10 ตุลาคม 2546 14:48 น.
พุด
http://greenmusic.org/thai/index.html
เปิดURLฟังชุดฤดูกาลแห่งชีวิต..เพลงจันทร์นะคะ
********
แพม..ติดปีกฝัน..ในค่ำคืนนี้..พาหัวใจโผผินบินขึ้นไปจูบจันทร์...
จูบให้หายคิดถึง..หายซึ้งเศร้า..ที่จันทร์ดูราวดายเดียวมาหลายค่ำคืนนัก...
จูบ..พรายตาเจ้าชู้ที่ดูราวกับล้อเล่น กับมวลหมู่ดาวพริบพราวขี้อิจฉา
ในยามที่ผู้คนบนหล้าโลก..เขามีความรัก..
ตกอยู่ในห้วงหาวห้วงเหวแห่งภวังค์รัก..ภักดิ์พร้อมพลีใจ...
แพม..ติดปีกฝัน ลอยละล่องสู่ท้องทุ่งดวงดอกหญ้า ดวงดอกไม้แห่งความฝัน
แล้วเด็ดดอกไม้หวานหอมนั้น มากำนัลมารัดร้อยด้วยแรงรัก วางไว้ริมหมอน
ให้หอม..หอม..หอม..ให้เธอดอมดมพรมจูบแทนร่างรัก...
แพม..ติดปีกฝัน..สู่ทะเลกว้างให้ฟองคลื่นโลมไล้ร่าง...งามสล้าง นวล
กลางทะเลจันทร์ อันอุ่นอาบ ให้หยาดหวานพรายพรมห่มร่างร้าวให้หนาวคลายให้กายอุ่น..เอิบ
แพม..ติดปีกฝัน..สู่ไพรพฤกษ์..ให้น้ำค้างยามดึก เสียงดุเหว่าแว่วหวาน
ให้ชานกระท่อมหลังคาจาก เป็นรวงรังรักในจินตนาการ
เป็นมนต์ม่านเสน่หาสวาทหวาม...
มิลามิเลือนลับดับดวงตามดวงดาราตราบฟ้าสาง..
ดั่งหยาดฝนหยดพร่างตึ๋งๆ..ตรงชายคาแห่งรัก..ให้ไฟรักมิดับมิมอดลง..
แพม..ติดปีกฝัน..สู่บึงบัวกว้าง..ริมเรือนไทย
ให้สองดวงใจโลดแล่นเข้าสู่แสงตะเกียง ริบหรี่
เคียงร่างซุกซบในอ้อมอกกันและกัน
ฟังเสียงวสันต์ลีลา ซัดช่า
ครางครวญหวนไห้ไปกับลีลารักลีลาพิสวาทบาดใจแห่งสองเรา..
แพม..ติดปีกฝัน..พาเธอนั้นโผผินบินตรง..ลงสู่ร่มรักเรือนไทย เรือนใจริมชายทุ่ง
มีม่านมุ้งสีขาวสะบัดไหว ให้หัวใจสองเราได้ผ่อนพักในงามเงียบ เรียบง่าย
ใช้ชีวิตดิบเดิมติดดิน คลุกโคลนเลนสาบควาย..ขี่เจ้าทุยลุยท้องนา..เก็บไข่ใส่ตะกร้า
ลงไปจับปลา ในบึงกว้าง เก็บผักปลอดสารพิษริมรั้ว..
และ..
ยามสลัวเย็นย่ำ..นำตำราแก้วกรุงเก่ามาประดิดประดอย เป็นกับข้าว
ให้หอมแกล้มข้าวมะลิหอมหอม
จรุงกลิ่น..จรุงใจ อิ่มปาก อิ่มท้อง..ไปพร้อมกัน..
แล้วเฝ้าจ้อง..มองพระจันทร์หวาน ยิ้มบานแฉ่งแข่งมวลหมู่ดาริกาดาระดาษ
แพม..จะเปิดเพลงบรรเลงลำนำธรรมชาติไพร..
ให้ม่านเมฆเริงร่ายระบำและขอตระกองกอดเธอแนบแน่นเต้นรำพร้อมกันไป
ให้พระจันทร์ทรงกลดนั้นยิ่งงดงามไสวพร่าง..กลางนวลดาวระยิบ
กระพริบพราวอวยพร ..ให้
ร่างรักเราสองที่หลอมละลายกลายเป็นหนึ่งเดียว
ไม่เกี่ยวไม่เก่าไปกับกาลเวลานะดวงใจ....
****************************
ด้วยพระจันทร์ทรงกลดสวยมากกก..
กระจ่างดวงกลางฟ้าเข้มเต็มผืน
พุดพัดชายืนดูอย่างดายเดียวมาหลายคืนแล้วค่ะ
แต่ว่าในนาทีนี้วสันต์ลีลา..พร่างสายหนักมากพร้อมพายุ
และหากว่าราตรีนี้..คนดีที่รักและรักพระจันทร์และใคร
ที่อยากกัดพระจันทร์ให้เว้าแหว่ง
(ก็ไปกัดขนมไหว้พระจันทร์แทนละกันนะคะให้หายมันส์เขี้ยว)
พุดพัดชา..มอบให้ทุกดวงใจที่พ่ายพระจันทร์นะคะ
ในคืนแห่งวันเพ็ญ..เด่นดวงงามนี้..
ที่หวานมนตราพาให้อยากรจนางานงาม..
หลังจากหยุดมาหลายทิวาราตรีแล้วค่ะ
ที่พุดพัดชา..ขอย้ำอีกที นะคะ คนดี ทุกดวงใจว่า
ฉากสวาทหวานหวังนี้..
เขียนแทนใจคนดีทุกดวงใจ
ทุกดวงตาที่เฝ้ามองจันทราแล้วหรรษา..
อยากคว้าไขว่ใครสักคนมาซุกซบในอ้อมอกในอ้อมใจไปนิรันดร์
เป็นฝันดี...ที่มีจริง ชั่วชีวาชั่วชีวีนี้
ที่รอคอยมาแสนนานปานชั่วกัปป์กัลป์นะคะ
**********
ด้วยรักจริงจึงแต่งค่ะ
3 ตุลาคม 2546 11:49 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=72
แก้วตระการ...
ฝนพร่างสาย พรายพรม หน่วงหนัก ในยามดึก
ฟ้าครวญคร่ำ ดาวร่ำไห้..
กอแก้วนิ่งงัน ในงามเงียบ
กลิ่นหวานเศร้าของช่อดอกพราว..คลุกเคล้ามาปลอบประโลมใจ
กับสายลมละมุนบางเบา ในยามนี้..
ราตรีที่ฟ้ามืด ดาวหนีหาย จันทร์เสี้ยวรานร้าวใจ
ดาวคงไปแอบร้องไห้ในกลีบเมฆ..
การะเวกเลิกร่ายมนตราอ้อน..ใจใคร
ดวงดอกไม้ไทยรายรอบบ้านเลิกหวานเลิกบานชั่วคืนค่ำ...
ดวงใจอ่อนล้า..ในเงาตามีม่านฝน..พรำ
ดวงใจนั้นเงียบงัน..ว่างเปล่า..
แก้วคู่บ้าน คู่ใจ คู่เรือนไทย แก้วกลางใจพบพายุใจไหวหวั่น
พร้อมๆกันนะวันนี้ แทบทำใจไม่ทัน
ให้รู้ทันรู้เท่าโลกโศกวิโยคสะเทือนทับ
รับเนื้อใจละมุนนี้ ที่ราวกับ
เปลวเทียนฝันในดวงใจพลันริบหรี่ รุบหรู่อย่างช้าช้า ช้าช้า..
ไฉนเลย..
ในดวงชีวาดวงชีวีที่ผ่านมา..
ทุกช่วงเวลา มีแก้วหน้าบ้าน ยืนต้นตระการกิ่ง ตระการตา ตระการใจ
ในทุกคราคราว ไม่ว่ากี่ฝนหนาวกี่เศร้าฝัน
ในเนื้อใจอันไหวงามนี้ มีแก้วต้นนี้ที่หยัดยืนเคียงข้าง
และเฝ้าบานพราวนำทางใจ สู่เส้นทางรักเส้นทางฝัน..
ให้สล้างขวัญ ยามวสันต์เยือน นำแก้วคู่เรือนกอจริง
มาหวานหว่านกลางใจมาไหวกอฝัน
มาแตกช่อก่อกอรัก มาผูกรัดรักร้อย ในร่มรักเรือนไทย
ในงานงามแทบทุกเรื่องรักรจนา..
แก้วตระการตา..แก้วสวยพร่างพราวกลางใจ กลางใบเขียวขจี
แก้วที่สูงเชยชายคา เป็นแก้วตาดวงใจในอ้อมโอบแห่งรัก
ในวิมานฝันวิมานดิน ในถวิลถึงไพรกว้าง ยามแรมร้างรักลา
ในโศกสาสะซึ้ง ในคะนึงหา..ระหว่างเรา..
แก้ว..แก้ว..แก้ว..
ดวงดอกแก้ว
คู่ชายคาบ้าน เป็นร่มรัก ในเรือนไทยเรือนใจ
ให้พักใจ..เป็นปรัชญาใจสอนซาบซึ้ง
ให้เข้าถึงงามธรรมะ ธรรมชาติ ธรรมดา
หากรู้ค่าเปิดใจรับพลังอันยิ่งใหญ่
แสนสวยสงบนี้
แก้วที่สวยสดพร่างงามสล้างด้วยความดี
ดั่งมณีมีค่าเลิศล้ำในดอกดวงเรียบง่าย
พร่างพรายใจ ตระการพราวราวเพชรหนึ่งในร้อยดวง..
.....หนึ่งในร้อย..........
พราว แพรว อันดวงแก้วแวว-วาว
สด สี งาม หลายหลากมากนาม นิยม
นิล-กาฬ มุกดา บุษรา คัมคม
น่า ชม ว่างาม เหมาะสม ดี
เพชรน้ำหนึ่ง งามซึ้ง จึงเป็น ยอดมณี
ผ่อง แผ้วสดสีเพชรดี มีหนึ่งในร้อยดวง
ความ ดี คนเรานี่ ดีใด
ดี น้ำ ใจที่ให้แก่คน ทั้งปวง
อภัย รู้แต่ให้ไปไม่หวง
เจ็บ ทรวง หน่วงใจให้รู้ ทัน
รู้ กลืน กล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน
ชื่น ชอบตอบ ผล ร้อยคน มีหนึ่งเท่านั้นเอย
รู้ กลืนกล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน
ชื่น ชอบตอบผล ร้อยคน มีหนึ่ง เท่านั้นเอง.....
ให้ตระหนักรักดอกแก้ว ซึ้งในค่า..และเกินคำพรรณนา..
ในครานี้..
ที่แก้วกลางใจของเราทุกคนในชายคาร่มรักเรือนไทย
พบพายุฝนลมแรง..
คนดี..ทุกดวงใจ..
เราจะใช้พลังใจหลอมดวงใจเกี่ยวก้อยกันไป
ใช้ไหล่รักมั่นฉันท์พี่น้องมากไมตรี
มาเอนอิงพิงกัน กางกั้น ปกป้อง ดวงดอกแก้วแสนงามของเรา
ให้กลับมาหวานสล้างบานพราวกลางใจ
นำทางใจเป็นร่มเงาแก่นกกา
เป็นเมตตาแก่ผู้มืดบอดทางใจ
ในเส้นทางรักสับสนที่ยังค้นทางสว่างว่างไม่พบเจอ
รอหยาดฝนพรายพรม
พร่างสายให้แก้วกระจายคลี่ขยายกลีบชูช่อ
ล้อแดดลม ห่มทุกห้องหัวใจรักให้อิ่มงาม อีกครั้งอีกครา..
มาสิทุกดวงใจ..
เราจะพร้อมใจกันผูกรักรัอยมั่นดั่งคำสัญญา
สวดมนต์ภาวนา และเราจะรอวันที่ฟ้าเบื้องบนปรานี
รอวันที่เราจะยิ้มทั้งน้ำตา..รอท่าวันนั้น
วันที่แก้วกลางใจ แก้วตระการตา จะกลับมาบานสะพรั่ง
กระจ่างใจ กระจ่างฝัน ทุกทิวาทุกราตรี ประดับเรือนไทยนี้ให้หอมเย็น
หอมงามด้วยคุณความดี เป็นรักนี้นิรันดร..
ดอกแก้วกลางดง
ลำน้ำน่าน
หอมหอมตริตรองใจ
ดอกไม้ไพรแก้วกาหลง
โดนเด่นอยู่กลางดง
งามสะพร่างหว่างหัวใจ
อาทรภมรเมือง
บ่ชำเรืองแลผู้ใด
ใจรักภักดิ์ดีไว้
ประพาสป่า ณ แดนดิน
ฤดูก็คล้อยเคลื่อน
บ่ได้เยือนแก้วกระถิน
บ่มช้ำกล้ำกลืนกิน
หนาวจำทนจนรุ่งราง
ระยิบระยับพราว
กลีบพรายขาวดั่งดาวพร่าง
จะรักหรือผ่อนวาง
ดลหัวใจให้ป่วนแท้
แมลงภู่ผึ้งป่าดอน
อยากคลึงคลอนดอกดวงแด
เพราะรักยากหักแท้
จึ่งชอกช้ำกับบุพเพฯ
บานงามนามมงคล
คลอหยาดฝนพรมเสน่ห์
สูงส่งใช่รักเล่ห์
ทั่วทั้งผองครองบูชา
ควรคู่ด้วยผึ้งหลวง
ดุจดาวดวงสถิตย์ฟ้า
ผึ้งป่าเหล่านกกา
อย่าแม้นเปรียบเทียบความงาม
อัญเชิญเข้าครองเมือง
รักเรื่อเรืองระบัดนาม
ดอกแก้วก็ไหวหวาม
บริสุทธิ์เกินกล่าวพรรณ
จำจรก็ตัดใจ
อันผึ้งไพรไหนสำคัญ
อกร้าวใคร่อาสัญ
อยู่อ้างว้างกลางดงแดน
..........................
คนไทยโบราณเชื่อว่า เรือนใดปลูกต้นแก้วไว้ประดับบ้าน ทำให้คนในบ้านมีความสุขและมีคุณค่าสูง เพราะคำว่าแก้วนั้นหมายถึงสิ่งที่ดีมีค่าสูง เป็นที่นับถือบูชาของคนทั่วไป ซึ่งโบราณได้เปรียบว่า เหมือนดวงแก้ว ดอกแก้วมีกลีบดอกขาวพร่างบริสุทธิ์ หอมนวล แมลงภู่ผึ้งชอบตอมตรมยิ่งนัก และถือเป็นไม้มงคล คู่ควรกับสิ่งทีดีๆ สูงส่ง..เสมอ ... แต่ในวันนี้นั้นลำน้ำน่านเป็นเพียงผึ้งไพร...
(ไม้ประดับดอทคอมเอื้อเฟื้อข้อมูล)
30 กันยายน 2546 22:24 น.
พุด
ทุกค่ำคืน..ที่หวัน..เดินเดียวดาย บนเส้นทางสายโศก..กลับบ้าน
หวันจะหยุดตรงลำประโดง..
ที่มีกระท่อมโย้เย้ เพิงพัก ปลูกชิดตลิ่ง
มีเรือลำเล็กๆผูกอยู่ ในดงดอกโสน เหลืองสะพรั่งพราว ราวภาพฝันของคนยาก
หวันจะยืนนิ่งงัน ..
ปล่อยให้ความเหงาเงียบเย็นเฉียบเข้าไปผนึกในดวงจิตในดวงใจ..
หวันชอบชีวิตงามง่าย ติดดิน ไร้มายา แบบนี้
ที่ยังคงมีกลิ่นอายของอดีตยามวัยเยาว์
หลงเหลือลอยละล่องมาสู่คลองใจของหวัน
กลิ่นควันไฟหอมกิ่งไม้ จากที่จุดไว้ไล่ยุง
กลิ่นฟุ้งของกับข้าวมื้อเย็น
เสียงตำน้ำพริก...
เสียงแม่เอ็ดเด็กน้อย ให้ถอยห่างออกจากกองไฟ
เสียงวิทยุทรานซิสเตอร์
ที่มีเพลงมนต์รักลูกทุ่งลอยลมหวานแว่วแผ่วมา
และบางคราก็เป็นข่าวชาวบ้าน..
ธรรมดาๆที่พาให้..เนื้อหัวใจไหวยวบอ่อนโยน..
ด้วยคิดถึงบ้าน คิดถึงความหลังฝังใจ เป็นยิ่งนัก....
เจ้าของกระท่อมคงชินตา เสียแล้ว
ที่แทบทุกราตรี
จะเห็นผู้หญิงผมยาวสยาย ราวนางไม้นางไพร
เพียงแต่ยังไม่ได้ห่มสไบเพียงนั้น
มายืนนิ่งงัน ทิ้งใจงามเงียบ ในภวังค์ฝันเหงาเศร้า
ดายเดียว ลำพัง ใต้ต้นชมพูพันทิพย์
คงมีบางครากระมัง ที่แกอาจจะยังสงสัยไม่ชินใจใคร่รู้
จากผู้หญิงคนนี้ ที่ดูจากการแต่งกายภายนอก
น่าจะมีชีวีที่ดีกว่าแกมายมายนัก
แต่ทำไมดูราวไร้ชีวิตจิตใจเสียไม่มี ยามหยุดอยู่ตรงนี้คนเดียว
แต่แกก็ยังคงเก็บความสงสัยไว้ .....
ได้แต่ทายทักและและตอบคำถามเดิมเดิมจากเธอ..วันนี้แกงอะไรจ๊ะ......
หวันจะทรุดตัวนั่ง ตรงเก้าอี้ไม้ไผ่สาน ที่วางไว้ใต้ต้นหางนกยูง
แล้วรอท่า รอเวลา แหงนเงย มองดูดาวประจำเมือง ดาวประจำใจ
ที่จะเรืองรุ่งพร่างฟ้าประดับราตรีงาม
และราวจะรอลอยร่วงลงมา
คลอเคียงข้างประดับใจหวันในทุกค่ำคืน
หวันจะส่งพลังใจ สายใจสายไยรัก ถึงใครบางคน
ที่..ณ..บัดนี้
อาจจะมีใครสักคนเคลียคลอพะเน้าพะนอ
เอาอกเอาใจในยามค่ำให้เหงาคลาย
มิได้ดายเดียวเหงาเศร้า..อย่างหวันนี้..
ที่ทุกคราครั้ง..หวันจะคิดถึงบทเพลงแห่งรักนี้ .....
ในราตรีใจในอณูเนื้อแห่งความภักดี
ที่แสนคิดถึงคะนึงหา..อย่างที่สุดแล้ว.........
คิดถึงพี่ไหม
คิดถึง พี่หน่อย นะกลอยใจพี่
ห่างกัน อย่างนี้
น้องคิดถึงพี่ บ้างไหม
อย่าลืม อย่าลืม อย่าลืมสัจจา สัญญาที่ให้
ว่าตัวห่างไกลหัวใจชิดกัน
คิดถึง พี่ก่อนน้องนอนก็ได้
เมื่อยาม หลับไหล
น้องเจ้าจะได้ นอนฝัน
ข้างขึ้นเมื่อใดแก้วใจโปรดมอง
แสงของนวลจันทร์
เราสบตากัน ในแสงเรื่อเรือง
คืนไหน ข้างแรม ฟ้าแซมดารา
น้องจงมองหา ดาวประจำเมือง
ทุกคืนเราจ้องดูเดือนดาว
ทุกคราวเราฝันเห็นกันเนืองเนืองถึง
สุดมุมเมือง ไม่ไกล
คิดถึง พี่หน่อย นะกลอยใจเจ้า
พี่ตรม พี่เหงา
เพราะคิดถึงเจ้า เชื่อไหม
ฝากใจกับจันทร์ ฝากฝันกับดาว
ทุกคราวก็ได้ เราต่างสุขใจเมื่อคิดถึงกัน...
................................
คนดี..ไยดาวประจำเมืองช่างริบหรี่..โรยแรง..ราวรับรู้
พลังแห่งรักของสองเราจักมอดดับดวงแล้วหรือไร
หรือจะโชติช่วงสุกใสส่องกระจ่างนำทางใจแสนหวานไปชั่วนิจนิรันดร์
หวันได้แต่ฝัน..อ้างว้าง..คว้างฝัน ฝากใจไปกับจันทร์
ฝากฝันไปกับดาวประจำเมืองในดวงใจเรา ไปกระซิบอ้อน....
วอนถามเธอนะดวงใจ
ไม่มีใคร ไม่มีใจ ดวงไหนจะเสมอรัก
จะภักดีจะเข้าใจมหัศจรรย์แห่งรักนี้
ได้เท่าเทียมเทียมเท่าจิตวิญญาณรักแห่งสองเรา....
และนะนาทีนี้
ใจดวงร้าวนี้ก็ติดปีกฝันโผผินบินข้ามน้ำข้ามทะเล
ไปสู่เกาะสวรรค์สรวงในห้วงน้ำจรดฟ้า
ที่หวันเคยพาหัวใจเหว่ว้าไปเยียวยา
รักษาใจลำพังอย่างดายเดียวเปลี่ยวร้างสิ้นไร้ใคร
หวันกำลังทำตัวเองให้ว่าง สักพัก
ปลดภาระใจออก ไปพิงพักให้หัวใจสงบงาม..อีกสักครั้งครา
และก่อนนิทราฝัน..
น้ำตาหวัน จะชื้นเปียกหมอนเงียบพร่าง
ด้วยรอนร้าวใจ ที่มิอยากให้ผู้ใดได้รู้เห็น
ด้วยความคิดถึงมากล้นทรวง ด้วยห่วงใย ด้วยดวงใจอ่อนอ่อน
ที่เปี่ยมด้วยสงสารด้วยเข้าใจและด้วยรานร้าว สาสะใจ สาสมใจ ในเจ็บนี้
ที่เจ็บยิ่งกว่าเจ็บกับการได้ลงทัณฑ์ตัวเองอย่าสาสมใจ
ที่ทำร้ายแม้กระทั่งหัวใจตัวเองได้ลง......
.............
หวันได้แต่ขอฝากเพลงแห่งความหลังนี้..ผ่านหน้าต่างเมฆ
ฟากฟ้ากว้าง ทางช้างเผือก
เรียวรุ้งบนโค้งคุ้งฟ้า ฝากดวงดารายามราตรี
ฝากลำเนาไพรที่เราแสนรักพอกัน..
และฝากกระซิบคำอ้อนให้ดาวประจำเมืองกระพริบพราว
ทุกคราคราวที่คนดีที่ดวงใจได้แหงนจ้องมอง ..
แทนรักล้นทรวงแทนห่วงใยที่ใครยากหยั่งถึงนะดวงใจ..
รักข้ามขอบฟ้า
ขอบฟ้า เหนืออาณาใดกั้น
ใช่รักจะดั้น ยากกว่านก โบยบิน
รักข้ามแผ่นน้ำ รักข้าม แผ่นดิน
เมื่อความรักดิ้น ฟ้ายังสิ้นความกว้างไกล
ขอบฟ้า ทิ้งโค้งมาคลุมครอบ
อ้าแขนรายรอบโอบโลกไว้ ภายใน
เหมือนอ้อมกอดรัก แม้ได้ โอบใคร
ชาติภาษาไม่ สำคัญเท่าใจตรงกัน
รัก ข้ามขอบฟ้า รักคือ สื่อภาษาสวรรค์
อาจมีใจคนละดวง ต่างเก็บอยู่คนละทรวง
ไม่ห่วงถ้ามีสัมพันธ์
ขอบฟ้า แม้จะคนละฟาก
ห่างไกลกันมาก แต่ก็ฟ้าเดียวกัน
รักข้ามขอบฟ้า ข้ามมา ผูกพัน
ผูกใจรักมั่น สองดวงให้เป็นดวงเดียว
รัก ข้ามขอบฟ้า รักคือสื่อภาษาสวรรค์
อาจมีใจคนละดวง ต่างเก็บอยู่คนละทรวง
ไม่ห่วงถ้ามีสัมพันธ์
ขอบฟ้า แม้จะคนละฟาก
ห่างไกลกันมาก แต่ก็ฟ้าเดียวกัน
รักข้ามขอบฟ้า ข้ามมา ผูกพัน
ผูกใจรักมั่น สองดวงให้เป็นดวงเดียว.........
...............
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=169
เพราะขอบฟ้ากว้าง กุ้ง กิตติคุณ เธียรสงค์ : : Key Eb
ป่านนี้แก้วตา นิจจาคอยพี่
โอ้ป่านฉะนี้ คนดีคงทุกข์โศกตรม
คิดถึงคืนวัน ที่สองเรานั้นรื่นรมย์
ต่างชื่น ต่างชม ภิรมย์รักกันมา
บัดนี้พี่ยัง รักเธอไม่หน่าย
สู้อยู่เดียวดาย ไม่คลายความรักแก้วตา
รสรักยังตรึง ซาบซึ้งแน่นดวงวิญญา
ขอเพียงแก้วตา สัญญาไม่เปลี่ยนใจ
แต่เรานี้ต้องอยู่ห่างกัน ต่างคนต่างฝัน
ต่างคนตื้นตันทรวงใน
เห็นดารา นึกว่าเนตรน้อง
พี่หลงพี่จ้อง มองไป
เห็นเงากิ่งไทร พี่ยังเคลิ้มไป ว่ากานดา
อยู่ฟ้าเดียวกัน พระจันทร์ดวงหนึ่ง
แปลกใจสุดซึ้ง ไยจึงไกลน้องหนักหนา
ฟ้านี้ไกลไป ไม่เหมือนดังใจเสน่หา
อยากใกล้กานดา อยากให้ขอบฟ้า แคบแคบเอย
อยู่ฟ้าเดียวกัน พระจันทร์ดวงหนึ่ง
แปลกใจสุดซึ้ง ไยจึงไกลน้องหนักหนา
ฟ้านี้ไกลไป ไม่เหมือนดังใจเสน่หา
อยากใกล้กานดา อยากให้ขอบฟ้า แคบแคบเอย....
30 กันยายน 2546 11:12 น.
พุด
อรุณรุ่งพรายแสงอรุณเรื่อ
ลำแสงเจือม่วงทองส่องเรียวข้าว
ประกายส้มอมชมพูงามแพรวพราว
ลีลาเช้าละลานใจไหววิบวัน..
โน่นเรียวรุ้งพร่างพรมห่มร่างรัก
รูปสลักเนินสล้างนางในฝัน
ดั่งสายไหมพันเนื้อนวลพลิ้วแพรพรรณ
วับแวมฝันหนั่นเนื้อนุ่มรุมรัดใจ....
พลิ้วพวงแก้มแกมชมพูผ่องผุดผาด
ขนงนาฏโก่งคันศรชำเลืองไหว
เรียวละออวงหน้าละมุนใจ
เจ้าขวัญไพรเทพีฝันวสันต์รอ......
เกสรเพชรพร่างนัยน์ตาวะวิบวับ
ตะวันจับน้ำค้างพร่างพรมพ้อ
หยาดเพชรพราวในเรียวตาอ่อนละออ
ก็ร่วงพ้อพร้อมน้ำค้างฝันวันไร้เธอ!
************
พุดพัดชา..เดินเดียวดายริมทุ่งกว้าง รับอุษาสาง อ้างว้างใจ
รอพรายแสงเรืองรำไรๆม่วงละมุนอุ่นอ่อนจากดวงสุริยา
ประกายแสงทองเหลืองระยับ..วาววะวับ วาวจรัส มลังเมลือง..
แสงแรกแหวกม่านเมฆมาทายทัก มวลหมู่นกกาภมรบินว่อนโผผิน
หยาดน้ำค้างเริ่มระรินลาดอกไม้ไพรกลางกลีบใบ ไหวอ่อน...
นาทีนั้น...
พุดพัดชาหลับตาฝัน..
พาดวงใจทุกดวงแห่งเรือนไทยดำดิ่ง....
สู่...ภวังค์อัศจรรย์..ฝันไกล ถึงนางไพร นางในฝัน..
เห็นนวลแสงงามนั้นจับเรียวหน้างามละมุน..
รูปสลักกลมกลึงหนั่นเนื้อ..นั้นถูกพันธนาร่างอย่างนิ่มนวล
ด้วยเรียวรุ้งบางเบาราวสายไหมไยเมฆ..
เว้นเนินเนื้องามผ่องสล้าง..
ที่ถูกโลมไล้ร่างด้วยเรียวแดดสีทองอ่อนอุ่น
งามระยับจับตางามบาดใจ..
จนหัวใจต้องไหวเพ้อครางครวญ..
...........
และพุดพัดชาหวัง..ภาวนา..เมื่อ..ทุกดวงใจลืมตาตื่น
ให้ได้พบวันชื่นคืนสุขพบอรุณอุ่นงามในโลกจริงนะคะ
ให้นางใจ นางในฝัน ที่นอนฝันเคียงข้าง
พันร่าง ด้วยแพรไหมนวลนิ่ม สร้างอารมณ์ถวิลหวาน
ให้สุขซ่านซึ้ง กับงามล้ำนั้นชั่วนิจนิรันดรนะคะ
ด้วยรักจากนักฝันค่ะ
29 กันยายน 2546 20:18 น.
พุด
น้ำผึ้งขวัญน้ำค้างฝันกำลังใจ..
*************
ไพลกำลังซุกตัวกับโซฟาสีขาวแสนรัก ร่ำไห้....
แข่งกับสายฝนเสียงเพลงกำลังใจ...
ที่กำลังกระหึ่มอย่างหน่วงหนักบดขยี้ดวงใจแทบแหลกราน
ให้หนาวลึกหนาวล้ำกำซาบซึ้ง
ถึงก้นบึ้งดวงใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า..
.................
ในยามที่ท้อแท้ ขอเพียงแค่คนหนึ่ง
จะคิดถึง และคอยห่วงใย
ในยามที่ชีวิต หม่นหมองร้องไห้
ขอเพียงมีใคร ปลอบใจ สักคน
ในวันที่โลกร้าง ความหวังให้วาด
มันขาดมันหาย ใครจะช่วยเติม
เพิ่มพลังใจ ให้ฉันได้เริ่ม
ต่อสู้อีกครั้ง บนหนทางไกล
* กำลังใจ จากใครหนอ
ขอเป็นทาน ให้ฝันให้ใฝ่
ให้ชีวิต ได้มีแรงใจ
ให้ดวงใจ ลุกโชนความหวัง
กำลังใจ จากใครหนอ
ขอเป็นทาน ให้ฉันได้ไหม
ดั่งหยาดฝน บนฝากฟ้าไกล
ที่หยาดริน สู่พื้นดินแห้งผาก ..
..........
ดวงดอกพุดสีขาวพราวนวลริมเรียวแก้ม..หอมคลุกเคล้าเศร้าลึกพอกัน
วสันต์ลีลา ครางครวญ พรายฝนนอกหน้าต่างกระจกบานกว้าง
แตกพร่างออกดวงดอกฝนตกลงในบ่อปลา..
กล้วยหวีไหว ราวกับอยากตามใครบางคน ไปบวชชี
หนีรักตรม หั่นหวี หั่นผม เข้าวัด เลิกรัก
เลิกเศร้าเลิกรานร้าววกๆวนๆเวียนๆ
ดั่งกังหันสวาท ตัดมิขาดประหลาดใจ...
ไม่เอาแล้ว..
ไพล..ตั้งใจจะหนักแน่น ดั่งแผ่นผา
ถึงมาตรแม้นว่า สลัดรักมิขาดตัดโซ่สวาท สร้อยเสน่หามิสิ้น..
ไพลก็จะถวิลรู้รัก ถักทอสายใจสายไยฝัน
ด้วยพลังแห่งคำว่ามิตรภาพ
และมอบกำลังใจให้ไปเสมือนหนึ่งมิตรชิดใกล้..
ให้หอมหวานบานพราวเป็นดั่งดอกไม้แห่งรักมั่นชั่วนิจนิรันดร
เป็นดั่งลำธาร ไม้หอม และอ้อมตัก
ให้พักเอนอิงพิงไหล่ได้ดื่มกินไปชั่วกาล
เพราะไพล..กลัวความร้าวราน และพรากจาก
ที่ให้บทเรียนเพียงพอแล้ว
ไม่อยากให้แก้วกลางใจหลุดลอยไปอีกหนอีกครานะคนดี นะดวงใจ
ไพล...ขออุทิศดวงใจ จิตวิญญาณ
และทุกสิ่งที่มี ...
เป็นดั่งสะพานเชื่อมฝัน..กันและกัน..
และขอยืนยัน...คำมั่นสัญญาเป็นความหมายเป็นสายรัก
และขอยืนยัน...คำมั่นสัญญาเป็นความหมายเป็นสายรัก