22 สิงหาคม 2546 16:20 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=101
ยามตะวันลา รอนรอน อ่อนอ่อนแสงอัสดง..
จะมีร่าง ราวนางไม้นางไพร เดินเดียวดาย เดียวดาย..
สยายผม แต่มิได้ห่มสไบ..
เดินเดินไป ใจดายเดียว ใจเดียวดาย
แต่! เธอ คงมิใช่นางไม้ นางไพร.. เพราะเธอสวมรองเท้าผ้าใบนักกีฬา..
ขาแข็งแรงราวนางกวางป่า นางกวางไพร...
กระโปรงสั้นพลิ้วไหว ไม่สนใคร ไม่สนใจ ใครหันมอง ใครหันมา..
เสื้อยืดสีขาวโปโลธรรมดา ธรรมดา หน้านวลนวล ยองใยยองใย
เธอคือนางใจ..ของใคร ..ของใจ..
ไม่มี..ไม่มี..คงไม่มี เพราะใจเธอคนดี มิวิญญานอิสระ วิญญานไพร..วิญญานไพร
ไร้พันธะ พันธนาการใจ..ไม่มีหัวใจ. ไม่มีไม่มี.
นางไพร นางไพร ...ถอดใจ ถอดใจ วางไว้ วางไว้
กลางสายธรรม กลางสายธาร หวานหวานระรินแห่งชีวินแห่งชีวี
ให้ไหลล่องเลาะเลียบไปสู่พงไพรพงไพร ในเวิ้งใจ ในเวิ้งฝันอนันตกาล..
หวานหวานหวาน.ไม่รู้จบ ว่างไม่รู้สิ้น เลิกถวิลหาใคร หาใคร...
ร่าง เพียงร่าง..ห่างเหนือรัก รู้หักอกรู้หักใจ...
คนและใคร..ใจและคน ที่หมุนวนที่หมุนไป ที่หมุนไว...
ดำรงร่าง สร้างดวงใจ เพื่อสิ่งใดเพียงดวงใจ
ใครเล่าใคร..รักนางไพรปานดวงใจปานดวงตา...
เดิน เดินไป...ในโลกใจ ในโลกไพร ในฝันไพร..
ฝันฝันไกล ไปให้ถึง..ไปให้ซึ้งถึงฝั่งใจ..
ไม่เปลี่ยวเหงา ไม่เปลี่ยวใจ ไม่เดียวดาย ไม่เดียวดาย ..
คล้ายทางใจเส้นสีขาวทอดยาวไกล..ทอดสายใจ ในสงบงาม แสนว่างเปล่า..
ที่พอใจ ที่พอดี ที่พอเพียง
นางไพร..ท่องท่องไป เดิน เดิน .เดิน......
อ้าว? เด็กน้อย ตัวดำดำ ไยระกำ ไยหงอยเหงา เอาตังค์ไป
เจ้าหิวไง..ใจให้ใจ..ใจซึ้งใจ!
เดิน เดินไป นั่น..คนงาน..เจ้าทำอะไร ดงดอกโสนเรา (คิดในใจ)
จิ้มน้ำพริกยังชีพไง ..ไม่สวยใสอย่างนางมอง..อย่าข้องใจ
อีกด้านไงในโลกครึ่งใบ บิดเบี้ยวนี้ ที่ทำใจ ที่เข้าใจ..
เดิน เดินไป แวะพักใจ....
กระท่อมไพร หลังคาจาก ฝนหล่นพราก หยดตึ๊ง... ตึ๊ง... หยดกลางใจ..
อ้าว? (อีกแล้ว) จุดไฟ จุดทำไม จุดทำไม..ไหม้กระท่อมนอนที่ไหน
ลูกอยู่ไย..ไม่ช่วยดับไฟนะ!
ไม่..ไม่..เจ้าของตอบ แค่ชอบชอบไล่ยุงไง ไล่ยุงดี..
และอีกที คิดถึงบ้าน หอมกองฟาง หอมควันไฟ..หอมกลางใจ หอมกลางเมือง
นางนางไพร เดิน เดินไป เดียวดาย เดียวดาย ไร้หัวใจ ทอดถอนใจ
มองฟ้าไกล มองฟ้าไกล ส่งดวงใจ ส่งสายไย ฝากเมฆไป ฝากนกไพร
สู่ไพรกว้าง..สู่สายธาร หวานดอกไม้ ที่รักรอ.ที่พ้อพ้อที่เพ้อครวญ..
21 สิงหาคม 2546 23:16 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=336
เมื่อโลกนี้ไม่มีหญิงช่างฝัน
แค่เงียบงันชั่วครู่ใช่สิ้นหวาน
ฟ้าสีโศกโลกยังสวยดอกไม้บาน
จันทร์ดวงหวานยังผ่านมาในธาตรี..
เสน่หาสวาทหวังยังคงอยู่
โลกหมุนคู่สุขเศร้าเคล้าใจนี้
ดาวยังงามยามเยือนแย้มแต้มราตรี
ปลอบชีวีมีคืนฝันวันฝากใจ
ทะเลยังคงครวญคร่ำมิหลับไหล
ให้ฝันไกลไปสู่ฝันอย่าหวั่นไหว
คลื่นคลอทรายยังร่ายมนต์เรียกดวงใจ
มะพร้าวไกวยังไหวกิ่งทิ้งร้าวราน
ลำธารใสในราวป่าระรินอยู่
นกคลอคู่ยังกู่ก้องร้องเพลงหวาน
พะยอมไพรไหวกิ่งกราวพราวสู่ธาร
รุ้งพาดผ่านยังหวานหวังกำลังใจ
เมื่อโลกนี้ไม่มีหญิงช่างฝัน
ยามมองจันทร์แจ่มกระจ่างสว่างไสว
คิดถึงฉันวันไหนเศร้านะดวงใจ
พร้อมเคียงใจ..ส่องนำทาง ห่างมืดมน..
21 สิงหาคม 2546 21:35 น.
พุด
url=http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=316
ชอบเพลงนี้มากค่ะ..ฝากให้ดวงใจฟังไปด้วยกันนะคะ
นานมาแล้ว....หลายปี ที่มีโอกาส ฉลองวันเกิดริมทะเล
กับคนรัก และรู้ใจ เพียงสองคน สองดวงใจ แต่ไม่เดียวดาย....
กับเสียงคลื่น ราวดนตรี กับราตรีที่มีดวงดาวนับพันอวยพร
กับพลิ้วแผ่วของลมทะเลบางเบา กับสองเราในอ้อมอกอุ่น หวานละมุนมิรู้สิ้น..
กับดินฟ้า ที่รู้เห็นเป็นพยานรัก แม้ผ่านมานานนัก แต่ยังฝังใจจำ...ถึงวันนี้...
คนดี...เตรียมกระทงน้อยลอยแสงเทียนงาม วับวามไหว ไปในทะเลกว้าง
เสี่ยงทาย ให้เราสอง ครองรักกัน....ยืนยาว......
เราเป่าเทียนพร้อมกัน เทียนดับพลัน จูบดื่มด่ำก็ตามมา นิ่งนาน หวานล้ำ
จนใจฉัน ลอยละล่องราวฟองเมฆ.......สู่สวรรค์....
เรานอนนับดาวพราวฟ้า ใต้ผ้าห่มผืนเดียว
กลิ่นหอมจากกาย ไร้สิ่งใดขวางกั้น จนใจฉันเกินทานทน
ปนเป ด้วยแรงรัก แรงฤทธิ์พิษสวาท
พาใจและร่างเรา หลอมละลายกลายเป็นเนื้อเดียว หนึ่งเดียว
เนิ่นนาน หวานหอม.....
วันเกิดปีใดไหนเล่า จะสุขเท่าปีนั้น
ที่ฉันมีเธอ และฉลองฝันวันหวาน แสนหวานกับเธอ
กับพระจันทร์คืนเพ็ญเด่นดวงที่ทะเลงาม
เสียงเพลงอวยพรใด ไหนเล่า จะหวานเท่า
คำออดอ้อน วอนขอรัก จนอ่อนใจ
ยอมทอดใจ ระทวยกาย ไปกับเธอ....
ความอบอุ่น จากงานใดไหนเล่า
จะยิ่งใหญ่เทียบเท่า ความโอบเอื้อ
จากอกอุ่นแข็งแรง ยามเธอโอบกอด....
วันเกิด ปีแล้ว ปีเล่า ใจฉันไม่เคยเศร้า
เมื่อใจดวงร้าวคิดถึงคืนนั้น นานมาที่หวานหอม
หลอมรวมให้ใจเราสองนี้
ยิ่งเป็นหนึ่งเดียว
ไม่เกี่ยว ไม่เก่าไปกับกาลเวลา..นะดวงใจ
เป็นจินตนาการเขียนเพื่อประกวดนะคะ ยังไม่เคยแสดงเองค่ะ
หาพระเอกโรแมนติกแบบนั้นไม่พบเจอเลยค่ะ
21 สิงหาคม 2546 20:22 น.
พุด
url=http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=316
น้ำผึ้งหวาน.....
กระท่อมน้อยในดงตาล กับน้ำผึ้งแสนหวานจากใจเรา.....
เรื่องนี้มอบให้ชัยชนะเพราะขอให้พุดพัดชา
ใส่ชื่อเป็นพระเอกสักเรื่องนะคะ.เลยทำตามคำสัญญาค่ะด้วยความขอบคุณ
ที่หันมาอ่านงานย้วยๆของพุดพัดชาค่ะและตามให้กำลังใจตลอด..
ขอบคุณทุกท่านด้วยนะคะ
.......
ชัย..ขับรถ เพื่อพาอรไปไกลห่าง จากกรุงเทพ..เมืองฟ้าอมร
จากจร สักอาทิตย์ ไปเติมไฟ เติมน้ำผึ้งให้กับหัวใจของสองเรา....
เราออกจากบ้าน....ราวตีสาม ตอนที่ดาว ยังพราวพร่าง เต็มอ้อมฟ้า
พระจันทร์ยังเสน่หา อ้อยสร้อย ยามราตรี....
น้ำค้างหยดเยียบเย็น....กลิ่นเล็บมือนางริมรั้ว อวลละมุน....
จนต้องเด็ดมาสักช่อ
พอให้ในรถ....หอมหวาน..รับอรุณ....
ชงกาแฟ หอมละมุนลิ้น จิบรับ อารมณ์หวาน
ที่ทำให้ใจเบิกบานแย้มยิ้มพริ้มเพรา
รับวันแสนดี...ที่กำลังรอ ให้เยี่ยมเยือน....
ทางด่วน....ไม่มีรถเหมือนเวลากลางวัน
ที่ด่วนกันจัง จนน่ากลัวว่าจะไปไม่ถึงที่.....
คืนนี้..เมื่อมองผ่านสะพานแขวน
เห็นแสงไฟพราว จากตึกสูง นับร้อย นับพัน
ลดหลั่นเรียงราย ยืนทะมึน ไม่ยอมหลับไหล ไปกับกาลเวลา....
เปิดเพลง...เพราะๆ..แผ่วๆในรถ ให้บรรยากาศ สุขล้ำ เกินรำพัน....
พี่... เกลียดวสันต์....เพราะยามนั้น พี่ไกลเจ้า......
มองฟ้า แล้วพาใจเศร้า
ฟ้าพราว เด่นดวง
พี่...คะนึง.....คิดถึง....คราใด ให้เจ็บทรวง
อกเอย...ร้างเลยพุ่มพวง...
ด้วย.. วสันต์ลวง.....ให้เจ้าจากไกล
ดึกเข้า เจ้าหนาว
กลัว.... เสียงลมกราว กลัวหนาว ทนไม่ได้
เจ้ากลัวฟ้า ราตรี มืดมนใจ
แม้เรไร น้องกลัว แทบสิ้นชีวัน
พี่....กระซิบ...ปลอบใจ
เจ้าร้องไห้รำพัน
น้องเอย..ไยหวั่น วสันต์กลาย..ตามฤดู
แสนจะอดสู วสันต์ ไม่เอ็นดู
ชู้ไกล เพราะใจ เธอหวั่นวสันต์......
.........................................
จิบกาแฟ ทีละนิด ละนิด ปลุกชีวิตชีวา
และอารมณ์ให้ตื่นเต้น เร้าใจไปกับ
ความรู้สึกอ่อนหวาน แสนดี ที่ได้หลีกลี้
หนีไปจากความจำเจ สับสน แบบคนเมือง...
และยิ่งวิเศษล้ำ...เมื่อมีชัย..คนดี ที่แสนรัก
เคียงข้างไป ตามหาฝันวันที่มีเพียงเราสอง...
อรคิดว่า...เป็นการดื่ม น้ำผึ้งพระจันทร์
ที่แสนหวานซึ้งซ่านทรวงในวันนี้
วันที่ชีวิตเราเพิ่งเริ่มต้นบทเรียนแรกบทเรียนรัก
บทเรียนวิวาห์ท้าทายดวงดาวนับพัน
ที่พริบพราวพร่างพรายพร้อมอวยพรให้ครองคู่เคียงข้าง
กันไปบนถนนสายดวงใจไปชั่วกาลนิรันดร์
อรเตรียมของใส่บาตร ไว้เหมือนทุกครั้ง
ที่เรามักจะถือโอกาส ทำบุญ ระหว่างเดินทาง..ไปไหนๆ
ชัย..ชอบดงตาล แถวเพชรบุรี
เหมือนใจอรนี้ที่ หลงใหลพอกัน
บางครั้ง เราเคลิ้มฝันว่า
ได้ย้อนคืนสู่อดีต สมัยสุโขทัย ในยามก่อนเก่า
นาข้าว เขียวชะอุ่ม.....
พลิ้วรวงเรียว ล้อลมทายทัก แสงอาทิตย์สีทอง ในยามเช้า
ให้น้ำค้างพราว เกาะก้านกอ กิ่งใบ หายวับไปกับ แสงแรก
ของอรุณรุ่ง อุ่นรวงเรียว
ภาพ พระสงฆ์ เดินเรียงมา เป็นทิวแถว ท่ามดงตาล ยิ่งพาให้ใจเรานี้อิ่มเอิบงามล้ำ
ไปกับความสงบงาม ในยามนี้ ที่ได้ทำบุญตักบาตร
อธิษฐานให้เกิดสิ่งดีมีมงคล..แก่ชีวีนี้
ที่ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา....พาใจให้ยิ่งสว่างไสว ร่มเย็น เป็นสุข....
ไม่นานนัก..คุณเลี้ยวรถ เข้าสู่กระท่อมหวาน กลางดงไม้ ดงตาล แห่งนี้
ที่เรียกกันว่า หาดปราณบุรี...
อรตาหวาน ยิ่งกว่าตาลในดงเสียอีก
เมื่อมองไปรายรอบ ในกรอบตา กรอบใจ....
ทะเลตรงหน้า..น้ำเงินเข้มงาม สะท้อนแดดอ่อนอุ่น
ละมุน นวล ด้วยเรียวแดด ไล้โลม
เคียงคู่กระท่อมน้อย ที่พักพิงอิงอุ่นของสองเรา
คือดงตาล และดงตาล สลับซ้ายขวา
มีลั่นทม แดง ขาว พราวไปทั้งต้น
อวดดอกบานหวาน พอกันกับใจดวงนี้....ที่รีบเอามาทัดเคลียแก้ม
เสียงดนตรี จากใบตาล ซัดส่าย ซู่ซ่า ซูซ่า
กรอบแกรบ กรอบแกรก แทรกมาหวานแว่วรับลมทะเล
เห่กล่อม ให้ใจอรนั้น พลันหวาน หวาม
ราวถูกโอบอุ้มด้วย ฟองเมฆขาวนวล
หอมแก้ม หอมคางสากๆ ของคนดี
คนใกล้ ที่ช่างรู้ใจ พามาถึงที่ แสนดี แสนสวย แสนหวาน
ในวันนี้ ให้ใจดวงดี ได้รับงาม ง่ายๆ
ใกล้ชิดเชยธรรมชาติ ที่ชื่นชม ไม่เบื่อเลย....
น้ำผึ้ง..ที่ว่าหวาน สำหรับอรนั้น
ต้องรินรด หยดมาจากใจดวงดีที่หวาน บานรอรับงามเป็น.....
ในปฐพีนี้ ที่โลกหยิบยื่นให้มา..
ถ้า...เริ่มเรียนรู้รัก ให้เป็น จักเห็น สิ่งที่ซ่อนอยู่ในงามละมุน
ในทุกถิ่นที่ ที่มีความเรียบง่าย รายรอบ ตัวเรา.....
กระท่อมหวาน ในดงตาล หวานไปกับ น้ำจิต น้ำใจ
ของชัยคนดี ที่มีรัก และเข้าใจในกันและกัน
อรกอดชัย...แนบแน่น ไปกับลมละเมอ
เพ้อครวญริมทะเล ที่เห่กล่อม.....
ราวจะบอกให้รู้รัก รู้ค่า รู้ถนอมใจ....ไปจนกว่า...
นาทีสุดท้ายของชีวิตนี้ ที่บางที
อาจมิยาวไกล ดั่งใจเราคาดหวัง นะคนดี
แม้เราสองนี้จะ.... แสนรักเอย... แสนรักในกมล.......
21 สิงหาคม 2546 20:00 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=7045
รอ..รักฉัน..วันวิวาห์..นะคนดี
วันแห่งความรัก..ใช่วันแห่งความรัก...กำลังใกล้เข้ามา..........
อรคิดว่า...สำหรับอร..มีวันแห่งความรัก
ได้ทุกวัน ทุกเวลา....
อร..รักธรรมชาติงามทุกวัน....
รักแม่..พ่อ..รักญาติมิตร..รักเพื่อนฝูง....และ........
รักคนที่อรรัก.ดังดวงใจ...รักวันเติมวัน...จนล้นใจ..
โดยมิพักต้องรอที่จะรัก..ในวันนี้.......
ถ้าเราจะรักใคร...ไหนเลยจะต้องรอวันนั้น....วันนี้....รักแล้วก็รักเลยค่ะ
วันนี้อาจ ...ให้คนรักกันทำสิ่งดีๆให้เพิ่ม..เติมใจให้กัน..
ให้มั่นคงจงรักยิ่งขึ้น ยิ่งขึ้น.เพียงนั้น............
แบบฉบับรักของอร......อาจจะไม่เหมือนใครบางคน....
และอาจจะเหมือนใครอีกหลายๆคน........
อรคิดว่า...อรจะรักนวลสงวนตัว...
เพราะอรคืออร..ผู้หญิงไทยใจยังเต็มร้อย...
อาจจะยาก.....แต่อรจะรู้สึกดีถ้าได้ทำสิ่งนี้.....ที่อรตั้งใจ...........
บางคนที่มีความรัก...บอกยากที่จะอดทน...และรอคอย.....
เพราะด้วยหลายเหตุผล...........
แต่นาทีนี้....อรคิดว่า ถ้าเรารักใคร.....สักคน....
ไม่ว่าเขา...หรืออร......ก็ควรที่จะเรียนรู้....
คำๆนี้...ที่จะมีสิ่งดีๆมากมาย..
ให้คนที่รักและห่วงใยเราดังดวงใจ...ได้มีความสุข.......
ความชื่นใจ....ความภาคภูมิใจไปกับเราด้วย....
ในวันอันเป็นมงคลยิ่งของชีวิตเรา.........
อรชอบความรู้สึกงดงาม...ที่จะได้เดินเข้าสู่ประตูวิวาห์...
พร้อมกับความปิติ..ตื่นเต้น.. วาบหวาม.....
ที่จะได้เรียนรู้บทเรียนรัก..วันวิวาห์..จากคนที่อรรัก..
และจะฝังฝากชีวิตจิตใจ ของอ้อมไว้ตราบจนวันตาย...............
ทุกคน..อาจจะมีความคิดเห็นไม่เหมือนกัน..
แต่อรชอบทำทุกสิ่งหลังจากที่มั่นใจเต็มร้อย
เพราะเราคือลูกผู้หญิง..ในสังคมไทยนี้...
ที่ผู้ชายไทยบางคนยังมีกฎกติกาที่ชวนให้เรา
เสียเปรียบ..มิใช่ดอกหรือ........
และอรเคยเห็น..ประเพณีแต่งงาน..
ที่บ้านนอก..บ้านเกิดของอรเอง.........
ที่อรรู้สึกประทับใจมาจนถึงวันนี้.........
ก่อนวันงาน.......บ้านของเจ้าสาวจะจัดสถานที่...
และห้องวิวาห์ที่แสนสวย........
ญาติมิตร...เพื่อนฝูง..มากหน้า..
จะมาร่วมกันช่วยงาน....เตรียมอาหารหวานคาว.........
เสียงเพลง...จากเครื่องกระจายเสียง...แว่วหวาน..ลอยลม......
กล่อมขวัญวันวิวาห์ ให้ใจทุกดวง..คึกคัก...แย้มยิ้ม ....
เบิกบาน.....เป็นงามประเพณี งามใจ...แจ่มใส......
สดชื่นรื่นเริง....เพื่องานแสนหวาน...แสนมงคล..
มีมนต์ขลัง.....ยาวนานนิรันดร์
ภาพห้องวิวาห์..แสนน่ารัก..
ที่ถูกจัดไว้รอรับเจ้าบ่าว ก้าวผ่านประตูเงิน..ประตูทอง
มาคล้องดวงใจ..เคียงคู่..ชิดเชย........
ห้องที่เด็กๆ...และคนเฒ่า..คนแก่..แอบดู..แอบมอง..
แล้วยิ้มกริ่ม..สุขใจกับสองดวงใจ...
ในวันชื่นคืนสุขของบ่าว..สาว...ปานกัน........
ใครไหนเล่าจะตื่นเต้น...เท่า...บ่าวสาว.......
นอนไม่หลับ..กระสับกระส่ายรอ.......
วันอันศักดิ์สิทธิ์นี้.........ตึกตัก..ตึกตัก.....ใจเต้น.....ด้วยแรงรักที่รอคอย...
ขบวนขันหมาก....โห่ฮิ้ว....ร่ายรำมาด้วยความรื่นเริงยินดี...............
ภาพเจ้าสาวที่อยากเมียงมองดู...นาทีทองแห่งชีวิต...
แม้ทางหน้าต่างก็ มิอาจ
ต้องเก็บเนื้อเก็บตัว..รอนาที่ที่ยิ่งใหญ่..ยิ่งกว่านั้น..........
พิธีการ.....ที่เรียบง่าย..อบอุ่น..อ่อนโยน...,
มีมนต์ขลังและศักดิ์สิทธิ์และท่ามกลางสักขีพยานแห่งรัก
ร่วมรับรู้รับทราบ..อย่างยินดีปรีดา.....ให้พร....อวยชัย...........
ก้องสองหู...สองใจ....ให้เต็มไปด้วย...สิ่งแสนดี.....แสนงาม..
ที่จะฝากฝังใจให้จำจด
จนตราบวันตายมาพรากจาก.........
อรจึงจำ....จึงคิด....จึงไตร่ตรอง....
ที่จะเลือกสิ่งที่อร...เห็นชอบ...เห็นดี...เห็นงาม
เพื่อนำทางชีวิตอร...ที่อ้อมสามารถจะลิขิตชีวิตสาวของอรเอง..........
อรเพียงแต่ตั้งใจมั่น...
ถ้ารักอร...ต้องรักแม่..พ่อ..รักเกียรติยศ...รักศักดิ์ศรี..ลูกผู้หญิงของอร
และต้องรักประเพณีแสนดี..แสนงาม...
ช่วยกันสืบทอดรักษาให้งามงดจนตราบ
ชั่วลูกชั่วหลาน.....สืบไปนานเท่านาน.....นะคะ...........
.............
โห่...ฮิ้ว..ขันหมากมาแล้ว...ขันหมากมาแล้ว
มาแล้วน้องแก้วรับด้วย
วันนี้คนสวยแต่งชุดอะไร
ทีแรกพี่จะคิดพาน้องหนี..พอคิดอีกทีก็กลัวน้องอับอาย
พี่เป็นชายชาติทหาร พี่ขอรับประกันว่าพี่ยังรักศักดิ์ชาย
เรื่องพาหนีพี่ไม่เอาแล้วน้อง เรื่องพาหนีพี่ไม่เอาแล้วน้อง
พี่มาตรองคิดดูอดสูแก่ใจ
พี่เป็นชายชาตรีควรหรือจะขยี้ประเพณีของไทย
รักน้องจึงต้องมาขอแต่ง
ถึงสินสอดจะแพง พี่ก็ยอมถวาย
พี่พกเงินมาหลายหมื่น เพื่อมาให้ทรามชื่นใส่ตู้เซฟไว้
บอกกับพี่สินวลน้อง ประตูเงิน ประตูทองน้องอยู่ทางไหน
จะได้จ่ายเพื่อเปิดทาง เข้าไปหานวลนางแม่ผิวสีไข่
จะได้จูบน้องให้ชื่นหัวใจ จะได้จูบน้องให้ชื่นหัวใจ
ให้สมกับที่ได้ยกขันหมากมา...........
พุดพัดชา..ขอมอบเรื่องนี้ให้สาวทุกดวงใจในไทยโพเอมนะคะ
และพิเศษพิสุทธิวาดหวังให้ชัยชนะหนุ่มเนื้อหอม..
ได้พบเจอนางเอกที่แสนงามและแสนดี
ที่คิดดีคิดเป็นแบบน้องอรในเรื่องนี้นะคะ
และสักพักจะมีเรื่อง น้ำผึ้งหวาน..
วันไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์อีกบทตามสัญญาค่ะ