นอนแลฝนหล่นพราวดั่งดาวร่วง ชะพวงแก้วกลีบเกสรหอม การะเวกปลิดพรายคล้ายฝากตรอม รอคนดอมมาชื่นในคืนเพ็ญ มืดหมองหม่นมัวสลัวเมฆ ฟ้าเสกสอนโศกโลกที่เห็น ฤดูกาลผ่านมากี่เช้าเย็น ก็จะเป็นเช่นนี้ที่รอราน มวลมนุษย์มากมายคล้ายลืมสิ้น หลงถวิลเพียงรสชื่นในคืนหวาน หารู้ไม่ลมหายใจแท้ใช่นาน รอพรากผ่านลำพังสิ้นหวังใด กุมมือกันนะคนดีของชีวิต ทอดสถิตแดนสวรรค์ที่ฝันใฝ่ หลับตาลงแล้วปล่อยวางทั้งร่างใจ งามภายในใสดั่งแก้วไร้สิ้นแล้วสุขมายา..! ที่รัก..น่ะรัก...! จากเนินทุ่งที่แลไกลได้รายรอบ พบภูผาโอบกอดดั่งสวรรค์ มีไร่สัปปะรดละลดหลั่นลาดชัน ในท่ามวันฟ้าสว่างกระจ่างใจ ดงดอกหญ้าระบัดไหวกับสายลม ระงมเสียงนกร้องในดงไผ่ ผีเสื้อแมลงบินว่อนวัฏฏไพร รอดอมเกสรไสวยามบัวบาน มีกระท่อมในฝันนิรันดร์รัก ได้พิงพักดูดวงดอกไม้หวานแสนหวาน เอนกายนอนนับดาวเดือนตรงนอกชาน ฟังเพลงนิทานหิ่งห้อย..พร้อมร้อยมาลัย เป็นมาลัยกลีบบัวมาเรียงร้อย แซมด้วยสร้อยพุดซ้อนอรชรไสว เด็ดมะลิผลิพราวมาบูชาพระรัตนตรัย ฝึกสมาธิใจในปัจจุบันรับขวัญวัน ในห้องพระกรานศิระกราบพระพุทธ จิตพิสุทธิ์ให้พสุธาสิ้นโศกศัลย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้รู้รักสามัคคีกัน พลีชีพอันแสนสั้นสร้างสรรงาม ให้แดนดินพุทธภูมิยังคงอยู่ ดับแล้งไร้คู่แผ่นดินสยาม พระพ่อหลวงดั่งฉัตรเพชรชนทุกนาม วะวาววามดั่งรัศมีรุ้งสุริยา มิ่งมหานทีทองเจ้าพระยา สู่ทุ่งกล้าผลิเรียวรวงภักษา อุดมผลทรัพย์ในดินถิ่นทองธารา หยาดน้ำค้างฟ้าโปรยสอนสัจจธรรม มองสรรพสิ่งจากนิ่งในเนื้อใจแท้ เฝ้าคอยแก้จิตกระจ่างเพาะบ่มร่ำ รู้เมตตารู้ให้สายธารธรรม รอพ้นกรรมที่เวียนวนจนนิรันดร์ เกี่ยวก้อยเธอนะดวงใจมุ่งไปสู่ แดนแห่งรู้แดนแห่งธรรมนะยอดขวัญ มีเรือนรักได้พิงพักได้แบ่งปัน คุ้มค่าขวัญวันได้เกิดมาใต้ฟ้าไทย..ใต้ฟ้าทอง..! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song302.html สายชล.. เหม่อมองดูสาย น้ำ วน เหม่อมองสายชล ที่ไหล ริน เหม่อมองดูนก ผก ผิน บินลับ ไป ยาม เหงา เราถอนใจ บิน ไป ไม่กลับ มา เปล่าเปลี่ยวจริงหนอ หัว ใจ อยากจะรักใคร เศร้าใจทุกครา หมดแรงกำลัง อ่อน ล้า และหลง ทาง เจ็บ นั้น ยังเจ็บไม่จาง อ้าง ว้าง ดังสาย ชล แม้ใจจะเจ็บ เก็บมาคิดคิด อดีต ช่างงามล้ำล้น มิเคยลืม ภาพเราสองคน มิเคยลืม ยังหลอกลวงตน มิเคยลืม ว่าเคยรักเธอ สาย ชล หลั่งรินไหลวน มาพานพบเจอ เหตุการณ์ผ่านไป ยัง เพ้อ พะวงทุกวัน อก เอ๋ย ขมขื่นตื้นตัน จาก กัน หรือฝัน ไป มิเคยลืม ว่าเคยรักเธอ สาย ชล หลั่งรินไหลวน มาพานพบเจอ เหตุการณ์ผ่านไป ยัง เพ้อ พะวงทุกวัน อก เอ๋ย ขมขื่นตื้นตัน จาก กัน หรือฝัน ไป
นวลดอกไม้ชื่นในคืนฝน ฟ้าดลหยาดน้ำทิพย์ให้ชุ่มฉ่ำ พวงพะยอมไพรเริงระบำ ร่ายรำพลีบูชาพสุธาทอง ดินกระซิบคำซึ้งซึ้งถึงนางฟ้า ให้รู้ว่าชนทั้งหล้าลืมสิ้นหมอง ต่อความหวังพลังศรัทธาให้เรืองรอง สานทำนองเพรงบุญหมุนโลกงาม ธรรม ธรรมชาติคู่กัน เป็นนิรันดร์สัจจะอย่ามองข้าม ทะนุถนอมเฝ้าห่วงใยเมตตาตาม ในทุกยามแย้มเยือนคอยเตือนตน ได้เกิดมาบนแผ่นดินนี้ที่เรียกไท คือยิ่งใหญ่เงียบงามกว่าทุกหน แผ่นดินธรรมใต้ร่มรัตน์เกื้อกมล แก้วกุศลพาพบทางวางโศกเป็น....! .........................
วันนี้ฟ้าในฤดีเป็นสีไหน สีไสวสีโศกตามโลกหลอน ฤาสีเดียวสีขาวนิรันดร สีที่สอนให้ปล่อยวางกระจ่างใจ ธรรมชาติสาดสีให้โลกสวย ร่ำรวยสีสันให้ฝันไขว่ เพียงสิ่งเดียวสัจจธรรมในดวงใจ ให้เห็นความเป็นไปธรรมดา วันนี้มองสิฟ้าสีไหน ลมหายใจยังมีให้แลหา หากวันใดถึงวันต้องพรากลา วอนเพียงฟ้าเมตตาอย่าลงฑัณท์ และ..อย่ารอเวลาให้ผันผ่าน ทิวากาลรอดอกธรรมชูช่อขวัญ ผลิบานแย้มประดับจิตนิจนิรันดร์ พบสวรรค์งามไสวไปตราบกาล.....!
คิดถึงแดนดินถิ่นรักทะเลใต้ ดวงดอกไม้ปาริชาติสวรรค์ เคียงทะเลงามอัศจรรย์ นอนเงียบงันลอยคอรอสุริยา ยามพลบโพล้เพล้ น้ำทะเลนวลงามเสียนักหนา ดั่งทองระยิบระยับจับนัยน์ตา เฝ้ารอท่าฟ้าอ้อนอาทิตย์อัสดง นั่นนางนวล เฝ้าบินทวนสอนใจอย่าใหลหลง อิสระเสรีชีพนี้ดำรง ซื่อตรงธำรงขวัญสรรสร้างบุญ หอม หอม ธรรม ธรรมชาติ บริสุทธิ์สะอาดสิ้นวายวุ่น สร้างเนื้อใจงามภายในละไมละมุน เอมเอิบอุ่นโอบเอื้อเหนือกว่าใด หลับตาพาจิตสู่แดนทอง ลอยละล่องเงียบงามท่ามฟ้าใส แดนกระจ่างรู้วางว่างนะดวงใจ ต่อสายใยใต้ใบบุญหมุนโลกงาม...
ปรอยฝนปรายสายประโลมโศก ปลอบโลกสิ้นหมองปองขวัญ คืนนี้ไร้สิ้นน้ำผึ้งจันทร์ มายาวันผันแปรไม่แน่นอน นึกนึกชีวิตนี้น่าหน่ายนัก วิบากภักดิ์ย้อนรอยคอยสอน ชีพชื่นฤาช้ำร้าวรอน อย่าอาวรณ์อดีตอาลัย แท้แล้วชั่ววูบหายวับ นิรันดร์กาลกัปป์อสงไขย เกิดมาตั้งอยู่ดับไป ภพใหม่ยึดมั่นพันธนา ปล่อยวางทั้งทุกข์แลสุข ดั่งวิมุตติมาลีเหนือปรารถนา ชูช่อบานไสวในสายธารธรรมธารา สอนโลกหล้าหนึ่งมณีงามที่ใจ....!