิ้งแสงสวย............ เบื้องบนนภา..รัศมีสีรุ้ง..ฉายฉาน..ส้ม..ปนเหลือง.. แสดแดงแรงร้อน..เริ่มราโรย..ในม่านเมฆ........ ซ่อนละมุนอุ่นไอ..กลมกลืน..ในพยัพหมอกบางเบา..นวลนุ่ม.. ดุจสายไหมหลากสี..สลับเลื่อมซ่อนลาย คล้ายดั่ง..วิมานเมฆ.. ดังทิพย์สวรรค์ลอยเลื่อนจากฟ้า..มาแตะต้องโลก......... ทายทัก..พักสายตา..พาสายใจไหลหลง..สัมผัสแลงาม.. .ตะลึงใจ..ตะไลฝันกับงามล้ำของม่านเมฆ..มนต์ขลัง เสน่ห์ทะเลไทย..... ตรึงดวงใจทุกดวง...ดื่มด่ำบนดาดฟ้าเรือ..... ยามสนธยา..ใกล้ราตรีมาเยือนแย้ม........* และทุกถ้อยคำนั่น..คือลีลาอักษราที่เธอวนวาดเวียนว่ายรจนา ด้วยรักมานานปี ก่อนหน้าที่เราจะพบกันเสียอีก เธอ..ผู้เคียงข้างในจิตวิญญาณแห่งโลกบรรณพิภพ มาอย่างยาวนานจนมิอาจลบเลือนลืม..! เธอ..ผู้พร่ำสอนคอยเตือนให้ผม..รู้ค่าคนค่าคำ รู้ระร่ำรินรดหยาดน้ำใจที่แสนใสงามอย่างไม่มีวันสิ้นสุด รู้รักเมตตาปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์อย่างจริงใจ จริงแท้ด้วยการกระทำใช่เพียงคำพูด... ผมได้มาตามรอยรัก รอยฝัน รอยหวัง ที่เธอ..บอกว่า *คือพินัยกรรม แห่งรักอันแสนงดงามยิ่งใหญ่* และ... ราวกับในเส้นทางสายรอยบุญ ธารโศก ที่โลกหยิบยื่นให้เธออย่างอยุติธรรมนั้น ผม.. ได้พบความมหัศจรรย์ ปาฏิหารย์รักปาฏิหารย์แห่งขวัญ..ฝันฝัน ที่... ทำให้ผม..เชื่อมั่นว่า... ศรัทธาแห่งคุณความดีนั้น จักไม่มีวันทำลายอัญมณีภายใน แห่งดวงใจผู้หญิงเฉกเช่นเธอ... ผู้ทำให้ผมเพ้อถึงพะงันงาม จนถึงยามนี้... และ... ตราบชั่วชีวี..ที่..จักเป็นเช่นนี้ นานเนา นิรันดร์รัก..! .............. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song480.html คำมั่นสัญญา ถึง ม้วยดิน สิ้นฟ้า มหาสมุทร ไม่ สิ้นสุด ความรัก สมัครสมาน แม้ อยู่ใน ใต้หล้า สุธาธาร ขอ พบพาน พิศวาส ไม่คลาดครา แม้น เนื้อเย็น เป็นห้วง มหรรณพ พี่ ขอพบ ศรีสวัสดิ์ เป็นมัจฉา แม้ เป็นบัว ตัวพี่ เป็นภุมรา เชย ผกา โกสุม ปทุมทอง แม้ เป็นถ้ำ อำไพ ใคร่เป็นหงษ์ จะ ร่อนลง สิงสู่ เป็นคู่สอง ขอ ติดตาม ทรามสงวน นวลละออง เป็น คู่ครอง พิศวาส ทุกชาติไป แม้ เป็นถ้ำ อำไพ ใคร่เป็นหงษ์ จะ ร่อนลง สิงสู่ เป็นคู่สอง ขอ ติดตาม ทรามสงวน นวลละออง เป็น คู่ครอง พิศวาส ทุกชาติไป...
คือความหวานแห่งมวลบุปผชาติ พิไลพิลาสเกินคว้าไขว่เกินใจฝัน ดั่งบัวงามกลางบึงต้องแสงจันทร์ ดั่งดอกไม้สวรรค์คลี่บานแย้มแตะแต้มใจ ด้วยแรงบุญหนุนน้อมหลอมรวมจิต สายชีวิตเชื่อมโยงภพภูมิไหน ให้ผูกพันรัดร้อยสร้อยสายใย เป็นโซ่ใจใสงามนิยามรัก สายธาราค่าน้ำใจคือรักแท้ มิผันแปรภาคภูมิแห่งศรีศักดิ์ รักของใครไหนเล่าเฝ้าฟูมฟัก ไออุ่นรักจากชนม์กมลพลี หวัง เจ้าจักเป็นเช่นดวงดอกไม้นิพพานประดับโลก ลบรอยโศกการอยเศร้าหนาวชีพนี้ เป็นธุลีหล้าฝากงามค่าคุณความดี ดั่งอัญมณีหนึ่งในร้อยประดับใจประดับไทย..! วันนี้..เป็นวันที่รู้สึกร้าวรานและรานร้าวเล็กๆ กับความจำเป็นที่ต้องริดกิ่งก้านใบในวิมานดินของฉัน ที่ได้ฝากฝัน ฝากใจทุกคืนวัน... จำปี..ที่ดอกพราวต้นนั้น บัดนี้ก้านกิ่งกำลังตีสายไฟฟ้า กลัวว่าถ้ามีพายุฤดูฝนพัดผ่านมาจะก่อปัญหา จึงจำตัดใจตัดกิ่งทิ้ง ที่ฉันต้องทำท่าราวไม่รู้ไม่เห็น.. แต่กระไรเลย..ที่ดวงใจฉัน.. ราวถูกคมมีดฟาดฟันไปด้วยกับเสียงฉับๆ บนก้านกอ ที่กระแทกกระทั้นให้ ฝันฉันกระเด็นตาม.. ราวไพร...ในบ้านที่ราวเพื่อนยาก ลดรานร้าว ในใจคนช่างฝัน ช่างหวั่นไหว ผู้หญิงที่หวานไหวใจละมุนคนนี้ .. เป็นเพื่อนผู้รู้ใจประโลมใจที่แสนดี ให้ใสเย็นเบิกบานมาช้านานนับสิบปี.. การะเวก..ที่ฉอเลาะพ้อร่วงพราวราวคนขี้น้อยใจ.. ออดอ้อนออเซาะ อวดดอกงามในยามสนธยา บานแฉ่งเหลืองละออหอมไกล คาต้นพราวทั้งปี ไม่มีวันหยุดเสน่ห์ห่างหาย.. เธอเป็นพันธุ์ไม้ไทย ที่มีใบเขียวใสซื่อ ที่ทื่อๆแทงช่อพุ่งตรง ไต่ตามใจจากระแนงข้างล่าง ถึงดาดฟ้ากว้างระเบียงบน.. ที่ฉันนี้ต้องค่อยค่อยดัดประคบประหงม ให้ไต่ตามฝัน เป็นลายแฉล่มแกล้มคลอตา เคลียกระจกบานกว้างให้เผยงาม ให้เขียวสดใสสว่าง เลื้อยพันชูช่อ ละออยามแย้มยล.. ในยามเย็นย่ำ จะพลันเพลินตะลึง กับแม่ดอกพุดซ้อน ซ่อนกลิ่น ราวผู้หญิงที่หวานเสน่ห์ในงามเรียบง่าย น่าเข้าใกล้สัมผัสล้ำลึก ถึงจิตวิญญาณ ที่สะอาดละออรอคนเข้าใจในงามนั้น.. ฉันคิดฝัน ไปไกลในวันนี้ ถ้าเปรียบชีวีฉันเป็นมาลีละออ ฉันจะขอเลือกเป็นดอกใดหนอ..ในวัยวันนี้ ที่ผันผ่านมา... ฉันคิดเอาเอง..ว่าถ้าจะให้เลือก เป็น ก็ขอเป็นเฉกเช่นดังดอกหญ้า ไร้กลิ่น สิ้นเจ้าของ... มีอิสระเสรี ที่จะบานชูช่อล้อลมไกว ในทุ่งกว้าง กับฟ้าคราม เมฆขาว กับเงียบงามกลางใจพสุธา ในราวไพร แม้จะสิ้นไร้ใครเด็ดดมเด็ดดอม.. ก็ขอยอมเพื่อเคียงฝันเคียงธรรมชาติอย่างเสรี ที่จะฝันไกล มีเส้นไหมไยรักถักทอทอด ให้ล้อฝันจนตราบถึงวันสุดท้ายแห่งชีวี..ที่แสนสั้นยิ่งนักแล้ว แล้วในยามนี้..ที่รอนรอนสนธยา กับฟ้ากว้างสีเงินงามเข้มเบื้องบนระเบียง.... ฉันจะทอดตัวนอนหลับตานิ่งนาน ทิ้งเรื่องราวรานร้าวทุกสิ่งที่ผ่านมา ให้ผ่านไป หลอมละลายใจและร่างเป็นหนึ่งเดียวกับสรรพสิ่ง..รายรอบ.. เงี่ยหูฟัง..เสียงนกกา บินกลับรัง จ้อกแจ้กจอแจ.... เหมือนดั่งดวงใจฉันพะว้าพะวังอยากคืนกลับหลังถิ่นทะเลกว้าง.... ไปนอนอ้างว้างดายเดียวรอตะวันตกดิน..ตราบชีวินจะสิ้นเป็นนิรันดร์! ...................
คือสร้อยบุญโซ่กรรมย้ำรอยภักดิ์ นิรันดร์รักคล้องดวงใจสายใยขวัญ สี่ห้องใจเข้าครอบครองปองแบ่งปัน ลิขิตสวรรค์บทเพรงพรหมชะตา ชีวิตเสมอเสมือนเรือดอกไม้ใกล้ชายฝั่ง รอพบหวังสานฝันลืมเหว่ว้า อุ่นเอื้อโอบปรารถนาดีแด่ดวงชีวา คือเมตตาเหนือโลกย์ลบโศกไร้ สอนบทเรียนจากดวงจิตพิชิตรัก ให้ซึ้งประจักษ์จากใจดวงใสใส แก้ววิเศษดั่งรอยตราภพภูมิใจ สว่างไสวนำทางสร้างค่าคน และ.. คือค่ามนุษย์สุดคณานับ ระย้าระยับดั่งมณีดวงกลางเวหน งามผ่องพรายฉายฉานท่ามปวงชน แก้วกมลกระจ่างสว่างมาสว่างไป..เป็นนิรันดร์...! .......................
เราสบตาซึ้งซึ้งวันฟ้าเศร้า ฝนร่วงพราวหนาวนวลใจจนไหวหวั่น ฟ้าเป็นใจหากไยไม่มีวัน เหมือนอาทิตย์กับจันทร์ผันโคจร และคงเป็นเช่นฉะนี้ฤดีขวัญ คงเงียบงันงดงามสัจจสอน อย่าหลงรักภักดิ์ใครเฝ้าอ้อนวอน อย่าออดอ้อนฟ้าดินสิ้นเมตตา ให้คืนฝันวันฝนพ้นผันผ่าน สิ้นร้าวรานสิ้นหมองไหม้ไร้เสน่หา มีดวงใจใสงามท่ามเหว่ว้า ล้างมายาสิ้นภพชาติพิสวาทลวง เหลือดวงใจใสว่างกระจ่างจรัส โชติรัศมิ์ดั่งเดือนเพ็ญสวรรค์สรวง ไร้ตัวตนยึดมั่นเจ้าขวัญดวง เพชรพร่างทรวงดุจโรจน์รัตน์..วัฏฏ์นิรันดร์..!
พรากพะงันงามอีกคราครั้ง ทรุดตัวนั่งทอดตาดูฟ้าสี เมฆนวลพราวราวสายไหมนะคนดี นั่นดูซีนางนวลบินทวนลม หยาดน้ำตาซึมซึ้งพึ่งประจักษ์ ตามรอยรักรอยขวัญจันทร์คลี่ห่ม ตะวันตกดินสิ้นภักดิ์รักเคยตรม ลานลั่นทมบนผาถ้ำย้ำรอยใจ ไม่มีคำพูดใดไหนเทียมเทียบ มาเปรยเปรียบประทับสะเทือนไหว ระหว่างเราตาสบตาซึ้งถึงใจ เจ็บเพียงไหนระทมเหว่ว้าเกินค่าคำ พินัยกรรมแห่งรักจักปรากฏ แสนงามงดยิ่งใหญ่ใครเหยียบย่ำ โอบกอดเธอในอ้อมภักดิ์รักตราจำ ทุกคืนค่ำระร่ำรินรจนา ทุกอักษราฝากคำอธิษฐานจิต ทิพย์ลิขิตพร่างระบายให้สะสา โลกความจริงใครไหนเล่าจักเมตตา แค่มายาวิบากภพ..ลบด้วยลืม..!