ลำพังอันเงียบงาม ในท่ามโลกว่ายเวียนวน จิตสงบพบกุศล ดั่งอุบลชูช่อบาน มืดแล้วสว่างสอนสัจจะ ทุกข์ผัสสะให้พ้นผ่าน สร้างความดีทุกวันวาร มิรอนรานกับเพรงกรรม เพียงเม็ดทรายธุลีหล้า เกษมค่าได้พบธรรม เส้นทางบุญได้หนุนนำ ระรินร่ำเพาะบ่มใจ ฝึกจิตสว่างว่าง รู้ปล่อยวางทุกข์เป็นไป หนึ่งแท้แน่เหนือใด อัญมณีภายในโชติตระการ...!
โลกสวยฟ้าใสใจสงบ ค้นพบแดนดินแห่งความฝัน สวรรค์อยู่ที่ใจนิรันดร์ มหัศจรรย์เพียงรู้ทางปล่อยวางใจ ปิดประตูภายนอกพาหลอกหลง ให้พะวงภวังค์หวั่นหวามไหว สุขสงบพบงามเงียบบ้านภายใน ภาวนาไปไม่คิดฟุ้งมุ่งสู่ธรรม สร้างอริยทรัพย์นำจิตสถิตทอด สู่ยอดเกษมบุญทุกเช้าค่ำ หยาดน้ำค้างทิพย์เฝ้าพรมพรำ เลิกรินร่ำน้ำตาซึ้งค่าชีวิต ได้เกิดมาพบทางทองอันผ่องแผ้ว ดั่งดวงแก้วกระจ่างนำทางจิต ปิดประตูอบายเลือกทางทิพย์ หยุดความคิดหยุดทุกข์ได้ใช้พุทโธ... ตื่นมากับวันฟ้าสวยแดดใส ใจดวงสว่าง ฟังธรรมจากวิทยุ.. หลวงพ่อสนอง..วัดสังฆทานธรรม ได้รินร่ำหยาดน้ำค้างทิพย์ให้จารจิบสู่บึ้งใจ ให้ชีวิตได้ลดละความหวั่นไหว ได้เรียนรู้ เข้าใจ ซาบซึ้งว่า.. ทุกข์พายุกรรมพัดผ่านได้ด้วยแรงบุญกุศลจิต วิบากชีวิตใดใครเคยก่อแต่ปางก่อน อย่าอาวรณ์มาคิดนึก ให้รู้สึกหมองหม่นเศร้า ให้เฝ้าตามดูลมหายใจ เจริญสติภาวนา ค้นหาอริยทรัพย์ภายใน ที่เราจักนำพาติดตัวไปได้ คล้ายเตรียมสะเบียงบุญ..อย่างผู้ถึงพร้อม รู้น้อมรับความพรากจาก อย่างไม่ประมาทกับกาลเวลา... สมกับที่ได้เกิดมาได้พบพระรัตนตรัย อันคือทางแก้ว อันยิ่งใหญ่เหนือใดประมาณ..! ................. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song774.html สี่แผ่นดิน คนมี ชีวิตและกายา ถือ กำเนิดเกิดมา เป็นหญิง หรือว่าเป็นชาย ผู้มี พระคุณอันแสนยิ่งใหญ่ กว่า สิ่งใด ก็คือแผ่นดิน เป็นแดน ที่ให้ชีวา พึ่งพา อาศัยและอยู่กิน คุณใด จะเปรียบแผ่นดิน เอื้อชีวิน จากวันที่เกิด จนตาย ยามใด ความทุกข์กรายมาเยือน ทุกข์ใดเล่าจะเหมือน ความทุกข์เยือน เรือนกาย หากเรือน ของเรามีทุกข์ กรายใกล้ สุขอย่างไร อย่างไรตัวเรา ยามดี เราดีตาม ในยาม มีทุกข์ควรแบ่งเบา บุญคุณ ยิ่งใหญ่นานเนาว์ หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน ยามใด ความทุกข์กรายมาเยือน ทุกข์ใดเล่าจะเหมือน ความทุกข์เยือน เรือนกาย หากเรือน ของเรามีทุกข์ กรายใกล้ สุขอย่างไร อย่างไรตัวเรา ยามดี เราดีตาม ในยาม มีทุกข์ควรแบ่งเบา บุญคุณ ยิ่งใหญ่นานเนาว์ หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน...
วิมานดิน.... หอมกรุ่นกลิ่นลั่นทมมายามฟ้าสาง อรุณรุ่งอุ่นอวลนวลสายหมอกเรื่อราง ฟ้าสว่างพร้อมเสียงเพรียกจากพงไพร วิมานดิน... ชื่นชีวินคู่ชีวารับฟ้าใส ดวงดอกไม้หวานผลิบานกลางดวงใจ สว่างไสวเริ่มต้นใหม่รับตะวัน วิมานดิน... คืนสู่ถิ่นเรียวรวงระย้าไขว่คว้าฝัน สงบงามเงียบเรียบง่ายเป็นนิรันดร์ ตราบกาลกัลป์เข่นนี้วิถีไท วิมานดาว... พราวพรายพร่างฟ้าประดับขวัญ กระต่ายน้อยพิงพักในเงาจันทร์ ดั่งสวรรค์ลอยเยือนหล้าใต้ฟ้าไพร... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1933.html วิมานดิน ฝากรักเอาไว้ ฝากไปในแสงดวงดาว ที่ส่องประกายวับวาว วาว อยู่บนฟากฟ้า ให้แสงสุกใส ได้เป็นเสมือนดวงตา คอยส่องมองเธอด้วยแวว ตา แห่งความภักดี เก็บฟ้ามาสาน ถักทอด้วยรักละมุน คอยห่มให้เธอได้อบ อุ่น ก่อนนอนคืนนี้ ให้เสียงใบไม้ ขับกล่อมเป็นเสียงดนตรี คอยกล่อมให้เธอฝันดี ดี ให้เธอเคลิ้มไป เป็น วิมานอยู่บนดิน ให้เธอได้พักพิง พิง และนอนหลับไหล เก็บ ดาว เก็บเดือนมาร้อยมาลัย เก็บหยาดน้ำค้างกลางไพร มาคล้องใจเราไว้รวมกัน ก่อนฟ้าจะสาง ก่อนจันทร์จะร้างแรมไกล ยังอยู่กับเธอข้างเคียง กาย อยู่ในความฝัน ฝากเสียงกระซิบ ฝากไปในสายลมผ่าน ข้ามขอบราตรีที่ยาว นาน ให้เธอฝันดี เป็น วิมานอยู่บนดิน ให้เธอได้พักพิง พิง และนอนหลับไหล เก็บ ดาว เก็บเดือนมาร้อยมาลัย เก็บหยาดน้ำค้างกลางไพร มาคล้องใจเราไว้รวมกัน ก่อนฟ้าจะสาง ก่อนจันทร์จะร้างแรมไกล ยังอยู่กับเธอข้างเคียง กาย อยู่ในความฝัน ฝากเสียงกระซิบ ฝากไปในสายลมผ่าน ข้ามขอบราตรีที่ยาว นาน ให้เธอฝันดี ให้เธอได้อบ อุ่น และนอนฝันดี ให้เธอได้อบ อุ่นอยู่ใน วิมาน...
ให้ผืนทรายกลบร่างพรางว้าเหว่ ฟังเสียงเห่คลื่นลมเฝ้าจูบหิน สงบงามท่ามธรรมแห่งฟ้าดิน แล้วโบยบินลอยเหนือโลกสิ้นโศกลา วิบากวนมากมายเวียนว่ายซ้ำ ให้รินร่ำน้ำตาจนสะสา ชีวิตใดไหนเล่าพ้นมายา ทุกข์ปรารถนาแก้ที่ใจภายในเรา หลับตาเจริญสติภาวนา เพียรค้นหาคำตอบสิ้นความเหงา รอยกรรมรอยเกวียนดุจดั่งเงา เลิกหลงเขลายึดมั่นพันธนา สิ้นสุดทุกข์สุขวิมุติหมาย ทั้งดีร้ายมิหลงวันฝันผวา ให้ดวงใจเงียบงามกัปป์กาลเวลา รู้ซึ้งค่าลมหายใจแสนดีที่พบธรรม...!
ซ้ำซ้ำวนวนทุกข์ทนแท้ แน่แลแน่จำจบจากพรากทุกสิ่ง เพียงพบพานมายาหวานรู้วางนิ่ง จริงกว่าจริงฉากสุดท้ายหมายเหมือนกัน คืนสู่ดินดั่งธุลีชีวีหนึ่ง หลงตราตรึงสิ่งใดประดุจฝัน ละครชีวิตปิดฉากเท่าเทียมกัน เป็นนิรันดร์ทุกผู้นามนิยามคน ทิ้งผูกพันรัดร้อยสร้อยเสน่หา เสียเวลาเสียใจเศร้าสับสน เจริญสติภาวนาค้นหาอัญมณีในใจตน ดับมืดมนในบ่วงมารผลาญพล่าใจ นิ่งนิ่งเฝ้าตามดูรู้ดวงจิต หนึ่งชีวิตนิดน้อยอย่าวูบไหว สงบสยบทุกข์รู้เป็นไป สว่างไสวดั่งดวงมณีประดับหล้าค่าคุ้มคน..!