21 กรกฎาคม 2546 09:20 น.

พาหัวใจไปร้องไห้กับทะเล!

พุด


url=http://www.sansuk.com/musicroom/song09.html 
 พาหัวใจไปร้องไห้กับทะเล!..

มองทะเลชะอำยามเย็น เป็นทะเลโศก 
ราวโลกกำลังใกล้ถึงเวลาแหลกสลายลง..... 

ท้องฟ้าหมองหม่น อมเทาทึม แตะแต้ม 
สีส้มขลิบทอง มองเป็นช่อชั้น ฝันซ่อนเร้น เฉกเช่นวิมานหมอก...
ที่นางฟ้าตรมตรอมน้ำตา มิกล้าเผยหน้าต่างเมฆ มาทายทัก
กับตะวันสีทอง..อ่อนอุ่นเคยคุ้นใจก่อนจากลา....... 

ลืมฝันลืมคืน ลืมเพื่อนใจ. ......... 
ลืมวันร่ำลาอ้อยอิ่งทิ้งแสงสวย..ฝันฝากใจ.. 
ว่าจะได้พบกันใหม่ในวันพรุ่งอรุณรุ่ง..... ตลอดไป นานนิรันดร์.....  

ฟองคลื่น..ยอดขาวราวไล้ด้วยฟองเมฆ 
ระลอกแล้วระลอกเล่าเคลียเคล้าซัดฝั่ง ถาโถมตามติด 
ทั้งอ่อนโยน เร่าร้อน อ่อนหวาน ซาบซ่านประสานรับซ่าซ่า 
กระแทกกระทั้นราวเสียงดนตรี สอดสมกลมกลืน 
ม้วนตัวกลืนกันเป็นหนึ่งเดียว 

ก่อนสลายคลายตัวอย่างเหนื่อยอ่อน 
ซ่านสุขเศร้าซัดสาด..กับหาดทราย...มิรอรา....  

หาดกว้างสุดสายตา ไร้ร้างราผู้คน 
ด้วยลมแรงพัดไกว ต้องสนใบซู่ซู่ หวิวหวิว ส่ายส่ายไหว ไปมา 
ราวจะหักโค่นลง....... 

ทะเล....เดินทอดน่องช้าช้า ลมแรงปะทะหน้า 
จนผมปลิวสยาย ยุ่งเหยิง ผ้าผืนบางลายดอกไม้รัดร่าง 
เรียวขาตามแรงลม เห็นกลมกลึง..ยามย่างเท้า...  
รอยเท้าบนผืนทราย..มีรอยเท้า..ทะเล..ย่ำดายเดียว 

ทรายสะอาดราวถูกกวาดไว้เรียบงาม.....  
มองทะเลไกล ไร้ขอบเขตเส้นตา 
โค้งฟ้า โอบกอด ผืนน้ำ อ้อยอิ่ง ประโลม...ไร้เกาะแก่ง..

ทะเลแถวนี้... ไม่เหมือนพะงันกับสมุยที่เคียงคู่กันฉันท์คู่รัก
 คอยกวักไกวใกล้แค่เอื้อม 
และสีทะเลไม่สวย มรกตน้ำงามอย่างไข่มุกกลางอ่าวไทย 
และอย่างที่เกาะสวาทหาดสวรรค์ 
บ้านเกิดเมืองฝันของทะเลที่เติบโตมา...... 

ทะเล..ลูกทะเล ไม่เคยว้าเหว่ใจ 
ยามได้กลับมาพาใจสัมผัสเพื่อนรัก 
แม้บางครั้งจะมานั่งถวิลหาและ 
รำพึงรำพันฝากฝันฝากใจและร้องไห้ไปกับทะเล 
ที่ครวญคร่ำ..ราวรู้ใจ...เพื่อนเก่าแสนดี 
พร้อมที่จะรอรับการกลับมาทุกนาที... . มานานเนา. .

และด้วยใจที่เป็นหนึ่งเดียวรวมกันมาตั้งแต่เยาว์วัย 
ในคลองฝันนับจนถึงวันที่เติบใหญ่ในวันนี้.. 
ที่ยังสถิตที่กลางใจให้โหยหา......  

ทะเล...เดินย่ำเท้าไปเรื่อยเรื่อย เหนื่อยใจก็หยุดพัก 
ใต้กิ่งสนวับแวมริ้วลายใบบัง 

เอนอิงพิงหลัง แล้วหลับตา ปล่อยฝันระทม 
มองเหม่อทะเลตรงหน้าที่เอาแต่พากันร่ำไห้.... 

 โลกหนอโลก ไยต้องโศกกันนัก มิพักพึ่งใจ 
ไฉนได้นานเลย.. เสียงร้องของนกกา พากันบินกลับรัง ระงมว่อน... 

ทำให้ภวังค์ลื่นไหลไปกับไกลลิบ..
 ทะเลเอนตัวลงนอนคลุกทรายให้
 แตะแต้มร่างประโลม นุ่มนวล เนียนไล้
ราวกากเพชรพราวขับผิวขาวให้ละมุน นุ่มดั่งสีงาช้าง...
งามจนน่าตะลึง......หลง.... 

แล้วไย..เล่า....หนอ! 
ทรายติดผมปลิดปลิวเคลียไคล้แก้ม แต้มระยิบ 
ไร้มือใครมาไลมไล้ให้อย่างละมุนมือ ละไมหวามไปถึงใจ. .
จนต้องเอามาแนบแก้มด้วยรักล้นใจในอ่อนโยน....
อย่างสัญญา ที่ผ่านมาแต่หนหลัง

ยามใครคนหนึ่ง เคยฝังฝากใจซ่อนซึ้งสุข....
ลาลับดับสิ้นแล้ว ในยามนี้  

ไม่มีน้ำตา..รินหวานผ่านปลายตา เฉกเช่นเคย เหมือนก่อน 
ปล่อยให้ไหลย้อนคืนกลับสู่ใจ 
อย่างผู้หญิง..ทรนง 
ที่จะไม่มีวันมีน้ำตาอีกต่อไป.. ในวันนี้ 

ขอสัญญา...กับฟ้าดิน กับเงียบงาม กับทะเล..เพื่อนตาย..
ในยามค่ำ ย่ำสนธยา...  เผลอราวฝันไป..

จนตะวันใกล้ค่ำ ทะเล..ย่ำเท้ากลับ.... 
 
ดังภาพฝัน ยามอาทิตย์ใกล้ลาลับ .....
แสงหวานเศร้าสีทอง จับร่างงาม..... 
เดินดายเดียว กับลมแรง กับฟ้ากว้าง 
กับหาดทรายลิบตา กับดวงดาราสุกสว่าง...กลางฟ้ามืด.... 

เร่งฝีเท้า ทุกก้าวย่าง ฝากรอยไว้ ให้จำจด 
เพื่อให้คลื่นลบรอย ในวันพรุ่ง...รอรับอรุณงาม.....
อีกคราครั้งนะดวงใจ......  .................. 



เมื่ออยู่ริมฝั่งชล 
ฉันยลทุกยามเย็น 
พักใน ร่มเงาไม้เอน 
ฉันมองเห็นนกบินกลับรัง
ตะวันใกล้จะลับแล้ว 
เห็นเรือแจวอยู่ริมฝั่ง 
เฝ้าแต่ครวญ แต่ครวญหา น้ำตาหลั่ง 
จึงร้องสั่งอาลัย
* เฝ้าแต่ครวญสั่งคำ 
แม้เรือลอยรำไป 
พบคนที่เคยซึ้งใจ 
ขอเรือนำเธอมาให้ที
** ตะวันใกล้จมแผ่นน้ำ 
สายชลงามดั่ง กำมะหยี่
 โอ้ว่าดาว....ว่าดาวดวงนี้ 
แสงพลันริบหรี่ คงริบหรี่เช่นเรา (ซ้ำ * , **) 

				
21 กรกฎาคม 2546 08:50 น.

เดียวดายปลายโลกร้าง!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=152

ฉันนั่งรอเธอเดียวดายที่ปลายโลก
หลบมุมโศกเหลือมุมใจเพียงในฝัน
รักและรอ รอและรัก ชัวกับป์กัลป์
หลับตาฝันฉันมีเธอในอ้อมใจ...

ที่ปลายโลกไยโศกเหมือนร้างไร้
มันคล้ายคล้ายตะวันลาราตรีไหน
มีเพียงฝันวันแสนงามไว้ปลอบใจ
คำหวานใดก็ลมลมตรมน้ำตา...

ฉันเดียวดายคล้ายโลกนี้เล่นตลก
และเหมือนนกปีกหักใจอ่อนล้า
อยากคืนหลังจูบผืนทรายใกล้ธารา
และซบหน้าหมายมาดสวาทไกล...

ตะวันตกดินถวิลรอที่บ้านเก่า
รอคนเหงาซับน้ำตาอย่าร้องไห้
อีกไม่นานได้คืนร่างหลับสบาย
ให้เม็ดทรายคลื่นทะลเห่กล่อมขวัญนิรันดร!

				
21 กรกฎาคม 2546 08:32 น.

ทะเลก็มีหัวใจ!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=2461
ทะเลก็มีหัวใจ! 

ทะเลมีหัวใจ
ทะเลมีหวั่นไหวมีคลื่นฝัน
ทะเลมีประโยชน์เอนกอนันต์
ทะเลเอื้อโลกฝันให้ผืนดิน..

ทะเลมี กุ้ง หอย และปูปลา
ทะเลมีคุณค่ามิรู้สิ้น
ทะเลหล่อเลี้ยงผู้คนบนผืนดิน
ทะเลคือถิ่นโลกสีครามงามปะการัง..

ทะเลงามเสียใจในวันนี้
ทะเลถูกย่ำยีจากคลื่นร้ายซัดชายฝั่ง
ทะเลเอ๋ยหมดสิ้นแล้วซึ่งพลัง
ทะเลสิ้นหวังกับโลกนี้ที่เรรวน..

ทะเลถามทำร้ายทะเลทำไมเล่า
ทะเลเฝ้าปลอบโยนยามไห้หวน
ทะเลท้อทะเลทุข์ถูกคลื่นรักมารบกวน
ทะเลเรรวน ทะเลเหว่ว้า อยากบอกว่าทะเลก็มีหัวใจ.นะและอยากสงบใจ!.

				
20 กรกฎาคม 2546 21:17 น.

เงาลำธาร!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=973 
 เงาลำธาร..!     

เอนร่างลงตรงริมลำธารหวาน
แดดลอดผ่านเรียวไผ่ไหวลู่
น้ำค้างพร่างยอดหญ้าไหวพรู
ซู่ซู่ไผ่ไหวไกวกิ่งรับ...

สายน้ำฉ่ำฉ่ำระริกระริน
สายถวิลหวนไปไม่คืนกลับ
ใบไม้ควะคว้างซ้อนทับ
เปิดใจรับสองดวงใจในวันนี้..

ช้อนนัยน์ตาดูดอกไม้ชายตลิ่ง
จับใจนิ่งทิ้งทุกข์สุขแทนที่
ยิ้มหวานหวานกระซิบริมหูนะคนดี
จูบเรียวแก้มนี้เคียงกันฝันครองใจ...

โลกสงบเงียบงามตามใจฝัน
ไร้ใครหยันเย้ยเยาะให้หวั่นไหว
มีดอกไม้ สายธาร เสียงนกไพร
มีเพียงใจซึ้งใจในผูกพัน..

กุมมือมั่นกันแนบแน่นเท่าแรงรัก
หยุดใจพักหลับตาตามหาขวัญ
เงาลำธารหวานดอกไม้ร่ายมนต์จันทร์
จิตวิญญาณละมุนฝันหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว!

 



หลับตาฝันไกลไปพร้อมกันนะคนดี ทุกดวงใจไทยโพเอม...
อ้าวหนึ่ง..สอง สาม...
......
ภาพลำธารสายหวาน...
ที่ทอดตัวคดเคี้ยวเป็นโตรกธาร ซอนเซาะ ไปตาม โขดแก่งหิน
ระรินระริกไหล...เอื่อยเอื่อย...ช้าช้า......

ห่มด้วยผืนฟ้าสดกระจ่างใสสีเงินเข้ม  เต็มฟ้าคราม...

มวลหมู่นกไพร ..โผผิน
ผีเสื้อ ภมร บินว่อนดอมดมเกสรหวาน  หอมอวลของมวลหมู่บุบผชาติ..

ราวป่า..กำลังสะพรั่ง สีสดส้มแสดแรงร้อน ดวงดอกโดดเด่น  
แดงเหลืองละออช่อชั้นชมพูพราว 
ราวกับถูกสาดสีด้วยฝีแปรงเอกของจิตรกรชื่อก้องว่า..ธรรมชาติไพร...

ริมเงาไม้ เงาสายธาร ใต้ต้นหวานหวานชมพูพันทิพย์ บนหินงาม ..
ดอกสักร่วงพราวราวสายฝนสีทอง  
ปลิดปลิวโปรยละล่องละลิ่วปลิวควะคว้าง...ควะ คว้าง

มาห่มร่างงามของหญิงสาว สวยเก๋ 
นอนสยายผมราวภาพนางใจในฝัน...ฝันดี
เคียงกันนี้มี...
ชายหนุ่มผิวคล้ำ ร่างเพรียว กระชับ 
ผิวสีทองแดง..ด้วยแดดโลมไล้ร่าง...

กุมมือกันแนบแน่น ...
เท่าแรงรักแรงใจในจิตวิญญาณ
ที่กำลังหลอมละลายกลายเป็นหนึ่งเดียว
เกี่ยวก้อยกันฝันไกลไปในโลกเงียบงามเงียบงัน!

กับดวงตาสวรรค์ ที่กำลังแย้มยิ้มยินดี  เอื้อขวัญโปรยคำพร..! 
 
				
20 กรกฎาคม 2546 00:37 น.

จันทร์ครึ่งดวงใจดายเดียว!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=973
จันทร์ครึ่งดวง

คืนนี้กางเต็นท์นอนบนระเบียงบน 
กับฟ้ากว้างกับจันทร์ครึ่งดวงนวลผ่องผุด
สวยสุดใจ กับดวงดาวสุกใส 
กับหอมอวลของการะเวกที่ปล่อยให้เลื้อยพันชูช่อ
กับหอมละออจากมวลหมู่ดวงดอกไม้นานาพรรณ...

ตื่นขึ้นมา 
เพราะเจ้าแมวน้อยกระโจนจนกระถางตกแตก...
จันทร์สาดส่อง แสงนวลใย
ประกายทองทาทาบ วะวาบวะวับวาว..
ทายทักปลุกให้ตื่นจากหลับไหล..
มารับหวานหยาดราวหยาดน้ำผึ้งจากพระจันทร์ดวงสวยสีทองสุกปลั่ง...

จันทร์ครึ่งดวง.... จันทร์ครึ่งเดียว.... จันทร์ดวงเดิม..จันทร์ใจดี..
ที่คอยเติมใจไฟฝันให้กับผู้หญิงคนนี้ เสมอมา ตลอดไป
และหวังใจตราบนานเนา ชั่วฟ้าดิน...

นอนนับดาว รับหนาวจากหยาดน้ำค้าง 
กับหยาดน้ำผึ้งพระจันทร์ กับหยาดน้ำตานิดนิด
ในยามนี้ที่ใจนิ่งๆ เมื่อมองเห็นรวงดาวราวกระพริบล้อเลียน 
รับรู้ว่ากำลังดายเดียว....

บรรยากาศเป็นใจ..ความห่างไกล 
และความคิดถึงเป็นแรงฝันบันดาล ให้ใจดวงนี้อยากจับปากกา
รจนาเรื่องนี้ ที่คงเป็นแค่อารมณ์ธรรมดาๆที่เดียวดาย 
เกิดมาคู่ใจกับฉัน กับคนที่ยังมีฝัน ให้เพ้อ

มีคนดีที่แสนรักให้ละเมอห่วงหา 
มีความหลังฝังฝากใจ ให้อาวรณ์ อาลัย..จนกว่าใจดวงนี้จะสิ้น...
หมดไฟรัก...ไฟฝัน หมดสิ้นเสน่หาผูกพัน 
ไร้เยื่อขาดใย ไม่อาลัยอีกเลย..แล้ว...

นอนร้าวระบมกาย พลอยพาให้ร้าวระบมใจ 
ด้วยความกลัวที่อยู่ดีๆ แขนขวาและมือนี้ที่ช่าง
ขีดเขียนเรื่องเพ้อเพ้อ เรื่องฝันฝันเรื่องหวานหวาน 
มีอันยกไม่ค่อยขึ้น..                                                                

นอนน้ำตาไหล ใจยิ่งเหน็บหนาว...
กับดาวพราว กับหยาดน้ำค้าง 
กับความหวั่นกลัว กลัวจะเขียนไม่ได้..อีกนาน...

ค่อยค่อย จุดเทียน วะวับแวมแกล้มคลอกับลมหนาวพรู 
วางไว้ในตะเกียงโบราณคู่ใจ แล้วพยายาม
จับปากกาออกมาเขียน..ด้วยใจดวงนี้
ที่อยากระบายสีให้พระจันทร์อยากระบายฝันให้ดวงใจ คลายหม่น

ในความหมองหม่นของใจ 
ในความกลัวว่ากายจะผิดปกติ 
กลับมองเห็นความหมดจดของจันทร์ดวงแจ่ม
ทำให้แฝงความสุขเล็กๆหวานล้ำลึก 
สุขกับจันทร์สุขกับใจ ที่ยังมีไฟฝัน 
ที่รู้ว่ายังมีวัน มีหวัง มีหวาน    มิมอดสิ้น...นานเนา.....

เปิดเพลง คลาสสิค บรรเลง เคล้าลมหนาว 
ให้ดวงดาว บนฟ้าหม่น เริงระบำ..แย้มยิ้มยั่ว ให้กำลังใจ
ทุกดวงใจบนผืนโลกที่กำลังโศกเศร้าตรม 
ที่กำลังเฝ้ามอง ได้เบิกบาน ยิ้มหวานรับกับจันทร์กับดาวกับ
ฟ้ากว้างในยามนี้ ลบหมองหม่น..

หวังมวลผกา ทุกถิ่นที่ ทุกดอกดวง แย้มหวาน บานรับหยาดน้ำค้าง...
กุหลาบงาม ค่อยค่อยคลี่กลีบเผยอแย้ม  
ฟังเสียงเพลงหวานแว่วลอยล่องมาตามสายลมแห่งวสันตฤดู...
ปลุกมวลหมู่สรรพสัตว์ร้องก้องพงไพร 
กับดาวสวย ฟ้าใส ในค่ำคืนนี้..ไปด้วยกัน...

ในเงาไม้ ในเงาเงียบ ในใจนิ่งงัน...
ในดวงใจฉันกลับแสนนิ่มนวล เงียบงาม อ่อนโยน..
ค่อยๆให้ธรรมชาติ ไหลริน สัมผัส ขัดเกลา .
.ความละมุนจากบทเพลงฟ้า เพลงฝัน เพลงธรรมชาติ
รินรดสู่อ้อมใจ สู่อ้อมฝัน สู่ทุกคน 
ทุกธุลี ทุกผืนดิน ทุกถิ่นที่  ให้รัก เข้าถึงงามง่าย..ไร้มายาที่รายล้อม

ฉากฟ้า ฉากฝัน ในคืนเงียบงาม ..
เคยบ้างไหม มีใครแหงนมอง รอคอย เห็นค่า รอคืน ตื่นขึ้นมาชื่นชม
หรือให้ผ่านเลย ลาลับ จนวันหนึ่งอยากจะซึ้งค่าก็สายเกิน....

ค่ำคืนแสนงาม มิได้มีให้กับพวกผีเสื้อราตรี
ที่แค่ใช้แสงสีมอมเมา แปลกปลอม ย้อมใจ 
จนเร่าร้อน ราโรยไร้งาม เป็นเหยื่อเกมกามแผดเผา 
หลงผิดบินไปติดกับไฟโลกีย์
ที่เผาไหม้มอดหมดสิ้นดวงชีวี 
มิทันได้เห็นงามตามใจสวยใสแสนบริสุทธิ์ 
ในชีวิตหนึ่งนี้ที่โชคดีได้เกิดมาบนผืนหล้า....

ให้ธรรมชาติหวานหวาน....ปลุกดวงใจ
ให้ละมุนใจ ละไมฝัน ให้มีรักสวยใส ให้มีใจเมตตา
อยากแบ่งปัน กันและกัน 
และให้อยู่กับโลกฝันที่เป็นจริงได้ 
เพื่ออยู่กันอย่างกลมกลืนไม่เบียดเบียน...
ในโลกแสนสวยนี้ ที่ทุกคนแค่มาฝากร่าง 
ฝากรัก ฝากใจ กับใครสักคนเพื่อเคียงข้างกันไป
ตราบลมหายใจสุดท้ายแห่งชีวิตนี้ ที่แสนสั้นยิ่งนักแล้ว....

ฉันรจนาเรื่องนี้ ที่หวังวาด ฝากฝัง 
ให้ทุกดวงใจรู้ค่าเงียบงามง่ายใกล้ตัว ใกล้ใจ เพียงเปิดใจ เปิดดวงตา
ไขว่คว้า นำมาประโลมใจ ลดเร่าร้อน รุนแรง...
ที่รัก คนดี และเพื่อเธอ...
คนพิเศษ ในฝัน ในใจเสมอมา..
ลูกผู้ชายที่เกิดมารู้ค่าของการใช้ชีวิตบนผืนโลก
หวังเคียงฝันฝากใจกาย คู่กัน ตราบวันตายของสองเรา........
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด