22 กันยายน 2546 16:35 น.
พุด
เขียนตามหาดวงใจกันสดสด
ใช้หยดเลือดรักและเลือดฝัน
มาตามหามาห่วงใยคนรักกัน
เคยผูกพันรัดร้อยด้วยสร้อยอักษรา..
เริ่ม..
ดอกคูนไปคูนใครเพิ่มเป็นสาม
คูนอย่านานหวานบอกมาไม่อิจฉา
ม้าอีกคนหายไปไหนให้ใครขี่จงบอกมา
เรือนไทยเหว่ว้ากลับเสียทีหนีนานจัง..
คุณหมอวฤกขารักษาคนทางนี้บ้าง
ใจอ้างว้างรอคำคมกมลหมอ
สายณธีร์ไหลเร็วรี่นานเกินรอ
นายดอกไม้หนอบานหนาวไหนไยไม่มา
ผลุบๆโผล่มาโนชกลับมาแล้ว
อีกเพื่อนแก้วเพื่อนไพรไยหนีหน้า
พนาไพรเขียนไพรไพรไม่กลับมา
พุดพัดชาเขียนกลอน..นี้มีคำว่า..กลับกลับมามากจังเลย..!
ช่วยมาเติมชื่อคนหายจากบ้านเรือนไทยกันหน่อยนะคะ
ให้รางวัลนำจับนำใจกลับค่ะ
เธออยู่ไหน
สุเทพ-สวลี : : Key C
ญใครคนนั้น ที่ ฉัน ฝันถึงเขา
ใครคนนั้น ยิ้มเศร้าเศร้า เขาอยู่ไหน
ใครคนนั้น ที่ฉันรัก เหมือน ดวงใจ
อยู่ที่ไหน นะจันทร์ ฉัน หลงคอย
ชอยู่ที่ไหน ไม่สำคัญ หรอกขวัญ จิต
โปรดจงคิด ถึง กัน สักวันละหน่อย
อาจแทรกอยู่ กับน้ำค้างตาม ดาวลอย
อาจจะยิ้ม อย่างละห้อย คอยสัมพันธ์
ญเธออยู่ไหน
ชฉันอยู่นี่ ที่รัก จ๋า
ญเธออยู่ไหน ชในดาราคือตาฉัน
ญเธออยู่ไหน ให้ฉันเห็น เป็น สำคัญ
ชที่กลางใจ เธอ นั้น คือฉันเอย
ญเธออยู่ไหน
ชฉันอยู่นี่ ที่รัก จ๋า
ญเธออยู่ไหน ชในดาราคือตาฉัน
ญเธออยู่ไหน ให้ฉันเห็น เป็น สำคัญ
ชที่กลางใจ เธอนั้น คือ ฉัน เอย...
21 กันยายน 2546 23:38 น.
พุด
นั่งเฉาเฉยอยู่ทำไมให้ใจเหงา
ลุกเลยเราตัดต้นไม้ให้งามแฉ่ง
นั่นเถาวัลย์เลื้อยพันช่อชูดอกแดง
ปล่อยให้แฝงเป็นร่มเงาเรางามใจ..
สร้างระแนงให้ไม้เลื้อยเปลือยดอกหวาน
สายน้ำผึ้งบานล้อพรายฝนสุดทนไหว
หอมพิลาสดอกงามซึ้งตรึงดวงใจ
ต้องเอื้อมไปเก็บมาดอมหอมสักที..
ตามองดอกไม้เท้าเหยียบระแนงร่วงราวนก
ใจเราตกตาตุ่มแล้วคราวนี้
ลื่นถลาจากชายคาคว้างชีวี
จับอะไรดีมีกระจกกว้างร่างแหลกแล้ว!..
ลอยละลิ่วปลิวลงมานกปีกหัก
ดาวทายทักเต็มฟ้าเกลื่อนเศษแก้ว
เรานอนค้างร่างพาดรับกับรั้วแนว
พร้อมเศษแก้วกระจายพร่างกลางร่างเรา!..
วิทยายุทธิ์สาวบ้านนาหากลัวไม่
ลุกว่องไวตรวจตราลืมเลยเหงา
มีอะไรบุบสลายในตัวเรา
โอ้หลงเงาดวงดอกไม้เกือบวายปราณ!...
.................
เรื่องจริงนะคะ..
ไม่น่าเชื่อเลยว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นได้ทุกเวลา
ชั่วพริบตา หากเราประมาท..
สองครั้งคราแล้วกับระเบียงบน ที่ไพลตกลงมา
เพราะตาและใจไปสามัคคีลอยละล่องละลิ่ว
ปลิวไปดอมดมอยากชื่นชมภิรมย์รักดวงดอกไม้แสนหวาน
ที่บานไกลมือ ที่มิใช่ใกล้มือ..
........
และครั้งแรก..กับ
หนึ่งเดือน กับการเข้าเฝือกอ่อน
กับร้าวรอนราวนักโทษถูกพันธนา
จากคนทำอะไรๆเร็วรี่ราวจะวิ่งฉิวปลิวลม
กลับมานอนซม ระทดระทวย
หยอดน้ำข้าวต้มผสมดื่มใบบัวบกแก้ช้ำอกช้ำใจที่ไปไหนไม่ได้เลย
บางเวลาต้องทานยานอนหลับเพราะคันมาก
ต้องใช้ตะเกียบล้วงควัก หักไปหลายอัน
(อันนี้เป็นการรักษาเองตามใจฉัน..นอก..รอบ..แบบคุณหมอไม่ได้บอกไม่ได้สั่ง)
แต่เชื่อไหมว่า คนที่เคยใส่เฝือกมาจะรู้คุณค่าเข้าใจคุณค่าตะเกียบแทบทุกคน
คงมีบ้างที่ใช้อย่างอื่นแทนเช่นหยอดแอลกอฮอล์
สูตรคุณหมอที่ทำให้เย็นและ
ไม่เป็นแผลก่อนปอกเปลือกเฝือกออกมาในเวลาอันสมควร
และไพลคิดถึงคุณคริส มากที่เข้าเฝือกเป็นปีแทบทั้งตัว..นะคะ
และ...
ห้าเดือน กับการที่ต้องกินแคลเซี่ยม บำรุงกระดูก
สร้างรอยต่อให้เนียนแนบเหมือนเดิมแต่กลัวจะเพิ่มงอกออกมาในที่มิควร
ต้องกินแบบดูตาม้าตาเรือให้ดีตามที่คุณหมอสั่งนะ
และต้องรอ..ต้องหยุดเต้น
แบบนกกระเต็น กระเด็นกระดอน เด้งๆดึ๋งๆ สักพัก
จนกว่าปีกที่หัก..เอ๊ย..กระดูกที่ร้าวจะเข้าที่..เข้าทาง
แม้นมิอาจดังเดิมแบบธรรมชาติ..แบบแม่พ่อให้มาก็ตามที..เหอะนะ
.......
บทเรียน..ครานั้น ทำให้ไพล หันมารู้คุณค่าอวัยวะสามสิบสองประการ
ที่ฟ้าดินเบื้องบนแม่พ่อประทานให้มาครบเครื่องเป็นอันมาก..ที่มิขาดไม่มีเกิน
เลยหันมารักเท้าแบบไม่ค่อยอยากให้ติดดิน
ค่อยๆวางมิให้กระแทกกระทั้นกระทบกระเทือน
เห็นใครใส่รองเท้า ไม่ดีที่ดูที่ท่าจะทำร้ายเท้า
ไม่ได้รักษาสุขภาพ ไม่ให้ความสำคัญสนใจเท้า
ไพลแทบอยากไปไหว้ให้ลองใส่เฝือกสักวัน
หรือลองแกล้งทำขาหักสักชั่วโมง..
หลังจากนั้นค่อยว่ากันว่าควรน่าจะหันมาให้ความรักทะนุถนอม
(ดอมดมพรมจูบเท้าด้วยรักชักมากไป..อันนี้ค่ะ)
......
มาวันนี้..
เจ็บไม่พอ ขออีกสักที.ค่ะ..เหมือนชื่อเพลงพี่แจ้เลยนะคะ
แต่..สำหรับไพลต้อง ตกไม่พอ ขออีกสักทีค่ะ..
ฉากนี้ ขอข้าพเจ้าเป็นนางเอกผู้น่าสงสาร เทคซ้ำ..เล่นคนเดียวค่ะ
แถมไม่มีผู้กำกับ ไม่มีคนดู รับบท..
นกปีกหักร่วงควะคว้างร่างลอยละลิ่วน่าสยองขวัญ
น่าหวาดเสียว ว่ากระจกนั้นจะเสียบแทง..
ให้ห้อยต่องแต่ง สยึ๊มกื๊อสะดือโหวเหว..มิน่าเสน่หาอีกต่อไป..เลยแล้ว
..........
นาทีนี้..ที่ผ่านความเสียวสยองมาหยกๆ
ไพล..กลับคิดถึงกวีกระวาดไทยโพเอม
ที่ชอบเขียนถึงนกปีกหักเปรียบเทียบกับรักร้าว
น่าจะถามไพล..ดีกว่านะว่ามันร้าวแค่ไหนกับตกใจและเสียขวัญ
ที่อันอยู่ดีไม่ว่าดี..ต้องเกือบกลับมากินน้ำใบบัวบกแก้ช้ำอกอีกหนอีกครา..
ภาพไพล..เหินหาว สองเท้าลอยคว้าง และข้างล่างคือกระจกตลอดแนว
รอรับร่าง..โชคดีนะที่มีช่องว่าง ให้ตกลงมากระแทกรั้วเฉียดฉิว
แต่กระจกบานหนึ่งแตกกระจาย
คงได้รับแรงถีบจากขาแข็งแรงจากจอมยุทธน้อย
ผู้ชอบฝึกห้อยโหนเป็นลิงค่างชะนีมาก่อน..หน้า..
ยามเยาว์วัย..ที่เหตุการณ์วันนี้นั้น
ทำให้ภาพนั้นดั่งย้อนหวนคืนกลับมา กับวีรกรรมหาญกล้า
หรือวีระเวรเราเองก็มิอาจรู้ได้..
........
เช้างามวันหนึ่ง ที่คงจะตราตรึงในความทรงจำ
ที่มิหวานหอมหากตรอมใจเสียละมากกว่า..
วันที่ไพลเห็นคุณยายแก่ๆคนนึงกำลังกระเย้อกระแหย่งสอยมะม่วงต้นสูงใหญ่
ลำต้นคนโอบแทบไม่รอบ..ที่กำลังออกผลพราว
ไพลรีบอาสา ด้วยความแก่นแก้วอยากเป็นนางเอกสาวผมเปีย
ผู้มากมีเมตตา มากเสียสละ มากน้ำใจ
อย่ากระไรเลย...
คุณยายขา..มาค่ะหนูจะปีนขึ้นไปเก็บลงมาให้นะคะ
คุณยายจะได้ไม่ปวดคอไงคะคุณยายจะได้เอาไปตำน้ำพริกอร่อยๆเร็วๆไง.
คุณยาย..ไม่แน่ใจ.มองหน้าขาวๆใสใสสลับมองเท้ากระดำกระด่าง..ก่อนถามย้ำ
ซ้ำๆให้แน่ใจ ..เจ้าปีนได้แน่นะ..
โถคุณยาย ไว้ใจเถอะค่ะ หนูนะปีนต้นไม้มาแทบทั้งเกาะแล้วนะจะบอกให้
(นี่แนะ นี่แนะ รู้ไหมหนูรีบโม้เพราะกลัวจะไม่ได้แสดงวิทยายุทธิ์นะซี
ที่จะลองปีนให้สุงสุดถึงยอดเลย..อิอิ
ทีของหนูโอกาสของหนูแล้วนะ ไม่ว่ากันนะคุณย้ายคุณยาย)
........
หลังจากนั้น ไม่นานค่ะ ดีที่ว่าคุณยายยังได้รับประทานมะม่วงมากพอ
สลบค่ะ..ตกลงมาสลบ และนอนระทดระทวยแบบเดินไม่ได้นานเป็นเดือนๆ
เช่นกัน..คิดแล้วยังขำมาก ที่โกรธเพื่อนนะ
เวลาได้ยินเสียงกลองมโนราห์แล้วไม่มีใครมาหามไปดู
ได้แต่นอนช้ำใจฟังไป..
แล้วจินตนาการว่าป่านฉะนี้แม่นางมโนราห์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังคงร่ายรำม้วนตัวตลบ
อ่อนช้อย ไปนอนขดร่างกลมดิกไม่มีกระดูกไปแล้ว..แน่ๆเลย แล้วจะไม่ให้โมโหได้ไงเนอะ..
เสียงกลองเสียงกลับออกระรัวให้หัวใจเต้นตูมตามปานนั้นนะ..
..........
มาวันนี้..
ตกอีกที เจ็บอีกทีแบบไม่ซ้ำที่ซ้ำท่าค่ะ..
และณ..ที่แห่งนี้ที่ระเบียงบน ที่ไพลใช้หว่านมนตรารจนารักดวงดอกไม้
ก็เกือบได้..สังเวยชีวิต..
..และ
ที่รัก..
คุณคงเหมือนฝันไป..
คุณคงไม่อยากเชื่อว่าชั่ววินาทีที่เราเพิ่งคุยกัน
ไพลอาจพรากจากคุณกระทันหัน
คุณคงร่ำไห้ ตามประสาคนบ่อน้ำตาตื้น..
สะอึกสะอื้นดายเดียว..ว่าไม่น่าเลยที่ใจดำ..
มิทันได้บอกหรือแสดงว่ารักไพลให้มากไปกว่านี้..
แต่คนดี..
คุณ..คงไม่ช้ำใจนาน เพราะระหว่างเรา
พูดถึงเรื่องความตายคล้ายดั่งเรื่องธรรมชาติธรรมดาๆ
ที่พาให้เราแค่หลับฝันไปเพียงชั่วคืน..
สิ่งยาวยืนที่เรามักเห็นพ้องต้องกันคือ..การทำความดีให้มากพอที่เราจะไม่เสียใจ
ไม่หวนไห้อาลัยอาวรณ์ใครผู้อยู่เบื้องหลัง..เพียงนั้น
เพราะเราได้ดำรงร่าง ดำรงรักอย่างผู้จักมีธรรมครองเนื้อใจ
แล้วทำไม..จะเสียใจเสียดายแค่ร่าง.
เราควรเพียรสร้างจิตวิญญาณให้งามพร้อมเพื่อตามติดรอรับเราในภพใหม่ภพหน้าท่ามี
มิดีกว่าหรือไร..
ให้หัวใจเราสองได้กลับมาครองรักอันเป็นนิรันดร์..
เสมอฝันเสมอใจดวงงาม..ตราบชั่วกาล..กัปป์กัลป์..
หากกุศลจิตเรานั้นมากพอนะดวงใจ..นะคนดี..
..............
และ..นี่คือสิ่งที่อยากกระซิบฝากถึงทุกดวงใจในวันนี้ในนาทีนี้นะคะ
อย่าประมาทกับทุกส่วนเสี้ยวของวินาทีชีวิตอันแสนดีมีค่าที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์
ในร่มเงาพุทธศาสนา..ที่ได้มาพบเพียรสร้างธรรมอันงามล้ำอันเป็นทางพ้นทุกข์
และหากมิอาจจะไปไกลได้ถึงฝั่งฝัน..ฝั่งแห่งความว่าง ความไม่มี..
ก็คงยังดีที่ได้เกิดมาพบกัน..รักกัน..เมตตาต่อกัน
อย่างผู้รู้ตนรู้คุณค่าคำนิยามแสนงามนาม..ว่า..รักรักรัก...
.............
เขียนบทกลอนนี้นะนาทีที่นั่งในร่มไม้ในชายคาแห่งใบบุญห้อมค่ะ
หอมกุศลเข้าไปในกมลกับสายฝนพรำ..ในยามเช้าอันเงียบสงบงาม
ราวอยู่ในโลกแห่งความงามเงียบเรียบง่ายไร้ร่างไร้ตัวตนที่ยึดมั่นถือมั่นค่ะ
..................
ต้นไม้ธรรมผลิดอกพราวราวรวงเพชร..
กุศลธรรมพบสงบพบร่มสุข
โลกรานรุกเร่าร้อนอ่อนแรงล้า
โลกเงียบงามตามติดดวงชีวา
โลกเหว่ว้าลอยห่างว่างมาแทน..
ตั้งใจนิ่งทิ้งสายโศกโลกภายนอก
แก้วใจบอกลอกลืมเศร้าใครหวงแหน
ไม่มีร่างไร้ตัวตนเงียบงามแทน
ลืมอ้อมแขนลืมอ้อมใจใครรักเรา
กลางสายฝนหยาดสายธารหวานธรรมะ
สอนสละใจร่างห่างโง่เขลา
หลงยึดมั่นรักมั่นฝันใฝ่เงา
ไม่มีเขาจับต้องได้คล้ายว่างใจ..
น้ำตาฝน น้ำตาฟ้า น้ำตาขวัญ
ซึมซึ้งกันกลางเรียวตาล้างใจใส
มองโลกสวยด้วยใจงามใต้ร่มใจ
ต้นไม้ใบออกดอกผลกุศลธรรม..
ต้นไม้ธรรมผลิดอกพราวราวรวงเพชร
น้อมนำเด็ดมาห่มใจไม่ชอกช้ำ
หอมกลางใจหอมนวลไยหอมอวลร่ำ
สวดมนต์พร่ำก้มลงกราบซาบซึ้งใจ
กลีบดอกไม้กลางใจสวยใสพร่าง
แก้วกระจ่างว่างวิเศษเนื้อใจใส
พร่ำภาวนาแผ่กุศลถึงดวงใจ
บุญแค่ไหนในชาตินี้ที่พบกัน
ร่มไม้รักร่มไม้บุญหมุนเราสอง
หวังประคองครองธรรมครองใจฝัน
กราบกับหมอนวอนพระพุทธทุกคืนวัน
หวังเธอฉันติดปีกฝันไปนิพพาน...
(ยากนักนะคะ..หากจักเพียรไม่ว่านานสักกี่กัปป์กัลป์)
20 กันยายน 2546 22:26 น.
พุด
ดั่งนกไพรใจดายเดียว! พุดพัดชา
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=3238
ฉันชอบความดายเดียวความเปลี่ยวเหงา
แค่มีเงาใครบางคนในใจฝัน
ฉันชอบความงามเงียบและนิ่งงัน
ฉันชอบวันเหว่ว้าค้นหาใจ..
ใครใครชอบท้องฟ้ามีดวงดาว
คนใจเศร้าชอบความมืดไร้เคลื่อนไหว
ชอบตะวันตกดินเหว่ว้าใจ
ชอบลำเนาไพรไกลห่างร้างไร้คน..
เมื่อมีรักฉันชอบห่างห่างบ้าง
ให้อ้างว้างเว้นช่องว่างในบางหน
ให้ค้นหาความหมายในใจตน
ให้เพาะบ่มความคิดถึงซึ้งใจกัน..
ฉันชอบเดินเดินเดินด้วยอ้างว้าง
สู่ทุ่งกว้างสู่ภูเขาพบเงาฝัน
ให้ดอกไม้สายลมอ้อมหวานจันทร์
โอบกอดฉันแทนเงาใจไม่มีจริง!
นกขมิ้น
ดิอิมพอสซิเบิ้ล : : Key F
ค่ำ คืน
ฉันยืนอยู่เดียวดาย
เหลียวมองรอบกาย
มิวายจะหวาดกลัว
มอง นภามืดมัว สลัวเย็นย่ำ
ค่ำคืน เอ๋ย ฮืม
ยามนภาคล้ำไป ใกล้ค่ำ
ยินเสียงร่ำ คำบอก
เจ้าช่อไม้ดอก เอ๋ย
เจ้าดอก ขจร
นก ขมิ้น เหลืองอ่อน
ค่ำแล้ว จะนอน ไหน เอย
เอ๋ย เล่า นก เอย
อก ฉัน ทุกวันเฝ้าอาวรณ์
เหมือนคนพเนจร
ฉันนอนไม่หลับเลย
หนาว พระพายพัดเชย
อกเอ๋ยหนาวสั่น สุดบั่น ทอน
ฮืม
ยามนี้เราหลงทาง กลางค่ำ
ยินเสียงร่ำ คำบอก
เจ้าช่อไม้ดอก เอ๋ย
เจ้าดอก ขจร
ฉันร่อนเร่ พเนจร
ไม่รู้จะนอน ไหน เอย
เอ๋ย โอ้ หัวอก เอย
บ้าน ใด
หรือใครจะเอ็นดู
รับรอง อุ้มชู เลี้ยงดูให้หลับนอน
นก ขมิ้น เหลืองอ่อน
ค่ำไหน นอนนั่น
อกฉัน หมอง ฮืม
ทนระกำช้ำใจ ยามค่ำ
ยินเสียงร่ำ น้ำตก
โอ้หัวอก เอ๋ย
โอ้อก อาวรณ์ ฉันไร้คู่ ร่วมคอน
ต้องฝืน นอน หนาว เอย
เอ๋ย โอ้ หัวอก เอย
เมื่อ มอง
หมายปองก็แลเห็น
หวิวในใจเต้น
เหมือนเป็นเพียงแต่มอง
เหมือน พบรัง จะครอง
แต่หมองเกรงที่
หวั่นจะมีเจ้าของ
ฮืม
ฟังสำเนียงเสียงเพลง
ครวญคร่ำ ใครหนอร่ำ คำบอก
เจ้าช่อไม้ดอก เอ๋ย
เจ้าดอก ขจร
นก ขมิ้น เหลืองอ่อน
ค่ำนี้ จะนอน ไหน เอย
เอ๋ย นอน ที่นี่ เอย...
20 กันยายน 2546 21:09 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=2247
หัวใจเธอหัวใจฉันหัวใจฝันใฝ่
หวานหรือไม่ใครเล่ารู้ใครเล่าเห็น
เพียงใจเราเพียงใจเขาคิดให้เป็น
ดวงตาเห็นดวงใจงามตามรู้ใจ...
หัวใจอ่อนโยนฤาอ่อนหวานปานน้ำผึ้ง
อยากให้ซึ้งอยากให้เศร้าใส่สิ่งไหน
อยู่ที่เราอยู่ที่เขาอยู่ที่ใจ
อยากได้ใจเช่นไรใส่เช่นนั้นฝันได้มา...
อยากมีไหมกลีบหัวใจเป็นดอกไม้
ค่อยค่อยให้ค่อยค่อยวางกลางเหว่ว้า
มีสติที่เงียบงามทุกเวลา
กระซิบค่ากระซิบคำเลิศล้ำใจ..
ใจดวงเดิมใจดวงดีมีแต่ให้
ดั่งกลีบดอกไม้ค่อยวางซ้อนอ้อนอ่อนไหว
ให้ความรักให้ภักดีให้น้ำใจ
กลีบดอกไม้หัวใจก็หวานก็บานพราว...
กี่ภพชาติดอกไม้ใจไหวกิ่งฝัน
ดลเธอฉันพานพบลบใจหนาว
ชั่วกัปป์กัลป์หัวใจขวัญชูช่อพราว
หัวใจราวกลีบดอกไม้ให้ความดีให้รักนี้กับทุกคน!ทุกดวงใจ!
จินตนาการ..ตามพุดพัดชานะคะ
ภาพ...กลีบดอกไม้รูปหัวใจ..สีชมพูโอด์ลโรส..ชมพูอมส้ม
วางซ้อนกันเป็นดวงดอกไม้..
กลางเกสรนั้น..คือสุภาพสตรีหรือสุภาพบุรุษในดวงใจของเราเอง...นะคะ
ที่คุณรักเขาและเธอดั่งดวงใจค่ะ
......
สวนดอกไม้...เราใช้สมองสองมือสร้างงาม
และมองงามเห็นได้ด้วยตาภายนอก..
ส่วนริมใจกลีบดอกไม้...
เราใช้ดวงตาที่สาม ดวงตาภายใน..
เพาะปลูก จะให้งามแค่ไหน
อยู่ที่ดวงใจเรา...ต้องเพาะหว่านด้วยการให้รัก..
ให้น้ำใจ ให้อภัย กรุณา มากเมตตา
ด้วยดวงใจอันโอบเอื้อ อันอ่อนหวาน อันอ่อนโยน
ต่อเพื่อนมนุษย์ผู้ร่วมเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น..
และยิ่งให้ได้มากเพียงใด
หัวใจเราก็จะนิ่มนวลดั่งกลีบดอกไม้ ที่ชูช่อฝัน ทีละกลีบละกลีบ
วางเรียงร้อยให้หวานหอมพราวพร่างริมใจเรา..
อย่างบางเบาอย่างอ่อนหวานอ่อนโยน..
ให้ใจกลีบดอกไม้...อิ่มฝัน สงบงาม
ตามผูกพันไปถึงจิตวิญญาณทุกภพทุกชาติไป..นะดวงใจนะคนดี!ที่แสนรัก!
19 กันยายน 2546 14:54 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=3892
ไพล..เป็นนักอยากจะเขียน ที่เพียรขยันสร้างฝัน
เหมือนสายฝนสายฝันอันพร่างหลั่งริน มิขาดสาย
ที่พริ้งพราย ที่มากมีมากมาย.. ความรัก..ความในใจ..
ที่ซุกซุกสุขซ่อนซึ้งโศกโลก ทั้งหวานทั้งเศร้า
ทั้งเข้าใจโลกเข้าใจคนเข้าใจธรรมชาติชีวิต...
จนบางครา..มือที่จับปากกานั้นแทบเขียนไม่ทันความรู้สึกของหัวใจ
ที่ไหลบ่าล้นทะลักยิ่งกว่าน้ำที่ถูกกักถูกปล่อยออกจากเขื่อนซะอีกค่ะ..
ไพล..คิดเร็วมาก เขียนเร็วมาก และพิมพ์ยิ่งรัวเร็วราวข้าวตอกแตก..
เคยบอกว่า..ชอบเด้งดึ่งกลางดึกดื่นมิใช่ฝึกยิมนาสติกออกกำลังกายในร่มกับใครนะคะ
หากเป็นเพราะ ค่ำคืนไหนที่ยังไม่ง่วงโงกหลับพับไปเสียก่อน
ยามคิดถึงคำงามๆได้หรือเรื่องที่เราคิดว่างามมันส์อยู่คนเดียว
ที่ไม่สนว่าจะเกี่ยวใจใครได้บ้างหรือไม่ละหนอ
ไพลก็..จะเด้งร่างห่างง่วงขึ้นมาแบบน่างวยงงพิศวงเลยละ
และคิดดูก็น่าน้อยใจ
ที่ขะไหนขนาดนี้ก็ยังห่างไกล คำว่า..ดีไรท์เตอร์(มิใช่ซีไรท์นะคะ)
และอย่าว่าแต่อะไรเลย เขียนมาสามร้อยเรื่องเข้านี้แล้ว
ยังห้อยยานมิเคยได้ขานชื่อขึ้นหน้าหนึ่งไทยรัฐ อ๋อ..เรือนไทยริมใจรึมบึง
ยังงี้ก็พอจะบอกได้แล้วละว่า ฝีมืออะฮั้นนั้นต้องฝึกปรือพัฒนา
ต้องดิ้นหาคุณครูด้านกานท์กลอน
เผื่อฝันจะรำไรใสสวยขึ้นมาบ้างท่าจะงามท่าจะดี
แต่อย่างว่านะคะ คนเราลงไม่รักความก้าวหน้า
ก็อ้างเหตุผลมาร้อยแปดพันกว่าหมื่นประการ
ที่จะไม่ตั้งใจเรียนและเพียรพยายามฝึกฝนอดทนเอาดีให้ได้
จะเดินนอกรีตนอกรอยประจำตลอดเลยละค่ะ..เฮ้อ!
ให้อภัยกันเถอะนะคนไม่รักดี..ก็ยังงี้แหละ
ทนๆอ่านไปละกันนะทุกดวงใจ....ไหนไหนก็ไหนไหนแล้ว..
ที่บ่นไปเขียนไปนี่อมยิ้มนะ
มิได้เศร้าหรือว่าประชดประชันใคร เพราะใจพุดพัดชา
มีความสุขมากๆๆ
กับการที่ได้เขียนวกวนแบบเรามาสองคนวนเอ๋ยวนเวียนน่ะนะคะ
....
และนะวันนี้..ชื่อเรื่องวันนี้ ..ที่จะตั้งใจจะรจนา เป็นตอนๆ
ตามที่มีผู้หวังดีที่ขี้เกียจย้วยตามอ่าน
จนจะยานตามไปพอๆกันกับคนเขียนแล้วละค่ะ
และทำไมนะ ทำไมหนอ...นะเรือนไทยแห่งนี้
เหมือนหัวใจใครบางคนจะมีพลังจิต
นั่งทางในมีกระแสจิต กระแสใจกระแสส่งงาน
คล้ายใจเราเสียก่อนหน้าไปซะทุกที..
เขา..เขียนเรื่องนก..เราก็ง้างจะเขียนเรื่องต้นไม้
น่าจะรอให้ต้นไม้โตก่อนค่อยมาสร้างรังนะพี่..นะ ช้าหน่อยก็ด้าย..ไม่ว่ากันนะพี่เนอะ
เอาเป็นว่าไพล..
ไพลขยับจะเขียนเรื่องต้นไม้มาหลายทีแล้ว
เพราะมีแรงฝันบันดาลใจ บันดาลกรรมให้ท่านผู้อ่านต้องติดตาม
แรงใจแรงฝันที่ว่าคือ..
เกิดมาก็มีดวงใจรัก ต้นไม้ สายลม แสงแดด
ดาวสวย แถมกล้วยตาก (แบบชื่อพ๊อกเก๊ตบุ๊คพี่จุ้ยเลยนะ)
เพราะว่าเราสองล่องเรืออยู่เกาะใกล้ๆกันไงคะ
ไพล..อยากเขียน เกี่ยวกับต้นไม้ในดวงใจเป็นตอนๆสัก ร้อยตอนจบ ดีไหม
จริงๆต้นไม้ในดวงใจมีมากเกินกว่าร้อย
เพราะหากหยิบยกขึ้นมาเล่า
และพรรณาให้เศร้าซึ้งใจสุขใจ...
เบิกบานใจไหวงาม....
คงมากนิยาม..มากคำงาม..มากค่าล้ำ..รำพันรำพึง
ที่อยากตรึงใจท่านผู้อ่านให้มิเพียงผ่านตา
หากอยากให้ทุกดวงตาดวงใจได้กลับไปไขว่คว้า
ค้นหาต้นไม้ภายในดวงใจ ที่ประทับใจที่เคยสร้างรอยสุข
รอยสนุกให้หวานงามและตื่นเต้นท้าทายให้
ได้ปีนไต่ตามหาฝันในวัยวันวัยเยาว์
ที่โลกของเราแสนสวยใสพอบริสุทธิ์
ราวไม้ผลิใบเริ่มแทงหน่อต่อยอดออกรากจากดิน
จริงๆรักต้นไม้ทุกต้นนะ ไม่มีเลือกที่รักมักที่ชัง
เพราะต้นไม้..มิใช่คนค่ะ
ที่ห้ามรักทีละโหลละหลาย..หากเราสามารถรักได้ตามใจเรา
ไม่มีจำนวนนับ
รักแบบไม่ยั้ง รักทั้งราวไพร ทั้งผืนป่าทั้งหล้าโลกได้ยิ่งดียิ่งงามละมุน
และเราจะรักจะจูบจะกอดต้นไม้แบบปู้ยี่ปู้ยำแบบมันเขี้ยวแค่ไหนก็ได้
เพียงอย่าให้ถึงตาย
ให้ใช้ใจรัก..รัก ดูแลทะนุถนอมกล่อมเกลี้ยงเหมือนเลิ้ยงเมียเลี้ยงลูกยังไงยังงั้นค่ะ ยิ่งดี
ส่วนรักแบบที่ต้องเอาขวานไปฟันเอาเลื่อยไฟฟ้าไปหั่นไปตัดมาเป็นท่อนๆมานอนดู
มาเปลี่ยนเป็นกระดาษสีสีที่มีค่าแต่ไม่นานวันในกระเป๋า
อย่าได้รักแบบทำลายยังงั้นเลยนะคนดี
เพราะว่าบางทีรักแบบนั้นมันจะหมุนวนมาทำลายให้เรา
ต้องใช้ไม้มาเป็นเรือนอนเท้งเต้ง ไม่มีแผ่นดินอยู่ และไม่มีอะไรเลยนอกจากน้ำๆๆๆ
น่ากลัวไหมละ
ไพล..เลยตั้งใจ จะเขียนให้ย้วยน้อยลงหน่อยนะคะ
แบบว่าอยากให้เป็นอนุสรณ์ความทรงจำ
บันทึกรักจากสาวงามแห่งไพรพฤกษ์พรรณพฤกษ์
ที่คึกและนึกเรื่องต้นอะไรในดวงใจได้
ก็นำจะเขียนๆๆๆมาเรียงร้อยให้.สวยสล้างให้งามอร่ามใจอร่ามไพร
อร่ามเรือนไทยระบัดใบโบกโบยพลิ้วเลยละ
จริงๆไพลต้องวางพล๊อตจัดอันดับต้นไม้แห่งรักในดวงใจ นี้เสียก่อนน่าจะดีนะ
หากจะรจนาให้งามและไม่สับสน
แต่ไพล เป็นคนคิดอะไรได้ก็คล้ายดั่งจะบรรเลงสดค่ะ..
ออกมาจากใจไฟฝันอารมณ์ศิลปศิลปิน
แบบแรงร้อนสะท้อนสะเทือนเลยนะนาทีนั้น...
และไพล..บางคราก็อยากตั้งคำถาม
ให้ทุกคนให้นิยามและเขียนแกล้มมากับงานไพล
ถึงต้นไม้ในดวงใจสักคนละต้น
ณ.เรือนไทยแห่งนี้ คงหอมกรุ่นกมลละมุนไปด้วยพันธุ์พฤกษ์ไพร
หวานระบัดใบสวยใสในช่องามแห่งความทรงจำ
ที่คงงามงดหมดจดแสนดีแข่งกันชูช่อล้อลมพราวไสวเลยนะ
เอาเป็นว่า..
นะนาทีนี้
ไพล..เริ่มรักต้นไม้เริ่มเรื่องต้นไม้ในดวงใจไปก่อนละกันนะ
ที่ไพล..จะเขียนในบทต่อไปคือมะพร้าวค่ะ
แต่ว่าวันนี้จะลง..งามของต้นไม้ที่ไพลว่าแสนมหัศจรรย์
เพื่อเรียกดวงใจฝัน เรียกคนอ่านมาตามติด..ติดตามตอนต่อไปภาคต่อไปก่อน
คือไพลจะเขียนเกี่ยวกับ..
ต้นมะม่วงหิมพานต์..
ที่นามประเดิมก็แสนขลังและเป็นมงคลนาม
ต้นไม้แสนรักต้นนี้
ที่ไพลนำมาเขียนเป็นต้นแรก แทนต้นมะพร้าวที่น่าได้ลำดับแรกนั้น
ด้วยเหตุว่าต้นไม้ต้นนี้ คิดคราใดหัวใจก็อบอุ่นแสนหวาน
เพราะความน่ารักน่าชัง และมากมายหลายองค์ประกอบ
เช่นชอบกิน เม็ดมะม่วง เป็นต้น
ไม้ฟอร์มสวย ใบเขียวพราย แตกกิ่งก้านสาขา
พาให้เราปีนป่ายได้ง่ายดาย ไต่ตามฝัน
และไพลนั้นเห็นพัฒนาการของดอกใบผลมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกเลย
ไพลรัก..สีของผล สวยมากคล้ายผลชมพู่
และระทวยด้วยหลงเสน่ห์
ในงามไร้จริต ที่สวรรค์และธรรมชาติลิขิต
ให้เม็ดโผล่ออกมาชนิดสิ้นสงสัยจากหว่างพูส้มสวย
แต่รสชาติฝาดลิ้น หากไม่กินกับเกลือหรือพริกกับเกลือ
นี่คือตัวอย่างแค่นิดเดียวนะ
ขอเวลาเขียนให้งามทุกต้นทุกดวงดอกใบเลยค่ะ
เพียงว่า อย่าลืมมาทายทักใจ มาพักใจ
ไปกับร่มเงาไม้ ใกล้สายชล ในชายคาเรือนไทยรึมบึง
ที่หวานหวังรอคอย
ให้ทุกดวงใจมาร่วมปลูกต้นไม้ในดวงใจไปด้วยกันนะ
เพื่อคืนโลกฝัน โลกจริงให้อวลหอมอบอุ่นไป
ทุกทิวาราตรี ที่เรายังมีฝันในดวงใจ
ที่ดั่งน้ำใสจะรินรดและแบ่งปันเกื้อโลกอันเร่าร้อนนั้น
ให้เยือกเย็นละมุนลงนะคะคนดี
หาภาพต้นมะม่วงหิมพานต์ที่เม็ดห้อยออกมาไม่ได้
เนื่องจาก..ขัดข้องทางเทคนิค
เมาส์ไร้สายคล้ายได้เชื้อรวน..ไม่ทำงานเลยค่ะ
เอานกไปดูแทนเม็ดมะม่วงก่อนละกันนะ คืนนี้