7 พฤศจิกายน 2550 19:13 น.

ให้..ดาวเดือน..และ..ดวงดอกไม้..นำทาง..!

พุด

cave_run_lake_pic27.jpgPICT0087.JPG2-1028-ly%20a(1).jpg2-1028-Young,%20Loretta_04.jpg
เส้นทางสายสงบงามเลาะเลียบไปตามดงหญ้าและไผ่กอ
สู่เนินสูงที่ถูกโอบกอดด้วยขุนเขารางเลือนรายรอบอย่างจงรัก
มาอย่างยาวนานหลายศตวรรษแห่งผืนดินมนตรานี้
ที่มีนามว่า*แก่งกระจานธารใส *


ทะเลสาบ..ที่..ยามอาทิตย์อัสดง
ทอทอดกระทบราวสายไหมระยิบระยับ
ที่เคยฝันใฝ่จะได้ชิดใกล้  ในดวงใจตั้งแต่ยามเยาววัย
อย่างภาพในปฏิทินของประเทศเมืองหนาว
ที่ร้านกาแฟประจำหมู่บ้าน ที่ติดตาตรึงใจ
เพราะให้ความรู้สึกสงบเงียบเสียเหลือเกิน


และ..ทุกยามที่วสันต์มาเยือนฤาเดือนแห่งคิมหันต์ฤดู
เส้นทางจะงามมลังเมลืองด้วยบึงบัวดอกบัวริมทาง
ดวงดอกไม้สลับสล้างสีส้ม ชมพู แดง เหลืองทอง ฟ้อนพราย
ออดอ้อน ให้ใจดวงอ่อนหวาน ได้พบความละไมละมุน

ดงไม้เขียวพร่าง..ซ้อนใบละอออ่อน แก่ เหลืองแดงพราว
ให้งดงามราวภาพวาดจากจิตรกรเอกของโลกธรรมชาติ


ยามใบไม้ร่วง ควงพลิ้วลิ่วลอยหล่นมาตามสายลมยามค่ำ
ยิ่งราวย้ำดวงใจให้พบสัจจธรรมแห่งพรากจากยากหนีพ้น
เฉกเดียวกับดวงชีวาชีวิตมวลมนุษย์เราทุกผู้นาม

ทุกครั้ง..ที่พุดไพร เดินทางกลับเข้าไปสู่ไพรกว้าง
ใจมิเคยอ้างว้าง ราวกำลังกลับไปพบเพื่อนเก่า


กระท่อมไม้ไผ่ ของสองสามีภรรยาชาวไร่
ใกล้....
วิมาน..ดาวราย..

ที่ช่างแสนเรียบง่าย 
มีสวนมะนาวที่กำลังห้อยย้อยลูกดกเต็มทุกราวกิ่ง
ค้างถั่วฝักยาว ที่กำลังพราวพรายด้วยฝักเขียวเรียวยาวระย้า
 ไร่กล้วยหอมที่กำลังรอท่าออกเครือ หวีไหว ให้ชื่นใจผู้รดน้ำพรวนดิน
และไหนจะพืชผักสวนครัว ตะไคร้ มะกรูด โหระพา แมงลัก
พริกสวน ที่เก็บกินไม่มีวันหมดสิ้นเพราะเจ้าของคอยปลูกเพิ่มตลอดเวลา


และ..
ยังมีแปลงดอกไม้พื้นบ้านนานาพรรณ
บานชื่น หงอนไก่ ดาวเรือง ที่เหลืองละออ
รอเก็บไปร้อยมาลัยถวายพระ
และ
มาตรแม้นว่าให้ความรู้สึกถึงความยากไร้แห่งวิถี
สำหรับคนที่มีชีวีติดเปลือกตมปมแห่งกิเลสวัตถุหรูหรา
บรรดามีไปตามความคลั่งไคล้ในเทคโนโลยี่
ที่เปลี่ยนรุ่น ออกมาดูดเงินในกระเป๋าให้แบนจนแฟนขอทิ้ง 
เพราะหนี้ล้นพ้นตัว พันธนา


และ..
นี่คือชีวิตของคนที่ด้อยโอกาส
หากทว่า ด้วยสองมือ ด้วยแรงใจ
พวกเขากลับสรรสร้างตำนานยิ่งใหญ่
คืนกลับให้กับแผ่นดิน..ด้วยการทำกินอย่างซื่อสัตย์สุจริต
อย่างรู้คุณ..กตเวทิตาสมดั่งคำว่ารู้บุญคุณแผ่นดินแม่มาตุภูมิ


และ...
ใจดวงดิน ดวงงาม ก็มีค่าน่าปลาบปลื้มปิติใจ
นับอนันต์กว่าใครใคร คนที่กินบ้านกินเมือง...

พุดไพร..ชื่นชมยกย่องด้วยดวงใจคารวะ
และ..ปรารถนาจักจารเรื่องราวรจนาฝากไว้ในผืนหล้า
ถึง...
สาวบ้านป่า บ้านไร่ ที่เธอมีชื่อแสนพราวพรายว่า

*...ดาว..*


เธอ มิใช่ดาวบนฟากฟ้า
หากทว่า
คือดาวที่ร่วงลงมาประดับดิน ประดับใจประดับไทย 
ที่แสนน่าประทับใจ ภาคภูมิใจ...

ให้สมกับคำที่ว่า...

 เราทั้งหล้าคือข้าแห่งดินน้ำลมไฟ..ไฉนเลย.....!
.........................




รอรจนาเรื่อง*ดาวประดับดิน*เมื่อมีไฟยามรำลึกนึกถึงไป
ถึงทุกเรื่องราวแห่งชีวิตจริงที่ยิ่งกว่านวนิยายค่ะ


2-1028-loretta.jpgbamboo-forest.jpg94081-171.jpgYAYA2.gif500px-Bride-Brook-Salt-Marsh-s.jpgnature%20000060.jpg				
6 พฤศจิกายน 2550 23:10 น.

สาว..บ้านไร่..!

พุด

pic107.jpgDSCN2591%20copy.jpgflower-t2.jpg3-1052-jones%209.jpg3-1052-songofbernadette.jpg
ฝันไว้ในจินตนาการ
มินานรอไปเป็นชาวไร่
ปลูกฟักแฟงแตงไทยผลไม้
ได้ใช้ชีวิตติดดิน

อาจมีเพียงกระท่อมไม้ไผ่
ไม่ศิวิไลซ์ไร้สิ้น
วัตถุใดใครใครใฝ่จินต์
ดวงชีวินมิให้ความสำคัญ

จะหว่านดาวเรืองบานชื่นหงอนไก่
รดน้ำด้วยใจเปี่ยมฝัน
ชื่นชมพุดตานบานบุรีมะลิวัลย์
ทานตะวันเต็มทุ่งรับรุ่งอรุโณทัย

ริมบึง..บัวผลิละออจากช่อรัก
มาทายทักแสงทองส่องไสว
เกี่ยวก้อยยอดรักอธิษฐานใจ
ชวนกันไปวัดทำบุญ

ยามค่ำนอนนิ่งดูดาว
รับลมหนาวดวงดอกไม้ไทยหอมกรุ่น
มะลิพุดซ้อนอ้อนฝากกลิ่นละมุน
โลกหยุดหมุนดูวิถีงามนิยามรักแห่งสองเราที่รู้พอ..!




http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song217.html
กระท่อมชาวไร่ 

พี่ นี้ ไม่มีสมบัติพัสถาน 
ที่จะบันดาล วิมาน ห้อง หอ
มีเพียงกระท่อม ไม้ ไผ่ 
ของชาวไร่ มอซอ
สงสาร โปรดรอ พี่เถิด ทูนหัว
กระท่อม น้อย อยู่ริมลำห้วยธารา
ทั่วถิ่น วนา ไร้ความ น่า กลัว
เรไรจำเรียง เสียง ก้อง
แสงจันทร์ส่อง สลัว 
น้องรัก อย่ากลัว ว่าจะขื่นขม
ไม่มี บันไดจะไต่ขึ้นไปสู่สรวง สวรรค์
เปรียบกระต่าย หมายจันทรา
สุดทางรักมัน ได้แต่ระทม
ถ้ามีปีกบิน เหมือนนก พี่จะโผผิน ลอยลม
คว้าน้องมาชม ให้สมอุรา
เป็นดอกฟ้า อยู่กลางทรวงพี่ได้ไหม
จะมอบดวงใจ ไว้เพียง แก้วตา
เอ็นดูพี่เถิด สาย ใจ ขอจงได้ เมตตา
แม้นน้องศรัทธา จงอย่าเดียดฉันท์... 
 


zfing02s.JPG3-1052-jones_jennifer2.jpg3-1052-247404.jpg3-1052-A53.JPG				
6 พฤศจิกายน 2550 11:32 น.

บทกวี..แห่งความสุข..!

พุด

3-1064-Lindablonde.jpg3-1064-Lindabraceletcolor.jpg
ขอรจนาบทกวีแห่งความสุข
ห่างไกลทุกข์แม้นเหน็บหนาวเศร้าแค่ไหน
เพียรรักร้อยสร้อยอักษรางามดวงใจ
สร้างจิตใสมิไหวหวั่นวันวนวน

ทุกสิ่งสำคัญที่ใจใช่ไหนอื่น
จิตจักชื่นฤาช้ำสักกี่หน
หากลบลืมด้วยเกษมบุญมิ่งมงคล
ไร้ตัวตนมิยึดมั่นวันรานใด

วัฏฏเจ็บจากพรากที่รักคอยรอท่า
เพียงเดียวดายเหว่ว้ารู้บ้างไหม
มาลำพังไปลำพังรู้ทำใจ
สว่างใสจิตประภัสร์สอนสัจจธรรม

คือบทกวีพลีมอบให้ด้วยความรัก
หวังเป็นจักหยาดน้ำค้างระรินร่ำ
ดับโลกแล้งทุกแห่งหนราวฝนพรำ
จงสร้างสรรทำความดี
(พลีแด่แผ่นดินแม่มาตุภูมินี้)ก่อนที่จะสายเกิน..!




wedding_06.jpg02.jpgmelbride1.jpgweddingo.jpgwedding-dress1.jpg				
6 พฤศจิกายน 2550 00:34 น.

วิมานดาว..!

พุด

LakeVenusM45_tezel720.jpg800_reboat.jpg3-1050-liz%2049.jpg
คืนหนาว
ฟ้าพร่างพราวดาวนับล้านดั่งม่านฝัน
คืนแสนหวานเกินจารคำมารำพัน
เทพเทวัญเคียงคู่ขวัญปาฎิหารย์ใจ

วิมานดาวรายพรายแสงมาทายทัก
ตราตรึงนักในดวงจิตแสนยิ่งใหญ่
มหัศจรรย์ฝันสวรรค์เมตตาฤาอย่างไร
ให้หอมห้วงหฤทัยประดับทรวง..นิรันดร์..!
.......................



เดียวดาย..ในฤดีกับฤดูลีลาวสันต์ที่ผันผ่าน..
และ..
ปีทองอันแสนหวานก็กำลังจักผันผ่านพ้นไปเช่นเฉกเดียวกัน

ความเงียบงันในหอมห้วงหัวใจยังคงครองใจขวัญ 
ในท่ามทิวาวัน ราตรีฝัน..

หลายเรื่องราวสอนสัจจธรรมทั้งสุขโศก 
ที่โลกหยิบยื่นให้อย่างยากหนีพ้น

การได้พบประสบกับผู้เป็นที่รัก 
การพลัดพรากจากสิ่งที่รักที่แสนยิ่งใหญ่
การได้ชิดใกล้กับนาทีแห่งการสูญเสีย..ที่เกินจักจารพรรณา
ความทุกข์โทมนัสสาหัสสากรรจ์ ในวันที่ดูราวโลกนี้มืดดำไปเสียสิ้น


ช่างทำให้ดวงใจดวงน้อยนิดนี้ ได้มองเห็นธรรม..ชัดขึ้น
ได้ตระหนักซึ้งถึงคำว่ามรณานุสติ ที่คอยเตือนจิตเตือนใจให้
ไม่ประมาท กับคำว่าพลัดพรากจากลาตราบชั่วนิจนิรันดร์...
แล..การที่ได้รับเมตตาแบ่งปัน
การได้รับของขวัญแสนล้ำเลอค่า
จากเทวดาเดินดิน

เปรียบประดุจดั่ง..

วิมานหล้า..วิมานดาว วิมานดาราราย 

ที่หวัง..

จักพร่างพรายแสง....นำทางใจไปตราบชั่วชีวิต..!!






http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song159.html

ราตรีประดับดาว  

ญชื่น ฉ่ำ วิญ-ญา
ตอน นภาแจ่มจันทร์วันเพ็ญ
ลมโชย เยือกเย็น ซาบซึ้งด้วยกลิ่น มา-ลี
เอ๋ย หอม ดอก หอม ดอก รา-ตรี
ฮื้อฮือหื่อฮือฮื้อ
สด สี แต่หอม น่า ชม
ชชื่น ฉ่ำ ดวง เดือน
ฤาแม้นเหมือน นวล น้อง
พี่เอง นั่งมอง นิ่มน้องอย่าข้อง ใจ เลย
เอ๋ย หอม ดอก หอม ดอก    ชมนาด
ฮื้อฮือหื่อฮือฮื้อ
ไม่ฉูด ฉาด แต่น้อง ยั่ว ใจ
ใกล้ รุ่ง แล้วซิน้อง แม่เนื้อทอง พี่ขอลา
แสง ทอง แจ่มฟ้า ขอลาไปก่อน เจ้า เอย
เอ๋ย หอม ดอก หอม ดอก กระดังงา
ฮื้อฮือหื่อฮือฮื้อ
จำใจจำลา ไป เอย
ญภุมริน บินเวียนชม วนภิรมย์ ช่อมาลา
แต่พี่ ร่ำลา จากน้องไกลหน้า ไป เอย
เอ๋ย หอม ดอก หอม ดอก จำ ปี
ฮื้อฮือหื่อฮือฮื้อ
ตรงนี้ พี่เอ๋ย คืน มา... 
 


star600.jpg3-1054-Geneasleep.jpgลดาดวงรวงดาวราย!


ลดาดวง...ถูกปลุกขึ้นมาราวตีสาม
กับนิมิตรแสนแปลก
และ
กับพรายแสงจันทร์สาดส่องสีทองเป็นยองใย
ที่กำลังไล้โลมร่างนวลสว่างกระจ่างแจ่ม


ดวง..งงงัน..กับความงามแห่งจันทร์เหนือขอบฟ้าทางทิศตะวันตก
ที่กำลังลอยดวงเคลียเคล้ามวลหมอกเมฆนวลนุ่มบางเบาแสนงาม
ที่กำลังทอดวงรัศมีทรงกลด..งดงามจับตา..เป็นยิ่งนัก


ดวง..กระพริบตาราวกับฝันไปกับคืนฝันจันทร์เพ็ญเด่นดวง
เมื่อดวงตาและดวงใจดวงบอกว่า
ดวงดารานะฟากฟ้าเบื้องบน
ที่กำลังส่องสุกสกาวพราวพริบนั้น
ดวง..เห็นปรากฎการณ์บางอย่างแสนแปลกดี..แสนแปลกใจ

.
มีดาวสามดวงเรียงราย*ราวเครื่องหมายเพราะฉะนั้น*บนฟากฟ้า
ทำให้ดวงคิดถึงคำใครบางคนที่เคยฝากไว้
ยามชี้ชวนให้ดวงชมดาวบนนภา
 ให้รู้ว่าเป็นดาวอะไร ..


ดาวดวงไหน เป็น ดาวพระพุทธเจ้า 
ดวงไหนเป็นดาวพระธรรม 
หรือว่า เป็นดาวพระสงฆ์ 
แล้วยังกระซิบบอกให้กมลดวงซึ้งสุดทนว่า
ดาวสองดวงที่อยู่กึ่งกลางระหว่างดาว สามดวง
ที่เขาชี้ให้ดูก่อนหน้านี้นั้น 
เป็น..
ดาวของดวงกับดาวของเขาคนที่แสนดี


ที่ในยามนาทีที่ดวงเห็นนั้นทำให้
หัวใจดวงดวงเหน็บหนาวรานร้าว
ราวหัวใจเทพีแห่งความระทม
กลับถูกถมทับด้วยความรู้สึกลึกซึ้งตรึงตรา
อันแสนอ่อนหวานอ่อนโยนอบอุ่น


ราวกับได้รับพลังปิติเกษมจากปาฎิหารย์แห่งรัก
จากใครคนหนึ่งแห่งโพ้นฟ้าไกล
ที่มีสายใยแสนงดงามเชื่อมโยงใยมาในคำนึงนานวัน
ที่ดวงหลงฝันหลงรอมานานปี
และจักเป็นดั่งรักนิรันดร์นี้ที่จะงดงามดังคำมั่นสัญญา


ว่า..
สองดวงใจเราจะรักแผ่นดิน 
รักชาติ ศาสนา และ สถาบันพระมหากษัตริย์
จะรักสรรพชีวิตบนโลกใบนี้ตราบสิ้นลม....
และหากร่างใครแตกดับลับลาไปก่อนก็จะรอนะภพภูมิหน้า
พากันรอรับเคียงประคอง
ไปสู่ทางแห่งงามแห่งความสว่างสงบ
จบด้วยความรักนิรันดร์ในเวิ้งฝันอนันตกาล...ไปตราบชั่วกาลกัปป์กัลป์..



เหมือนโลกนี้มีสองด้านหวานอีกหน
เหมือนทุกข์ทนลาลับมิดับฝัน
เหมือนราตรียังมีดาวพราวนับพัน
เหมือนสวรรค์ลอยลงหล้ามาเยือนใจ

เหมือนภพเก่าเราก่อนอธิษฐานรัก
เหมือนจิตภักดิ์พันผูกแต่ปางไหน
เหมือนหลอมรักหลอมรวมพลังใจ
เหมือนท่องไปในมหานทีรักนิรันดร์

เหมือนขุนเขาหนักแน่นด้วยแผ่นผา
เหมือนศิลาวางทอดให้ยอดขวัญ
เหมือนราตรียังมีแสงงามแห่งจันทร์
เหมือนตะวันส่องสว่างนำทางใจ..

เหมือนดอกไม้หวานหอมยอมผีเสื้อ
เหมือนเหลือเชื่อมหัศจรรย์รักพิสุทธิ์ใส
เหมือนน้ำค้างพรมพร่างกลางกลีบใจ
เหมือนนกไพรผกโผผินบินคู่กัน

เหมือนสายธารระรินไหลคู่ไพรโศก
เหมือนดั่งโลกธรรมทองครองคู่ขวัญ
เหมือนหยาดน้ำอมฤตหยาดสายจากพรายจันทร์
เหมือนเงาฝันเงาใจใฝ่เฝ้ารัก

เหมือนดวงใจเดียวกันในวันนี้
เหมือนความดีฝากไว้ให้ประจักษ์
เหมือนเกิดมาชาตินี้คุ้มค่านัก
เหมือนสายใยรักสายใยธรรมน้อมนำมา

เหมือนรอยบุญรอยธรรมนำรอยรัก
เหมือนสลักตราไว้ให้ห่วงหา
เหมือนผูกพันดั่งคำมั่นคำสัญญา
เหมือนยอดชีวายอดชีวิตสนิทเนา

และ
คนดีนาทีนี้นาทีไหนแม้ไกลร่าง
จะอ้างว้างดายเดียวมิเปลี่ยวเหงา
ด้วยคำรักคำสัญญาระหว่างเรา
เป็นดั่งเงาใจเงาฝันตราบวันตาย

แม้ปราณแยกแตกดับลับแต่ร่าง
จิตกระจ่างพร่างดั่งเพชรคือจุดหมาย
ให้สว่างวางว่างตายก่อนตาย
สองจิตได้รอเคียงกันปันแบ่งบุญหนุนนิพพาน..!

............................



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song100.html
แต่ปางก่อน   

ชรอ คอย เธอมา แสน นาน
ทรมาน วิญญาณ หนักหนา
ระ ทม อยู่ใน อุ รา
แก้วกานดา ฉันปองเธอผู้ เดียว
ญเธอเอย แม้เราห่างกันแสนไกล
ชาย ใด ดวงใจฉันไม่แลเหลียว
รัก เธอ แน่ใจจริงเชียว
รัก เธอ รักเดียว นิรันดร์
ชแม้ มี อุปสรรค ขวาก หนาม
ญขอ ตาม มิยอมพลัดพรากจากกัน
ชจะชาติไหน ไหน ไม่ยอมห่างไกล กัน
ญดวงจิตผูกพัน รักมั่นมีไว้เพียงเธอ
ช-ญคง เป็น รอยบุญมาหนุน นำ
รอย กรรม รอยเกวียนหมุนเปลี่ยนเสมอ
ให้ เรา ได้มา เจอะ เจอ
ฉันและเธอพบกันร่วมสุขสมดังรอคอย

ชแม้ มี อุปสรรค ขวาก หนาม
ญขอ ตาม มิยอมพลัดพรากจากกัน
ชจะชาติไหน ไหน ไม่ยอมห่างไกล กัน
ญดวงจิตผูกพัน รักมั่นมีไว้เพียงเธอ
ช-ญ คง เป็น รอยบุญมา หนุน นำ
รอย กรรม รอยเกวียนหมุนเปลี่ยนเสมอ
ให้ เรา ได้มา เจอะ เจอ
ฉันและเธอพบกันร่วมสุขสมดังรอคอย...

 
 
3-1050-IMAG0000.JPG4-1087-audrey%20bb.jpg				
1 พฤศจิกายน 2550 13:00 น.

เมื่อ..เหมันต์..มาเยือน..!

พุด

3-1068-Veronicaupsidedown.jpgfall_05_m.jpgCave_Run_Lake_Fishing.jpg349.jpg
สนธยา..ฟ้าใกล้ค่ำ
ในเส้นทางสายร่มรื่น..อภิรมย์
ด้วยพรายพวงดวงดอกตะแบกบาน
หาก..
ณ..บัดนี้ ยังดูราวไร้หวานเศร้า ด้วยยังมิใช่ฤดูกาล


สายลมหนาว บางเบาพัดพราย
ละอองหมอกเริ่มหยอกรินทุกถิ่นที่
ดูหม่นมัว สลัวเยียบเย็น

ฟ้าสีเข้มเต็มผืนในยามกลางวัน
ค่อยๆแปรเป็นสีเทาทึมงามขรึมทรงพลัง

ราตรีกาล..จักหนาวเย็นขึ้นอีกไม่ช้านาน
และ..
รอฤดูดวงดอกไม้บาน ที่กำลังจะตามมา

จันทร์..กระจ่าง
หนาวร่าง รับแรงลม
ที่พรมพร่างมาอย่างอ่อนโยน ปลอบประโลม

จุดเทียนหอมวางไว้ในถ้วยแก้วบอบบาง
นั่งนิ่งเงียบ ในท่ามกลางแสงเทียนทอดทอ
มีพระจันทร์ ดอกไม้ และต้นไม้งามละออเป็นเพียงเพื่อน

และ..
เฝ้า..รอ..

เวลา..รุ่งอรุณ อันเย็นชื่น

ให้ตื่นมาเฝ้าดูละอองหมอกโปรย..

พร้อมใบไม้โรยร่วง...ปลิดปลิว....

............

3-1070-AnnSheridancolor.jpg800_reboat.jpgfall-season-in-the-rockies_000.jpg				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด