17 กรกฎาคม 2546 13:21 น.
พุด
ผม....รัก....คุณ
ผม....รักคุณ....ด้วยจิตวิญญาณ....เป็นคนแรก และ ไม่สัญญาว่า..จะรักคุณเป็นคนสุดท้าย
ผม....ไม่สัญญาด้วยคำพูดใดใด เพราะผมมิอาจจะล่วงรู้ กำหนดของโชคชะตาฟ้าดินได้
ผม....รู้เพียงว่า...
ผม....รักคุณ วันนี้ เวลานี้ นาทีแห่งลมหายใจเข้าออกนี้
ผม....รักคุณ โดยไม่รู้ จะอีกกี่วัน กี่เดือน กี่ปี กี่ภพ กี่ชาติ ว่านานสักเพียงใดที่สายสวาทจะสิ้นสุด แต่...ทุกนาทีที่ได้รักคุณ ผมรู้เพียงว่า...
คุณคือพลังแห่งลมหายใจ ของผม ต่อชีวิตให้ยืนยาว
มองโลกและทุกสรรพสิ่ง..แสนสดชื่น รื่นเริงใจมีชีวิตชีวา ตลอดมาทุกคืนวัน...
ผม....รักคุณ...คุณคือบทเรียนรัก บทแรกในชีวิตหนุ่มของผม..
ผม....รักคุณ..และพร้อมที่จะรับบทเรียนทุกบท..ที่คุณมอบให้ไม่ว่าจะสุขสม เปรมปรีย์ นรก..หรือสวรรค์เศร้าแสนเศร้า..หรือรานร้าวใจสิ้นดี ด้วยใจดวงนี้ที่พลีสิ้นแล้ว
ผม....รักคุณ..และ..มิมีวัน จะหมดสิ้นรักคุณ..เพียงอาจจะผันแปรไปตามที่คุณเลือกตัดสินใจเอง..
ผม....รักคุณ..และยินดีรับคำพิพากษารักจากคุณ โดยไม่อุทธรณ์ ใดใดทั้งสิ้น
ผม....รักคุณ..แม้คุณอาจจะเป็นเพียงแค่ความทรงจำอันงดงามหวานหอม ที่ผมไม่มีสิทธิ์จับต้องลองลิ้มชิมเชย แม้ใจจะต้องการสักเพียงใด
ผม....รักคุณ...โดยไม่มีข้อแม้ โดยไม่มีเงื่อนไข..และข้อต่อรอง..ใดใด
ผม....รักคุณ ...เพราะผมรักคุณ..
ผม....รักคุณทั้งตัวของคุณและจิตวิญญาณที่เป็นชีวิตคุณ...
รัก....เส้นผมงามราวเส้นไหม
รัก....ริมฝีปากนุ่มละมุนราวกลีบดอกไม้
รัก..รอยยิ้มพริ้มเพรา สว่างตา กระจ่างใจ
รัก....เรือนร่าง..ที่เป็นคุณ..ของคุณ..
รัก....ลีลา ท่าทาง รักเสียงหัวเราะ
รัก....และรักทุกอณู เนื้อนาง เนื้อใน ของคุณ
รัก....ใจดวงงาม รักความดี รักทัศนคติที่มีต่อโลกและต่อเพื่อนมนุษย์ของคุณ
รักและรักและรักทุกสิ่งที่เป็นคุณ..
ผมรักคุณ....และอยากบอกคุณว่า....
ถึงโลกกว้างใหญ่ ผมก็ไปไม่พ้น
สุดแผ่นดิน สิ้นกระแสชล ไม่พ้นคุณ
ทุกลมหายใจ ทุกอุทัยโลกหมุน
ต้องด้านหน้า กลับมาหาคุณ โปรดจุนเจือ
เพราะ..รักคุณ เหลือดี สุดจะหนีรักแรมไกล
หนีใจตน พ้นไปเมื่อไหร่ ทุกลมหายใจ ใฝ่คะนึงถึงคุณ
เห็นใจผมด้วย นึกว่าช่วยเกื้อหนุน
ต้องซมซาน กลับมาหาคุณ โปรดจุนเจือ
17 กรกฎาคม 2546 10:24 น.
พุด
ฉันนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือ ..........
ตรงหน้า..ค่ำคืนนี้มีดอกเล็บมือนาง เต็มโถแก้ว
บานสวยสามสีแข่งกันแดง ชมพู และขาวนวล
เหนือขึ้นไปเป็นบอนกระดาษ
ที่มาวันนี้แผ่ก้านใบโชว์เขียวใสละออ
กลิ่นตะไคร้ผง..หอมอวลแกล้มมากับสายลมเย็น
กับกลิ่นธรรมชาติงาม
ฉันมองตั๊กแตน..สองตัวที่สานด้วยใบตาล
ที่ล้อลมอยู่ตรงหน้า ที่ฉันนำมาเสียบแขวนไว้
กับกิ่งก้านบอนให้กวัดแกว่งไปตามแรงลม..
เป็นฝีมือละอียดละออ ของหนุ่มน้อยชนบท
ที่ดวงตาใสซื่อ เว้าวอน ให้ฉันช่วยซื้อมาสักสองตัว.
ตอนที่ฉันแวะทานข้าวที่ชะอำ...
ด้วยคำวอน...
ผมจะหาตังค์ซื้อกระเป๋าสักใบ
ใบนี้มันขาดแล้วขาดอีก เขาชี้ไปที่..
กระเป๋าเก่าๆที่ขาดกระรุ่งกระริ่ง
ที่สะพายอยู่บนบ่าไว้เก็บข้าวของ
ฉันเบือนหน้าหนีด้วยสะเทือนใจ..
เพราะสิ่งที่ตามมาในคลองตาที่ฉันเห็น
มิใช่เพียงกระเป๋าขาดๆเพียงนั้น
แต่ยังเสื้อผ้าที่..เขา..สวมใส่อีกเล่า..
ก็เก่าแสนเก่าคร่ำคร่าดำปี๋ขาดพอกัน
โลกหนอโลก..หลุยส์วิตตองหนอหลุยส์วิตต๊อง
ที่สาวๆไฮโซซื้อกันใบละหมื่นละพัน
ฉันสัญญา..สัญญากับใจตัวเองนาทีนั้นว่า..
ฉันจะกลับไปที่นั่น ร้านนั้นอีกครั้งครา
เพื่อจะหากระเป๋าใบใหม่ไปให้
หวังว่า..เขา..คงยังอยากได้อยู่นะ
อีกไม่ช้านาน..
และจะขอซื้องาน งามฝีมือประณีต
ตั๊กแตนสานสวยมาอีกสัก10ตัว
ที่เขาใช้ สมองใสซื่อใช้มือแสนดีที่ซื่อสัตย์สุจริตถักทอ.
ด้วยดวงใจ..งดงาม
ฉันจะนำมาแขวนเตือนใจ..นี้.
เพื่อบอกว่าความพอ..ความดีมันอยู่ตรงนี้
ที่สมองด้านขวาและหน้าอกข้างซ้ายนี้ที่มีใจดวงเดิมดวงดี
ที่คิดเป็นเห็นงามง่าย ใกล้ตัว ใช่อื่นไกล ใช่ไหมคนดีทุกดวงใจของพุดพัดชา
17 กรกฎาคม 2546 01:40 น.
พุด
ขุมปัญญาในอณูของดอกไม้
เป็นมนต์ร่ายระบำรอผีเสื้อ
ขุมปัญญาที่ธรรมชาติโอบเอื้อเฟื้อ
คือเหลือเชื่อมหัศจรรย์รักผลักดันมา..
โลกหมุนไปมีธรรมชาติมีทุกสิ่ง
จักรวาลมีสิ่งลี้ลับให้ค้นหา
ไยดวงจันทร์ถึงโคจรรอบโลกทุกวันมา
ไยมนุษย์ต้องเหว่ว้าอาวรณ์ออดอ้อนใจ
เพราะคือมหัศจรรย์รักในโลกนี้
ให้มีดีมีร้ายหรือไฉน
ให้เผ่าพันธุ์มนุษย์สืบทอดไป
เป็นบ่วงใจบ่วงกรรมย้ำโลกเรา
ตัดบ่วงใจตัดเยื่อใยสิ้นสวาท
หมดสิ้นชาติหมดสิ้นกรรมใจเลิกเขลา
ไม่หมุนวนหมุนเวียนใช้กรรมเก่า
ให้ใจเราว่างว่างวางเฉย..เลิกรักใคร!
17 กรกฎาคม 2546 01:27 น.
พุด
ฟ้ามืด..แต่พรายพราวด้วยดาวพราย
ลมดายเดียวพัดเปลี่ยวเหงา
เดินทอดน่องแหงนมองจันทร์คอยตามเรา
เหมือนเป็นเงา..พริบพราวเฝ้าปลอบใจ..
เอนร่างนอนนับดาวกลางทุ่งหญ้า
หอมละออดอกไม้ป่าจนหวามไหว
พสุธา..ที่ข้ารักเคยพักใจ
ยามนี้ไกลอยู่ไหนหนา..ฟ้าตอบที..
ฟ้ากว้างเมินหนีหน้าคนว้าเหว่
อย่าหลงเล่ห์คำลวงให้คิดหนี
ฟ้ารู้เห็น..ยอดดวงใจ..ไม่ไยดี
เสียเวลาที่เพ้อฝันให้หวั่นใจ...
บอกกับฟ้า..อย่าตอกย้ำให้ซ้ำเจ็บ
ใจหนาวเหน็บพอแล้วกับหวั่นไหว
แค่สร้างพระเอกในฝันไว้ปลอบใจ
รู้บ้างไหม?เขียนด้วยใจจบด้วยเศร้า..ให้พระเอกขี่ม้าขาว..พร้อมจากจร!
17 กรกฎาคม 2546 01:07 น.
พุด
ดอกเอ๋ย ดอกโศก..
วิปโยคแสนเศร้าหมดสิ้นหวัง
ตะวันจ้าส่องนำทางเป็นพลัง
ตะวันหวังใจดวงนี้แตกดับไป..
น้ำเอ๋ย น้ำตา..
ท่วมใจข้าวันนี้รู้บ้างไหม
ทุกข์ท่วมท้นสิ้นอกอุ่นเคยปลอบใจ
โอ้ไฉน..รีบลาลับกับตะวัน...
กี่เอ๋ย กี่ภพ..
ขอได้พบได้เกิดเป็นคู่ขวัญ
อย่าบุญน้อยเหมือนชาตินี้ต้องจากกัน
ฝันแค่ฝันใจดวงนี้ที่ตรอมตรม..
ดวงเอ๋ย ดวงใจ...
รู้บ้างไหมใจดวงนี้แสนขื่นขม
รอและรอรักและรักจนระทม
ฝากสายลมห่มร่างรักถักทอใจ..
มะลิเอ๋ย..มะลิลา..
ขวัญรู้ค่ารักเธอเกินขานไข
เกิดชาติหน้าได้เคียงใกล้นะดวงใจ
อย่าหวั่นไหวเหมือนชาตินี้ที่พรากกัน
ดอกเอ๋ย ดอกลั่นทม..
ตรอมตรม ช้ำชอกจนเสียขวัญ
ดอกโศกบานระทมสิ้นรักกัน
ดอกเศร้าพลันพลัดพรากจากชั่วกาล..
ดอกเอ๋ย ดอกรัก
มาทายทักฝากเจ็บแล้วผันผ่าน
ทิ้งดอกโศกคาต้นเหลือร้าวราน
ดอกลาบาน..ชั่วกับป์กัลป์..ขวัญสัญญา