19 สิงหาคม 2546 21:18 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=251
เมื่อลมร้อนมาเยือน
ดวงดอกไม้พากัน สะพรั่งพราว จรัสแสงร้อนแรง
เฉิดฉันท์ไปทั้งเมือง..
ฤดูกาลแห่งคิมหันต์..พาฝันไสวเจิดจ้าพราวละมุน..
พันธุ์ไม้นานาพรรณพากัน บานแฉ่งแข่งหวาน
อวดดอกดก มองแทบไม่เห็นใบ..
ทั้งหางนกยูง..ชมพูพันธุ์ทิพย์..ตะแบก..
คูนเหลืองพราว สองฟากฝั่งฝัน
ตามเส้นทางที่..ดวงใช้เดินทาง..ไปบ้านชายทะเล..
ให้ผู้หญิงหัวใจโอ้ละเห่ หวามไหว อดใจไม่ไหว
ทนเสน่ห์ไม่ได้ ต้องแวะจอดรถทายทัก สัมผัสด้วยใจ
ให้อิ่มในอณูหอมงาม หอมแผก นั้น...
ระหว่างเส้นทาง..ทอดยาว ราวไร้สิ้นสุด
นอกจากฟ้ากว้างสีน้ำเงินเข้มจัดจ้า กระจ่างใจแล้ว
ยังมีผืนนาเขียวชะอุ่ม
ราวผืนพรมนิ่มรายริ้วพลิ้วเอนรับแรงลมที่พรมพร่างแผ่ว...
และที่ขาดมิได้ต้นไม้งามคู่ผืนนา..คือดงตาล..
ที่หยัดยืนต้น ราวตรอมตรมโศกสะเทือนไหว
รอใครบางคน คืนหลังเคียงนา..
มีทั้งตาลคู่ ตาลเดี่ยว ที่เดียวดาย..
แต่ให้อารมณ์ดิบถวิลถึง.. ทุ่งถิ่นรวงทองของไทยเรานี้..
ที่เคียงกันมาเป็นดั่งภาพฝัน..ในงานวาดฝันระบาย..ถ่ายทอดวิถีไทย
คิดถึงเพลง เพลงหนึ่ง ที่ แสนอมตะเสียไม่มี..
เพลงแห่งชีวิตรักพื้นบ้าน..เคียงธรรมชาติ..
มนต์รักลูกทุ่ง..........
หอมเอย...หอมดอกกระถิน
รวยระรินเคล้ากลิ่นกองฟาง
เห็ดตับเต่าขึ้นอยู่บนเถาหญ้านาง
มองเห็นบัวสล้างลอยปริ่มริมบึง...
อยากจะเด็ดมาดอมหอมสักหน่อย
ลองเอื้อมมือค่อยๆก็เอื้อมไม่ถึง
อยากจะแปลงร่างเป็นแมลงภู่ผึ้ง
แปลงได้จะบินไปคลึงเคล้าเจ้าบัวตูมบัวบาน
หอมดินเคล้ากลิ่นไอฝน
อวลระคนหอมแก้มนงคราญ
ขลุ่ยเป่าแผ่วพลิ้วผ่านทิวแถวดงตาล
มนต์รักเพลงชาวบ้านลูกทุ่งแผ่วมา
ได้คันเบ็ดสักคันพร้อมเหยื่อ
มีน้องนางแก้มเรื่อนั่งเคียงตกปลา
ทุ่งรวงทองของเรานี้มีคุณค่า
มนต์รักลูกทุ่งบ้านนาหวานแว่วแผ่วดังกังวาน
โอ้เจ้าช่อนกยูง..แว่วเสียงเพลงมนต์รักลูกทุ่ง
ซ้ำหอมน้ำปรุงที่แก้มนงคราญ.....
บทเพลงนี้เป็นสุดยอดภาษาสวย..
ที่ดวงแสนรักและร้องได้จนขึ้นใจ
เป็นบทเพลงที่กินใจพอกับเพลง..บางเพลงเช่นเดือนเพ็ญ
ที่ทำให้สะท้อนสะท้าน สะเทือนใจไหวหวั่นทุกคราครั้งที่ได้ยินได้ฟัง...
เส้นทางนี้... ดวงเรียกว่าเส้นทางใจไหวหวั่นหวามไหว..
เพราะว่าในทุกยามเยือนที่ได้ผ่านมา
ดวงจะต้องมนต์ขลังจังงัง
ดื่มด่ำสำลักงามทุกอณูเนื้อในหัวใจดวงละมุน เสมอมา....
ดวงรักลั่นทมดอกพราวหลากสี
ที่ขึ้นรายเรียงเป็นดงระรายทาง..
ดวงรักดอกคูนที่สวยสว่างไสว
สร้างพลังใจให้แจ่มกระจ่างในเส้นทางฝันเส้นทางใจ
ดวงรักหางนกยูงที่แลพลันขับหมองหม่น
ด้วยดวงดอกแดงเพริดพราวเจิดจ้าไร้สิ้นใบ..
พันธุไม้เหล่านี้..จะเคียงทะเล..ทะเล..สองฟาก..
ที่ดวงขับรถเลียบชายหาดเพื่อชื่นชม..
ให้ใจดวงระทมหวานบานเบิกใจ
ขับหมองหม่นใจหมดสิ้นสลายลับ..
ไปกับธรรมชาติงามงด ที่แสนหมดจดใจ..
ถึงยามเย็น..ดวงจะทอดน่องล้อคลื่นเล่น
ไปตามหาดทรายขาวยาวเหยียดสุดตา
ที่ราวหาดส่วนตัวด้วยร้างไร้ผู้คน..
ใกล้อาทิตย์จะลาลับ............
ดวงจะเอนร่างลงกับผืนทราย..
หลับตาฟังเสียงคลื่นพ้อหาดทราย
ฟังเสียงลมซัดส่าย พ้อดอกหญ้าที่ไหวเอน..
ฟังเสียงนกกาบินกลับรัง ฝากฝังใจให้รู้ว่า..
ไม่ว่าคนหรือสัตว์เมื่อถึงเวลาผ่อนพัก
ก็จักต้องกลับสู่บ้านที่อบอุ่นเป็นสุข ที่รอท่า..
ที่มีใครบางคนห่วงหาอาทรรอด้วยรักภักดีทั้งกายใจ..
ดวงหลับตาฝัน..ถ้าสวรรค์เบื้องบนมีตา..
มองลงมาคงเห็นภาพผู้หญิงนอนดายเดียว
ระทดระทวยกลางผืนทราย เวิ้งว้าง
กับทะเลกว้าง ตรงหน้า
กับขอบฟ้าที่ทายทักทะเลอ้อยอิ่งอ้างว้างว่างใจ แสนไกลตา
จนดูราวกับว่าดวงคือธุลีเล็กๆกลางโลกลำพัง!
18 สิงหาคม 2546 20:43 น.
พุด
ฉันเห็นเธอในดอกไม้สายลมไหว
มวลนกไพร ในฝนพราย แมกไม้ฝัน
ในดวงดาว ในอุ่นแสง แห่งตะวัน
ในความฝัน ในยามตื่น ชื่นฉ่ำใจ..
ฉันเห็นเธอ ในดวงจันทร์ ฝันเคียงฟ้า
ในเมฆา ในเรียวรุ้ง กระจ่างใส
ในผีเสื้อ ในสายน้ำ ในขุนเขา ในเงาใจ
เธอสถิตอยู่กลางใจในเรียวตาในศรัทธาในรักนี้ มิมีวันจะลบเลือน!
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=2438
ที่สุดของหัวใจ
แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ : : Key G
หากข้ามคืนนี้ หัวใจไม่แหลก
ยับเยินเสียก่อน
จะไปอ้อนวอน
ขอเธออย่าตัดรอน รอก่อนวันพรุ่งนี้
เคืองกันเรื่องไร พรากกันด้วยเหตุใด
ฉันยังไม่เข้าใจ
เพราะฉันใช่ไหม
หรือเธอเปลี่ยนไป ไยถึงไม่เหมือนเดิม
แต่ถ้าพรุ่งนี้ ดวงใจยังโกรธ
ฉันโทษใครได้
เป็นกรรมของใจ
พบเธอโดนผลักไส ทำอย่างไรพรุ่งนี้
นับช้ำมากี่ครั้ง
หัวใจยังไม่จำ ซ้ำยังยอมให้ทำ
เพราะรักมากไป
เพราะซื่อสัตย์ไป จึงช้ำใจ
อดทนไว้ก่อนนะใจเจ้าเอย ข้าวอน
จงแข็งแกร่ง แล้วทน รอให้ถึงพรุ่งนี้
พบเธอ แล้วถามเธอ อ้อนวอนให้เธอเห็นใจ
แต่ถ้าพรุ่งนี้ ดวงใจยังโกรธ
ฉันโทษใครได้
เป็นกรรมของใจ
พบเธอโดนผลักไส ทำอย่างไรพรุ่งนี้
นับช้ำมากี่ครั้ง
หัวใจยังไม่จำ ซ้ำยังยอมให้ทำ
เพราะรักมากไป เพราะซื่อสัตย์ไป จึงช้ำใจ...
18 สิงหาคม 2546 14:05 น.
พุด
มีนกไม้บินร่อนห้องนอนขวัญ
รักผูกพันผ่านวันคืนมิไปไหน
ราวกับรอเจ้าของติดปีกใจ
ตามฝันไกลไปด้วยกันวันผ่านมา..
เจ้านกไม้มิดายเดียวมิเปลี่ยวเหงา
เรามีเรารอฝันวันโหยหา
วิญญาณไพรเรียกร้องก้องพนา
เจ้าและข้าจะโผผินบินพร้อมกัน..
เจ้ารู้ไหมใจเจ้าของต้องทำหน้าที่
เป็นคนดีเพื่อที่รักพักใจฝัน
คนเรานี้ดีน้ำใจมอบแก่กัน
เพียงเงาฝันวับวูบไหวสุขใจพอ..
ทุกอรุณหมุนมาข้าและเจ้า
ได้เคลียเคล้ารออิสระนะใจหนอ
ติดปีกฝันสู่ไพรกว้างทางรักรอ
และจะขอซุกร่างกลางพสุธาท้าอินทร์พรหม!
ในห้องนอน...
เหนือที่นอนหมอนมุ้งสีขาวขาวและขาว
จะมีนกไม้..ที่พุดพัดชาซื้อมาจากตลาดนัดในยามค่ำ
ณ..หัวหินถิ่นมนต์ขลังในฤดูร้อนหนึ่งนานมา
ในฤดูร้อนแห่งเดือนเมษา มาเยือน..
นกไม้.
ตัวโตมาก.
ปลายปีกสีแดง และแตะแต้มสีน้ำเงินใต้ปีกสลับเขียวไข่กา
เป็นนกไม้ที่แขวนไว้ให้คิดถึงการโผผินบินไปสู่อิสระใจสู่โลกกว้าง
อย่างที่วาดหวังรอ จะคืนไพรพนามานานปี..เมื่อหมดหน้าที่งามแห่งชีวิต
...
ทุกเช้า..พุดพัดชาจะลืมตามองนกไม้.
.และจะยิ้มให้เหมือนจะกระซิบ..ว่า
นับถอยหลังนะเพื่อนยากนะเพื่อนใจ..
และพุดพัดชาจะเปิดบานประตูกระจกกว้าง
ให้สายลมยามเช้าที่สดสะอ้านผ่านพรู เข้ามา
เพื่อให้เพื่อนยากได้เหลิงลม..
มิตรอมตรมราวถูกกักขังใจ..
นี่คือนกไม้ ที่มิใช่นกไพร..
นอกเหนือจากนกในใจในธรรมชาติ
ที่นาทีนี้มีมากมายมาโผผินบินไปมา
เกาะก้านกิ่งเกี่ยวกอแก้วมากินลูก..
ให้พุดพัดชา แอบอมยิ้มดูด้วยเอ็นดูเป้นยิ่งนัก
และสำหรับนก..ในใจพุดพัดชา
ก็ติดปีกเหินฟ้า..ไปทุกถิ่นที่ทุกนาทีที่อยากบินค่ะ
ด้วยรักหวังเข้าใจนะคะ
หากดวงใจฉันมีปีกบิน
เหลิงลอยเมฆินทร์ได้ดังฝัน
จะอยู่ไหนไม่เคยหวั่น
ฉันบินมาพลันอยู่ใกล้เธอ
แต่บัดนี้เราห่างกันสุดกู่
เธอคงไม่รู้ว่าฉันพร่ำเพ้อ
ค่ำเช้าทุกวันฉันเฝ้ามองเหม่อ
คร่ำครวญเรียกหาเธอเรื่อยมา
เฝ้าแต่ครวญเสียงเพลงฝากลม
เพื่อคลายทุกข์ตรมท่วมอุรา
ฝากกระซิบถึงเธอว่า
ทุกคำสัญญาจดจำมั่น
อีกไม่ช้าคงกลับมาสู่
เคลียคลอชื่นชู้เหมือนดังใฝ่ฝัน
ยิ่งคิดคราใดฉันยังใจหวั่น
หากเธอแปรผัน...ฉันคงขาดใจ.............
18 สิงหาคม 2546 11:24 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=6992
Second Chance
ที่รัก......
วันนี้หลังเลิกงาน..ผมรีบตรงดิ่งกลับมายังห้องที่คอนโด..ของเรา.....
เพื่อมายืนนิ่ง..ตัวชา..ใจหาย..ราวร่วงหล่น.....
ผมรู้ด้วยสัญชาตญาน..ว่า..คุณจากผมไปแล้ว..
และหนนี้..คุณจะไม่กลับมาอีก.....
เหมือนดังคำพูดสุดท้ายของคุณ..
ก่อนที่ผมจะผลุนผลัน..ออกไประงับอารมณ์
หลังจากที่เรามีปากเสียงกัน..รุนแรง..เมื่อคืนก่อน......
คุณขู่ผมว่า..ถ้าผมก้าวเดินออกไปจากคุณ..ในวันนี้..
ผมจะไม่มีโอกาส..แม้จะกล่าวคำว่า
เสียใจ..และขอโทษ..ต่อหน้าคุณอีกตราบจนชั่วชีวิต.........
นาทีนี้....ผมเข้าใจแล้ว...และผมกำลังสับสนอย่างที่สุด.......
ผมไม่อยากเชื่อเลยว่า..ระยะเวลา..เจ็ดปี...
ที่เรารักกันนั้น..คุณจะกล้าตัดสินใจเด็ดขาด..เลิกรา
แค่ชั่วไม่กี่นาที...เพื่อเดินไปจากชีวิตผมทั้งชีวิต.......
ใช่...ผมยอมรับ....ผมทำผิดพลาดไปแล้ว..
อย่างไม่น่าให้อภัย....
คุณก็รู้ดี......ผมยังรักคุณอยู่.....
และรักมาก..เกินจะบอก..เหลือจะกล่าว.....
เหนือคำว่ารัก...คือความเข้าใจของเราสอง....
ที่มีตำนาน..ของความผูกพัน..เสียสละ..
มายาวนานเหลือเกิน...........
อารมณ์ชั่ววูบ..
ที่คงเป็นอุทาหรณ์สอนใจ..ชั่วชีวิตของผม......ให้จดจำ......
ผมหลงทางไปไม่กี่อาทิตย์....
กับเปลือกของสาวสวยเพื่อนร่วมงาน..ที่ดูเปรี้ยว..เร้าใจ..
และน่าหลงใหล..ให้ค้นหาตามติด..
ในมนต์พิศวาส บาดจิต..บาดใจ..
ที่เขาหว่านเสน่ห์หยิบยื่นให้ผม
หัวปักหัวปำ...ด้วยคิดว่านั่นคือ..
ความแปลกใหม่ที่น่าลิ้มลอง..
ท้าทายกายใจให้ชายชาตรีเร่าร้อนรุนแรง
อยากกลายร่างเป็นผู้พิชิตเชย.....ชม....
ผมเพิ่งค้นพบความจริงว่า..ในความรัก..
แม้มีความใคร่ย่อมไปกันได้สวยสดงดงาม.....แต่........
ถ้าเพียงใคร่..สิ้นไร้รัก..ศรัทธา..
ก็เปรียบดังดนตรีเล่นไปคนละทาง........
ยามผมเผลอไผล..ชื่นฉ่ำใจ..ยากยิ่งยื้อยุดฉุดกายไว้...
แต่เหตุใดเล่าใจของผม..กลับไม่อิ่มเต็ม
ในรสรักมากลีลา..ท้าสิ้นโลก..
แต่...กลับคิดถึงอ้อมอก หอมนวลยวนใจที่บริสุทธิ์หวานล้ำ
ในเรือนร่าง..ที่คุณเป็นของผม..แต่เพียงผู้เดียว...
ทั้งจิตและวิญญาณรักอย่างที่คุณเฝ้าพร่ำบอก.....
ผมดื่มด่ำ..ล้ำลึก
ทุกครั้งคราน่าแปลกใจในยามรักยามใคร่.....กับคุณ..
มันมีช่องว่างกางกั้น...ที่ผมรู้ซึ้งแก่ใจ..
ในยามนี้ที่ได้บทเรียนปวดแปลบ..แลกมา..
ไม่ว่าผมอยู่กับหญิงใด..ในโลกหล้า....
ก็ไม่สนิทสนมกลมกลืนราวสวรรค์สรรสร้างเรามาให้คู่กัน..
อย่างพอเหมาะพอดี......
โลกให้รักกับผม..คุณให้ความมั่นคงจงรัก..ภักดี..
ที่จะต่อเติมใจ ในศรัทธา..แห่งรักเราสอง........
ให้หลอมละลายกลายเป็นดังวิญญาณดวงเดียวกัน.........
ที่รัก.....ผมนั่งเงียบงัน..ในความมืดมน....
คิดถึงทุกฉากตอน..ทุกอารมณ์..รัก..ชัง..ที่เป็นธรรมชาติ
ของชีวิตรักเราสอง..ที่พัฒนา..ด้วยสนิทชิดใกล้...
ให้สุกงอม..หอมหวาน..ฉ่ำชื่นในรสรัก....
และได้ตระหนัก..เรียนรู้..อย่างลึกซึ้ง..ลึกล้ำ..
กับคำว่า....สายสัมพันธ์ทางใจที่ตัดไม่ขาด.....
ตราบสายใจ......สายสวาท....ยังมิรู้สิ้น ........
ผมเพิ่งวางหูโทรศัพท์..ลง..
ด้วยใจดวงร้าว..ที่ก้องด้วยประโยครานร้าว
จากใจดวงที่แหลกสลาย....ของคุณพอกัน.......
นุชรักคุณ..รักมาก...แต่นุช..เสียใจ..เสียใจไปแล้ว..
เสียความรู้สึกไปแล้ว.....เสียศรัทธาในรักไปแล้ว
นุชไม่รู้เหมือนกัน..ว่า..นานกี่วัน..กี่เดือน..กี่ปี..
ที่นุชจะเยียวยาใจดวงร้าวดวงนี้ให้รักคุณได้มาก
เท่าเดิม..นุช..ไม่รู้จริงๆ.........
ที่รัก......ผมเข้าใจ...ผมเข้าใจคุณ...
และผมแค่อยากให้คุณ...เข้าใจผม..เช่นกัน
ในฐานะมนุษย์ผู้ชายคนหนึ่ง
ที่อ่อนแอ..หวั่นไหว..ที่สามารถ..ขาดสติ...ไม่ไตร่ตรอง...
ทำผิดพลาดให้คุณช้ำชอกใจจนสุดทน
ผมทำผิดอย่างไม่น่าให้อภัย....ต่อผู้ที่รักผม..ยิ่งชีวิต..
และฝากวิญญาณรักไว้กับผม......
แต่...มันเป็นครั้งแรก...และจะเป็นครั้งสุดท้าย.....
ผมอยากขอโอกาส....โอบกอดคุณไว้ ในอ้อมแขน..
อีกสักครั้ง..พร้อมคำสัญญามั่น..ว่า..
ผมจะรักคุณคนเดียวตลอดไป........ตราบชั่วนิรันดร์........
เขียนมอบแด่ลูกผู้ชายคนดี..ที่ใจพ่ายแพ้ต่อสิ่งยั่วยุ..ไร้ยั่งยืน......ด้วยรักค่ะ
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=6992
Let Me Try Again
Frank Sinatra : : Key F
I know
I said that I was leaving
But I just
couldnt say goodbye
It was only self
deceiving
to walk away
from some one who
means eveything
in life to you
You lean from every
lonly day
Ive learnd and Ive
come back to say
Let me try again
Let me try again
Think of all
we had before
Let me try once more
We can have it all
You and I again
Just forgive
me or Ill die
Please let me try
again
I Was such a foot
to doubt you
To try
to go it all alone
Thevs no sense,to live
Without you
Now all I do
is just exist
and thik about
the chance Ive missd
To beg
is not an easy task
But pride
is such a foolish mask
Let me try again
Let me try again
Think of all
we had before
Let me try once more
We can have it all
You and I again
Just forgive
me or Ill die
Please let me try
again
18 สิงหาคม 2546 10:33 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1983
เราคุยกัน..ฝัน..เรื่องเดียว
รัดร้อยเกี่ยวก้อยใจ..ฝัน ฝันไกลสู่ไพรกว้าง
ต้นไม้..ไร้..ร้าง..สายรุ้งพราว ดาวพร่าง ความว่าง ว่าง
ในกลางใจ ในเงียบงาม ในยามฝัน ฝัน และฝัน..
ใบไม้ ร่วงหล่น รอปุ่มปม ผลิตาแตกใบ
ใบไม้ไพร ในราวป่า รอลับลา รอร่วงหล่น ดับดวงฝัน
หากผูกพัน มองนวลจันทร์ ที่ยังแย้มยิ้มพริบพราวให้ คือดวงตา ใช่ดวงใจ!
สายฝน สายฝัน สายสวรรค์ สายสวาท
เหมือนสายฟ้าฟาด วันฝนพรำ ย้ำรอยเจ็บ ย้ำรอยใจ
เลือกเดินจากไป ไม่เหลียวมา ไม่หวั่นไหว แม้เสียใจ..เสียใจ และเสียใจ!
เพราะเข้าใจ..เพราะหัวใจ เพราะหัวใจเธอ..เผลอฝันเพ้อละเมอหาใครอีกคน!
ก็จนเอ๋ยก็จนใจ..
ใจเอ๋ยใจคน ใจเอ๋ยใจใคร ขอให้ไป ขอให้ไกล ได้พบใจได้พบคนในกมลใน
ดวงใจที่เฝ้าพ้อเฝ้ารอคอย...พลอยอวยพร!
บันดาลใจจากรักชื่นชมศรัทธาในงาน
ลูกผู้ชายคนดีคนกล้าคนเก่งในดวงใจพุดพัดชา
ม.ลปริญญากร วรวรรณ
นักเขียนนักถ่ายภาพสัตว์ป่านักอนุรักษ์พงไพร
หลังติดตามผลงานและอ่าน...มิตรภาพต่างสายพันธุ์
เรื่อง..ลูกผู้ชาย..ใบไม้..และป่าทึบ..จบลง
ด้วยน้ำตาพร่างเงียบด้วยหัวใจรานร้าวเฉียบเย็น..ยิ่งนัก..
....
และสำหรับทุกดวงใจ..
ที่เผลอแสดงความหวั่นไหวออกมา
ให้ลูกผู้หญิง ใบไม้ สายฝน จับได้ว่าสิ้นไร้ซึ่งความหนักแน่นมั่นคง
จงรัก..ดั่งแผ่นผา ผืนน้ำ..
...
พุดพัดชา..จะเขียนอีกคราในชื่อเดิมนี้
ที่หวังวาดให้มีให้เป็นอีกนิยามรักนึงนะคะ..