1 พฤษภาคม 2552 13:25 น.
พุด
ดื่มด่ำเดียวดายหมายรักรอ
ไม่ท้อพ้อใครไม่ไหวหวั่น
อธิษฐานจิตคิดว่าสักวัน
ได้พบใครคนนั้นโอบเอื้อใจ
กับแสนนานกาลเวลาว้าเหว่
ร่อนเร่รอนรานนานแค่ไหน
วันนี้พบแล้วแก้วหฤทัย
ศรัทธาใจผ่านรักร้อยสร้อยอักษรา
ประหนึ่งมิตรชิดใกล้ที่หมายมาด
พิสวาทฤาไม่อย่าไขว่คว้า
เพียงหัวใจเต้นถี่ก่อนนี้มา
ก็คุ้มค่าเกินฝันสวรรค์ดล
ไม่ต้องตั้งคำถามนิยามไหน
ซึ้งเท่าไรใจเรางามกุศล
ความรักคือหยาดน้ำทิพย์ชื่นกมล
ให้พัดวนพร่างพราวราวสายพร...!
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song198.html
ปรารถนา ...ทูล ทองใจ
หากแม้นเลือกเกิด เองได้
คนทุกคนเลือกเกิดอย่างไร
ตามใจเขา ปรารถนา
แต่ตัวฉัน นั้นขอตั้ง สัจจะวาจา
ถึงชาตินี้ ชาติหน้า ปรารถนาเกิดมาใกล้คุณ
หากร้อนผิวกาย ใจระทม
ตัวฉันยอมเลือกเกิดเป็นลม
เฝ้าลูบชมเนื้ออ่อน ละมุน
หากหนาวนัก ขอเอารัก วางไว้เป็นทุน
ขอเกิดมา เป็นผ้าอุ่น
เกิดเป็นหมอนหนุน สำหรับนาง
อยากเกิดมาเป็น สีแดง
แต้มแต่งสองริมฝีปากคุณ
อยากเกิดเป็นแป้งหอมกรุ่น
ลูบไล้เนื้ออุ่น สองปราง
อยากเกิดเป็นสร้อยห้อยคอไว้
อยากเป็นดอกไม้ที่ทัดหู
อยากอยู่ร่วมหอ ไม่ห่าง
จะขอเป็นแหวนสวมก้อย
เป็นกำไรสวมใส่มือน้อย
เกิดเป็นรอยรับบาทของนาง
อยากแนบเนื้อ ขอเป็นเสื้อสวมใส่สรรพางค์
ขอเกิดเป็นหมอนข้าง
เพื่อนางนวลน้อง ได้กอดนอน...
30 เมษายน 2552 16:08 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/board6198.html
ตอบเอยตอบถ้อย..น้องน้อยน้องรัก..พิมญดา
ที่ถามว่า....
*อยากจะรู้เป็นนักกลอนที่ดี..ดีตรงไหนค่ะ.
พลีสสสบอกหน่อยน๊าๆๆ *
พิมญดา
.....................................
พี่พุด เห็นหัวข้อแล้วเข้ามาช้าจัง
สำหรับพี่พุด
คิดว่าตัวเองชอบอ่านหนังสือ
บ้านพี่พุดเป็นเกาะกลางอ่าวไทย
หนังสือที่จะมาถึงให้อ่าน
หายากมาก
เวลาได้อ่านหนังสือพิมพ์สักฉบับ
ดีใจจัง
โชคดี ที่หน้าบ้านพี่พุด
มีครอบครัวหนอนหนังสือ
ทำให้พี่พุดพลอยได้รับอานิสงค์
ดีใจตื่นเต้น
ที่ได้อ่านสกุลไทย
ขวัญเรือน
หัวใจพี่พุดโลดเต้นไปกับนวนิยาย
ที่แสนเรียบง่ายงดงาม
ที่จดจำคือเรื่องที่นางเอก
เป็นสาวชาวไร่ชาวป่า
เพราะ
พี่พุด เกิดมากับธรรมชาติ
ที่สวยมากค่ะ
มีทั้งทะเลท้องทุ่งนา
ป่าเขาลำเนาไพรลำธาร
บ้านคุณตาพี่พุดอยู่บนภูเขา
เสมือนอาณาจักร
เพราะมีที่ดินกว้างใหญ่ราว 30ไร่
ที่เต็มด้วยชะง่อนหินหินและหิน
สลับซับซ้อนซ่อนไปตามดงมะพร้าว
นับร้อยนับพัน
แลลงมาจะแลเห็นทะเลฝัน
น้ำจรดฟ้าสีคราม
และเทือกผาอีกด้าน
จะมีเจดีย์ทองผ่องผุด
โผล่พ้นมาจากดงไม้ใหญ่ออกมารำไรๆ
ให้งามศรัทธายิ่งใหญ่
ในครองใจครองตา
ที่ติดตาตราจำเสียเหลือเกิน
พี่พุด เคยนำภาพฝันวันเยาว์มาถักถ้อยร้อยเรียง
ด้วยความรู้สึกดื่มด่ำล้ำลึกจากเบื้องลึก
แห่งจิตวิญญาณบ้านภายใน
จากใจดวงใสซื่อบริสุทธิ์ของพี่พุด
ไว้ในงานงาม
หลากเรื่องราว
จำไม่ได้แล้วค่ะว่าเรื่องอะไรบ้าง
โลกของเด็กผู้หญิงชนบท
คือความงดงามของธรรมชาติ
บางทีก็แสนเดียวดายดายเดียวนะคะ
ยามเหลียวไปไม่มีใครเลย
ชอบนั่งดูพระอาทิตย์ตกดิน
ใจพี่พุดลึกๆจึงรักความสงบๆ
ภาพภายนอก
ดูราวสาวเปรี้ยว
หากมีจิตวิญญาณภายใน
ที่ดิบเดิมติดดินถวิลไพรมาก
และรักเพียงมีชีวิตสุขสงบสมถะ
พอเพียงเพียงพอ
พี่พุด
ออกจากบ้านเกาะมากับเรือเดินทะเล
ร่อนเร่มาหลายแรมคืน
เห็นเพียงคลื่นกับฟ้า
เพื่อมาศึกษาหาความรู้
หวังจะคืนหลังกลับบ้าน
ไปเป็นครูสอนนักเรียนชนบท
ก็คงงดงามยิ่งใหญ่แล้ว
แต่ชีวิตพลิกผัน
พี่พุดต้องรับราชการที่โรงเรียนมีชื่อเสียง
ใครๆเรียกอาจารย์
แล้วก็ผ่านเลย
ให้ต้องไปเมืองนอก
กลับมาอีกที
ชีวีก็ดลได้ทำสิ่งที่รัก
คือการรู้จักโลกไซเบอร์
เพราะอย่างนี้
ที่พี่พุด เป็นนักอ่าน
บ้านพี่พุดจึงมีหนังสือมากมาย
เป็นสิ่งเดียวที่จิตยังเกาะเกี่ยว
ที่ยังเสียดายมาก
อยากจะสร้างห้องสมุดเก็บไว้
ส่วน
ทรัพย์สินอื่นใดใจไม่ค่อยยึดมั่นถือมั่นแล้วค่ะ
วันคืนล่วงเลยลาพาให้พี่พุด
หลงว่ายเวียนในวงวันบรรณพิภพ
แป้นพิมพ์ รอยยิ้ม
พี่พุด เสกสรรงานมักจะเป็นความเรียง
เพราะพี่พุดเองไม่อยากจำฉันทลักษณ์
และ
ใช้ความรู้สึกเขียน
งานพี่พุดมาจากใจใสใส
คิดอะไรก็เขียนตรง
เรียกว่างานหวานผ่าซาก
ได้ละกระมัง
คำก็เรียบง่ายว่ายวนแสนธรรมดา
เพราะ
คิดว่าคำวิจิตรวิลิศมาหรานั้น
ไว้ให้กวีที่มีพรสวรรค์เขียน
ไว้ประดับหิ้งฝันบรรรณพิภพ
เพราะ
คนธรรมดาสามัญซาบซึ้งยาก
งานพี่พุดจึ่งไม่เน้นว่าจะต้องเลอล้ำคำสูง
เอาว่า
คิดอะไรบอกอย่างนั้น
มาปันแบ่งทัศนคติที่ฤดีดวงนี้
มีต่อโลก..
นี่คือเศษเสี้ยวหัวใจ
ของพี่พุดที่รจนามานับพันเรื่อง
หากจะนับ
ทุกหน้าบทกลอน
ในหน้าส่วนตัว
ทั้งกลอนเก่า ใหม่
เป็นความปิติเกษมภาคภูมิใจ
ที่ได้ใช้ลมหายใจ
ทำในสิ่งที่รัก
และ....
หากดวงตาและดวงใจใสงาม
ยังไม่มืดมน
ก็จะทำต่อไป
ในสิ่งที่เรียกว่าด้วยหัวใจเต็มร้อย
อย่างมั่นคงใสซื่อค่ะน้องรัก
รักน้อง
จากใจ
*นักอยากจะเขียนเพียรฝันค้าง*
อ้างว้างในฤดีทุกฤดูกาล..
มานานเนานิรันดร์......!
และ..
จากใจผู้หญิงที่
รักธรรม ธรรมชาติ สายธาร หวานดอกไม้
รักสายฝน รักแสงตะเกียง
รักเสียงจากธรรมชาติไพร
รักกระท่อมใบไม้
รักดวงใจนิ่มนวลละเมียดละมุน
รักแสงเทียนอบอุ่นในยามค่ำ
รักตะวันตกดิน
รักทุกสิ่งที่เงียบงามร้างไร้
ให้ชีวีงามเงียบ
รักเส้นทางสายธรรมชาติสู่ไพรลึก
รักดำดิ่งล้ำลึกจิตวิญญาณไพร
ภาวนาทุกชาติไป ให้ได้เกิดมา
กับงามดวงใจใครเล่ารู้นี้ที่ติดดิน
และ
ขอรักศรัทธาเทิดทูนมิรู้สิ้น
ในชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ไทย ตราบสิ้นลม!
และ..จากใจสาวบ้านนา
ผู้หญิงธรรมดาธรรมดาที่
รักท้องนาสายธารหวานบึงบัว
รักแสงตะเกียงแสงเทียนสลัว
รักลำเนาไพร
รักดวงใจเจ้าดวงดอกไม้
รักร่ายบทกวี รักดนตรีไพร
รักแมกไม้ไหวกิ่งฝัน
รักสวรรค์ดิบดิน
รักถิ่นสุวรรณภูมิพุทธิ์
รักบริสุทธิ์ในวิถีไทยวิถีไพร
รักใจดวงเงียบงาม
รักโมงยามลำพังร้างไร้
รักกระท่อมไพร
ได้เคียงใกล้ธรรมะ ธรรมชาติ
ได้วาดเวิ้งฝันสวรรค์ทิพยนิรมิต
ได้ฝึกจิตเพียรพลีสิ้นในที่สุด
ได้หยุดยึดมั่นถือมั่นเ
พื่อพ้นพันธนาแห่งทุกทุกข์รัก
อันคือแอกหนักล้าใจ
จักยอมทิ้งไป ไม่แลเหลียว
เดินดายเดียวสู่ร่มธรรม ร่มทอง
สู่ครรลองพระรัตนนิรพาน
ดั่งบัวบานเหนือน้ำ เหนือโลก
โศกสุขสิ้น มิยินยล
มิพะวงพะวังมิหันหลังมา
หากทว่าขอเวลาเพียงเพียรภาวนา
ทุกลมหายใจเพื่อทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ก่อนจะสิ้นสุดทุกอย่างวางทุกสิ่ง
และ
นิทราไปกับความจริง
คือความว่างกระจ่างจิตดั่งอัญมณีไพร
ไปตราบชั่วนิจนิรันดร์...!
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4689.html
ร้อยบุปผา ....สุนารี ราชสีมา
ร้อยบุปผา บานพร้อมพรัก
ร้อยสำนัก ประชันแข่งใจ
มวล ดอก ไม้ พร่างพรายมา พ้อง พาน
ร้อยดอกงาม เด่นตระการ
แย้มบานในดวง ใจ
ชู่ ช่อ ธรรม สง่า งาม ในนาม ศิลปิน
มาสร้าง งาน ศิลป์ ชุบชีวิน มนุษย์ชาติ
สะอาดสดสวย ด้วยบทเพลง แห่งสวรรค์
ให้มาลัย ฝากรัก มอบใจภักดิ์ ร่วมกัน
จุดไฟ ความฝัน พร่างพลัน ประกาย เพลิง
มาเถิด พี่น้อง ร่วม ร้อง เพลงเพื่อ
กลั่นจาก เลือด เนื้อ หยาดเหงื่อ เร่าร้อน
เราจะเร่ง แนวรบ ไม่สยบ อ้อนวอน
เริงระบำ รำฟ้อน ร้อยกรอง กวี กานต์
มาร่วม ใจรัก พร้อม พรักพลีชีวาตม์
ผงาด อาจ หาญ สร้างตำนานตระการฟ้า
แต่งเติม โลกศิลป์ ให้ผ่องพิณ โสภา
ด้วยวิญ ญานท้า ทรนงเทิดคง ธรรม
ร้อยบุปผา บานพร้อมพรัก
ร้อยสำนักประชันแข่งใจ
มวล ดอก ไม้ พร่างพรายมา พ้อง พาน
ร้อยดอกงาม เด่นตระการ
แย้มบานในดวง ใจ
ชู่ ช่อ ธรรม สง่างาม ในนาม ศิลปิน
30 เมษายน 2552 13:26 น.
พุด
อ่านประกอบเพลง
คืนอำลา
http://www.imeem.com/centuryboy/music/Q8035CC3/wav/
คืนอำลาวันที่ฟ้าสีโศก
ลืมสิ้นโลกมีเพียงแค่เราสอง
ฟ้าเป็นใจจันทรางามเรืองรอง
เธอตระกองกอดฉันไว้ให้สัญญา
สัจจะคำอธิษฐานรักจักทะนุถนอม
จะเห่กล่อมลบเลือนความเหว่ว้า
จะคงมั่นภักดิ์ขวัญดั่งดวงตา
คืนอำลากี่คราครั้งยังฝังใจ
กาลเวลาพรากลาน้ำผึ้งหวาน
แค่ให้จารจิบพอหวามไหว
วิบากกรรมซ้ำวนจำจากไกล
เพียงเสียใจกับเวลาไร้ค่าภักดิ์
คืนคำลานาทีนี้อย่าพบหน้า
ให้สะสาสิ้นแล้วซึ้งประจักษ์
รักเพียงลมมายาไร้ค่านัก
หน้าพระพุทธพักตร์ลูกปวารณาขอลาไกล...!
30 เมษายน 2552 11:56 น.
พุด
ความเสียใจไม่นานก็ผ่านพ้น
ความสับสนไม่นานก็ผ่านผัน
ความทุกข์ทนวนเวียนก็เช่นนั้น
ความรักนิรันดร์ไม่มีแท้ที่จริง
มาลำพังไปลำพังสัจจสอน
ทุกฉากตอนวิบากกรรมนำทุกสิ่ง
อย่าคาดหวังสิ่งใดทำใจนิ่ง
ปล่อยทุกข์ทิ้งอยู่กับว่างสร้างเพียงบุญ
หลับตาเห็นแก้วแวววะวับณ กลางใจ
สว่างไสวพร่างพราวช้าช้าหมุน
เรากำหนดให้แตกกระจายในกายคุณ
ละไมละมุนใสพรายดั่งสายน้ำค้าง
นี่คือจิตดวงใสใจประภัสสร
ทิ้งอาวรณ์อาลัยพบฟ้าสาง
รอแสงทองทาทาบเริ่มรุ่งราง
ลบเลือนลางทางชีวิตต่อแต่นี้....!