1 กันยายน 2546 21:28 น.

ร่มรักในเรือนใจ!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=290

เรือนไทยเรือนร่มใจเรือนร่มรัก
ให้ร้อยรัดให้ผูกใจให้ไฟฝัน
ให้ความหวานหว่านดอกไม้เพาะผูกพัน
ให้เธอฉันฝันออดอ้อนนอนฝันดี..
เรือนไทยใครใคร่ปลูกดอกใดเล่า
ไม้ให้เงาหรือดอกรักฝากศักดิ์ศรี
หรือธรรมะธรรมชาติวาดฉิมพลี
หรือบางทีแค่แวะมาหาน้ำค้างพร่างพรมใจ
เรือนริมบึงยามวสันต์ฝันผลิดอก
งามแตกยอดเกสรพร่างสว่างไสว
กลางนัยน์ตาวาววะวับรับซึ้งใจ
บทหวั่นไหว วาบหวาม ยามนางครวญ
เรือนไทยเรือนดวงใจเรือนผูกภักดิ์
ใจสลักติดตรึงคะนึงหวน
นวลเนื้อน้องน้องเนื้อนวลนวลแก้มนวล
เรือนหอมอวลมีนางใจห่มสไบแพร..พี่แพ้นวล!



เรือนรักของทุกดวงใจ..
ที่พาให้ไหวหวั่นกับฝันค้างในระยะนี้ที่มีพายุแรงแกล้งพัดโบก
ให้ไม้ไทยไหวกิ่งหอมรอรับขวัญวันพบรัก...
รอทุกดวงใจนักฝันมาฝันฝากใจถึงเธอ..มาเพ้อครวญ 
กับโรยควันไฟกับแมกไม้ปลายนา..กับรวงเรียวรอท่าคมเคียวเกี่ยวรวงลาเลือน..
				
1 กันยายน 2546 20:55 น.

พิกุลแกมแก้มนวล!!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=287

ดอกพิกุลพร่างพรมลมริ้วร่วง
พราวดอกดวงห่มพื้นพรายพรากเพลงฝัน
สิ้นภมรเชยบุหงาลดาวัลย์
ดอกสวรรค์ลาหวานกิ่งทิ้งต้นใจ..

นั่นดอกพุด หยุดรักแล้ว.ละสิหนอ
บานคากอพ้อคนเก็บมิรอไหว
หอมคาต้นชูช่อรอคนไกล
เด็ดดมใจดูดดื่มฝันวันเคล้าทรวง..

หอมลุ่มลึกนวลจำปีคลี่กลีบค้าง
กระดังงาร้างไร้ไฟลนคนเคยหวง
การะเวกไหวหวั่นกอพ้อกลีบร่วง
ลดาดวงแตกดอกฉ่ำร่ำหาใคร

ในเรือนไทยที่เอนกายหมายหลับฝัน
เด็ดลดาวัลย์โลมลูบจูบกลีบไหว
รักดอกโน้นหวงดอกนี้สับสนใจ
ปล่อยดอกใจบานคาต้นหนทางเดียว!
.......


บันดาลใจจากนอนมองดอกพิกุลร่วงพรายพร่างควะคว้าง..ควะคว้าง
ราวดวงดอกฝนสีทองตกต้องกลางดวงใจ
ที่บ้านเรือนไทยโบราณ..
ดอกดวงใจอ่อนหวานจึงผุดซ่านเต็มซึ้งใจ..ในวันวสันต์โปรย..
ฝากกระซิบคนดี..คิดถึง..และคิดถึง.
พิกุลแกมแก้มหอมนวล..นานเนา..ในนึกลึกล้ำ!.

				
30 สิงหาคม 2546 00:55 น.

เพราะขอบฟ้ากว้าง!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=169


วสันตฤดู หมองหม่น กับหยาดฝนพรำ กำลังจะผันผ่านไป.
ฤดูเขียวขจีสลับทองของพืชพรรณ กำลัง จะกลับมา..
ค่ำคืนนี้..แลลอดไปไม่เห็นจันทร์เสี้ยวดวงเศร้า...
ลอยแขวน เพราะเมฆหม่นบดบัง

ฉันเขียนเรื่องนี้..ในเต็นท์ ด้วยไฟฉาย 
เพราะอยากได้อารมณ์หนึ่ง...ให้หวนคืนกลับมา..
อารมณ์ฝันวันเยาว์....

ที่มองโลกเศร้าว่ายังงดงามและแสนดี..
ที่มีแต่เสียงหัวเราะ..เริงร่า..แสนไกลกังวล!
แหงนดู งามของท้องฟ้าจากช่องหลังคา 
มีแต่ดาวราย พรายฟ้า..กับแสงพริบพริบจากเครื่องบิน
ที่บินผ่านมา 
จนอยากโบกมือขอให้แวะมารับไปเมืองไกล ด้วยคน                      
ที่ซึ่งมีคนดี..ที่แสนรักเอยแสนรักในกมล....เฝ้ารออยู่...
แปลกดีไหม!....ที่ฉันชอบทำอะไรแปลกๆ...
ให้กับชีวิตชาวกรงที่มันซ้ำซากจำเจ..จำใจ
เพื่อสร้างไฟฝัน..วันแสนงามให้กับชีวิต..

มีห้องแอร์เย็นฉ่ำ กลับไม่นอน 
มานอนในเต็นท์ ที่ร้อนราวตู้อบซาวน่า..ไม่มีผิด..
คิดในทางบวก..
บางทีคืนนี้อาจจะทำให้ฉันผอมสวยยิ่งขึ้นไปอีกน่านะ.
เป็นของแถมแกล้มอารมณ์โรแมนติกไง..

ใกล้โพล้เพล้...ฉันเริ่มจุดเทียน..
ธูปหอมกลิ่นหวานเศร้า รายรอบ... 
เป็นพิธีกรรมให้แสงเงางามล้ำ..

ปักโคมไม้ไผ่สานตามมุมต่างๆ..
แล้วใช้ไฟฉายแบบวางพื้นได้ฉายสาดแสงสวย
ขึ้นสู่ยอดหมากแดงประดับลำต้นงาม..ให้สว่างวับแวม
 
เกิดลายสวยใบสานระยับระยิบ 
พรายตา อ่อนละมุนละมู..(ถาษาสวยของใจฉันเอง)...

ที่แลงามเห็นยามนี้ที่มีมนต์ขลัง..
กับใจดวงนี้ที่หวานละมูละไม...(เป็นไงกันนะ อารมรณ์นี้)
แสนโรมานซ์อยู่ล้ำลึก..ลึกล้ำ..ใครหนอจะเข้าใจ!......
ถ้ามองไม่ถึงงาม..ตามกัน..

ลั่นทมแดง..ชมพู..เหลือง..อวดดอกแดงแฉล้มหวาน..
แต่ดูไม่แฝงความเศร้าระทม ตรอมตรมหัวใจ..                       
 ตามไปกับใจเจ้าของ....

หางนกยูง..หรุบใบ...แสนงอน อ้อนหยาดน้ำค้าง...
ดอกแดงกระจิดจึ๋วชูช่อ..
พิศมัยใกล้ๆจะเห็นงามในเสน่ห์แดงดอก...ดวงดอกหลายๆดอกดวง 
รวมกันก่อเกิดจากก้าน กิ่ง..แฉกใบ งามเฉิด..

กุหลาบแดง..แห่งรักในใจ ฉัน
ที่บานซ้ำบานซาก บานแล้วบานเล่า นานปี 
จนวันนี้ที่ใกล้ราโรยไร้ต้น

แต่กุหลาบจริง..แดงโดด ชมพูส้ม 
บนระเบียงกลับตูมตั้ง อวดดอกเด่น..
ผ่านแดด ผ่านฝน ผ่านพ้นฤดูกาล
ที่แปรเปลี่ยน คลุกเคล้า หนาวร้อน อย่างไม่รอรา..
มาออกดอกหอมขจรให้ดอมดม...

คืนนี้..บรรยากาศ..เป็นใจ 
ให้ใจดวงนี้ มีฝัน มีจินตนาการหวานหวาน
เขียนเรื่องราวแกล้มหอมมวลหมู่พยอม
นานาพรรณแรกแย้ม กับฟากฟ้าราตรีกาล 

ที่มีดวงดาวใสสวยสุกปลั่ง ประดับฟ้า ประดับใจนี้    ปลอบหมองหม่น...
คิดถึง..ฝนดาว...
แค่ฟังชื่อแล้วอยากพบอยากเห็นจังเลย...
อยากไปนอนนับดาวฝนพราวพรายพรูพร่างพันพันดวง..
ให้สว่างคาตา กับคนดีที่รัก.บนเงื้อมผาที่เกาะเต่า.

คงได้อารมณ์รักมากกว่าเศร้ามากกว่านับดาวเป็นหมื่นเป็นพันดวงซะอีก....

หลับตา...พักใจ..นิ่งๆ..นานนาที....
ให้เงียบงาม ของราตรีนี้ เรื่อยริน  
ไหลๆ ไหวๆ หวานหวาม เข้ามาสู่ใจดวงน้อยน้อย...
อวลละเมียดละมุนกลิ่นหอม ของจำปี  
พุดสามสี และการะเวกที่เผยอแย้มบานคลี่ อ้อน  
รับหวานหยาดจากหยดน้ำค้าง พรม........
ดวงใจฉันชื่นฉ่ำ..พอกันเพราะได้รับหวานล้ำจาก..
น้ำคำ น้ำใจ ของใครบางคนมาประโลม..

ให้โลกฝัน แย้มงาม หอมหวาน 
พร้อมกันไปกับมวลดอกไม้งามในยามค่ำ...

ความสุข..นี้หนา..มามา..จากจาก..พลัดๆพรากๆ วนเวียน..มิรู้จบ..มิรู้สิ้น...
เพื่อให้เราเรียนรู้..ดูโลกให้เป็น..ในบางบทตอนมีสอนใจ...

ดั่งเฉกเช่น..ชีวิตมนุษย์นับพันๆล้าน ..
ที่กำลังขวัญเสีย ที่กำลังดิ้นรน ผจญต่อสู้..
บางซีกโลก ค่ำคืนนี้ อาจจะเป็นค่ำคืนโหดร้าย 
อยู่กับสงครามแห่งความกลัว...ภายในใจ..
และมนุษย์อีกมากมี..ที่กำลังไร้รัก ไร้หวัง ไร้บ้าน 
ไร้แขนขา และที่ร้ายที่สุดคือ เด็กๆที่ไร้อาหาร
กำลังจะอดตายในแคมป์ผู้หนีภัยสงคราม..
ใจหนอใจเหตุใด ใจคนจึงร้ายถึงเพียงนี้..

บทความนี้..จากชีวี..ผู้หญิงคนหนึ่ง..
ในแผ่นดินนี้ แผ่นดินของเรา ที่ยังเป็นแผ่นดินทอง..ให้หยัดยืน
ที่ยังมีธรรมชาติงามให้สู้ฝัน มีหวังให้หวังมิรู้สิ้น..มีอิสระเสรี มีความรัก......          

มีเส้นทางสีขาวจากศาสนา มีธรรมมะสอนใจ 
มีพระมหากษัตริย์ไทย ที่ทรงเป็นดั่งร่มโพธิ์ทอง   
คุ้มผองภัย ให้พสกนิกรได้อยู่เย็น.....

นี่คือโชคดี..ที่นำมาเตือนมาสอนใจ 
ใครทุกคนรวมทั้งตัวเอง ยามนี้ที่โลกเร่าร้อนรุนแรง

โลกแห่งความจริงนั้นแสนสวยงาม   
ถ้ามิใช่ด้วยเงื้อมมือมนุษย์..ต่ำทราม โหดร้าย 
ทำลายเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง..
ให้หมดสิ้นหวัง...แสนเศร้าสะเทือนใจ           
โดยมิเคยหยุดทบทวนไตร่ตรอง...จุดจบ..
ใจเอ๋ยใจคน..ช่างหมุนวน สรรสร้าง..แล้วทำลาย..ราวไร้ใจ....



เพราะขอบฟ้ากว้าง ........  กุ้ง กิตติคุณ เธียรสงค์ : : Key Eb  

ป่านนี้แก้วตา นิจจาคอยพี่
โอ้ป่านฉะนี้ คนดีคงทุกข์โศกตรม
คิดถึงคืนวัน ที่สองเรานั้นรื่นรมย์
ต่างชื่น ต่างชม ภิรมย์รักกันมา

บัดนี้พี่ยัง รักเธอไม่หน่าย
สู้อยู่เดียวดาย ไม่คลายความรักแก้วตา
รสรักยังตรึง ซาบซึ้งแน่นดวงวิญญา
ขอเพียงแก้วตา สัญญาไม่เปลี่ยนใจ

แต่เรานี้ต้องอยู่ห่างกัน 
ต่างคนต่างฝันต่างคนตื้นตันทรวงใน
เห็นดารา นึกว่าเนตรน้องพี่หลงพี่จ้อง มองไป
เห็นเงากิ่งไทร พี่ยังเคลิ้มไป ว่ากานดา

อยู่ฟ้าเดียวกัน พระจันทร์ดวงหนึ่ง
แปลกใจสุดซึ้ง ไยจึงไกลน้องหนักหนา
ฟ้านี้ไกลไป ไม่เหมือนดังใจเสน่หา
อยากใกล้กานดา อยากให้ขอบฟ้า แคบแคบเอย

อยู่ฟ้าเดียวกัน พระจันทร์ดวงหนึ่ง
แปลกใจสุดซึ้ง ไยจึงไกลน้องหนักหนา
ฟ้านี้ไกลไป ไม่เหมือนดังใจเสน่หา
อยากใกล้กานดา อยากให้ขอบฟ้า แคบแคบเอย. 
				
29 สิงหาคม 2546 22:50 น.

โลกแหลกยับ ดับลง ที่ตรงหน้า!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4407

โลกแหลกยับ ดับลง ที่ตรงหน้า
โลกเหว่ว้าคืนกลับมารับขวัญ
โลกเหงาเศร้าดายเดียวกับตะวัน
มาเย้ยหยันยิ้มเยาะผู้ปราชัย

โลกสงบเงียบงามมาย่างเหยียบ
มาเปรียบเทียบสอนใจที่ร้าวไหว
โลกของเราที่เคยหวานมีดวงใจ
มาหมุนไป.. ค่อย.. ลอยห่าง กลางฝูงชน..

ลอยละลิ่ว สุดมือ จะคว้าไขว่
ในดวงใจนิ่งงัน ขวัญสับสน
เงยหน้าดูราตรีไยมืดมน
ดาวหมองหม่น..เดือนร้องไห้..ราวรับรู้..เราเสียใจ! 
				
29 สิงหาคม 2546 22:42 น.

ราวธุลี!!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4407

นอนคว่ำหน้ากับทุ่งหญ้ากับฟ้ากว้าง 
ใจอ้างว้าง ร้างร้าว ราวขวัญหาย 
ถอดหัวใจ เจ็บช้ำ ที่เปล่าดาย 
วางเอาไว้ แทบเท้าเธอ นะคนดี...  

ตะวันโศก โลมไล้ ไปทั่วร่าง 
อย่าอ้างว้าง รอฟ้าใหม่ ไม่คิดหนี 
ถึงใจเศร้า ดายเดียว เข้าใจดี 
ว่าโลกนี้ วกวน จนใจตามไม่ทัน...  

ซื่อยิ่งนัก กับเกมรัก เกมพิสวาท 
ยอมให้บาด หัวใจ จนเสียฝัน 
ใจดวงงาม เจ็บช้ำ จนนิ่งงัน 
ใจดวงฝัน กลับงงงง หลงน้อยใจ...  

โลกเรานี้ มีเสือสิงห์ ที่ซ่อนเล็บ 
ฝากรอยเจ็บ ตะครุบเหยื่อ สะเทือนไหว 
สมันน้อย หลงโง่งม ติดบ่วงใจ 
ไม่ทันไร ฉีกแหลกยับ กับธุลี...  

จะโทษใคร ไหนเล่า เจ้ายอมเขา 
หลงเพียงเงา วูบวับ แล้วดับหนี 
ทิ้งรอยแผล บนร่างร้าว ไร้ปรานี 
ราวธุลี ที่แปดเปื้อนกับกามกลของคนลวง!



บันดาลใจจากกลอนทิ๊กกี้นะคะ

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด