20 พฤษภาคม 2552 23:06 น.
พุด
ในวันขวัญควะคว้าง
ไร้ร้างรักเร่เสน่หา
ไม่มีเงาใครในมายา
วิญญาญ์เงียบนิ่งสงบงัน
ค้นพบจบจากที่ใจ
ไม่ใฝ่ไม่คว้าหาฝัน
ไม่ยึดสิ่งใดผูกพัน
ผ่านวันรู้โลกย์โศกธรรม
ปล่อยวางทุกสิ่งนิ่งไว้
งามให้เมตตารินร่ำ
ดั่งหยาดฝนพรมพรำ
น้ำคำน้ำใจไมตรี
แลทุกข์แลสุขธรรมดา
ปรารถนาเพียงลมหายใจนี้
สะสมสะเบียงบุญบารมี
ไม่อยากมีชีวีซ้ำวน...!
...........................
ในราตรีไร้จันทรา
ดอกไม้ป่าส่งกลิ่นหอม
จากพฤกษ์ไพรพนามาให้ดอม
ลบตรอมฝากชื่นค่ำคืนนี้
เงียบจนได้ยินเสียงหัวใจเต้น
หลีกเร้นโลกแห่งแสงสี
หลับตาสิคนดี
เห็นชีวาชีวีภายใน
เย็นว่างสว่างพร่างพราย
ดั่งดาวรายสุกใส
เจิดจรัสรัศมีบุญล้อมดวงใจ
สิ้นเยื่อสายใยพันธนา
เพียงลำพังกับชีวิตนิดน้อย
ล่องลอยสู่แดนปรารถนา
ขวัญสรวงแห่งทิพย์เทวา
ลบลืมมายาวิบากชน...!
18 พฤษภาคม 2552 20:25 น.
พุด
ไข้รุมรุมสุมร่างอ้างว้างนัก
หนาวหนักเดียวดายในวันนี้
เธออยู่ไหนอยากกระซิบถึงคนดี
รอวันที่เรามีกันและกันนิรันดร
ในนิมิตแลจันทราขวัญควะคว้าง
ไร้ร้างเงียบงามสัจจะสอน
ผ่านทุกข์ทนบนทางฝันวันอาวรณ์
ถึงร้าวรอนมิร้อนรนค้นพบธรรม
มองสายฝนหยาดสายพรมพรายพร่าง
รู้ปล่อยวางดวงใจไม่ครวญคร่ำ
น้ำตาฟ้าล้างตรอมตรมเลิกระกำ
เพียงน้อมนำฤดูสอนฤดี
เสมือนเสมอมีพายุแล้วพ้นผ่าน
ตราบชั่วกาลธรรมดาเช่นฉะนี้
วันนี้สุขพรุ่งนี้ทุกข์มายาชีวี
ชื่นสุนทรีย์เพียงแค่ฝันสวรรค์วาย.!
........................................................
ด้วยรักจากสวนแสนขวัญสวรรค์สรวง
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song78.html
หนาวตัก
ทะเล..รจนางาน..
จากดวงใจถึงดวงใจด้วยดวงใจบทนี้
ณ.กระท่อมริมทะเล
ในคืนเดือนเสี้ยวที่กำลังทอแสงราวนาวาทอง
ที่กำลังลอยล่องท่องเหนือทิพยวิมานเมฆ
ลั่นทมริมกระท่อมทะเล
หอมพร่างรับกระจ่างจรัสจากจันทร์แจ่มสีทอง
สาดส่องร่างราน
ที่กำลังซานซมด้วยพิษไข้ราวนกไพรระหกระเหิร
หนาวสะท้านจนต้องปิดบานหน้าต่างกระท่อม
ที่กำลังหอมอวลด้วยดวงดอกลั่นทมทุกอณูเหนือหัวนอน
กับเสียงเห่กล่อมของคลื่นฝันรัญจวน
ที่ราวกับดนตรีธรรมปลอบประโลม..
ในความดายเดียวลำพัง
แสงเทียนในตะเกียงแก้วยังวูบไหว
และหัวใจไยหนาวนัก...
ในความฝัน...
อันรางเลือนเสมือนครึ่งหลับครึ่งตื่นด้วยพิษไข้
ทะเล..ได้ยินเสียงคลื่นและใบมะพร้าวซัดส่าย
คล้ายกำลังคลี่ไหวโอบประคองเด็กหญิงน้อย..
ในทุกทิวาราตรี...ทีมีเพียงงามดวงใจใครเล่ารู้นี้นานมา
ที่เคยมีเสียงนกเขาขันคู
ปลุกให้มาดูทะเลในยามเช้า
ในม่านหมอกพราวรับสายแสงแรกจากเทพรังสิมันต์
ปลุกให้มารับขวัญคลี่ยิ้มหวานแสนหวาน
รับงามรับหยาดน้ำค้างยามเช้าตรู่ในทุกฤดูกาล
ในทุกอุษาสางทุกดวงดอกไม้พื้นบ้านบานหวานหลากสี
ที่กำลังประดิดประดอยคลี่กลีบสยายอย่างอายเอียง
ทะเล...
ราวฝันไปใน..เวิ้งว่ายแห่งนิรันดร์รักภักดิ์ดี
ว่ามีใครบางคนกอดร่างร้อนรอนรอนร้าวร้าว
ที่หนาวในจิตนัก
ด้วยหัตถาแห่งปรานี
เสียงกระซิบอันแสนอบอุ่นอ่อนหวานห่วงใย
ราวลอยล่องมาจากฟากฟ้าแสนไกล
หากไยเล่า...มาคลอคะนึงให้ซึ้งซ่านแสนสุข
ราวปลอบปลุกอยู่ริมหู
และ..
ไหลพร่างพรู
รินพลังหวังหวานมิรู้สิ้นในถวิลหวังลงสู่ห้องหัวใจ..ให้หยัดยืน
ดวงใจ..
เทพยดาพฤกษ์ไพรในวิมานวนา
กำลังเมตตาปรานีประทานพร
มาห้อมล้อมให้ฝ่าฟัน
ให้ไม้ใบนับร้อยพันใน*สวนสรวงแสนขวัญ*
ราวเรือนยอดไม้ได้เริงร่ายระบำ
ระบัดพัดพลิ้วร่ายรำรับขวัญรับพรออดอ้อนอวดงาม
เถาวัลย์พาดพันเกี่ยวเลี้ยวลด
มากระซิบบอกรักทายทักเจ้าของสวนสวยราวสวรรค์สรวง
ให้ลาล่วงเมืองหลวงเมืองลวงคืนหลังกลับมา
เพื่อรอวันเวลาพร่างพรายธรรมชาติ..ธรรมน้ำใจ..ดับดำ
*คล้ายอัญมณีแห่งพะงันงาม*
ให้กระจายสายแสงธรรม
น้อมนำ*ดีที่จีรัง*
ด้วยพลังงามแห่งยอดพระรัตนตรัยอวดชาวโลก
ที่กำลังหลั่งไหลหนีโศกมาเติมสุข
อยากพ้นทุกข์ด้วยหลงผิด
มาเพิ่มทุกข์พันธนาจากอบาย
ที่คล้ายกับหนีได้เพียงครู่คราว..หายาวยืนไม่..
และ
กับหยาดน้ำตานาทีนี้
ของหัวใจ*ลูกผู้หญิงทะเล*
ที่พลีหลั่งรินให้กับผืนดินเกิด
ให้..
ทุกเม็ดทราย..
ฟากฟ้าทะเลกว้าง...สายลมพร่างรินได้รับรู้
*คำมั่นสัญญา*..ว่า..
ลูกจะกลับมาจูบผืนดิน
และมิสิ้นไร้ไฟฝัน
ที่จะคืนหลังกลับมาสร้างสรรสิ่งดีณ.ผืนดินแห่งนี้ตราบชีพยัง
และตราบจนกว่าชีพน้อยนิดนี้
จะถูกฝังสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับผืนทราย
และมลายลาไปกับตะวัน..ดวงงาม..อย่างดายเดียว........!.
........................................
และ
ทะเลขอจบบทรำพัน
ที่แค่
กลับมาฝากฝันฝากดวงใจ..ดวงนี้
ที่แสนรักแสนคิดถึงคะนึงหามิ่งมิตรสนิทแนบนานเนา
ในร่มรักเรือนไทยของเรามานานเนิ่น
พร้อมกับยังมีเรื่องราวมากมายที่ได้ผ่านพบนะคะ
ที่จะเทประสบงามมาเล่าสู่กันฟัง
หลังจากกลับคืนสู่ฝั่งฝันนิรันดร์รักแห่งเราค่ะ...
............................
ทะเลรจนาเรื่องนี้จากเกาะค่ะ
ทั้งๆที่ยังป่วย
และ
สมาธิยังไม่เต็มร้อย
เพราะเวลาถูกปันแบ่งค่ะ
หากทว่า
อยากรจนาสักเรื่องฝากทุกดวงใจ
จากที่นี่
*เกาะสวรรค์พะงันงาม*
เลยมาฝากคำด้วยรักคิดถึงค่ะ
ทั้งๆเพิ่งฟื้นไข้
เพราะมาดูแล*สวนสรวงแสนขวัญค่ะ*
และกำลังมีความสุขมาก
เพราะนะนาทีนี้พันธุ์ไม้หายากนับร้อยพัน
กำลังรอเจ้าของให้กลับมาอนุรักษ์ไว้ค่ะ
เพื่อแพร่ทั้งธรรม และธรรมชาติค่ะ
จะบินกลับวันพรุ่งนี้นะคะ
ขอให้ฝันดีมีสุขนะคะทุกที่รักทุกดวงใจแสนรักค่ะ
.................
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song78.html
หนาวตัก นันทิดา แก้วบัวสาย
ทะเล งาม ยามดึกดื่น
ฮึมเหมือนคลื่น หลับ
แสงเดือน จับ เจิดนภา เวหา หาว
นั่งเรือ น้อย เคลื่อนคล้อย ใต้แสงดาว
พร่าง น้ำพราว ผ่องเพชรเกล็ด นที
ดู ซิดู ใคร สอน ให้นอนหนุน ตัก
ซุก ซนนัก ไม่ กลัวน้อง จะหมองศรี
หนาว ตัก หนัก จิต ดรร-ชนี
หาก นาวี อรุโณทัย ไม่กลับคืน
ดู ซิดู ใคร สอน ให้นอนหนุน ตัก
ซุก ซนนัก ไม่ กลัวน้อง จะหมองศรี
หนาว ตัก หนัก จิต ดรร-ชนี
หาก นาวี อรุโณทัย ไม่กลับคืน...
16 พฤษภาคม 2552 12:12 น.
พุด
ตามขวัญมาสิที่รัก
มาพิงพักในเรือนไพรดอกไม้หอม
มวลมาลีหลากพันธุ์รอให้ดอม
มากพะยอมเทพีมีค่าควร
ตามขวัญมาสิทุกดวงใจ
เลิกหวั่นไหวรินน้ำตารอลมหวน
อย่าโศกเศร้าหนาวใจร้องคร่ำครวญ
สิ่งทั้งมวลล้วนโลกโศกมายา
ตามขวัญมาสิจอมใจ
สู่เส้นทางสายสวยใสลืมเสน่หา
ปรารถนาทุกข์ทำไมพันธนา
วันเวลาแสนสั้นเลิกฝันวน
ตามขวัญมาสิมิ่งมิตร
ทอดสถิตฤดีลืมสับสน
ยิ้มกับฟ้าเมตตาแห่งดินดล
สร้างกุศลพบสวรรค์ก่อนวันลา....!
...........................................
สำคัญที่ใจใช่ไหมเล่า
จะพบเศร้าโศกสุขทุกข์สับสน
มากเรื่องราวรานร้าวโลกเวียนวน
พบผู้คนบนหนทางอ้างว้างชีวี
แท้ที่จริงเราทุกผู้ธุลีหล้า
อนันต์ค่าสร้างบุญกุศลศรี
ลบลาหมองต้องเพียรสร้างความดี
ผลิเพาะพลีเมล็ดฝันสิ้นพันธนา
สายธารามหานทีทองรอล่องสู่
แดนผู้รู้ปล่อยวางห่างเสน่หา
สิ้นไร้ร่างเคยเกาะเกี่ยวบ่วงมายา
เพียรภาวนาพบทางสว่างวัน
แดนดารารายพรายพร่างทางช้างเผือก
พร้อมจะเลือกกี่ภพจบจิตขวัญ
เมื่อถึงวันพรากลามิจาบัลย์
เป็นนิรันดร์มั่นหมายในสายใจ....!
15 พฤษภาคม 2552 01:17 น.
พุด
นี่คือโลกแสนสงบ
ขวัญพบแล้วแก้วในครองฝัน
งดงามมหัศจรรย์
คงสักวันได้ไปเยือน
แดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน
เย็นชื่นหาใดเสมือน
ฝากไว้ในทรงจำคอยย้ำเตือน
ในเรือนหอมหัวใจใดปาน
เงียบนิ่งสนิทดั่งแดนสรวง
มณีดวงประดับหล้าใต้ฟ้าหวาน
หวังทอดสถิตจิตวิญญาณ
ในม่านมนตราธาราทอง
สักวันขวัญจักพักพิง
อ้อมตักอุ่นอิงแห่งเราสอง
รอวันฟ้ารุ่งเรืองรอง
ตระกองกอดในอ้อมมหานที...นิรันดร์...!
15 พฤษภาคม 2552 00:24 น.
พุด
วันนี้ฝนพรำสาย
ขวัญหมายมองหยาดน้ำค้าง
กลมกลิ้งพราวพรายพร่าง
เพชรกระจ่างกลางกลีบดอกไม้
ราตรีที่เดียวดาย
ฝนพรำสายให้หอมใจ
กลิ่นดินหลังฝนใหม่
ในนาไร่ให้พลัง
หลังสู้ฟ้ามาช้านาน
แต่ก่อนกาลกอบเกื้อหวัง
ทิพย์น้ำค้างมาประดัง
ให้ชุ่มฉ่ำเย็นชื่นใจ
ชีวิตนี้ยังมีนา
มั่นใจว่าอิ่มท้องไทย
ดีกว่าโลกศิวิไลซ์
วิถีไทยรักษ์เพียงพอ
คืนทุ่งแลคืนถิ่น
ชื่นชีวินแม่เฝ้ารอ
สืบเทือกเถาแลเหล่ากอ
ใจไม่ท้อหญิงไทยงาม..!