นานเหลือเกิน... ที่ไม่ได้เอนกายนอนในกระท่อมหลังคาจาก ได้ยินเสียงดุเหว่าแว่วมา... ฉันหลับตาหากได้หอมดอมกลิ่นดวงดอกการเวก ที่..อวลลอยลมมา ไกลโพ้นในจินตนาฝัน ฉันเห็นตัวเองวิ่งระเริงร่า ในท่ามทุ่งกว้าง กับฟ้ากระจ่างสี และ.. มวลหมู่ดวงดอกไม้สุมาลีสล้าง หลากสีสันหลากพรรณ ต่างผันดอกมาแย้มยิ้มพริ้มเพรา รับขวัญฉันอย่างอ่อนหวานงดงาม ฉัน..ไม่ได้หลับไปดอกนะ หากทว่า.. เมื่อใดที่จิตใสใจปรารถนา จะพาดวงจิตน้อยๆไปสถิตทอดที่ไหน ก็ไปได้ไม่ยากเลย ฉัน..คิดว่า..ดวงใจฉัน มีปีกอิสรา.. ที่พร้อมจะพาร่างฉันเหินบิน ไปสู่ทุกแดนดิน ที่ยังคงมีความเป็นธรรมชาติ ทั้งป่าใหญ่ไพรกว้าง ทั้งทุ่งว่างโล่งแลละลิบด้วยรวงทิพย์รวงทอง หรือ.. บึงหนองคลองใส สายธาราระรินไหลอย่างช้าช้า เห็นแม้นกระทั่ง.. ปลาตัวน้อยๆค่อยๆว่ายลอยล่องท่องธารามา ฉันเห็นกระทั่งผีเสื้อนับพัน ที่กระพือปีกพากันบินโฉบอย่างไม่กลัวเกรงผู้ใด อวดปีกสวยใสแสนหวานออกมา ให้เราได้เห็นลีลาวัฏฏวงจรชีวีชีวิต สุดท้ายฉันเห็น... ภาพตัวเองนอนนับดาวอยู่ตรงนอกชาน วิมานดาวราย วิมาน...ที่พราวพรายด้วยดวงดาริกาดารดาษ วิมานบริสุทธิ์สงบสว่างสะอาดแสนพิลาสพิไล เพราะ.. ได้แลเห็นความยิ่งใหญ่แห่ง *สุดแดนดาวสกาวกระจ่าง ด้วยทางช้างเผือก* และ.. นั่นคือโลกเลือกของฉัน.. ที่...จะฝันจะจินตนาการ ด้วยความงดงามแห่งดวงมณีแห่งจิตดวงนี้ ที่พลีพร้อมยอมรับ.. ความเป็นธรรม ธรรมชาติ สัจจธรรม..อันคือพลังแห่งมหัศจรรย์รัก อัน...จักตราไว้ในดวงจิต ตราบจนกว่าชีวิตจะหาไม่...!
เดือนครึ่งดวงลอยค้างฟ้า โลกเหว่ว้าเงียบงันขวัญพบสุข ทุกเรื่องราววันวานแห่งความทุกข์ ไร้รานรุกเข้ามาครองสี่ห้องใจ อาจจะเป็นเพราะจิตว่างกระจ่างแจ่ม ดวงดอกไม้แย้มรายรอบเรือนไสว การเวกเสกสายหวานมารำไร วิมานไพรประโลมฝันวันลำพัง ฟังเสียงธรรมทองก้องเต็มหู จิตรับรู้มนต์นิยามแห่งความขลัง เพิ่มงามเงียบสงบศรัทธาพลัง แล้วก็นั่งนิ่งนิ่งยิ่งล้ำลึก เหมือนไร้ร่างว่างเปล่าในเงาฝน เหมือนกมลผสานธรรมย้ำรู้สึก เหมือนสิ้นกรรมย้ำวนในเนานึก เหมือนรำลึกอดีตที่ผ่านมา..มายาจินต์....!
ฤดูกาลดอกไม้บานในใจก็ผันผ่าน ฤดีหวานก็รานร่วงดั่งดวงบุปผา น้ำผึ้งหวานเคยซ่านซึ้งในแววตา ก็พลอยพาเหลือเพียงเศร้าเหน็บหนาวใจ นี่แหละรักนี่แหละภักดิ์ ซึ้งประจักษ์ดั่งสายน้ำไหล มิเคยย้อนบ่าทวนหวนขึ้นไป มีแต่ไหลลงสู่สัจจธรรมย้ำความจริง สู่มหาสมุทรนิรันดร์ทุกชีพชนม์ ยากจะพ้นอนิจจังทุกสรรพสิ่ง ฝึกพายพาเรือชีวิตรู้ละทิ้ง ลำพังนิ่งถือหางเสือเรือแห่งเรา ระยะทางอาจห่างฝั่งยังไกลลิบ เห็นเพียงทิพย์หาดทรายทองคงมิเหงา เพียรประคองสมาธิปัญญาให้เรือเบา แม้นนานเนานิรันดร์..ก็ฝันไป..ก็ดั้นไป..! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3719.html เรือลำหนึ่ง แหม่ม พัชริดา วัฒนา หากชีวิต เปรียบดังทะเล ฉัน คงคล้าย เป็นเรือ ล่องไป ให้ลมพาพัดไป ไร้ ทิศทาง สุดขอบฟ้า กว้างใหญ่ ใคร รู้ บ้าง สุดท้ายหนทาง จะร้าย หรือดี มีความหวัง ฝั่ง อันแสนไกล เห็น เพียงแสงรำไร อ้างว้าง จะมีใครสักคน หรือ ไม่มี หากคืนไหน ไร้ ดาว เหงา ทุก ที ชีวิตก็อย่างนี้ อยากมี ความหมาย เราคงเป็นดั่งเรือน้อย ลำหนึ่ง ในทะเลแห่งชีวิต กว้างใหญ่ ฟ้า คลื่นลมซัดมา ก็ หวั่น ไหว ในใจมีแต่จุดหมาย คือฝั่ง มันจะไกลสักเพียงไหน ต้องไป แม้ ว่าในหัวใจ ไม่มีใครเลย ฉัน ก็คงเป็นแค่เพียง ผงฝุ่นในสายลม ไม่มี ไม่มีความหมายใด ไม่ มี ใคร มรสุม พัด ผ่าน ทาน ไว้ ได้ ชีวิตวันต่อไป ไม่มีใคร รู้ เราคงเป็นดั่งเรือน้อย ลำหนึ่ง ในทะเลแห่งชีวิต กว้างใหญ่ ฟ้า คลื่นลมซัดมา ก็ หวั่น ไหว ในใจมีแต่จุดหมาย คือฝั่ง มันจะไกลสักเพียงไหน ต้องไป แม้ ว่าในหัวใจ ไม่มีใครเลย เราคงเป็นดั่งเรือน้อย ลำหนึ่ง ในทะเลแห่งชีวิต กว้างใหญ่ ฟ้า คลื่นลมซัดมา ก็ หวั่น ไหว... ..................
รอแสงดาวในฤดีจักพรายพร่าง ยามรุ่งสางรับขวัญฟ้าวันใหม่ เหมือนทิวามีตะวันประดับไพร เหมือนราตรีมีจันทร์อันอำไพดับมืดมน เหมือนชีวีมีทุกข์แลสุขล้น ดั่งกรรมวนมาซ้ำซัดให้สับสน หากพินิจคิดด้วยชอบปลอบกมล จักผ่านพ้นห้วงทดท้อทรมาน ธรรมคือสัจจธรรมเฝ้าพร่ำสอน เลิกหวังวอนเติมจิตชีวิตหวาน รักฤาชังไม่นานช้าเก่ากับกาล พบเพียงรานเพียงร้าวต่างเศร้าใจ ลมหายใจแสนสั้นวันแสนโศก รอลาโลกเลือนร้างรักแค่ไหน ไปลำพังมาลำพังแล้วหวังใด อย่ารอใครมาเคียงข้าง..สร้างเพียงบุญ...! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song2825.html อาจจะเป็นคนนี้ ..ธงไชย เบริด์ ขนนกกับดอกไม้ ผ่านความระทม เกือบจมน้ำตา ช้ำ มานานเท่าไหร่ ถูกทำลาย หมดจนไม่เหลือ อะไร มี เพียงความอ้างว้าง พอมีใครซักคน เดินเข้ามา เป็นความหวัง ครั้งใหม่ ใจ จึงทุ่มเทไป อย่างเลื่อนลอย อย่าง เลื่อน ลอย เผื่อจะเป็น คนนี้ ที่เรา เฝ้าคอยไขว่คว้า ที่เรา คอยมองหา ที่คง ไม่ทำไม่ทำให้เราให้เรา ช้ำ-ใจ อาจจะเป็น คนนี้ คนนี้ ที่ใจ จะไม่ โหดร้าย ไม่โหดร้าย เกินไป หวัง ว่าใจ เขาคงดี พอมีใครซักคน เดินเข้ามา เป็นความหวัง ครั้งใหม่ ใจ จึงทุ่มเทไป อย่างเลื่อนลอย เผื่อจะเป็น คนนี้ ที่เรา เฝ้าคอยไขว่คว้า ที่เรา คอยมองหา ที่คง ไม่ทำไม่ทำให้เราให้เรา ช้ำ-ใจ อาจจะเป็น คนนี้ คนนี้ ที่ใจ จะไม่ โหดร้าย ไม่โหดร้าย เกินไป หวัง ว่าใจ เขาคงดี เผื่อจะเป็น คนนี้ ที่เรา เฝ้าคอยไขว่คว้า ที่เรา คอยมองหา ที่คง ไม่ทำไม่ทำให้เราให้เรา ช้ำ-ใจ อาจจะเป็น คนนี้ คนนี้ ที่ใจ จะไม่ โหดร้าย ไม่โหดร้าย เกินไป หวัง ว่าใจ เขาคงดี เผื่อจะเป็น คนนี้ ที่เรา เฝ้าคอยไขว่คว้า ที่เรา คอยมองหา ที่คง ไม่ทำไม่ทำให้เราให้เรา ช้ำ-ใจ อาจจะเป็น คนนี้ คนนี้ ที่ใจ จะไม่ โหดร้าย ไม่โหดร้าย เกินไป หวัง ว่าใจ เขาคงดี...
วันจะรานคืนจะร้าวเศร้าแค่ไหน มิเคยร้างรมณีย์ใจฝากฝัน วสันต์ปลอยปลิดปลิวสิ้นหวานจันทร์ หากใจขวัญก็มิเคยท้อขอรจนา ฝากหยาดน้ำค้างพิสุทธิ์คำมาพร่ำปลอบ ฝากกระซิบบอกผ่านดวงดอกไม้แม้นเหว่ว้า ฝากมธุรส ร้อยสร้อยแสงดาวในเงาตา ฝากปรารถนาจุดเทียนธรรมคอยนำทาง แม้นแสงเทียนใจในวันนี้ไหววูบวับ ราวจะดับด้วยเดียวดายเหงาอ้างว้าง หากรู้เท่าทันรู้เงียบงันรู้ปล่อยวาง แม้ไร้ร้างร่างใดใจยังพลี ขอฝากดีฝากงามลบเลือนโศก วิปโยคแห่งเพรงพรหมกรรมวิถี ด้วยพลังปาฏิหารย์รักอันมากมี จึ่งพร้อมพลีเสกสร้อยขวัญ สวรรค์วิมาน...แด่เธอ..!