12 กุมภาพันธ์ 2551 23:54 น.
พุด
ราตรีนี้มาสารภาพรักค่ะ
ไม่ได้มาสารภาพว่ารักใคร
ที่เป็นคนเป็นๆที่มีเลือดเนื้อดอกนะคะ
หากมาสารภาพว่าหลงรักธรรมชาติ ทุกสรรพสิ่งเลยค่ะ
เหมือนในหน้าส่วนตัวที่เคยบอกไว้ว่า
*รักธรรม ธรรมชาติ สายธาร หวานดอกไม้
รักสายฝน รักแสงตะเกียง
รักเสียงจากธรรมชาติไพร
รักกระท่อมใบไม้
รักดวงใจนิ่มนวลละเมียดละมุน
รักแสงเทียนอบอุ่นในยามค่ำ
รักตะวันตกดิน
รักทุกสิ่งที่เงียบงามร้างไร้ให้ชีวีงามเงียบ
รักเส้นทางสายธรรมชาติสู่ไพรลึก
รักดำดิ่งล้ำลึกจิตวิญญาณไพร
ภาวนาทุกชาติไป
ให้ได้เกิดมากับงามดวงใจใครเล่ารู้นี้ ที่ติดดิน
และขอรักศรัทธาเทิดทูนมิรู้สิ้น
ในชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ไทย ตราบสิ้นลม!*
และ..
อีกธรรมชาติที่รักคือรักทะเลสาบ
ตั้งแต่เด็กแล้ว
รักฝังใจเลย
ทำไมนะเหรอ ทั้งๆที่เป็นลูกทะเล
เห็นแต่น้ำจรดฟ้า
น้ำทะเลเค็มปิ๊ดปี๋
ที่ดำลงไปทีไรแทบสำลักแสบหูแสบตาไปหมด
อาจจะมีเหตุบันดาลใจ
จากร้านกาแฟประจำหมู่บ้าน
ที่เคยไปเห็นภาพปฏิทิน
ภาพทะเลสาบแถวประเทศทางยุโรป
ที่เจ้าของร้านชาวญวนใส่กรอบแขวนไว้
เป็นภาพงดงามแสนสุขสงบ
เห็นภาพวิถีชีวิตผู้คนที่อาศัยในทุ่งหญ้า
ที่เป็นเนินเขาลดหลั่น ในกระท่อมปีกไม้
หรือไม่ก็กระท่อมหิน ชอบนั่งนิ่งดูนานๆ
ทำให้รู้สึกดื่มด่ำ และประทับอยู่ในความทรงจำ
ที่อยากมีชีวิต ใช้ชีวิตในท่ามกลางสิ่งที่รายล้อมที่ดู
แสนเป็นธรรมชาติธรรมดาชีวิต ไม่มีแสงสีศิวิไลซ์
ไม่มีการปรุงแต่ง
มาวันนี้ ฟ้าดินดลบันดาลให้ได้พบกับใครบางคน
ที่มีที่ดินผืนงามใกล้ทะเลสาบแก่งกระจาน
ที่เคยรจนา เล่าให้ฟังมาแล้วจากเรื่องราวมากมาย
ถึงความงามเงียบ เรียบง่ายของชุมชนชาวบ้าน
และ..
ที่ดินที่นั่นก็เป็นเนินที่มีเทือกภูซ้อนสลับสล้าง
โอบรอบด้านอย่างไม่ให้อ้างว้างเหว่ว้าใจ
ในยามเย็น..
ดวงสุริยาจักทิ้งแสงสวยยามลับฟ้าหลังเทือกเขา
และจะมองเห็นรัศมีพรายพราวสวยราวภาพวาด
จากฝีมือจิตรกรเอกที่ทิ้งสีทีแปรงไว้ให้ใหลหลง
ยามราตรี...
จะมีดาวดวงนับแสนสุกปลั่งจนดูราวเป็นทะเลดาว
วิมานดาวราย ดาราราย
เห็นกระทั่งทางช้างเผือก
และ..
ก็เคยรจนาไว้ในงานหมดแล้ว ใครอยากทราบว่างามอย่างไร
ก็ลองคลิ๊กไปอ่านงานหน้าหลังๆดูนะคะ
ยังจำได้ว่า
วันแรกที่ขับรถเข้าไปนั้นจะมีงูใหญ่มาแผ่แม่เบี้ยชูคอ
กลางถนน ต้อนรับ
จึงได้ไปหลั่งน้ำอธิษฐานจิตในแก่งกระจาน
ว่าจะกลับมาพัฒนาที่ดินผืนงามด้วยความรัก...
ราวกับเราเคยผูกพันกันมาแต่ชาติปางก่อน
อาจจะเคยเป็นเจ้าของ
ได้ครอบครองอาณาจักรแห่งรักเรากับผืนแผ่นดินผืนนี้
ที่แสนมีมนตรา เสียเหลือเกิน..
และนี่คือ..
ความรัก...ความในใจ..
เพียงเสี้ยวหนึ่งนิดน้อยกับคืนค่ำนี้
ที่กำลังฟังบทเพลงสายน้ำรักนิรันดร์บรรเลง
เพื่อ..
กระซิบบอกทุกดวงใจว่า
ชรอย...ด้วยเพรงบุญบุพเพ
จึ่งได้ชักพาเราสองให้ได้มาพบกัน
เพื่อ...
สร้างสรรทำคุณงามความดี
พลีแด่พสุธาทองพสุธาไทนี้ ที่เราแสนรักแลเทิดทูน..!
..............................................
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song774.html
สี่แผ่นดิน
คนมี ชีวิตและกายา
ถือ กำเนิดเกิดมา
เป็นหญิง หรือว่าเป็นชาย
ผู้มี พระคุณอันแสนยิ่งใหญ่
กว่า สิ่งใด ก็คือแผ่นดิน
เป็นแดน ที่ให้ชีวา
พึ่งพา อาศัยและอยู่กิน
คุณใด จะเปรียบแผ่นดิน
เอื้อชีวิน จากวันที่เกิด จนตาย
ยามใด ความทุกข์กรายมาเยือน
ทุกข์ใดเล่าจะเหมือน
ความทุกข์เยือน เรือนกาย
หากเรือน ของเรามีทุกข์ กรายใกล้
สุขอย่างไร อย่างไรตัวเรา
ยามดี เราดีตาม
ในยาม มีทุกข์ควรแบ่งเบา
บุญคุณ ยิ่งใหญ่นานเนาว์
หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน
ยามใด ความทุกข์กรายมาเยือน
ทุกข์ใดเล่าจะเหมือน
ความทุกข์เยือน เรือนกาย
หากเรือน ของเรามีทุกข์ กรายใกล้
สุขอย่างไร อย่างไรตัวเรา
ยามดี เราดีตาม
ในยาม มีทุกข์ควรแบ่งเบา
บุญคุณ ยิ่งใหญ่นานเนาว์
หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน
หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน...
12 กุมภาพันธ์ 2551 11:43 น.
พุด
จำเลยรักเวอร์ชั่น อลิซาเบท เทย์เลอร์เล่น
นี่ยังมิเคยได้ดูเลยครับ..
โสรยาในบทนี้อาจจะเป็นลูกครึ่ง...ไปนิด..แต่ก็งดงาม...
ไม่ทราบพี่พุดลงเล่นด้วยรึเปล่า...นะ.
อรุณสุข 12 ก.พ. 51 - 10:35 IP 203.146.125.30
อ่านคำถามน้องชายหมายตอบคำ
เรื่องรักช้ำรักลวงบ่วงเสน่หา
ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายแสนเหว่ว้า
เพียงธรรมดาโลกโศกปุถุชน
ในชีวิตจริงหญิงคนหนึ่ง
มากเรื่องซึ้งเรื่องเศร้าคราวสับสน
เป็นอดีตให้จำจดสอนกมล
เหนือค่าคนคืออภัยใจปล่อยวาง
อยู่กับดวงใจสวยใสหวาน
ดูดอกไม้บานยามเช้ารับน้ำค้าง
อรุณรุ่งรับสุขใหม่มิอ้างว้าง
ในท่ามกลางโลกสวยด้วยเมตตา
สร้างความดีพลีแด่ทุกดวงจิตที่ชิดใกล้
หวังเพียงหมายสอนสัจจธรรมให้ซึ้งค่า
ลมหายใจแสนสั้นนะขวัญชีวา
สิ้นปรารถนาเพียงสวรรค์ว่างสว่างใจ...ไปนิรันดร์....!
.........................................................
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4.html
จงรัก
โปรด อย่าถาม ว่าฉันเป็นใคร
เมื่อในอดีตและโปรด อย่าถาม
ว่าอดีต ฉันเคย รักใคร
รู้ไว้อย่างเดียว เดี๋ยวนี้รักเธอ
และรักตลอดไป รักมากเพียงไหน
กำหนดวัดได้ เท่าดวงใจฉัน
อย่า เพียรถาม ว่าฉันจะรัก
เธอนานเท่าใดฉันตอบไม่ได้
ว่าฉันจะรัก ชั่วกาล นิรันดร์
เพราะชี วิตฉัน คงไม่ยืนยาว
ไปถึงปานนั้นรู้แต่เพียงฉัน
หมดสิ้นรักเธอเมื่อ ฉันหมดลม
อย่า เพียรถาม ว่าฉันจะรัก
เธอนานเท่าใดฉันตอบไม่ได้
ว่าฉันจะรัก ชั่วกาล นิรันดร์
เพราะชี วิตฉัน คงไม่ยืนยาว
ไปถึงปานนั้นรู้แต่เพียงฉัน
หมดสิ้นรักเธอเมื่อ ฉันหมดลม...
เสี้ยวชีวิตหนึ่งนี้ที่มิใช่นางเอก....!
ไพล...เป็นผู้หญิงธรรมดา ๆ
เพียงโชคดี..ที่ได้เกิดมา..
กับธรรมชาติแสนงามของ เกาะที่งดงาม..
ราว สรวงสวรรค์ นฤมิตร กลางอ่าวไทย....
อายุ 13 ปี ต้องอาศัยเรือ ภาณุรังษี
เรือเดินสมุทร ลำใหญ่ ฝ่าคลื่นลม
ด้วยดวงใจที่ตรอมตรม
จำใจ จำจาก บ้านเกิด เพื่อนเก่า
เพื่อมาเรียนต่อ ที่กรุงเทพ.....
ภาพเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ...
ที่ใจแสนเหว่ว้า ...
นั่งนิ่ง พิงกราบเรือ เดียวดาย ..ยามใกล้สายัณห์
ในวันที่ ฟ้าแสนเศร้า ราวร้องไห้ ร่ำลา....
ทะเลตรงหน้า ที่เคยสวยใส ในใจ
ในความรู้สึก บัดนี้ราวตัดพ้อ....
ไฉนหนอ....มาทอดทิ้ง กันไป...ไกลแสน.....
ความทรงจำ ที่ขมขื่นสุดแสน
และเป็นความแสนเศร้าที่ยิ่งใหญ่
ในใจดวงน้อยนี้ เมื่อนึกย้อนกลับไป ในวันนั้น....
เรือ...ค่อยๆ...วิ่งทิ้งห่าง ......
เกาะแห่งความรัก ความฝัน ความหลัง ที่แสนดี แสนงาม..
ทีละน้อย ทีละน้อย ให้หัวใจละห้อยหา ....
หมู่มวลนกกา...ส่งเสียงร้อง ราวสะเทือนแทน.......
เกาะแสนหวาน มากมีความทรงจำ
ของเด็กหญิงตัวน้อยๆ ค่อยๆเลือนหาย ไปจากสายตา.....
พร้อมๆ กับหยาดน้ำตา พรูพร่าง ไปกับ..วสันตฤดู
ที่แม้สายฝนก็ยัง ครวญคร่ำ พิร่ำพิไร ราวสั่งลา... ..
มองไปทางไหน....แสนว้าเหว่ใจ มีแต่ ทะเล...ทะเล.....
ที่ต้องร่อนเร่ รอนแรม อีกหลายวัน
ราวความฝัน ที่ไม่มีขอบเขต ไร้จุดจบ.....
ห่างจาก...อดีต..ในวัยเยาว์
ที่เคยสดใสสว่าง กระจ่างใจ ไม่มีวันลบเลือน....ลืมเลย........
ชีวิต เริ่มต้นใหม่ ในกรุงเทพ
เมืองหลวง หรือเมืองลวง ให้ดวงใจใครบางคนต้องช้ำชอก.....
ไพล..ทำใจ อย่างไร ก็ไม่เคยนึกชอบ
ที่จะฝังฝากใจ อยู่กับเมืองศิวิไลซ์ นี้....แทน...
บ้านเกิด เกาะแห่งรัก ที่สถิตแนบเนา เนิ่นนาน......
ตั้งใจเรียน พากเพียร จนจบปริญญา
ฟันฝ่าทั้งอุปสรรคการเรียน และชีวิตนี้ที่ฟ้าดินกำหนด
มาให้พานพบ ความรานร้าวใจ
หลายครั้งหลายหน กับใจคนที่ยากจะหยั่งถึง.....
ไม่เป็นไร....ปลอบใจตัว..ถ้าเราเป็นคนดี ...
โลกนี้ ต้องมี....เส้นทาง...ให้เราก้าวเดิน......
ไพล...เป็นแม่พิมพ์ของชาติ นานหลายปี......
และชีวิตนี้ต้องพลิกผัน ให้ต้องเลือก
เดินไปในเส้นทางไปทำงานต่างแดน......
นานหลายปี...กับอาชีพครูที่รัก
ทำให้ทำใจยากนัก เมื่อถึงวันจากลา
ลูกศิษย์นี้ที่เป็นดั่งดวงใจ ..
จำภาพสุดท้าย..ได้อีกแล้ว
ยืนน้ำตาร่วง บนระเบียงของตึกเรียน
ที่เคยเดินขึ้นเดินลง
เพื่อประสิทธิ์ ประสาทวิชา
ให้แก่เยาวชนคนดี
ที่นับจากวันนี้คงไม่มีอีกต่อไปแล้ว....
นะดวงแก้วในใจครู....
ผู้รัก..หวังดี ต่อเธออย่างไม่มีวันสิ้นสุด......
ทุกวันนี้...ไพล..ไม่อยากเขียนถึงช่วงเวลาแสนดี
ที่อยากหวนคืนกลับ....
ไม่อยากสะกิดรอยแผลใจ
ที่แสนเสียดาย คืนฝันวันแสนงามงด หมดจดใจ ..
ที่มิอาจย้อนคืน........
ไพล....เสียใจเพียงว่า
น่าจะได้ สานฝัน..อุดมคตินี้
ที่ยังอยากมอบสิ่งดีๆ ให้แก่เด็กไทย...
ให้มีใจเกินร้อย รักแผ่นดินนี้ และวัฒนธรรมไทย.....
ให้รู้จัก ความละมุน ภายใน ให้ดวงใจมีแต่ความงดงาม......
เพื่อเก็บเกี่ยว...ความดีที่มากมี
ให้กับชีวิตนี้ ที่ได้เกิดมา บนผืนดินแห่งนี้ที่แสนร่มเย็น
เป็นสุข สงบงาม......
มีพระมหากษัตริย์ไทย ธ.ผู้ทรงมากล้น น้ำพระทัย
ใสเย็นดังกระแสธารใจ ที่พร้อมจะรินรด หยาดหยด
ให้แก่ผองไทย ผู้ยากไร้ ได้ดื่มกิน อย่างมิรู้สิ้น
มิรู้ท้อแท้ ยอมแพ้พ่าย ตราบนานนิรันดร์......
ไพล....อยากฝากให้เยาวชน คนดี
รู้คุณค่า รู้รัก สามัคคี กตัญญู รู้ตอบแทน
คืนกลับ แก่แผ่นดินนี้
อย่างคนที่ ไม่เสียทีที่ได้เกิดมาพานพบ ชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์ ที่เป็นยอดมงคลแห่งชีวีของเรานี้
ที่เปรียบดั่งหิ่งห้อยน้อยแสง
ไม่นานวัน ก็สิ้นแสงพลัน ต้องจากลา...
ในวันนี้...
ไพล ยังคิดดี คิดฝัน คิดจินตนาการ...รจนางาน ที่รัก...
แม้จะเป็น ดังหยดน้ำใสสักหยด..
ก็ยังหวังจะให้..เป็นดั่งหยดน้ำค้าง....
ที่พราวพร่างใส ให้เยาวชนไทย ได้ดื่มกิน ดับร้อนรุ่ม....
เพื่อปลอบใจ ปลอบขวัญ เป็นพลังใจ
ให้ก้าวเดิน...ไปสู่.....
โลกแห่งความจริงนี้
ที่ต้องสร้างจากภายใน ให้ดวงใจ..มองโลกนี้ให้เป็น... ให้เห็นงาม.......
...............................................
ด้วยรัก ด้วยใจ ปรารถนาดี จากใจดวงนี้
ที่มอบให้เป็นกำลังใจนิจนิรันดร์นะคะ ..