3 เมษายน 2552 22:16 น.
พุด
ถักดอกไม้มาวางในอ้อมตัก
ทายทักทุกดวงใจผู้สิ้นหวัง
เรียนรู้โลกโศกสุขไร้จีรัง
ประดุจดั่งเมฆน้อยลอยลา
ให้อดีตลืมเลือนล่วงลับ
อย่านึกนับห่วงหา
อนาคตอีกนานรอเวลา
ปัจจุบันปรารถนาสิ่งใด
หากถามฉันขอคำตอบ
กระซิบบอกความจริงยิ่งใหญ่
สำหรับจิตขวัญอัญมณีไพร
แท้ไซร้เพียงความเงียบสงบงาม
อยู่กับเดียวดายหมายพบโลก
ที่สอนโศกทุกข์ทนรู้มองข้าม
เพียงว่างเปล่าลบเงากรรมเฝ้าติดตาม
คือนิยามความหมายชีวิตนิจนิรันดร์...!
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song839.html
โอ้ความรักที่ร้าวรานไกล
ดุจสายน้ำไหลผ่านไป
ลงไหลไปแล้วไม่เคยคืน
มา หา
สาย น้ำเชี่ยวโกรกไหล
วกวนแล้วไหล ไป
ไหลไปแล้วไม่กลับมา
คิด เปรียบไปก็คล้ายเหมือนว่า
รักเอยไม่คืนหวนมา
จากลาไปยังหนใด
คิด ถึงเมื่อก่อนเคย
รักฉันเป็นสุขเอย
ไหนเลยจึงต้องจากไกล
คอย เฝ้าคอยคร่ำครวญหวนไห้
รักเอยจากไปแล้วไย
จากไปเหมือนสายน้ำวน
ร้าง ไปร้างไกลสุดหวัง
ล่องลอยไปไกลเหมือนดัง
สู่วังแม่เอยสายชล
ฉัน สิยังคร่ำครวญเพ้อบ่น
ไหว้วอนให้สายน้ำวน
ช่วยดลให้รักฉันคืน
เขา คงไม่กลับมา
หัวใจพร่ำเรียกหา
น้ำตาหลั่งนองกล้ำกลืน
นอนหลับตาต้องผวาตื่น
สายน้ำไม่เคยไหลคืน
ไม่คืนเสียแล้วรักเอย
เขา คงไม่กลับมา
หัวใจพร่ำเพรียกหา
น้ำตาหลั่งนองกล้ำกลืน
นอนหลับตาต้องผวาตื่น
สายน้ำไม่เคยไหลคืน
ไม่คืนเสียแล้วรักเอย
คงไม่คืนเสียแล้วรักเอย
3 เมษายน 2552 21:47 น.
พุด
ฟังเพลงฝนหล่นพราวในยามดึก
ล้ำลึกดายเดียวดื่มด่ำ
ฝากเสียงสายฝนพรำ
กระซิบถามคำถึงดวงใจ
ว่าชีวีชีวิตคิดใดอยู่
เฝ้าตามดูดวงจิตไปถึงไหน
แลภายนอกหลอกหลงลืมโลกภายใน
อาจสายไปกับเวลาใช่ท่ารอ
บัวชีวาผลิช่อละอออ่อน
อรชรเหนือน้ำแล้วสิหนอ
ฤาจมดิ่งยอมเป็นเหยื่อก็เหลือพอ
ฤามิท้อเพียรหาทางสว่างครอง
สำคัญที่บุญหนุนพบทาง
จิตกระจ่างแจ่มจ้าลบลาหมอง
สวรรค์ลอยคอยรับโรจน์เรืองรอง
หากหมายปองต้องสร้างความดีบัญชีบุญ....!
3 เมษายน 2552 12:13 น.
พุด
วิมานนาเรียบง่ายหมายฝากฝัน
ซุ้มลัดดาวัลย์พันพ้อรอหยาดฝน
นั่นดงตาลหวานเดียวดายดั่งชีพชน
กับวันวนโลกนี้ที่ผันแปร
ฟังบทเพลงเรียมขวัญในวันเศร้า
ไทยเหน็บหนาวแตกแยกไยไม่แก้
ให้รู้รักสามัคคีหลอมดวงแด
พบจริงแท้ว่าเรายืนผืนดินเดียว
ติดปีกใจสู่พฤกษ์ไพรพนา
แลเห็นนาเรียวรวงเคยเก็บเกี่ยว
วันนี้หนาสาวบ้านนาทิ้งควายเคียว
มาเปล่าเปลี่ยวในเมืองลวงบ่วงมายา
ดงโสนริมนายืนว้าเหว่
ดอกรักเร่ชูช่อเฝ้ารอท่า
ตะวันชิงพลบสงบงามมนต์ทิวา
นี่คือฟ้าเมืองไทยรอยไถภักดิ์...!
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song223.html
ขวัญเรียม
ชรินทร์ นันทนาคร
เรียมเหลือทนแล้วนั่น ขวัญ ของเรียม
หวนคิดผิดแล้วขมขื่น ฝืน ใจเจียม
เคยโลมเรียม เลียบฝั่ง มาแต่หลัง ยังจำ
คำ ที่ขวัญเคยพรอดเคยพร่ำ
ถ้วนทุกคำยังเรียกยังร่ำเร่าร้องก้องอยู่
แว่ว แว่ว แจ้ว หู ว่าขวัญชู้ เจ้ายังคอย
เรียมเหลือทนแล้วนั่น ขวัญ คงหงอย
หวนคิดคิดแล้วยิ่งเศร้า เหงา ใจคอย
อกเรียมพลอย นึกหน่าย คิดถึงสาย น้ำนอง
คลอง ที่เรียมเคยเที่ยวเคยท่อง
เมื่อเราสองต่างว่ายต่างว่องล่องไล่ไม่เว้น
เช้า สาย บ่าย เย็น ขวัญลงเล่น กับเรียม
เรียมเหลือทนแล้วนั่น ขวัญ คงหงอย
หวนคิดคิดแล้วยิ่งเศร้า เหงา ใจคอย
อกเรียมพลอย นึกหน่าย คิดถึงสาย น้ำนอง
คลอง ที่เรียมเคยเที่ยวเคยท่อง
เมื่อเราสองต่างว่ายต่างว่องล่องไล่ไม่เว้น
เช้า สาย บ่าย เย็น ขวัญลงเล่น กับเรียม...
2 เมษายน 2552 23:16 น.
พุด
หอมดินกลิ่นทุ่งลอยวน
ฟ้าดลเงียบงามอยากถามเอ่ย
กับเรียวรวงระย้าชื่นเชย
คนเคยรักกันผันลา
ชีพชีวีสุนทรีย์แค่ครู่คราว
เรื่องราวรอนรานสะสา
ลมลวงล่อหลอกพันธนา
มายาชีวิตนิจนิรันดร์
บุญบานบอกจิตคิดชอบ
กำกอบเนื้อใจเจ้าจอมขวัญ
วนว่ายเวียนวงเวรวัน
สิ้นฝันเลยใฝ่ไม่ตรม
หอมนวลเมฆขาวพราวฟ้า
ลอยลาปล่อยใจไม่สม
เดียวดายหมายรู้ทิ้งตรม
ระทมทำไมเปล่าดาย...!
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song18.html
แสนแสบ
อกพี่กลัดหนอง พี่หมองดั่งคลองแสนแสบ
เจ็บจำดังหนามยอกแปลบ แปลบ
แสบแสนจะทน
โอ้ว่ากังหัน ทุกวันมันพัดสะบัดวน
อยากจะรู้จิตคน จะหมุนกี่หนต่อวัน
ย่างเดือนสิบสอง ฟากคลองเจิ่งนองน้ำหลั่ง
อยู่ไกลกันคนละฝั่ง ฝั่ง ยังร้องสั่งกัน
สิ้นเดือนสิบสอง น้ำนองแห้งคลองขอดพลัน
สิ้นความรักจากกัน
เหมือนกังหันเปลี่ยนทางลม
แสนแสบ แสบแสนเปรียบแม้นชื่อคลอง
นี่คือโลงทองของเรียม ขวัญ เขาฝากชีพจม
แต่คลองยังช้ำ เหลือไว้แต่น้ำขุ่นตม
พี่จึงช้ำจึงช้ำขื่นขม ขม ตรมเสียกว่าคลอง
เจ้าจากพี่มา เจ้าลืมทุ่งนาฟ้ากว้าง
เจ้าลืมฟากคลองสองฝั่ง ฝั่ง ลืมทั้งทุ่งทอง
จวบจนบัดนี้ มิเห็นมีน้ำเจิ่งนอง
ชื่อว่าแสนแสบคลอง
เหมือนคนหมองต้องแสบแสน
เจ้าจากพี่มา เจ้าลืมทุ่งนาฟ้ากว้าง
เจ้าลืมฟากคลองสองฝั่ง ฝั่ง ลืมทั้งทุ่งทอง
จวบจนบัดนี้ มิเห็นมีน้ำเจิ่งนอง
ชื่อว่าแสนแสบคลอง
เหมือนคนหมองต้องแสบแสน
31 มีนาคม 2552 23:50 น.
พุด
ดวงดอกธรรมผลิช่อรอแสงทอง
ให้เรืองรองงดงามท่ามสับสน
กับโลกนี้มากมีมนุษย์ว่ายวกวน
หลงตัวตนบนเส้นทางห่างรอยบุญ
อธิษฐานเทพเทวาแห่งไพรพฤกษ์
น้อมนำนึกดวงจิตคอยเกื้อหนุน
ให้ชีวิตชีวาละไมละมุน
สองมือหมุนโลกไร้ให้ช้าลง
ใช้มือน้อยถักร้อยสร้อยอักษรา
งามเลอค่าฝากชีวีมิไหลหลง
ให้ชาติศาสน์กษัตริย์ยังดำรง
เทิดธำรงพสุธาล้ำค่าไท
กราบพระพุทธาหัตถาสวรรค์
ให้พุดปันเมตตาน้ำใจใส
ระรินธรรมดั่งน้ำทิพย์จากดวงใจ
ก่อนพรากไกลคืนสู่หล้าพสุธาทอง...!
.................................................
ขอบันทึกพลังบุญปิติเกษม
อันอิ่มเอมงดงามแสนยิ่งใหญ่
ณ วันนี้ที่สาวบ้านนาพุดพัดชาได้รับน้ำค้างใจ
บริสุทธิ์ใสดั่งหยาดฝนพรำระร่ำริน
กี่ปีแล้วละหนอทุกที่รัก
ที่มั่นคงยิ่งนักตราบชีพสิ้น
หวังถักร้อยสร้อยอักษราฝากแผ่นดิน
ด้วยดวงจินต์ดั่งนกไพรใจอิสรา
รักชาติศาสน์กษัตริย์ยิ่งชีวิต
จึ่งลิขิตบทกวีพลีแด่หล้า
รักสายฝนยามพรมพร่างกลางท้องนา
รักข้าวกล้าระย้ารวงดั่งดวงใจ
รักวิถีทุ่งทองในครองฝัน
รักสวรรค์ดิบดินทุกถิ่นไหน
รักดวงดอกไม้รายล้อมให้หอมละไม
รักวิมานไพรวิมานนาฟ้าประทาน
และนี่คือจิตดวงนี้ที่ภูมิภักดิ์
มีเมตตามีรักพลีสร้างสาน
กราบขอบคุณโลกสอนโศกสุขทุกข์ร้าวราน
เพื่อพ้นผ่านพบทางธรรม
นำสู่ความว่างกระจ่างใจไปนิรันดร์....!
...............................
แม่ดวงดอกพุดไพร สาวบ้านนา
ทำงานเขียน รจนางานที่รัก
มานานนักแล้วค่ะ
ในเวบร่มรักเรือนไทย
เรือนทอง แห่งมิ่งมิตรผองเรา
ตราบดินฟ้า(คำของคุณอิม)
ด้วยความรักในงานที่รัก
ที่ ณ วันนี้น้องๆและทุกดวงใจท่านผู้อ่าน
ที่ให้เกียรติ
เข้ามาหยาดน้ำใจรัก
ดั่งหยาดน้ำค้างลงพร่างพรมนวลเนื้อใจ
สาวบ้านนา...พุดพัดชา
ให้ยังคงมีไฟฝันอันละเมียดละมุน
ที่จักยืนหยัด ทำงานที่รัก
บนถนนสายฝันสายดวงดอกไม้งาม
ไปอีกนานเท่านานค่ะ
กับการเพียรพยายาม
การเททุ่มใจทำงาน
มาอย่างซื่อสัตย์ยาวนานนัก
หากนับจำนวนตัวอักษร
ก็เป็นล้านๆตัวค่ะ
ที่คีย์จนนิ้วชี้
มีปัญหาเส้นเอ็น
แทบคลี่ไม่ออกแล้วค่ะ
และ
นับจำนวนพันเรื่องเมื่อรวม
จำนวนท่านผู้อ่านทั้งผ่านตา ผ่านใจ
ที่คลิ๊กเข้ามายิ้มแย้มเยือน
ก็คงมากมายเกินนับนึกเลยค่ะ
ซึ่งนี่คือความภาคภูมิใจ
ปิติเกษมใจ
ความซาบซึ้งใจ
ความรู้สึกแสนยิ่งใหญ่งดงาม
ในชีวิตหนึ่งนี้ที่ได้ทำในสิ่งที่รัก
แม้นจะน้อยค่า
ดั่งธุลีหล้า
ที่อยากฝากความจงรักต่อแผ่นดิน
กตเวทิตาคุณต่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
สามสถาบันอันเป็นที่รักยิ่ง
ที่เทิดไว้เหนือดวงชีวิตแห่งเรา
จิตวิญญาณคนไทย
บนผืนดินแม่มาตุภูมิเดียวกัน
งานพุดไพร สาวบ้านนา
จึ่งเน้นธรรม ธรรมชาติ
บวกความรักที่เรียบง่าย งดงาม
อ่อนหวาน ความเสียสละ
เมตตา การแบ่งปัน
เพื่อสร้างสรร โลกนี้
และอัญมณีจิตให้สว่างไสว
มีเพียงความรักปรารถนาดี
พลีดับโลกแล้งไร้
ก่อนชีวาวายจะสลายลาลับดับไปดั่ง
แสงตะวัน ค่ะ.....
................................
ด้วยหยาดน้ำตาเอ่อซึม
ขอขอบพระคุณด้วยความปิติเกษม
จากดวงใจนักรักรจนา
ที่เพียรพลีทำงานที่รัก
มาอย่างซื่อสัตย์ยาวนานค่ะ
ด้วยรักแสนรักเอยในกมล
จากคนบนถนนสายฝันสายสวรรค์
ดวงดอกไม้งาม นิยามโลกบรรณพิภพค่ะ
.................................
เพลงสุดท้าย..หมายลา..เจ้าดวงดอกไม้...!
สู่ทุ่งกว้างเรืองรองด้วยแสงดาว
ดอกไม้พราวเต็มป่าบานสะพรั่ง
หอมเอยหอมหวานในภวังค์
ธรรมชาติยังงดงามท่ามคืนวัน
หยาดน้ำค้างกลางกลีบเกสรบัว
หมอกหม่นมัวสลัวลางราวภาพฝัน
ดอกราตรีผลิเศร้าลาตะวัน
นั่นแสงจันทร์พูนดวงทอนภา
หนีโลกสับสนวกวนว่าย
นึกหน่ายทางชีวิตเหว่ว้า
ทะเลโลกย์โศกเศร้าหนาวน้ำตา
กาลเวลาเลือนลับกับเปล่าดาย
เจ้านกไพรร้องเพลงอำลาดวงดอกไม้
ไม่หมายพันธนาใดให้สาย
อัญมณีงามกระจ่างสว่างพราย
สุดท้ายพบสวรรค์ว่าง ณ กลางใจ..!
..........................