18 สิงหาคม 2546 01:17 น.

หนาวนิรันดร์!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4

ผม..กำลังเดินดายเดียว..เปลี่ยวเหงา ริมหาดกว้าง
กับจันทร์ซีดดวงเศร้า ราวกับใจผม..ณเวลานี้
คลื่นซัดสาดฝั่ง และคลื่นรักในดวงใจผมนั้น
กำลังโหมกระหน่ำซ้ำซัดด้วยความเสียใจ
ที่ฟังไม่เป็นเสียงดนตรีเอาเสียเลย
เพราะมันกลับครวญคร่ำขยำขยี้ใจให้แหลกยับ
แทบดับดวง ไปตามแสงสุริยา..ที่เพิ่งลาลับ

ผมทรุดตัวลงนั่ง บนโขดหิน..
อย่างเหว่ว้าแสนเศร้าแสนรานร้าวใจ

คิดถึงเสียงหวานใสของใครบางคน..
ที่อ้อนขอฝาก..จูบทะเลให้ที

ผมคิดถึงเธอ..มากมายนัก ตลอดเวลาทุกนาที
จนน่าแปลกใจกับใจดวงนี้ที่แสนทุรนทุรายไม่รักดีเอาเสียเลย

หัวใจผมขาดสมาธิ 
มีแต่โหยหาลอยละล่องข้ามขอบฟ้ามาซุกซบ
ในอ้อมอก อ้อมใจเธอ..

และเธอ..กระซิบสั่ง..บอกความนัยว่าหัวใจเธอก็เฉกเช่นกัน..
กำลังติดปีกหัวใจรักตามติดผมไปทุกที่ทุกหนแห่ง
ไม่ว่าจะในไพรกว้าง ภูสูง หรือริมทะเลงามอย่างยามนี้
ที่หัวใจผมกำลังอ้างว้างสุดทน 
จนต้องหนีผู้คนมานั่งดายเดียว
เดียวดายให้ดวงดาวบนฟ้ากว้างพริบพราว
ปลอบประโลมใจ..

ผมดั่งพรานทะเล ผู้มีเพียงดาวในใจดวงน้อย
เฝ้าคอยส่องนำทาง ที่แสนอ้างว้างมืดมน
ไม่รู้ทิศ..เหนือใต้  ไร้ร้าง..
กลางทะเลลึกทะเลโลกย์
ทะเลโศก..เพียงลำพัง

คนดี...จิตวิญญาณเรานี้เท่าเทียมกัน
กาลเวลา และพระพรหม เพียงนั้น
ที่เพาะบ่มอาบห่มรักชักนำเรา
ให้มาพานพบ ผ่านพบ และผมรู้ดี..จะจบลงด้วย
การพรากจากมิช้านานนี้..ที่เรานี้กำลังรอคอย..

ผม...จึงพยายามตักตวงฝันแสนหวานแสนงาม
ให้สว่างวาบทุกครั้งที่ผมหมองหม่นกับใจคน
ที่หมุนวนมาให้บทเรียนโลกโศกสุข

ที่รัก ...ผมนอนหลับกับความรวดร้าว ทุกคืนค่ำ
ดาวประจำเมือง..ยังคงส่องนำทางฝัน นำทางใจแด่ผู้คนนับพันล้านคน
แต่..สำหรับผม..
ขอแค่มีเพียงคุณ  คนดีคนเดียวเป็นดั่งดาว ประดับใจ
ส่องนำทางใจ ให้สว่างไสว ไม่มีวันมอดดับก็พอแล้ว 
ก็คุ้มแล้วกับชีวิตหนึ่งนี้ที่เกิดมา

คนดี..น้ำตาดาว พราวพร่าง เหมือนดังหยาดน้ำค้าง 
ในยามค่ำพร่ำบ่มกลีบดอกไม้หวานในไพรพฤกษ์
และเหมือนดั่งหยาดเพชรพราวจากดาวดวงเดียวในใจผมนี้
ที่ผมรู้ดีว่าคุณคือความพิเศษพิสุทธิ์ 
เหนือนิยามโลก เหนือนิยามรักใดใด

ดวงใจ..แม้ใจผมกำลังคร่ำครวญ..หวนไห้ โหยหา สักปานใด
และผมรู้ดี..ผมพร้อมที่จะรับกับการรอคำพิพากษา 
ที่แสนเจ็บปวดทรมานนี้
กับการลาจากกันของสองเรา ชั่วนิจนิรันดร  
ที่ใกล้เข้ามา..ใกล้เข้ามาทุกขณะ

และสำหรับลูกผู้ชายอย่าง..ผม  คนนี้ก็รู้ดีว่าในหนึ่งชีวิตนี้ 
นอกจากธรรมะ ที่ผมยึดถือไว้ประดับใจ ไว้สอนใจ
คุณก็คือ..นางใจ ในดวงใจผมเพียงหนึ่งเดียว ไปนิรันดร์ นะคนดี 

ที่มิอาจจะมีสิ่งใดมาพรากจากได้
เพราะมันจะสถิตสถาพร มิแคลนคลอน
ดั่งหนึ่งเดียวกับจิตวิญญาณผมนี้
ที่จะตามติดกันไปทุกภพทุกชาติไป
ไม่มีวันจบสิ้น..ไม่มีวันสิ้นสุดชั่วกัปป์ชั่วกัลป์!


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4
  จงรัก   
ศรีไศล สุชาติวุฒิ : : Key F  

โปรด อย่าถาม ว่าฉันเป็นใคร
เมื่อในอดีตและโปรด อย่าถาม 
ว่าอดีต ฉันเคย รักใคร
รู้ไว้อย่างเดียว เดี๋ยวนี้รักเธอ
และรักตลอดไป รักมากเพียงไหน 
กำหนดวัดได้ เท่าดวงใจฉัน
อย่า เพียรถาม ว่าฉันจะรัก 
เธอนานเท่าใดฉันตอบไม่ได้ 
ว่าฉันจะรัก ชั่วกาล นิรันดร์
เพราะชี วิตฉัน คงไม่ยืนยาว
ไปถึงปานนั้นรู้แต่เพียงฉัน 
หมดสิ้นรักเธอเมื่อ ฉันหมดลม

อย่า เพียรถาม ว่าฉันจะรัก
เธอนานเท่าใดฉันตอบไม่ได้ 
ว่าฉันจะรัก ชั่วกาล นิรันดร์
เพราะชี วิตฉัน คงไม่ยืนยาว
ไปถึงปานนั้นรู้แต่เพียงฉัน 
หมดสิ้นรักเธอเมื่อ ฉันหมดลม... 
 

				
17 สิงหาคม 2546 09:31 น.

ดาวรุ้ง..ดาวร่วง..!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=5437

ไพล..ตื่นมารับอุษาฟ้าสางยามใกล้รุ่ง ด้วยเสียงฝน..ปลอย ปลอย..
เสียงกบในบึงน้อย ของชาวสวนหลังบ้าน ร้องระงม
ประสานประสมเสียงนกนานา ราวดนตรีจากฟ้าจากสวรรค์สรวง 
บรรเลงด้วยปวงน้ำมือเทพเทวา..พริ้งพราย..ร่ายมนต์กล่อมใจ
กล่อมโลก ลดโศกราน...
ดั่งนาฬิกาใจ นาฬิกาปลุกทุกอรุณ ให้ลุกจากหลับไหลในนิทราฝันอันรื่นรมย์
คู่เคียงขวัญวันหวานวิมานดินมานานเนิ่น..

กล้วยไม้ที่แขวนริมชายคาเรือนจำปี หลากสีสลับสวย สดสะพรั่งรับฉ่ำสดหวานจากสายวสันต์..
ราวหยาดน้ำผึ้งพระจันทร์..จากราวสรวง..
พรายละอองน้ำค้างยามดึก พร่างพรมบ่มเกสรแก้ว 
พุดซ้อนช้อนดอกออกจากใบละออ...
ที่หลบซ่อนอ้อนอาย คลี่กลีบกระจายรอรับสายน้ำทิพย์..

ไพล..เปิดประตูกระจก ออกไปเชยชม ดอมดมรับลุ่มลึกหอมอวลจากมวลพฤกษา
เด็ดดอกแก้ว พราวตา พราวช่อละออนวล  แซมใบเขียวสด..ตัดฉับ..
เพียงแค่เอื้อม จากเรือนจำปี..ก็เด็ดดอกผลิเรียวยาวตูมตั้ง 
มาผูกขวัญผูกผม เคลียแก้มแกมหอมลบตรอมตรมให้หอมเศร้าตลอดวัน...ตลอดเวลา

กระนั้น..เพียงแค่นี้  ใจไพลดวงดีก็แสนใสสด...  ก็พลันบรรเจิด..เอิบงาม ....
พร้อมผจญ..
บทเพลงชีวิตของคนบนโลกนี้ที่มีทั้งโศกสุข ...หมุนเวียนเปลี่ยนผันมารับวันใหม่..

เปิดเพลง..ลุกทุ่ง หวานแว่ว ของสันติ ดวงสว่าง ....นักร้องเสียงเซาะหัวใจ
ให้หลอมละลายดังคลื่นเซาะทรายให้ยิ่งเศร้า  ยิ่งรานร้าว ยิ่งบาดใจ..  
มาสิ...คนดี..มาเงี่ยหูฟัง เปิดใจฟังไปด้วยกันนะ..


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=5437

ความผิดหวังยังคอยฉันอยู่   
สันติ ดวงสว่าง : : Key D  

สิ่งหนึ่ง ที่รอ
รอคอยฉัน อยู่
คือความ ผิดหวัง
ความผิดหวัง ครั้ง ใหม่
ฉันเห็น มันใกล้มาแล้ว
ไม่แคล้ว เจอมันจนได้
ความช้ำใจ ช้ำ ใจ
อดีตที่ผ่าน มานานหลาย ปี
ฉันหนีไม่พ้น
ต้องมาเจอคน รัก ลวงจนได้
มันช้ำ จนอกกลัดหนอง
ฉันต้อง ร้องไห้ร้องไห้
เจ็บปวดใจ เหมือน ใกล้จะขาด
ผู้หญิง เขาเปรียบดอกไม้
สดใสสวย บริสุทธิ์
เปรียบประดุจ ดอกไม้ของชาติ
แต่ฉัน ขอเปรียบผู้หญิง
แท้ จริงคือ เพชรฆาต
ประหารประหัตถ์ ใจชาย
ไม่อยากจะอยู่ ดูโลกนี้เลย
กลัวความผิดหวัง
ความผิดหวัง ครั้ง ใหม่
ลาแล้ว ลาก่อน ความช้ำ
ความช้ำ อย่าตามมาใกล้
แยกกันไป เสีย คน ละทาง
  
ผู้หญิง เขาเปรียบดอกไม้
สดใสสวย บริสุทธิ์
เปรียบประดุจ ดอกไม้ของชาติ
แต่ฉัน ขอเปรียบผู้หญิง
แท้ จริงคือ เพชรฆาต
ประหารประหัตถ์ ใจชาย
ไม่อยากจะอยู่ ดูโลกนี้เลย
กลัวความผิดหวัง
ความผิดหวัง ครั้ง ใหม่
ลาแล้ว ลาก่อน ความช้ำ
ความช้ำ อย่าตามมาใกล้
แยกกันไป เสีย คน ละทาง... 



จุดเทียน ในลูกแก้วที่เหมือนลูกจันทร์สามสี..อ่อนๆ...
เหลืองพระจันทร์  ฝันแดงระวี   สีเขียวพร่างไพรพฤกษ์..
เขียนเรื่องประเทืองใจ ประเทืองฝัน หวังดับแล้งยามตะวันแผดแสง ให้หมองไหม้หม่น
และโอบเอื้อเย็นสำหรับทุกดวงใจที่ไหวงามละเมียดละมุน
ที่จะเปิดรับงามไปด้วยกัน นะยอดขวัญ ยอดดวงใจ...

แล้วก็หุงข้าว..หอมพราวราวดอกมะลิขาวนวลนุ่ม...กรุ่นกลิ่น..ไปทั้งครัว
เตรียมตัวไปวัด..วันอาทิตย์..
อ้อมไปตัดใบตอง มารองขันข้าวเงิน..ให้งามใจ..
กล้วยกอใหญ่ ห้อยหวีแน่นลูกดก ...
แวบคิดถึงคุณแก้วนะ หากว่าบ้านเรียงเคียงกัน คงหิ้วหัวปลี ให้ทำอาหารไทยรับประทาน
ตามสูตรโบราณ ที่กลมกล่อม อร่อยลิ้น..นะ

ใต้ใบตองแตกลายริ้ว..หัวใจพลันปลิดปลิว..คิดไปถึงฝันดีเมื่อคืนผ่าน..
หลับสบาย คล้ายปล่อยวาง หลังสมาธิสวดมนต์ 

ปล่อยกมล  ฟังเพลงฝน ฟังเพลงไพร กล่อมฝันดี..
ราวมีวงออเคสตรามาบรรเลงหวานแว่ว..แผ่วพรมชุ่มชื่นหัวใจ
ให้หลับไหล ลุ่มลึก..
ในฝัน...
เห็นหญิงงาม นุ่งผ้าถุงสวยสีไพลสว่างกระจ่างใจ ยืนเดียวดายริมชายทุ่งกว้าง
กลางลานหวานดอกดาวรุ้ง ดาวเรือง สะพรั่งสี ....
มียุ้งข้าว ลอมฟาง และมีเจ้าทุยเลาะเล็มหญ้า ขาเปื้อนโคลนอย่างมีความสุข

แปลกดีที่ว่า 
เคียงกระท่อมหลังคาจากนั้น อีกด้านหนึ่งนั้นคือภูเขาลำเนาไพรทอดตัวเขียวชะอุ่ม
มีนกไพร ผีเสื้อ บินว่อน ...เหนือโตรกธาร หวานระริกระริน  สายน้ำซอนเซาะซอกหิน
ซู่ซ่า ซัดสาด เบาเบา ให้เหงางามเงียบสงบใจ..

พลัน..กลายเป็นยามสายัณห์ตะวันรอนรอน ....เหนือทิวไม้
เธอยืนร้าวรอนราวออดอ้อนอาวรณ์อาลัย สุริยาดวงโต..ที่ใกล้ลาลับฟ้า

มวลหมู่นกกา หมู่ภมร บินว่อนเหนือร่างเธอ..
ผมสีบรูเนต อมทอง..จรัสส่องประกายรับแสงสนธยา..
สยายพลิ้วปลิวไปเบื้องหลังยามต้องพายุ ลมแรงพัดไสว

ในอ้อมแขน..มีดอกไม้ไพรพร่างสีบานสว่างกระจ่างใจราวภาพฝัน...
เธอแหงนหน้าราวรอฝัน...รอจันทร์.. รอใคร..กันละหนอ  ....
ฤาเฝ้าฝันรอฟ้าปรานี  ณ.เบื้องบน.....

และชั่วพริบตา!
 เหมือนเวทีฟ้าเปิดการแสดง ดาวบนฟากฟ้าจำนวนนับล้านดวง
ก็พลันพริบพราวพร้อมกัน..พรึบ..
ร่างเธอ...ยืนดายเดียวในเงาดาว ในเงาจันทร์ ราวฝันไกล....

ทันใดสายรุ้ง..ดั่งสายไหม สายสวรรค์...
ก็พลันพรมห่มร่างงาม..ที่ยืนสะล้างราวนางไม้ นางไพร..ก็มิปาน
 
สายลมแรง ยังโบกโบยกระชั้น  ระบัดมวลหมู่ไม้ให้ไหวเอน..
เมฆร้องเพลงฝัน... สวรรค์โปรยสายฝนดาวตก..
ที่งามพราวราวเพชรพร่างกลางร่างเธอที่เงียบงามราวรูปสลัก...
				
15 สิงหาคม 2546 21:38 น.

เพลงไพร!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=138
เพลงไพร...


ปลูกกระท่อมกลางไพรฟังเพลงฝน
พิรุณหล่นพร่างพรายชายคาจาก
จุดตะเกียงเคียงหัวนอนฟังฝนพราก
จูบแก้มสากหอมหอมหลอมละลาย

วิมานไพรติดดินถวิลหวัง
ขอคืนหลังฝังฝากใจไม่ห่างหาย
นานนิรันดร์หลับฝันดีมิเคลื่อนคลาย
งามเรียบง่ายใช้ชีวิตที่ติดดิน

ปลูกดาวรุ้งรุ่งเต็มลานหวานดอกรัก
ช่อฟูมฟักรักบานชื่นคืนถวิล
มีสวนครัวผักริมรั้วให้เก็บกิน
ยอดกระถินฟักแฟงแตงลูกยาว

เอื้อมมือเด็ดผักและดอกไม้ใส่ตะกร้า
ฟ้าลับลากลิ่นแกงหอมจากน้องสาว
ทำขนมบัวลอยคอยชิมฝีมือเจ้า
คืนพร่างดาวไม่หนาวใจใครเคลียคลอ

กอราตรีริมชานเรือนอวลกลิ่นร่ำ
พิไรร่ำลำดวนดงหลงใครหนอ
จูบเรือนผมคลี่สไบบัวไหวรอ
เจ้าตัดพ้อคลอเพลงครวญรัญจวนใจ

เป็นความรักเรียบง่ายไร้แสงสี
มีคนดีคอยอ้อนใจให้หวามไหว
โลกเงียบงามยามเราสองแลกร่างใจ
ตำนานไพรตำนานรักภักดิ์ทุกภพจบด้วยงาม!



เขียนบทกวีบทนี้ในร้านกาแฟค่ะแกล้มกาแฟบราซิลซานโตส
เขียนเขียนไปก็ให้คิดถึงโรนัลโด้..
นะคะเลยนำมาสมมุติเป็นพระเอกแล้วกัน
ในกระท่อมไพรเพลงไพรเพลงฝนเพลงฝันแล้วกัน

แทนความจาบัลย์ที่พบว่าวันนี้ต้นไม้แสนรักถูกตัดเสียเหี้ยนเลยค่ะ
ที่เคยเข้าแถวทายทักพุดพัดชาด้วยจงรักมาทุกทุ๊กวัน..แฮๆๆๆๆๆ
แถมมีใครปลอบใจเก่งชะมัดว่า..ไม่นานมันก็งอกใหม่
โน่นแน่ะ นี่แนะสองปีจะโตเท่าเดิมได้รึปล่าวก็ยังไม่รุเลย..ฮือๆๆๆ


  ที่รัก   
แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ : : Key Dm  
นานแล้วพี่หลงพะวงมิหน่าย
นานแล้วที่หมาย จะได้ภิรมย์
นานแล้วพี่รักคอยจักชื่นชม
นาน แล้ว รักเพียงลมลม ตรมเช้า ค่ำ
ที่รักนะรักเพราะใจมิกล้า
ที่ช้านะช้า มิกล้าเผยคำ
ที่คิดนะคิด กลัวอกจะช้ำ
เอ่ย คำแล้วเจ้าจะทำให้ช้ำใจ
อย่าเหมือนน้ำค้างพราวพร่างใบพฤกษ์
พอยามดึกเหมือนดังจะดื่ม กิน ได้
พอ รุ่งสางก็จางหายไป  
รู้แน่แก่ใจ ได้แต่ ระทมชีวี
ที่รักนะรักเพราะเทพเสริมส่ง
ที่หลงนะหลง เพราะเจ้า แสนดี
ที่หวงนะหวง เพราะสวยอย่างนี้
กลัว ใครเขามาแย่งพี่ ไป เอย

อย่าเหมือนน้ำค้าง พราวพร่าง ใบพฤกษ์
พอยามดึกเหมือนดังจะดื่ม กิน ได้
พอ รุ่งสางก็จางหายไป  
รู้แน่แก่ใจ ได้แต่ ระทมชีวี
ที่รักนะรักเพราะเทพ เสริมส่ง
ที่หลงนะหลง เพราะเจ้าแสนดี
ที่หวงนะหวง เพราะสวย อย่างนี้
กลัว ใครเขามาแย่งพี่ ไป เอย... 

				
15 สิงหาคม 2546 21:13 น.

กาแฟ กาแฟ กาแฟ...!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=290

ในร้านกาแฟ...

สายน้ำตกระรินไหลจากชายคา พร่างสายลงมายังบึงบัวเล็กๆ
เสียงเพลงคลาสสิคบรรเลงเบาๆคลอเคล้า..
ต้นไม้รายรอบกระท่อมไม้สนเขียวชะอุ่ม
มีเฟิร์นกับหญ้ามอสเกาะคาคบพญาสัตตบรรณสูงเป็นช่อชั้น
กระถางกล้วยไม้สะพรั่งสีสลับดอกดวง แขวนตรงชายคา..
แสงอาทิตย์ยามสนธยา ส่องลงมาทายทักอย่างอบอุ่นอ่อนโยน..
กลิ่นกาแฟ หอมกรุ่น หอมหวานพอกันกับรอยยิ้มเจ้าของร้าน..คละคลุ้งกำจายไปทั่วอาณา
เรือนไม้บ้านไร่กาแฟ ที่พุดพัดชาชอบมานั่งพักพิงเขียนงานงามตามใจฝัน
เธอ..เจ้าของร้านนั้นมีไร่อยู่ที่จังหวัดเลย.
.และคงไม่นานเลย ..จนเกินรอ..
พุดพัดชาวาดหวังว่าจะได้ไปเยือนตามคำเชิญที่มากไมตรี
แสนมีน้ำใจงามนั้น สักวันอย่างแน่นอน...
ในบรรยากาศแสนดี..พุดพัดชาเขียนเรื่องนี้ริมหน้าต่าง ท่ามกลางไม้ไพร
โต๊ะตรงหน้าเป็นกระจกใส ...มองเห็นเมล็ดกาแฟคั่วแล้ว  อัดเต็มแน่น  เป็นไอเดียงาม

และท่ามกลางแสงเทียน..วับแวม..กับเก้าอี้ไม่สน..ราวกระท่อมไพร แสนโรแมนติก
หากมีหวานใจมานั่งซึ้งซ่านสบตา..หวานฉ่ำเบื้องหลังแก้วกาแฟ   ก็คงยิ่งพาฉ่ำชื่นชื่นใจ..ไฉนเลย!


และขอแถมด้วยบทความข้างล่างที่เคยแต่งไว้นานมานะคะ

กาแฟ กาแฟ และกาแฟ...
ฉันชอบกาแฟ...ถามตัวเองหลายหน แล้วว่าด้วยเหตุใด
คงเป็นเพราะ..ทำให้ ใจที่เหี่ยวเฉา คึกคักขึ้นมานะซี... กาแฟ
คิดอีกที หรือฉันชอบ เพราะสีของมัน ที่เข้มข้น
เหมือนชอบคนผิวสี ที่ฉันชอบคิดว่า ดูช่างแสน แฮนซั่ม..ยังไงยังงั้นเลย
เอ๊ะ!..แล้วมันไปกันได้ไหมนี่ ฉงนใจ....

ฉันชอบกาแฟ..ที่แน่แน่ ดื่มทีไร โลกสดใส แสนสดชื่น
แม้บางวัน ใจของฉันจะขมขื่น ฉันก็ดื่มกาแฟ ดับร้อนใจ

กาแฟหอมละมุนลิ้น กลิ่นยวนยั่ว ทั้งที่คั่ว ทั้งที่บดจนเป็นผง
ร้านกาแฟ ทำให้ ได้พบรักกับบางคน..
บางถนน จะมีร้านกาแฟ ที่ชุมนุม..
จะถกเรื่องนายกก็ที่นี่ เรื่องดนตรี เรื่องหัวใจ จิปาถะ...

ร้านกาแฟ เป็นสภาตำบล และหมู่บ้าน 
ให้โจษขาน ทุกเรื่อง ว่าโลกเราไปถึงไหน

แล้วอิทธิพล กาแฟ จะไม่มากได้ยังไง เมื่อเดินไปที่ห้างหรู
ก็ยังมีร้านกาแฟ กาแฟ และกาแฟ !
..............


กาแฟ กาแฟ กาแฟ แย่ไม่เอ่ย! 

 กาแฟ กาแฟ แทนความรัก
ขมใจนัก อดไว้ รอกินหวาน
ถ้าไม่ชอบ รีบเติม รสน้ำตาล
ให้หวานหวาน มันส์มันส์ คงไม่ดี...

รู้รสขม กลมกล่อม ไว้เปรียบกับรสหวาน
รอรักบาน ขมก่อน อย่าเพิ่งหนี
หากมัวหลง น้ำตาล ไม่เข้าที
ไม่นานนี้ ไขมันสูง อุดหัวใจ.....

กลิ่นหอม บริสุทธิ์ ของหญิงสาว
ที่ต้องคาว ขมขม เพราะหวั่นไหว
มีบางคน มาเติมน้ำตาลปลอม ในหัวใจ
หลอกล่อไป วันวัน ฝันค้างคา...

กลิ่นกาแฟ หอมกรุ่น อุ่นไอรัก
ต้องรู้จัก ถนอม คอยห่วงหา
รู้จักเติม หวานวันละนิด ทุกเวลา
กาแฟจ๋า จะอร่อย ต้องคอยคอกาแฟที่เติมเป็น!ทำเป็นให้พอดี้พอดีจ้า! 
				
15 สิงหาคม 2546 09:23 น.

ราวไพรกับใจดายเดียว!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=387
 
ราวไพร..กับใจดายเดียว! 

แพร..เขียนเรื่องนี้ในราวไพร กับแสงเทียนหวามไหว 
กับความไกลห่าง จากโลกแห่งความจริงที่อยากวิ่งหนีวันละหลายๆหน... 

ยามเย็น..ตื่นตานิ่งงัน กับอาทิตย์ลับลาฟ้าชมพูอมส้มโศก ใบโตเท่ากระด้ง 
กับแบคกราวน์ฉากฟ้าเบื้องหลังสีเทาทึมหม่นมัว 

ขับให้อาทิตย์สี้ส้ม..สุกชัดราวกับ 
อยากลบรอยเหงาในแววตาของผู้หญิงตรงหน้า
ที่นั่งมองฟ้ายามสายันณ์ อย่างดายเดียว 
ด้วยเรียวใจบางบาง ที่ราวจะขาดผึงตามตะวัน......... 

ตะวัน..ลาอ้อยอิ่ง..ระระ โรยตัวลงมาในแนวตา ในกรอบใจ 
ผ่านยอดไผ่ที่ไหวเอน ต้องลม แวะแวะ..ร่ำลาดอกพราวของสักทอง
ที่ชูช่อชันบานแข่งกัน หอมท้าตะวัน มิให้ปันใจจากลา...

 พ้อหารอฟ้ายามอรุณแดดอ่อนอุ่นให้มาแตะแต้มทายทักใหม่ในวันพรุ่ง... 

โลก..สุขสงบราวสวรรค์ตรงหน้า 
เป็นเงียบงามที่สวยเศร้า บาดใจ..ขาดใจ! 

ฟ้าเปลี่ยนสี...
เป็นสีทองอมชมพูพรูส้มอ่อนจางจางบางบางเบาเบา
อมเทานิดนิดคล้ายสวรรค์สรวงสายไหม.
เคล้าบรรยากาศรายรอบด้วยเสียงแห่งไพรพง... 

ดงหญ้าอ้อน..รอหยาดน้ำค้าง...
ให้รินรดเร่าร้อนได้ผ่อนพัก..
เสียงนกกากู่หาพากันร้องก้องกังวาน 
ประสานเสียงระงม หวานเศร้า ราวรู้ใจผู้หญิงคนนี้ 
ที่กำลังซบหน้าร่ำไห้ราวสิ้นไร้ตะวันในดวงใจ!  

บ้านไร่แสนรัก...ในราวไพร..
ยามที่ใจรอนรอนอ่อนล้าต่อคลื่นที่ถาโถมโหมทับมาปั่นป่วนกวนทะเลใจ 
ที่เคยสวยใสสงบงาม ใจดวงที่หวามไหว..
ที่จะรินรดรักด้วยหยาดหยดน้ำใจที่ใสเย็น 
ให้แก่ใจทุกดวง ด้วยเหว่ว้าพอกันในโลกฝัน 
ในโลกลวงที่พบเจอ เพื่อหยัดยืน...

 และคนดี..ในดวงใจ...... 
ฝันนี้มีเธอเป็นพยานรับรู่คู่ฟ้าดิน..
หวังเราสองนั้น
จะคู่เคียงขวัญวันแสนดีแสนไกลนี้ด้วยกัน.. 
ไปถึงฝั่งฝันนิรันดร..ทางจิตวิญญาณที่เรานั้นเคยผูกพันกันมาแต่ปางก่อน!.. 

ช่างเถอะนะ..ถ้าทุกอย่างแปรเปลี่ยนไปในใจในโลกจริงในวันนี้...
เพราะโลกเรานี้ต้องหมุนไปข้างหน้า 
ใช่หมุนกลับราวจับวางได้ดั่งใจ ไฉนเลย..

ขอเพียงท้าทายใจ เดิมพันใจ ให้คงมั่นฝันเป็นจริงในซอกลึก 
สุดซึ้งถึงใจของสองเราเป็นพอ.. 

เทาทึมของเงาราตรี..โรยตัวลงมา ช้าช้า 
ราวบอกว่าให้เตรียมตัวรับระทมกับความหมองหม่นมืดดำในยามค่ำคืน..

ดั่งชีวิตเรานี้ ที่บางทีบางวันมองฟ้างามสวยใสด้วยใจที่สุขล้น..
พอยามค่ำใจกลับทุกข์ทนหมองหมาง พรางเศร้า..
ค้นพบสัจจธรรมแห่งฝันค้างรานร้าวที่ยากจะเป็นจริง!...
จนใจแตกระยับไหว ยากหักห้ามใจ ให้เลิกหวั่นหวาด..และหวาดกลัว! 

ตำนานนี้..จะแสนดีอยู่ที่ใจ..ใช่!จะใช้ร่างเราลิขิต 
แต่จะสว่างอยู่กลางจิต...กลางใจดวงพิเศษพิสุทธิ์.. 
ที่มีพลังรักพลังฝันเท่าเทียมกัน..

เพื่อหมุนโลกฝันให้ซ้อนทับกลายกลับเป็นโลกจริงไม่ช้านาน.. 
และหาญกล้าบอกโลกว่า จะตามติดไปถึงภพหน้าถ้ามี...

 ธารน้ำ..ระรินเซาะแผ่วผ่าน บ้านของเรากับกาลเวลา 
ในยามนี้ที่ราตรี และเวิ้งฟ้าอวลกลิ่นดอกไม้ไทยไหวระรวย
เผยอแย้มบานหวานแย้มรอแต้มหยาดน้ำค้างกลางไพรพฤกษา..
ที่หยาดสายมาโลมไล้ ราวสายน้ำผึ้งพระจันทร์
ในคืนฝันวันอวลสุขเศร้าละไม..ละมุน.. 

ในคลองฝัน..แพรมีเธอนั้นในอ้อมกอด 
กับฟ้าหนาวกับดาวที่ล้อเลียนพริบพราวราวดาวขี้อิจฉา 
กับจันทราครึ่งดวง กับบ่วงเสน่หา ที่รัดร้อยใจเราเข้าด้วยกัน..
กับคำพร่ำพลอดระรินรักโลมไล้ 
ราวดอกสายหยุดที่ไม่เคยหยุดเสน่หา..

ไม่ว่าในยามย่ำสนธยาหรือยามที่ราตรีเงียบงัน 
มีเพียงฝันหวาน หวานของสองเรา.. 
อ้อมพิษสวาท อ้อมรักจะซึ้งค่าแนบแน่นนานเนา
ด้วยใจต่อใจที่ไหวหวาม สะท้านสะเทือนรวมร่าง 
รวมรัก รวมหวาน รวมความเข้าใจเพื่อรอแย้มงามบานเบิกรับอรุณ... 

กางเต้นท์นอนหนาวรับแสงดาวโลมลูบ รับจูบจากจันทร์ 
และรับขวัญรับหวานจากมวลหมู่พฤกษ์ไพร 

กับใจดวงดายเดียวที่สุขสงบพบทางออก... 

ใช่เลย!....ในชีวิตหนึ่งนี้ มีเวลาแสนดี แสนงาม 
เป็นความทรงจำกระจ่างใจไม่กี่ครั้งครา.. 
แล้วไยมาเสียเวลา คาดหวัง..ยึดมั่น 
อยากได้ หวงแหน ครอบครอง เป็นเจ้าของ
และคอยตัดพ้อ.. ขอแค่เวลา..กับวันสุขล้ำ..ระหว่างกัน 
คอยเกื้อโลกฝัน สร้างสรรสิ่งดีจรรโลงโลกนี้และใจเรา 
หวังมิให้รานร้าว รานแยกแหลกยับกับความเสียใจ ...ไปเสียก่อน...นะคนดี 

สายธารยังระรินไหล รับรู้ใจคนบนผืนโลกที่มีสุขโศกมิรู้สิ้น ให้ถวิลหา.. 
จนกว่า...ฟ้าแห่งชีวีจะมอดดับ..ทับถมเป็นธุลี..คืนสู่ผืนดินเป็นหนึ่งเดียว! 
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด