21 สิงหาคม 2546 01:23 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=485
ลั่นทม ชมพูแดง บานชูช่อ
พราวละออ รอพรายฝน หล่นยามค่ำ
การะเวก เสกมนต์ ปนระกำ
เรไรร่ำ จำปีพราก จำจากลา..
แก้วเพ้อพ้อ รอหวาน กลางใจพี่
รอคนดี ที่ใจดำ ไม่ห่วงหา
แก้วเกลื่อนกล่น พรมพร่าง ร้างชีวา
รอรอท่า ระทมที่ พี่เปลี่ยนใจ..
เล็บมือนาง กวักหัวใจ ไยไม่กลับ
ลาเลยลับ ลืมเลือนลาง ห่างหวามไหว
กล้วยแตกหน่อ เป็นหวีคล้อย คอยน้อยใจ
พี่จากไป อยากบวชชี หนีรักตรม...
พุด..เสี่ยงทาย รอดอกหาย สายจนค่ำ
เข็มขาวพร่ำ ร่ำร้อง ปองรักขม
กล้วยไม้ม่วง ร่วงราวโศก รักระทม
กุหลาบตรม คาต้น จนแปลกใจ..
ราตรีหวาน บานเศร้า ราวร่ำไห้
สายหยุด หยุดเสน่ห์หาย ราวหวั่นไหว
ลำดวนเอ๋ย เคยรอ ใจดวลใจ
ใครหนอใคร ใจไม่จริง ทิ้งจนตรอม!
ฟ้าครึ้ม..พยับเมฆเทาทึม
ดวงอาทิตย์สีไพลลอยเรี่ยดงไม้
สาดสายประกายแสงทอง ส่องสีหวานนิ่มนวล
ทอทอดลอดผ่านร่องเรียวไผ่ และเรียวปีบใบระยิบ..
เกิดประกายระยับรับแดดอ่อนอุ่น..
ไม่นาน..ฟ้าพลันผันแปรเปลี่ยนสี
ทิ้งเวทีหวานเป็นพายุไหวไกวกิ่งไม้ให้โอนเอนไปมา ตามแรงลม
ฝนเริ่มลงเม็ดพราว ปลิบปลอย
พลอยให้ใบจำปีปลิดปลิวลิ่วลอยคว้างพร่างพื้น..
ไพล..ค่อยค่อยก้มลงเก็บใบไม้ ด้วยใจดวงล้า..
คว้าแจกันดินเผามาจัดแจรงใบไม้หลากสี
ด้วยใจดวงดีดวงละมุนดวงเดิมๆ
ใบจำปีไล่โทนสีน้ำตาลอมทอง อ่อนแก่
และแม้แต่ใบออกแดงแดงแห้งกรอบ
เป็นแจกันใจแจกันใบไม้ ที่ไพลคิดว่างามแปลก
พิเศษพิสุทธิ์ที่สุดในโลก ณ.นาทีนี้
ทันทีที่มองเพ่งมองพิศด้วยตาภายในดวงที่สาม
เห็นงามง่ายงามสัจจะงามธรรมดาธรรมชาติ
และแฝงฝังความดายเดียวเปลี่ยวเหงาในงามเงียบนั้น
ไพลทรุดตัวลงนั่ง..ตรงเก้าอี้ไม้ไผ่ เก้าอี้ในดวงใจ
ประจำใจที่ดวงรักเป็นนักหนา
ค่าที่มันทำให้ได้ชิดใกล้ธรรมชาติๆธรรมดาๆ เสียเป็นยิ่งนัก
ในคลองตาพราวพร่างละเมียดละมุน
กับสิ่งที่บางคนมองผ่าน สิ้นไร้หวานสิ้นไร้ความเข้าใจ..ไม่อยากสัมผัส..
ท่ามกลางฝนพรำ ....
ไพลนั่งนิ่งเงียบให้เฉียบเย็นของสายฝนสายวสันต์ลา..พร่างพรมลงมาพร้อมหยาดน้ำตาพร่างพรายไปพร้อมกัน!
20 สิงหาคม 2546 09:43 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=133
หอบกิ่งรักมาวางลงที่ตรงหน้า
อ้อนใจว่าให้ปักใหม่ในใจฝัน
ลืมแล้วหรือศรัทธาใจเป็นเดิมพัน
คนรักกันควรอภัยไม่ใจดำ!
เจ็บเจียนตายคล้ายหินทับใต้หล้าโลก
ยิ่งกว่าโศกเกินกว่าเศร้าร้าวใจช้ำ
บทเรียนนี้ที่สาสมลงโทษทำ(โทษฑัณท์)
มันกระหน่ำซ้ำทรุดหยุดหายใจ!
หากสาใจไม่พอก็ถือว่ามิใช่รัก(หมดสิ้นรัก)
แค้นสาหัสมากกว่าว่าจริงไหม
คนรักกันไม่ทำร้ายให้เสียใจ
ให้อภัยเข้าใจกันวันผ่านมา...
เขียนไม่ออกบอกไม่ถูกปลูกไม่ขึ้น
หลับหรือตื่นผวาว่าโหยหา
ทุกฉากตอนเคยอ้อนใจทุกวันมา
ลบเหว่ว้ามาเติมฝันสร้างมั่นใจ..
ฤาสายสวาทขาดสิ้นแล้วแก้วสวยหวาน
ช่อรักรานปลิดกลีบสิ้นถวิลไหว
เพียงพระพรหมส่งคนมาทำร้ายใจ(ทดสอบใจ)
เดินจากไปหลังชนกันตราบวันตาย!
เขียนแทนทุกดวงใจที่หัวใจกำลังอยู่ในห้อง..ในห้วงไอซียูนะคะ
โรคนี้..ขึ้นอยู่กับคุณหมอค่ะ
เมตตารักษาหรือว่าสุดเยียวยาแล้ว
จนต้องบอกคนไข้ว่า...ให้เปลี่ยนหัวใจดวงใหม่..
และสำคัญที่สุด..คุณหมอต้องมีคำอธิบาย
ให้คนไข้ทำใจยอมรับได้เสียก่อน..นะคะ
ก่อนจะลงมือ...ลงมีด..กรีด..ให้..หายเจ็บชั่วชีวิต!
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=133
ฆ่าฉันให้ตายดีกว่า
สวลี ผกาพันธ์ #อ.กวี สัตโกวิท : : Key Eb
ฆ่าฉัน ฆ่าฉัน ให้ตาย ดีกว่า
ใย ถึงไม่ เข่นฆ่า และไม่ ใยดี
ทิ้งฉัน ขื่นขม สมใจ ผละหนี
ฝากไว้ คือความ บัดสี
ราคี ติดกาย
ฆ่าฉัน ฆ่าฉัน ให้ตาย ดีกว่า
ให้ พื้นดิน กลบหน้า พอจะ หลบอาย
เศร้านัก ชาตินี้ รู้ดี เมื่อสาย
เจ็บรัก หักทรวง สลาย
โหดร้าย สิ้นดี
ไม่ ปรารถนา แล้วมารักกัน ทำไม
ฉันเลว อย่างไร
ฉันเลว แค่ไหน กันนี่
ถึง สลัด รัก-ไม่ ปรานี
ทำเสีย ป่นปี้
เหมือนฉัน ไม่มี หัวใจ
ฆ่าฉัน ฆ่าฉัน ให้ตาย ดีกว่า
ชีวิตนี้ ไร้ค่า จะมอง หน้าใคร
ไม่รัก มาผลาญ ฉันใช่ เหล็กไหล
อนิจจา ฉัน ทนไม่ไหว
ต้องตาย ต้องตาย สักวัน
ฆ่าฉัน ฆ่าฉัน ให้ตาย ดีกว่า
ชีวิตนี้ ไร้ค่า จะมอง หน้าใคร
ไม่รัก มาผลาญ ฉันใช่ เหล็กไหล
อนิจจา ฉัน ทนไม่ไหว
ต้องตาย ต้องตาย สักวัน...
19 สิงหาคม 2546 23:12 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=2126
ไม่มีคำพูดออกไปจากใจนี้
ไม่มีคำเสียใจและเสียขวัญ
ไม่มีคำแก้ตัวใดใจจาบัลย์
ไม่มีคำรำพันรำพึงครวญ..
เธอเชือดเฉือนหัวใจจนสิ้นซาก
เธอกระชากใจยับเกินไห้หวน
เธอรู้ดีฉันชอกช้ำมาเกินควร
ทุกสิ่งล้วนแหลกยับอยู่กับใจ
ทำร้ายร่างดีกว่านะยอดรัก
ไม่นานนักเจ็บคลายหายร้าวไหว
ยังมีเธอรุมกรีดซ้ำแผลหัวใจ
ทั้งร่างทั้งใจในวันนี้..ไม่มีแล้ว..ไม่ใช่คน!
19 สิงหาคม 2546 23:05 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=2126
เสียใจ ทำไมเมื่อเลือกแล้ว
เลือกฝากแนวแทงใจคนข้างหลัง
เสียใจ ทำไม! หากชิงชัง
หากจะฝัง เหยียบให้ยับ กับธุลี....
เสียใจ..ทำไม ทำไปแล้ว
ใจดั่งแก้ว แหลกสลาย ในวันนี้
เสียใจพูดทำไมเล่าคนดี
เธอรู้นี่ เธอมีสิทธิ์กับหัวใจ.....
เสียใจ..ขอโทษ..สายเสียแล้ว
ไม่เหลือแวว ใจดี ที่หวามไหว
แววโหดร้าย ห้ำหั่น สะเทือนใจ
แววเสียใจ ไกลเกินคว้า มาใกล้กัน..
เสียใจ..ขอโทษทำไมนะ
เมื่อใจจะพิสูจน์ฝากยอดขวัญ
ให้โลกรู้เธอทั้งสองปองรักกัน
สำหรับฉัน ไร้หัวใจ ไม่มีซึ่งตัวตน..
เสียใจ..ขอโทษคำซ้ำซ้ำ
คำตอกย้ำคำซ่อนเงื่อนคนสับสน
เสียใจเพราะสงสารหรือไรในกมล
วางกองลง..ทิ้งไว้ให้...โลกลืม ใต้เท้าเธอ!..
19 สิงหาคม 2546 21:51 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=302
สายชลวนเชี่ยวเกลียวสวาท
ตัดไม่ขาดบาดดวงใจไยขื่นขม
คืนและวัน ผันแปร ใจยิ่งตรม
รอยระทมลมสวาทพลาดเพราะรอ
สายชลวนไปไม่ไหลกลับ
ลาเลยลับลางเลือนเหมือนใจหนอ
คนเคยรักเคยหลงจนใจพ้อ
กลับให้รอให้รักภักดิ์นิรันดร์
สายชลวนไปใจยังเจ็บ
ถึงหนาวเหน็บเจ็บช้ำยังมีฝัน
สายกมลมิวนเวียนตามคืนวัน
สายใจขวัญมิผันแปรแพ้สายชล!
เขียนบทกวีนี้กับตะวันลายามสนธยา
นั่งเดียวดายในเรือกลางสายชล..วนเชี่ยว..
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=302
สายชล
จันทนีย์ อุนากูล : : Key C
เหม่อมองดูสาย น้ำ วน
เหม่อมองสายชล ที่ไหล ริน
เหม่อมองดูนก ผก ผิน บินลับ ไป
ยาม เหงา เราถอนใจ บิน ไป ไม่กลับ มา
เปล่าเปลี่ยวจริงหนอ หัว ใจ
อยากจะรักใคร เศร้าใจทุกครา
หมดแรงกำลัง อ่อน ล้า และหลง ทาง
เจ็บ นั้น ยังเจ็บไม่จาง อ้าง ว้าง ดังสาย ชล
แม้ใจจะเจ็บ เก็บมาคิดคิด
อดีต ช่างงามล้ำล้น
มิเคยลืม ภาพเราสองคน
มิเคยลืม ยังหลอกลวงตน มิเคยลืม
ว่าเคยรักเธอ สาย ชล
หลั่งรินไหลวน มาพานพบเจอ
เหตุการณ์ผ่านไป ยัง เพ้อ พะวงทุกวัน
อก เอ๋ย ขมขื่นตื้นตัน จาก กัน หรือฝัน ไป
มิเคยลืม
ว่าเคยรักเธอ สาย ชล
หลั่งรินไหลวน มาพานพบเจอ
เหตุการณ์ผ่านไป ยัง เพ้อ พะวงทุกวัน
อก เอ๋ย ขมขื่นตื้นตัน จาก กัน หรือฝัน ไป