28 เมษายน 2547 12:30 น.
พุด
URL..http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=90
(ฝนหยาดสุดท้าย)
**********
ในราตรี...
ที่จันทร์จริงกำลังลอยควะคว้างกลางเวหาหาว
กับคืนไร้ดาวกับเมฆหมอกหมองเฝ้าครองฟ้า
ที่ดอกดวงพวงพุดจริงกำลังบานพราวเต็มราวกิ่ง
แต่ไยดวงดอกพุดเศร้ากำลังบานร้าวเต็มหอมห้วงดวงใจ
ดวงนอนนิ่งนิ่งทิ้งใจ
ดูดาวประจำเมืองประจำใจ..รินน้ำตา
ด้วยเหว่ว้าเสียใจ
กับใจดวงละไมละมุน..ดวงนี้
ที่มัก..มองงามในทุกนิยาม..แล้วชอบร่ำไห้
มีทั้งยามรักภิณฑ์พัง
ยามพลาดหวังดายเดียวขมขื่น
ยามชื่นฉ่ำใจใน..ทุกรส...ทุกรัก..
ทั้ง..สดชื่น
ทั้ง..ระรื่นรมย์
ทั้ง..ตรอมตรม
ทั้ง..ระทมทับแทบดับดวงใจ
ทั้ง..หวั่นไหววาบหวาม
ที่ช่างเป็นความรู้สึกแสนงามแสนดี
เป็นนวลประทับ
รับเนียนเนื้อใจ..
ของ*สาวงามแห่งไพรพฤกษ์* คนนี้
ให้มี
ใจดวงดีดวงใส
ราว*อัญมณีไพร**อัญมณีใจ*
ที่แสนภาคภูมิใจแสนปลี้มใจ
ที่ได้รับเกียรติได้รับนิยาม
ที่งามวาม
ราวดวงดอกเพชรพรายพร่างกระจ่างใจไสวสว่าง
เพราะ
รู้ว่ากับทุกเรื่องราว..ไร้สาระ
มิได้เสียใจวูบไหว..นาน..กับทุกสิ่ง
เพราะใจดวงนิ่ง
รู้รำงับดับทันเสมอ..
และ
อยากสารภาพว่า..
ใจกล้าเผชิญพอ...กับทุกฝันพลี
ไม่ว่าจะดีจะร้าย
ใครจะมากำนัล
มอบไม้ฝันไม้ใจไม้ไหนมาให้
ก็คงมิยอมพ่ายยอมแพ้ใจ
ยอมหวั่นไหวสิโรราบวาบหวาม..นาน
เพราะ
ดวงใจภายในจริงแท้
เพียรสร้างเกราะกั้น
ให้มีใจดวงธรรม..ดวงธรรมชาติ
ที่สะอาดพอจะรู้ทันรู้เท่าว่า
ทุกอารมณ์..รัก..รานร้าวเศร้าฝัน..นั้น
ก็แค่เพียง
สวรรค์ส่ง..ฟ้าประทานมาให้..เรา
ดั่งพรสวรรค์
ให้ไหวทันทดสอบใจ
ให้รู้มีไหวพริบมีปัญญานำสติ
ให้หลงยินดีปิติเพียงฝันฝันฝัน
ให้รู้ทันนำมาหลอมละลายทายทักเนื้อใจ
ให้ไหวงามรับละเมียดละมุน
มาสร้างรักสร้างงานหอมกรุ่น
อันหวานหอม..หอมหอม
ให้หลอมทุกอ้อมใจ
ให้ดวงใจได้สัมผัสละไมรักภักดี
ได้โอบเอื้อใจแบ่งฝันปันใจไปด้วยกัน..
มาหมุนฝัน
สวรรค์หวาน
มาหมุนคน
หมุนดวงกมลมากมีมากมาย
ให้พรายพบดวงตาสวรรค์
ได้ค้นพบสงบงามเงียบเรียบง่าย
ได้ใช้ชีวีอย่างมีคุณค่า
นำมาเรียงถ้อย ร้อยรสรักอักษรา
ภาษารักภาษาใจภาษาฝัน
ดั่งดวงบุปผาสุมาลีหลากสีหลากพรรณ
หลากบทเรียนได้พากเพียรน้อมนำมาสอนใจ
ให้
สมกับงามดวงใจใครเล่ารู้นี้
ที่พระเจ้าพลีพร้อม
หลอมส่งลงมาเกิด
หวังคง
เพียงเพียรให้รู้ค่าคำ
ค่าคนกมลละไมในทุกดวงใจ
ทั้งปวงงาม *นามศิลปิน*
คนดี..ดวงใจ
จึง..
มิอาจ.ทิ้งจิตวิญญาณไพร
ที่*ฟ้าสร้าง..สวรรค์ส่ง*สั่งตรง*ลงมา..
ได้ช้านาน....
มิยอมให้ราน..ทิ้งรักภักดิ์พลี
แม้นบางหนบางที
จะสับสนกับกมลใครกมลใจ..
ที่
ก้าวมาหยิบยื่นแล้งไร้น้ำใจ
ให้ไหวเหว่ว้าอ้างว้าง
มิรักจริงมิเข้าใจ...
ที่วิ่งมาใส่มาชน
ราวนรกสั่งตรงให้มาเชือดเฉือน
ให้ประหัตประหาร..ดับดวงจิตวิญญาณใจ
จึง..
ทบทวน หวนไห้ทุกเรื่องราว
ด้วยเศร้าด้วยเสียใจ
กับใจคนใจใคร...
ที่มิเข้าใจ
ที่ผ่านมาผ่านไป
ที่มิยั่งยืน
อย่าง..มิเศร้าใจมิยาวยืนมิยาวนาน..
ด้วย..ดวงดอกใจในรักฝัน
มักพลัน
ได้ยินเสียงคลื่นคลอพะนอเศร้า
แห่งผืนดินเกิด
ครวญคร่ำร่ำให้...ให้รู้ทำใจทำสิ่งสวยงาม
ก่อนตะวันหวานแห่งดวงใจ
จะอ้อยอิ่ง..อำลา..โลกโศกสุขนิรันดร์
ได้ยินเสียงฟากฟ้าทะเลฝัน
เพรียกหารำพันพิไรกับผืนทราย
เสียงไพรพฤกษ์
ราวร่ำไห้กระซิบกระซาบฝากใจ
ไฉน!ไยยอมแพ้..กับเกมใจไม่จีรังรัก
ให้
หัวใจดวงภักดี ที่สวรรค์สรร
สวรรค์สร้างให้อย่าแรมร้างห่างลา
.
ด้วยเวลาแห่งชีวีช่างแสนสั้น
มิมีวันที่เราจะรู้กำหนดโลกโชคชะตาได้
คนดี
ดูถูกมาซีเหยียบย่ำมาเลย
เผยความสาใจความสะใจ
ในสับสนมิทานทนมินานวัน
ก็ยอมผันยอมแปรแพ้ดวงใจ..
แพ้จิตวิญญาณภายใน
ราวกับกลืนน้ำลายตัวเอง
และยังคงกลับมาบรรเลงบทเพลงแห่งหัวใจ
ในวันนี้นะนาทีนี้
และ
ยังคงใช้หัวใจดวงขวัญฝันฝัน
ยืนยันมั่นใจเต็มร้อย
ว่า
ไม่ว่าจะถอยหน้าหรือถอยหลัง
หรือ
อยากหยุดตามฝันตามตะวัน
ยามไฟฝันไฟนำเส้นทางใจแสนริบหรี่ไหวระริก
ราวจะมอดดับลงช้าๆ
แต่..!จำไว้..
ทุกฝีก้าว
ก็ยังคงเคารพการกล้าตัดสินใจของตัวเอง
มิยำเกรงใจมิใช่เพราะใครเพราะคน
จะ
ไม่มีวันเสียใจนะ..
และจะขอบรรเลงเพลงรักระริน
ดั่งขลุ่ยครวญถวิลพ้อคลอละออเจ้าดวงดอกไม้
ทายทัก..มอบรักให้ทุกดวงใจ
ในถนนสายฝันสวรรค์งาม..
นะวิมานร่มรักเรือนไทยแห่งนี้
ไป..จนกว่า..จะอยากลาจริงลาใจ..ด้วยตัวเอง
ที่จะมิมีวันยอมพลี
ด้วยอารมณ์ใครที่วูบวับดับหวังดับดวง
จาก
ผู้หญิงคนนี้
ที่แพ้ฝนมิพ่ายใจ
มิพ่ายใคร
ในกมลลวงมิได้หวงห่วงในรักใจในรักจริง!
************
ผู้หญิงแพ้ฝน..มิพ่ายฝัน
รจนาเรื่องนี้สดค่ะ
พร้อมฟังบทเพลง
*ฝนหยาดสุดท้าย*คลอครองใจ
ด้วยหยาดน้ำใสเต็มเรียวตา
ในขณะที่
สายฝนกำลังพร่างสาย
ในยามเช้านี้นะคะ
และ
กับทุกอณูความรู้สึก
ที่ได้ทบทวนสับสน
ในใจมาตลอดคืน
ที่บางครั้งครามีใครบางคน
กล่าวคำกระทบจิตกระทบใจ
กระทบวิญญาณภายใน
ให้สะเทือนไหวสะเทือนใจ
ให้แทบอยากเลิกรจนา
ลาลับดับดวงดอกฝัน
แต่ค่ะ
สำหรับผู้หญิงคนนี้
กับใจดวงดี
ที่ขอแค่แพ้ฝน
มิพ่ายฝัน..มิพ่ายใจ..มิพ่ายใคร..
ที่ไม่เข้าใจไม่รักเราจริงนะคะ
********
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=90
ฝนหยาดสุดท้ายหัวใจหวั่นไหวให้ตรม
ซ่อนรอยน้ำตาขื่นขม ร้าวระบมสุดที่จะฝืน
ถึงคราวจำพราก โศกช้ำกล้ำกลืน
ฉันนอนซบหมอนสะอื้น
ค่ำคืนผวาโศกศัลย์
ฝนหลั่งสั่งฟ้านิจจาจำร้างห่างกัน
อย่าลืมรักเคยผูกพัน ทุกคืนวันอย่าลืมเสน่หา
ถึงกายจะห่าง แต่รักอย่าลา
เธอเคยสัญญาไว้ว่า
จะมาเมื่อฝน เยี่ยมเยือน
จงหมั่นจำความหลังอย่าลืม
สองเรา เคยรักเคยปลื้ม
ด่ำดื่มจำไว้อย่าเลือน
คอย ฉันคอยจนฝนใหม่เยือน
หวั่นเกรงรักลวงลอยเลื่อน
เพื่อนใจอยู่ไหนไม่มา
ฝนหยาดสุดท้ายเขาใยปล่อยฉันให้คอย
ส่งกระแสใจเลื่อนลอย
หลงรอคอย คอยร่ำเรียกหา
ฝนเอยอย่าด่วน สิ้นร้างสร่างซา
เพราะชื่นหัวใจของข้า
ไม่มาฝนจ๋า ข้าตรม
ฝนหยาดสุดท้ายเขาใยปล่อยฉันให้คอย
ส่งกระแสใจเลื่อนลอย
หลงรอคอย คอยร่ำเรียกหา
ฝนเอยอย่าด่วน สิ้นร้างสร่างซา
เพราะชื่นหัวใจของข้า
ไม่มาฝนจ๋า ข้าตรม...
26 เมษายน 2547 22:54 น.
พุด
URL.http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=6020
**********
ทะเลเงินงามเรียบวะวาววับไม่มีเส้นตัดขอบฟ้า
ราวทะเลสวรรค์ลอยแลละลิบ..
เสียงคลื่นซัดแผ่วคลอหาดกว้างร้างไร้ผู้คน
หัวใจหวัน..ราวถูกบ่มหอม
ล้อมด้วยกลีบกุหลาบแดงงามเข้มดั่งสีทับทิม
ผีเสื้อ..บินทายทักลีลาวดีหลากสี
จำปีที่เพิ่งคลี่กลีบแรกแย้มริมหน้าต่างกระท่อมหลังงาม
ที่เคียงขนานไปกับโค้งอ่าว
ที่หวันมาฝากร่างร้าวคืนไร้ในรีสอร์ทหลังงาม
ที่มากหวามไหวด้วยแมกไม้ดวงดอกไม้ไทยไทยรายรอบ
หวันค่อยๆ...
ลืมตารับหอมพร่างของกลิ่นพวงพะยอม
ที่อวลหอมมากับสายลมสดฉ่ำในยามเช้า
นอนฟังเสียงคลื่นพ้อทรายเว้าวอน
ราวหนุ่มอ้อนสาวในอ้อมกอดยามฟ้าสางดุเหว่วแว่ว
เรียวแดด..ดวงดอกแดด..ส่องมากระทบผนังกระท่อม
ที่บุด้วยไม้ไผ่สานลายละเมียดละเอียดละออ
ให้เห็นงามดิบ..พร่างกระจ่างใจจับเรียวนัยน์ตา
ผู้หญิงสนิมสร้อย ที่นอนอ้อยสร้อยเหว่ว้า
ที่ค่อยๆหรี่ตา..
อย่างช้าช้าเปิดใจรับหอมดอมดม
พลังสดในยามอรุณรุ่ง..ที่พรมพร่างให้กมลระรินรับ
กับลมหอมหอม..ระรื่นรมย์ที่ไม่ต้องซื้อหา
ลมที่ธรรมชาติโอบเอื้อให้มา..อย่างยุติธรรมแด่ทุกดวงใจ
สุดแต่ใครจะพาร่างใจไปไขว่คว้ารับเอา..หอมงาม
ตามใจฝันฝันฝัน..ตามใจนึก
กลิ่นทะเลฝันรัญจวนใจ
จากทะเลใสสวยสดสีเทอร์ควอยซ์แสนงาม
กับบทเพลงธรรมชาติ
ไหวพลิ้วยามมะพร้าวกรายกิ่งไกวแกว่งรับหวานลม
หวัน นิ่งฟังทุกสรรพเสียง
พลางเรียวนัยน์ตาก็ซึมซึ้ง
ที่ไม่มีใครเลยจะเข้าถึง..จิตวิญญาณดวงนี้ ดวงแบบนี้
กับนาทีนี้ที่ขอนอนนิ่งนิ่งในที่นอนนุ่มนุ่ม
กับม่านมุ้งหมอนสีขาวโปร่งใสที่กำลังระบัดไหว
ให้หวันแหวกแลลอดไป
แลเห็นงามระยิบเต้นเต็มเรียวตาเติมนวลใจ
ให้ทองหลางดอกพราวแดงโดด..งามเด่น
ทายทักตรงริมเรียวตา
ตัดฉับกับขอบฟ้า
ที่ค่อยๆถูกรินสีพร่างสายจากพรายตะวัน
ที่กำลังผันดวงโผล่ขึ้นมา
ให้โค้งฟ้างามราวเรียวรุ้งพยับหมอก..
หวันเดินดายเดียวส่งแย้มยิ้ม
รับฉากตระการตาตระการใจที่พร่างไสวงาม
ด้วยดวงใจหวานใสเงียบงาม
ส่งจูบละมุนแผ่วผิวจากริมเรียวปากจากริมเรียวใจ
ลอยคว้างไปทายทักประทับอ้อยอิ่งนิ่งนาน
กับผืนน้ำทะเลใสสวยสีมรกต
กับเกลียวคลื่นที่กำลังซัดระรินระลอกฝั่ง
กับหมู่นกนางนวลสีขาว
ที่กำลังเหินหาวคอยเวลาโฉบเหยื่อ
กับงามระเรื่อของแสงทองสาดส่องกระทบผืนน้ำงามระยิบตา
กับกลีบม่วงละมุนอ่อนหวานจับใจ
ของดวงดอกผักบุ้งทะเลที่เคลียทราย
ราวร่ายมนต์เสน่หา
ให้ดวงใจหวันได้สัมผัสทุกกรุ่นกลิ่นละมุนรัก
ให้ดวงตาหวานเศร้าได้วาววะวับด้วยตื้นตัน
ในหอมงามซ่านสุขสงบทุกอณูคะนึง
ให้พบชึ้งตรึงใจที่เพ้อพ้อรอท่ามานานปี..มานานวัน..
ให้เท้าหวันได้สัมผัสผืนทราย
ได้กรายร่างย่างเหยียบ
ในผืนดินที่ก่อเกิดกาย
ราวได้กลับกลายกำลังหลอมละลาย
เป็นหนึ่งเดียวกับจิตวิญญาณภายใน
เสียงฝีเท้า..ใครบางคนย่ำทรายมาทางเบื้องหลัง
และก่อนที่หวันจะหันร่างกลับไปดู
*เขา*คนนั้น..ก็เดินมาทันพอดี
.
และนาทีที่ตาต่อตาสบกัน
โลกก็พลันราวหยุดหมุน....
ผู้ชายนัยน์ตาฝันฝัน..ช่างฝันยืนอยู่ตรงหน้า
นาที่ต่อมา...
ที่เขาเปิดยิ้มกว้างและร้องอุทานอย่างดีอกดีใจ
ลืมตัวเข้ามาประคองตระกองกอดหวัน อย่างหลงลืมตัว
ที่ยังงันงงราวหลงฝัน..ใช่จริง
*มาได้ไงนี่*
โอไม่น่าเชื่อเลยนะ..
*เขา*กล่าวคำด้วยรอยยิ้มเขิน
ก่อนที่จะค่อยๆปล่อยหวันออกจากอ้อมกอดรัดรึง
*เขา*ยังแย้มยิ้มตรึงใจ
และยังคงตื่นเต้นดีใจพอกับหวัน
ที่พลันนะนาทีนั้น
หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ..เอาเสียเลย
เพราะ
ระหว่างเราสอง..นั้นความสัมพันธ์นานเนิ่นในวัยเยาว์
ราวหวนกลับ..
กับคืนวันที่ชีวิตชีวา
ได้ถูก..คลื่นแห่งความฝัน
สะบัดพัดโบกให้ลอยพรากจากกันไปไกลแสนไกล
ในละซีกโลกคนละทิศ
จำจากสถิตวิมานบ้านแห่ง *มนต์รักทะเลใต้*
*เขา*คนดี..ไปไกลถึงสวิตเซอร์แลนด์
แดนดินทะเลสาบงาม
และเทือกเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ
ที่แสนหนาวเยือกแทบตลอดปี
ที่ตรงข้ามกับบ้านเรานี้ราวฟ้าดิน
ที่ยังงามแรงร้อนด้วยดวงดอกไม้ฟายฟ้อน
อ้อนฟ้าสดใสสว่างแทบตลอดปี
ที่มีสายลมและเสียงคลื่นฝันรัญจวนใจ
ราวประหนึ่งดนตรีทิพย์จากสวรรค์สรวงสรวงสวรรค์
เรา....
หยุดนั่งเหนือเนินทราย
คุยกันราวกับมิจบสิ้น..ในหลากเรื่องมากราว
ถึงจิตวิญญาณรานร้าวราวนกขมิ้นไร้รัง
เศร้าดายเดียวลำพัง
ในโลกว้างทางไกลที่พานพบ
ยามเร่ร่อนรอนแรมลาพรากจากบ้านเกิดเมืองนอน
น้ำตาลูกผู้ชาย..ซึมซึ้งตลอดเวลาและ
ราวกับว่าจะรอเวลาร่วงริน
เมื่อกล่าวถึงสายถวิลในอดีตหนหลัง
ที่ยังพร่างสายสวยงาม
ฝากฝันฝากใจฝากรอยทรงจำ
*ผมเบื่อ โลกศิวิไลซ์ แล้ว
ผมเดินทางไกลจนปีกแห่งดวงใจปีกแห่งความฝัน
เริ่มอ่อนล้า....
หลงรอเก้อเพ้อละเมอหาแต่ฝั่งฝัน..
ที่จะคืนหลังฝังฝากใจไปชั่วนิรันดร์..แห่งชีวาชีวิต
และผมพบว่าแท้จริงแล้ว..
ใจดวงเหว่ว้า
ก็ราวถูกชะตาลิขิต
ไห้โหยหา..เพรียกหา..แต่ที่นี่
*แผ่นดินแห่งรักเรา*
มิมีวันเลือนลา
ผมถึงกลับมา ราวนกปีกหักรักร้าว
ยอมมาพบดายเดียวอีกครานะคนดี*
มามะ ผมจะพาไปดูอะไร*
เขาลากมือหวันราวเด็กน้อย
ที่อยากอวดของเล่นชิ้นงาม
นำทางลิ่ว
เดินผ่านหาดทรายขาวยาวเหยียด
เลาะลัดเลียบขึ้นเนินผาที่มีบันไดหินทอดรับ
สองข้างทางไล่ระดับ
ด้วยแมกไม้ไทยพันธุ์ท้องถิ่นที่หาง่ายเช่น
ขิงแดง บานบุรี สีเหลืองสวย
กอกล้วยที่บังแดดได้
โมกหอมกรุ่นพุ่มงาม
ชัยพฤกษ์ เหลืองละออพ้อสายลมไหว
ดวงดอกแก้ว หวานเศร้า
ลีลาวดีบานพราวหลากสี
มีจำปีจำปาพุ่มงาม
ตามด้วยมะลิซ้อนมะลิลาและนานาพรรณไม้
ที่ราวป่าดงพงไพรพฤกษ์
และ
เหนือเนินผา...
ในเรียวตาหวันที่ทำให้ใจนิ่งงันอั้นอึ้งคือ
เรือนไทยภาคกลางหลังงามไม้สักทองทั้งหลัง
หลังคามุงด้วยกระเบื้องว่าว
และดัดแปลงให้รายรอบเป็นกระจก
สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกได้อย่างกว้างไกล
ไปจนราวสุดขอบฟ้าทะเลฝันทะเลกว้าง
ไร้ร้างสิ่งกีดขวางสายตาสายใจ
ยอดจั่วประดับด้วยไม้
สลักลวดลายคล้ายแบบ*ไหลสู่ฟ้า*พลิ้วงาม
อย่างเรือนกาแลล้านนา
และตกแต่งด้วยฝาปะกนเปิดใต้ถุนโล่ง
มีชานฝันยื่นออกมานอนนับดาวเดือนเป็นเพื่อนใจ
เคียงทะเลใจทะเลกว้างยามร้างไร้ใคร
ให้สงบงามดายเดียวเดียวดาย
มีศาลาริมผาไว้นั่งผ่อนพักใจ
ในวันที่อากาศสดใสแสนดี..
และ
หวัน..พลีใจ..
ประทับใจจนมิอาจกล่าวชมได้
*เขา*จับมือหวันกุมไว้
ด้วยแรงรักแรงรอแนบแน่นผ่านกาลเวลา
ที่*เขา*สารภาพว่า
นี่คือ เรือนใจเรือนในฝัน
ที่หวันเคยวาดฝันไว้ไง
นะบัดนี้..
เขาได้สร้าง
ด้วยดวงใจด้วยจิตวิญญาณภักดิ์พลีไว้รอแล้ว
*เขา*ขอเพียงคำมั่น..
อย่าหนีหายเขาไปอีกนะ
เพราะเวลาช่างแสนสั้นสุดทนแล้ว...
หวัน..กล่าวอะไรไม่ออก..
บอกไม่ถูกกับทุกสิ่งเงียบงามงดงาม
ที่ราวฝันไป..ในวันนี้...
ที่ราวมีดวงดอกไม้พร้อมพลีบาน
แย้มแต้มหวานในดวงใจมาตลอดชั่วชีวาชีวิต
และมาสถิตสว่างกลางใจเป็นนิรันดร์รัก..
.
*เขา*นัดหวันอีกครายามสนธยาย่ำ
ที่ท้องฟ้าหวานฉ่ำสวยราวรู้เห็นเป็นใจ
พายเรือบดสีขาว
ให้หวันนั่งงามเศร้าราวแม่ย่านาง
ไปกลางทะเลกว้าง..ดูพระอาทิตย์ดวงอ้างว้าง
ที่กำลังร่ำลาอ้อยอิ่งทิ้งแสงสวย
ฝากพรายแสงงามให้ผืนน้ำทะเล
อย่างอ้อยอิ่งพิไรร่ำ
ที่นะบัดนั้น
พลันเปลี่ยนสีราวทองทาทาบ
อาบประกายราวเกร็ดเพชรพร่างพรายไปทั่วทั้งท้องน้ำ
หวัน..
ค่อยๆถอดเสื้อคลุมออก
เผยให้เห็นบิกินี่สีฟ้าสดกระจ่าง
ขับผิวนวลเนียนหนั่นแน่นเนินอกรำไรรำไร
ละเมียดละมุนละไมละเอียดละออ
ราวนางใจนางในฝันนางพรายทะเล
ที่น่าเสน่หาวาบหวามหวาน
*หวัน*กระซิบ
ขอลงลอยคอในท่ามกลางทะเลทองทะเลทิพย์
ที่งามพร่างราวมีเกล็ดเพชรหว่านระยิบระยับ
พร้อมดำผุดดำว่ายราวเงือกสาว
ทั่วทั้งร่างเกิดประกายพราวพรายน้ำวะวับวาว
แตกพรายในยามสนธยาราตรี
ราวมีแพลงตอนหิ่งห้อยนับร้อยพัน
พร้อยพราวเคล้าคลึงร่างงาม
*หวัน*
ทิ้งตัวเบาสบายนอนหงายหลับตานิ่งทิ้งใจฝันฝันดำดื่ม
ไปกับพลังใจพลังจันทร์
ที่กำลังปรายโปรยหยาดสายหวานราวน้ำผึ้งพระจันทร์
รายรอบร่างงาม
โลกรายรอบสงบงัน
ใจหวันนิ่งตาม
ราวอยู่ปลายโลกร้าง ลำพัง...
*เขา.*.
มองภาพฝันนางในใจในฝันนางกลางใจด้วยปิติ
แหงนเงยซ่อนหยาดน้ำตาลูกผู้ชาย
ที่กำลังพรายพร่างราวสายฝน
มองดาวประจำเมืองเรืองรุ่งประดับใจ
ดาวแห่งสัญญาใจสัญญารัก
ที่ราวกระพริบพราวราวโปรยพร
ให้กับสองดวงใจอย่างอ่อนไหวอ่อนหวานอ่อนโยน
ที่แสนหนักแน่นมั่นคงชื่อตรงในรัก
ที่มิมีวันลาลืมเลือน
มิมีวันเหมือนกับแสงตะวัน..ที่กำลังร่ำลาทะเล..!
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=6020
MY HEART WILL GO ON
Every night in my dreams
I see you, I feel you
That is how
I know you go on
Far across the distance
and spaces between us
You have come to show you go on
Near, far, wherever you are,
I believe
that the heart does go on
Once more,
you open the door
And youre here in my heart,
And my heart will go on and on
Love can touch us one time
and last for a lifetime,
And never let go till
were gone
Love was when I loved you,
one true time I hold to
In my life well always go on
Near, far, wherever you are,
I believe
that the heart does go on
Once more,
you open the door
And youre here in my heart,
And my heart will go on and on
Youre here,
theres nothing I fear,
And I know that my heart will
go on
Well stay forever this way,
You are safe in my heart and
my heart will go on and on...
25 เมษายน 2547 12:10 น.
พุด
URL..http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=19
(อาลัยรัก)
***************
แปลกดีไหมใจดวงแผกเห็นแตกต่าง
เห็นงามว่างงามยากไร้คล้ายดอกฝัน
ยิ่งไม่มียิ่งเห็นงามเกินรำพัน
งามดอกฝันดับดอกใฝ่ใจยิ่งงาม...
ในทุกข์ยากฝากดวงใจไหวประทับ
ยิ่งจนจับยิ่งตราตรึงซึ้งวาบหวาม
ยิ่งสิ้นไร้ยิ่งไม่ได้ยิ่งงอกงาม
ยิ่งทุกยามพบทุกข์ทนยิ่งข้นใจ...
ยิ่งลำบากยิ่งเคี่ยวใจไหวทนสู้
ยิ่งให้รู้ทันเท่าใช่ร้าวไหว
ยิ่งจนยากยิ่งอดทนยิ่งเข้าใจ
ยิ่งไร้ใครยิ่งไร้ฝันสวรรค์วาง..
ยิ่งไร้รักยิ่งสงบสยบร้อน
ดับไฟฟอนช่อเชื้อเหลือกระจ่าง
ดอกดวงใจไม่ไหวพ้อรอสายกลาง
พบเส้นทางพบร่มธรรมกางกั้นใจ..
ยิ่งเงียบงันยิ่งงามงอกแตกดอกฝัน
ยิ่งงามขวัญยิ่งงามใจกระจ่างใส
ยิ่งไม่มีเธอคนดีเคียงข้างใจ
ไม่แบกใครแบกรักหนักทุกข์ทน
ยิ่งหันหลังลาพรากอยากให้พ้อ
ยิ่งละออยิ่งละมุนเลิกสับสน
ยิ่งเห็นเธอแบกรักใหม่หนักทุกข์ทน
บัวกมลยิ่งบานพราวราวพ้นน้ำ.....
*********
ไพล..ไปดูหนัง*เรื่องคำพิพากษามาค่ะ*และ
สะอื้นไหวร้องไห้เงียบๆตลอดเวลาแทบตลอดเรื่อง
ที่มากฉากรักประทับ..สะเทือนใจ..
อย่างมิอายใครมิอายฟ้าดิน
เพราะ
ไพลเห็น..งามในทุกสรรพสิ่ง
ที่เป็นธรรมชาติไพรธรรมดาใจ
ในทุก..ทุกข์ธรรมดาชีวิต
เห็นงามใน..
กระท่อมน้อยของ*ฟัก*พักพิงใจ
ริมบึงบัวไสว
ยามสายฝนพรำปรายโปรย
ยามฟักค่อยๆจุดตะเกียงน้อยน้อย
ริบริบหรี่คลี่แสงระริกไหว
จับนวลเนื้อนาง..หนั่นแน่น นวล นวล
ยามฟักสะเทือนใจ
หอบกล่องกระดาษใส่อัฐิพ่อ
หน้าตามอมแมมเปรอะเปื้อนดำ
ยามฟักร้องครวญครางครวญคร่ำราวสัตว์บาดเจ็บ
เมื่อถูกเขี้ยวเล็บแห่งคำพิพากษาตัดสิน
และ
ไม่มีผู้ใด มางานเผาศพพ่อ
ที่ฟักแสนรักแสนบูชาและเข้าใจ
แม้นแต่สักเพียงผู้เดียว
ภาพนางแบกร่างรักไร้ลมหายใจของฟัก
ราวอาลัยนกปีกหักอาลัยรักอย่างสุดน่าสงสาร
สะเทือนไหวสะเทือนใจ
ภาพทุกภาพในวิถีการใช้ชีวีเรียบง่าย
ภายในกระท่อมน้อย
ที่เต็มไปด้วยรอยจนยากหากมิแล้งไร้ซึ่งน้ำใจ
ที่
สำหรับดวงใจไพลคิดว่า...
งามกระจ่างใจกว่าคฤหาสน์ใหญ่
ที่เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูดูแสนแพง..
แต่แล้งสิ้นไร้น้ำใจเสียอีกนะคะ
ไพล..เคยอ่านบทประพันธ์เรื่องนี้นานมา
และตราไว้ในดวงใจในกมลละมัย
ได้นำมาเตือนตนสอนใจเป็นบทเรียนใจมาตลอดเวลา
และจำได้ว่า
ในหลายเรื่องรักรจนา
ที่เคยขอฝากกระซิบรัก..
ย้ำปรารถนาดี อย่างจริงใจจริงจัง
ด้วยน้ำใจใสเย็นนี้
ถึงทุกดวงใจ
ที่แสนรักเอยแสนรักในกมลละมัยนี้
ให้..อย่าได้พิพากษาใจพิพากษาใครตัดสินใคร
หากไม่รู้ใจรู้จักเขาดีพอ
อย่าเชื่อสิ่งใดตามคำใครคำคน
จาก*ปากต่อปาก*จากคำที่เขาเล่ามา*
จาก*คำเขาว่า* ว่า....ว่า..และว่า...
เพราะ
ก้นบึ้งดวงใจทุกดวงใจทุกใครทุกคน
เป็นมหัศจรรย์รักมหัศจรรย์ใจ..
ที่ยากยิ่งนักในบางใครในบางคนในบางครา
ที่ยากจะหยั่งถึง...
และ
บางหนบางทีก็
ไม่มีใครสามารถสัมผัส..*งามดวงใจใครเล่ารู้นี้*
ได้อย่าง ที่ปรารถนา..ได้อย่างที่คิด..
ได้อย่างที่อยากจะตามติด..ตามต่อ
จ่อกุญแจใจไขประตูรักเข้าไปให้ได้
ด้วยเหตุว่า..เขา...หรือ...เธอ.
อาจตอกสลักลั่นดาลรัก
มิอยากเอ่ยมิอยากเผย
มิอยาก*เปิดบ้านภายใน..ใจดวงงาม
*นิยามรักนิยามจริงนิยามใจ..*
ให้ใครมารับรู้รับทราบ
มิจำต้องอยากป่าวประกาศ
ความดีความงาม
ความวาบหวามละออละอ่อนอ่อนหวานอ่อนไหว
ในใจดวงใสดวงสวยดวงงาม
เพียง
*ใจ..เดิมพันใจ....ใจรู้ใจ ..ใจเพียงใจ..ใจพอใจ..
แค่ใคร..แค่คนเดียว..มาเกี่ยวเก็บรักไว้..กลางใจ
ก็เกินพอ..ก็งามพอ..ก็งามใจ..ก็งามจริง..แล้วค่ะ
และ
อาจเพราะ..
เบื่อความสับสนมากกมลมากความมากรายกล้ำ
ทำความวุ่นวายวกวนเวียนวน
ไร้วางว่างกลางดวงใจ...ใสสวย..
และ
คงด้วยประการละฉะนั้นจึงเป็นฉะนี้..
ที่บางที
ราวชีวาชีวิตไพล
จึงขอแค่เปิดใจ
หวังสร้างงานงามใจงามไพร
ดับเร่าร้อนด้วยอักษราภาษารัก
ดับไฟฟอนแห่งอคติ
ที่มนุษย์มากมีมากมาย
ชอบใช้ปากกานำมาทิ่มแทงประหัตประหารกัน
ไพลจึง..
เพียรพยายามเพิ่ม..เติมใจดวงเดิมดวงดี
ฝึกจิตรู้ใจให้ไหวทัน
และยิ่งเพิ่มงามขวัญงามใจให้ยิ่งรักงามเงียบ
และ
จากดวงใจแสนรัก
จากดวงใจแสนจริง
ไพล..จึงหวังจักแค่
อยากให้ทุกดวงใจ
สร้าง..บ้านภายใน..กมลละมัยแห่งใจตน..
สร้างกุศลให้รู้รักตัวเอง เคารพตัวเอง เชื่อมั่นตัวเอง
มิเกรงคำคนคำใคร
มิพิพากษา
มิหาเรื่องสาดโคลนสาดใครสาดใจ
ให้รานแยกแหลกยับ
กับความไม่รู้ใจรู้จริง..กันและกัน นะคะ
ไพลจึงหวังและหวัง
ให้ทุกดวงใจแห่งรัก
มีภักดิ์พลีสร้างเชื่อมั่น ฝันดี
ว่า..
เราทุกผู้มนุษย์มากมายมากมีในโลกนี้
ทั้งเขาและเราแสนโชคดีเป็นยิ่งนักแล้ว
ที่ยังมีดวงตาดวงใจ
มีอวัยวะครบถ้วนสามสิบสอง
มีสมองสองมือ..ที่งามพร่างงามพราว
ราวฟ้าดิน..สวรรค์หวาน..ประทานพรให้มา
ให้รู้รักรจนารู้ระบายได้คลายใจ
ได้พักพิงใจ..เอนอิงไหล่..
เกาะเกี่ยวใจ..เก็บฝันตามตะวันไปด้วยกัน
ได้สรรสร้างฝันแสนดีแสนงาม
ฝากไว้ ในโลกงาม โลกหล้า
จนกว่าผืนพสุธาจะกลบหน้า
ตราบชั่วฟ้าดิน
ให้มีถวิลรักถวิลรอถวิล..ให้..มิรู้สิ้น
ในน้ำใจในเยื่อใยรักซึ่งกันและกัน
ฉันท์น้องพี่ ดีเสียยิ่งกว่าดี ดีเสียยิ่งกว่าใคร..
.
ดวงใจ....
จงเชื่อมั่นในตัวตน
แต่ละคนแต่ละดี
ที่พระเจ้าจะให้งามแผกแตกต่าง
อย่างพิเศษพิสุทธิ์บริสุทธิ์ยุติธรรม
ต่างกันไปคนละรูปแบบ
อย่ามัวมอง จ้องหาเรื่อง
ไม่ประเทืองประทับใจของผู้อื่น
และหยิบยื่นดาบจ้วงแทงทำร้าย
และบางทีด้วยปลายปากกาที่รู้เท่ามิถึงการณ์..
จงให้อภัยมีเมตตา
ยื่นมือมาฉุด..ผู้ทุกข์ทน
ให้พ้นทุกข์ที่พลาดผิดถลำ จะดีเสียกว่า
และหยิบยื่นน้ำใจรัก มากเมตตา
รินรดน้ำใจฝันให้โอกาสเขาแก้ตัว..
เพราะ...
โลกแห่งชีวาชีวิตช่างแสนสั้นเป็นยิ่งนักนะคะ
และ
ไม่มีรักไหนไม่แปรพรากจากลา..
ไม่มีใครกำชะตาใครได้แม้แต่ตัวตนของเราเอง
จงคิดถึงความตาย
และการพรายพลัดพรากจากเจ็บ
ที่เป็นธรรมดาโลกธรรมดาโศกธรรมดาใจ..
ที่จะไม่มีใครหนีพ้น..
และ...
รักคือการให้..
คือการวาง..คือการฝากความหวานจำ..ในทรงจำ
ก็น่าจะพอเพียงเพียงพอ
จงอย่าได้ท้อแท้แพ้พ่ายใจ
หากใครไม่รักเรา
ไม่รู้จักรู้ใจเราดีพอนะดวงใจ..นะคนดี
จงสร้างพลังปลอบประโลมใจ
ดวงร้าว ดวงเศร้า ดวงดายเดียว เดียวดาย
ดวงระกำดวงช้ำตรม ให้แก่กันและกัน
เพื่อมอบฝันพลี
เกื้องามฝันงามใจทั้งในโลกฝันในโลกจริงนะคะ
และสวรรค์..สวรรค์
สวรรค์ไพล สวรรค์ใจ
สวรรค์ไพร ของทุกดวงใจ
เพียงขอแค่เห็นงามง่ายงามนิ่งงามว่าง
การใช้ชีวิตและร่างอย่างติดดินธรรมดาๆ
อิงธรรมชาติ
มิจำต้องพิลาสพิไล
ไม่ต้องหรูแฟ่ประดับเปลือกนอก
หลอกใจด้วยวัตถุมากมีมากมาย
ขอเพียง..
แค่..ทุกดวงใจแสนรัก
ได้พักพิงในวิมานไพรวิมานดิน
รู้รักรู้ค่ารู้จักรู้จัด..
ให้ผู้อันเป็นที่รักได้อบอุ่น
ในอ้อมโอบแห่งงามนิยาม*วิมานใจ...บ้านของเรา*
ให้นิทราหลับฝันดี แสนสุขใจ เสียไม่มี..
และ
ใจเราจะงามพร่างสว่างสะอาดสงบไม่รกเรื้อ
ได้พบงามในทุกโมงยามแห่งชีวาชีวิต
คนดี...
เราทุกคนมีเพื่อนไพล เพื่อนใจ เพื่อนไพร
ทั้งในโลกจริงโลกฝันสวรรค์สวาท
ก็สามารถสร้างปรารถนาได้
สามารถสร้างหวานหวังพลังรัก
หยิบยื่นให้แก่กันและกันได้
และ...
เราโชคดีนัก
ที่ได้เกิดมาในร่มรัก ผืนดินอุดม
ในร่มธรรมพระพุทธศาสนา
ที่สอนสัจจะจริงแท้แก่นแท้แน่นอนแห่งชีวิต
ให้จิตวิญญาณถึงพร้อมงามพร้อม..
ให้ถนอมนวลเนื้อใจ
ให้ไสวละมุนพร่าง
ราวมีดวงแก้วกระจ่างใสแสนวิเศษพิเศษพิสุทธิ์
ตามรอยเบื้องพระยุคลบาทพระผู้มากล้นบริสุทธิคุณ..
และ...
เรายังมีร่มฉัตรเหนือเกล้าเหนือกระหม่อม
เป็นดั่งจอมขวัญจอมใจไทยทั้งชาติ
พระมหากษัตริย์ไทย ธ..ผู้ทรงงามใจงามจริยวัตรทรงธรรมนำทาง
เป็นยอดเยี่ยงอย่าง เป็นแบบฉบับอันงามวิจิตรใจ
ให้ดวงใจไทยทุกดวงงามใส
รู้รักสามัคคี มีสุขสงบพบสมถะสันโดษ
รู้พอเพียงเพียงพอขอแค่ใจสุขเงียบงาม
มิหวั่นไหวหลงตามโลกอารยะไกล
ที่นะบัดนี้นั้น
กรุ่นไปด้วยสงครามและควันปืน..เร่าร้อน..
ไร้เยือกเย็นมิเห็นงามแล้ว
และ...
สำหรับเราทุกดวงใจในโลกฝันสวรรค์หวาน
ที่แสนโชคดีนักที่ได้มาพานพบเพื่อนพ้องน้องพี่
นะที่นี่
นะร่มรักเรือนไทย..เรือนใจ..เรือนในฝันในใจ
อันแสนวิเศษเสียไม่มี
เรามีปีกฟ้าโอบรายรอบครอบคลุม
ให้อ้อมอุ่นอ้อมอกอ้อมใจเอื้อไออุ่น
ให้แบ่งฝันปันรัก
ถักถ้อยร้อยดวงบุปผาสุมาลีสุมาลัย
มีฟากฟ้า แสนกว้างใหญ่
ให้ดวงใจรักรจนาได้สลัดเลือดรักผ่านปลายปากกา
จากสมองสองมือไขว่คว้า.คว้าไขว่จากพรสวรรค์พรแสวง
ดั่งสลัดฝีแปรงฝากภาพงาม
ดั่งสลัดเพชรพรายร่ายรักอักษรา
ฝากภาษาใจจากจิตวิญญาณภายใน
แต่งแต้มประดับฟากฟ้าไสว
เสมือนดั่งดาวเดือนพร่างพราวเต็มราวฟ้า
และ...
จากทุกหยาดเลือดรัก หยดน้ำตา
บทเรียนมากค่ามากคำมากความ
จากจิตวิญญาณรักนักฝัน
ให้ราวจับสวรรค์หวานสวรรรค์วาง
ให้พบเส้นทางฝันเส้นทางใจ
ให้พบงามใจงามใสงามเย็น
ฝากเป็นพลีบรรณาการแด่โลกบรรณพิภพ
จบหล้าโลกลบโศกราน
จนกว่า...
ผืนดินจะกลบหน้าแด่พสุธาที่ข้ารัก
ให้จักเป็นนิรันดร์รักนิรันดร์ใจนิรันดร์จริง
เป็นยอดยิ่งแห่งความภาคภูมิใจ
ครั้งหนึ่งในชีวาชีวิต
และ...
จักสถิตเป็นนิรันดร์รักอีกนิยามหนึ่งพึงตราไว้
ให้กับชีวิตนี้ที่แสนสั้นเป็นยิ่งนักแล้ว..
นะยอดขวัญยอดดวงใจ
*****************
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=19
อาลัยรัก
ชรินทร์ นันทนาคร : : Key Ab
ฉัน รักเธอ รักเธอ ด้วยความไหวหวั่น
ว่า สัก วัน ฉัน คง ถูกทอดทิ้ง
มินานเท่าไร แล้วเธอก็ไป
จากฉันจริงจริง
เธอ ทอด ทิ้ง ให้อาลัย อยู่กับความรัก
แม้ มีปีก โผบิน ได้เหมือนนก
อก จะต้อง ธ-นู เจ็บปวดนัก
ฉันจะบิน มา ตาย ตรงหน้าตัก
ให้ยอดรัก เช็ด เลือด และ น้ำตา
แม้ มี ปีก โผบิน ได้เหมือนนก
อก จะ ต้อง ธ-นู เจ็บปวดนัก
ฉันจะบิน มาตาย ตรงหน้าตัก
ให้ยอดรัก เช็ดเลือด และน้ำตา...
24 เมษายน 2547 07:59 น.
พุด
URL http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=480
(คำมั่นสัญญา)
*************
ราตรีนี้ เป็นดั่งราตรีขวัญนิรันดร์รัก..
มหัศจรรย์รักมหัศจรรย์ใจมหัศจรรย์ในจิตวิญญาณ
ที่ใจดวง รอคอยมาแสนนานราวชั่วกาลกัป์ปกัลป์..
ดวง..แหงนเงยทายทักฟากฟ้างามเฉกเช่นทุกคืนค่ำ
แต่น่าอัศจรรย์ใจ!.เป็นยิ่งนัก
ที่ดวงกลับแลเห็นจันทร์เสี้ยวกระจ่าง..
เคียงข้างด้วยหนึ่งเดียวดาริกาสุกใส
ในท่ามกลางรัศมีจันทร์ประกายทองผ่องผุดพิลาสพิไลห้อมล้อม
ส่องประกายหวานหยาด
ขับฟากฟ้านภากาศสว่างพราวเพริศแพร้ว
ราวดวงแก้ววิเศษ..พิเศษพิสุทธิ์ลอยพร่าง
มาสถิตสว่างกระจ่างใจนำทางใจไปชั่วนิจนิรันดร
นะบัดนี้..และ
กำลังกลายเป็นนาทีแสนตราตรึงยิ่งใหญ่ในใจดวงนวลดวงละมุน
ในค่ำคืนฤดูร้อน
ที่ทุกสิ่งนิ่งงันแต่เงียบงามสงบสุข
ราวฟ้าดินรู้เห็นเป็นใจลิขิตชะตา
และราวพระผู้มากเมตตาได้เปิดดวงตาสวรรค์
เนรมิตรฝันให้เป็นจริง..เป็นใจ
สรรส่งของขวัญ..
เกินคำ *ล้ำเลอค่า*
มากำนัลแด่ใจดวงร้าว
ให้เลิกดายเดียว..ได้อิ่มเต็มในจิตวิญญาณเสียที
ที่หลงรอหลงฝันมาเกือบชั่วชีวาชีวิต
ให้มาสถิตปลอบประโลมใจ
สร้างพลังใจพลังไฟฝัน..เป็นนิรันดร์รัก..
นาที..ที่ดวงได้รับถุงของขวัญสีแดง ด้วยแรงแห่งปิติใจ
น้ำตาดวงพร่างไหล มิขาดสาย มือไม้ระริกรับ
ค่อยๆจับค่อยๆเปิดอย่างทะนุถนอม
และกลายกลับตามมาด้วยเสียงสะอื้นๆๆ
เมื่อเห็นลายมือของผู้อันเป็นที่รัก
รจนาภาษาธรรมดาๆ
หากทว่า...
มันทรงค่างามในนิยามใจนิยามจิตเสียไม่มี
ที่ดวงนี้ก็ยากจะเข้าใจ..
ว่าทำไมครั้งแรกที่เห็น
หัวใจดวงจึงเต้นไม่เป็นส่ำ..ถึงร่ำไห้เมื่ออ่านๆไป
ทำไมจึงเป็นงามยิ่งใหญ่ในรู้สึกลึกล้ำล้ำลึก
ที่นับวันนับคืนรอมานานแสนนาน
ดวง..ได้รับผ้าคลุมไหล่
สีน้ำตาลอมทองหวานผ่องผุด พิลาสพิไล
ที่ดวงค่อยๆคลี่คลุมไหล่
ราวคลี่คลุมใจและร่างร้าวอย่างช้าๆ
ให้สมค่าสมรักรอมานานปานประหนึ่งชั่วกาลทีเดียว..
และ
ทุกราตรีนับเนื่องจากราตรีนี้ไป
ผ้าหอมละมุนใจจะเคลียร่างคลอใจมิเว้นว่าง
ให้อกอุ่นละมุนทรวงคู่กายใจดวง ตลอดไปมิมีวันพรากลา
แทนหอมห่มเหว่ว้ามายาวนานนัก..และ
แม้นยามไปวัดสร้างกุศลผลบุญ
ดวงคงใช้ห่มราวสไบแพร..สไบภักดิ์
แล้ว..
ยังมี*กำไลขวัญ นิรันดร์รัก *
แนบมาเคียงกันในกล่องฝันกล่องใจสีแดง
ที่แฝงงามมาด้วยดวงดอกกุหลาบลายทอง
ที่ดวงอยากร้องพ้อขอให้แทนใจแทนภักดิ์
ประกาศก้องถึงรักแท้พิเศษพิสุทธิ์นี้
และ
ทันทีที่เห็น..ดวงจับจูบจับจูบนิ่งงันด้วยน้ำตาและน้ำตา
ที่ยังคงพร่างรินไม่ขาดสาย...
ดั่งสายธารหวานหอมมาหลอมละลายใจในบัดดล
และ
คนดี...
ดวงทำพิธีอธิษฐานใจ อธิษฐานจินต์ด้วยจิตวิญญาณรัก
ดวงวางกำไลแสนรักใส่พานทองใบเล็ก
ให้หอมล้อมรอบด้วยดวงดอกไม้รายรอบบ้าน
ที่กำลังระรินหวานผลิบานคลี่แย้มราวรอรับขวัญ
มีเข็มขาว..
ที่ยังพราวหยาดน้ำค้าง
แทนหอมงามดวงใจใครเล่ารู้นี้
ทั้งสองดวงชีวาชีวีของสองเรา
อย่างผู้เพียรรู้ค่าชีวิตเพียรลิขิตชะตา
น้อมนำมาบันดาลคำบันดาลใจ
แทนสมองที่สวยใสสะอาดสว่างสงบ
รอพบว่างทางแห่งงามยิ่งกว่าและยิ่งกว่า..
และ
ให้รักร้อยถ้อยอักษรา
ฝากภาษางามมากนิยามใจนิยามจิต..
อย่างเฉียบคม
แม้นจะฝากระทมแทนบทเรียนเพียรสอนใจฝากจำ
เล็บมือนาง..
แทนบางอย่างบางสิ่งจากเนื้อดินเดียวกัน
ที่เราพันผูกมากันมาชาติปางก่อน
หวังเกาะเกี่ยวกระหวัดรัดร้อยใจ
ยามไกลห่างอย่าร้างครวญ..อย่าร้างลา.
.
ดวงดอกพุด..ซ้อน..
ที่เพิ่งอวดช่ออรชรละอออ่อน
มิพักช่อนใจซ่อนรัก
แทนคำจงรัก
แทนคำว่าพุด..พิสุทธิค่า..เกินกว่าใครคำนึงรู้
ชวนชม..
หวังมิตรมตรอมตาม
ได้งามได้ชมชื่นก็ชื่นก็ฉ่ำใจแล้วถึงไหนไหนในยามนี้
ลีลาวดี..
ดอกไม้ที่หลากสีงามเศร้า
หากซ่อนเสน่หาอวลมาทุกอณูนึกให้นึกรักนึกสงสาร
ราวอยากปกป้องปองขวัญ
ให้สวรรค์หวาน
ชั่วกาลนิรันดร์เลิกฝันระทมดายเดียวเหว่ว้า..
และมะลิลามะลิซ้อน
แทนคำออดอ้อน
แทนอ้อมแขนอ้อมใจหวังมิพรากลาไกลในคะนึง
แม้นมิถึงฝันคว้าไขว่
ก็จะเป็นไรไปนะ..หลับตาฝันฝันเอา..ก็ได้จะเป็นไรมี
ดวงใจ..
ดวง..น้อมนำพานทอง
ที่ล้อม*กำไลรักกำไลขวัญนิรันดร์รัก*ด้วยดวงดอกไม้
ทั้งสิ้นทั้งหมดที่กล่าวรจจนามานี้ด้วยใจดวงดีดวงหอมงาม
วางลงตรงเบื้องหน้าพระพักตร์พระพุทธผู้พิสุทธิคุณ
ที่ดวงรู้ว่าการุณย์
และประทานพรด้วยเมตตาดวงด้วยห่วงใย..
ดวงก้มลงกราบพร้อมคำมั่นสัญญา
ลูกสัญญาจักดำรงร่างอย่างงามพร้อมหอมงาม
อย่างเหนือโลก
แม้นจะยังพบโศกสุขเฉกเช่นปุถุชนคนเดินดินธรรมดาๆ
ที่ยังเวียนว่ายหนีไม่พ้นเพรงกรรม..
ที่ตามติดมาแต่หนหลังแต่ชาติปางก่อน
ลูกก็จะเพียรรำงับ
รู้ดับรู้ทันเท่า..ด้วยธรรมะ ธรรมชาติ
ลูกจะยอมพลีฝันพลีร่างสร้างหอมงามด้วยคุณธรรม
เพียรสร้างงามให้น้ำใจรักกับทุกผู้
ผู้รายล้อมด้วยหอมห้วงแห่งดวงใจนี้
ที่มิเคยคิดมีพิษภัย
ต่อเพื่อนมนุษย์ผู้ใด
ผู้ที่ไซร้..ก็ร่วมเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
และลูกขออธิษฐานใจ
ไม่ใช้วาจา ปากกาทิ่มแทงจาบจ้วงใคร ในโลกบรรณพิภพ
มาตรแม้นลูกยังไม่รู้จักรู้ใจ ไม่พิพากษาใคร
เพียงให้น้ำใจอภัยเมตตา..
และ
หวังเพียรสร้างค่างานงาม
เคียงหวานเคียงใจดั่งหยาดลำธารใสระริน
ชื่นฉ่ำร่ำเย็น..ดับโลกเร่าร้อนด้วยฟอนไฟ
ที่โหมกระหน่ำมาทุกทิศทาง
ลูกจะเพียรพยายามวางอุเบกขา
และมองเข้ามาภายในตัวตน
สร้างงามใจบ้านภายในให้เงียบงามแสนสงบสุข..
ลูกวอนขอ
เพียงแค่มีจิตวิญญาณดวงดีดวงไพรดวงแจ่มใสสวยงาม
ได้ฝากนิยามรักธรรมชาติธรรมะธรรมดาๆ
แด่ทุกดวงใจที่สวยใสงามพอกัน
ที่ยังมีฝันมีหวังหวานรอ
และ
คนดี..
ด้วยน้ำตาแห่งปิติปลาบปลื้มภูมิใจ
จากดวงใจผู้หญิงบ้านป่าบ้านนา
ผู้มิเคยหลงลืมตน
ผู้ยังคงมีกมลละเมียดละไม
รู้ค่างามจิตงามใจ
ผู้ยังคงมีนวลเนื้อใจ
ดวงละมุนเหว่ว้า
ขอ
จูบลา..กำไลรักกำไลขวัญ
ด้วยพร่างน้ำตาเต็มตื้นตัน..เต็มห้องหัวใจ
ก่อนนิทราหลับฝันดีนะคะ
และ
ด้วยผ้าห่มหอมผืนนี้
ที่ให้ความรู้สึกดีดีกรุ่นกลิ่นรัก
ดั่งสไบรักสไบฝันตราบวันพรากลา..
และทั้งหมดทั้งสิ้นแห่งจารใจรจนา
คือคำมั่นสัญญา...ระหว่างใจของสองเรา...นะคนดีนะยอดดวงใจ..
**********
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=480
คำมั่นสัญญา ..พิ้งค์ แพนเตอร์
ถึง ม้วยดิน สิ้นฟ้า มหาสมุทร
ไม่ สิ้นสุด ความรัก สมัครสมาน
แม้ อยู่ใน ใต้หล้า สุธาธาร
ขอ พบพาน พิศวาส ไม่คลาดครา
แม้น เนื้อเย็น เป็นห้วง
มหรรณพ
พี่ ขอพบ ศรีสวัสดิ์ เป็นมัจฉา
แม้ เป็นบัว ตัวพี่ เป็นภุมรา
เชย ผกา โกสุม ปทุมทอง
แม้ เป็นถ้ำ อำไพ
ใคร่เป็นหงษ์
จะ ร่อนลง สิงสู่ เป็นคู่สอง
ขอ ติดตาม ทรามสงวน
นวลละออง
เป็น คู่ครอง พิศวาส ทุกชาติไป
แม้ เป็นถ้ำ อำไพ
ใคร่เป็นหงษ์
จะ ร่อนลง สิงสู่ เป็นคู่สอง
ขอ ติดตาม ทรามสงวน
นวลละออง
เป็น คู่ครอง พิศวาส
ทุกชาติไป...
23 เมษายน 2547 20:07 น.
พุด
URL http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=92
(หนีรัก)
*********
ไยม่านหมอกดวงดอกไม้พรายพลัดพราก
ทิวาจากราตรีฝันสวรรค์หาย
ทิ้งเพียงรอยคอยหลงฝันตราบวันตาย
มนต์ดอกไม้คงมีค่าแค่ท่ารอ...
ขอหนีโลกโศกทั้งปีเศร้าทั้งชาติ
ลาพิสวาสสู่พงไพรไกลคำพ้อ
ดวงดอกไม้ร่ายมนต์ปลอบก็เกินพอ
ลาจากจอโลกฝันนิรันดร์ลวง...
ในท่ามไพรใจดวงซึ้งตรึงใจนิ่ง
ใจดำดิ่งทิ้งสับสนคนห่วงหวง
นอนดายเดียวกลางสายธารหวานหอมทรวง
น้ำตาร่วงพร่างไพรสาใจจำ...
มีที่ไหนละหนอสายน้ำไหลทวนกลับ
ลาเลือนลับหอมหวานธารสวรรค์
ไม่อาวรณ์อ้อนอาลัยไหวผูกพัน
ไม่โศกศัลย์ไม่โศกเศร้าราวไร้ใจ...
ฝากความจริงทิ้งให้ท้อพ้อเผลอคิด
ฟ้าลิขิตธรรมชาติสอนอย่าอ่อนไหว
ไม่ว่ารักไม่ว่าชังรานร้าวใด
เพียงผ่านมาผ่านไปไยไหวรับ...
ฤดูกาลฤดีใจกี่หนาวร้อน
ให้ออดอ้อนให้อาลัยใจรู้ดับ
ดวงดอกไม้ในดงไพรดาดดื่นนับ
ไยจะภักดิ์ไยจะเพ้อเก้อบูชา..
รอวสันต์โปรยสายสยายกลีบ
รอพุดจีบฝากใจซึ้งคะนึงหา
เลือกดอกไหนภักดิ์พลีใจหอมบูชา
รอเวลาเด็ดมาวางกลางหิ้งใจ..
หวังไม่รานหวานดอกไม้ให้ช้ำชอกนะยอดรัก
อย่าเด็ดหักเด็ดหักขยี้สิ้นกลิ่นสวยใส
เลือกสักดอกยอดแห่งหอมคลึงเคล้าใจ
ฝากดอกใจดวงดอกรักดอกภักดิ์พลี..หนี..ระทม..เป็นนิรันดร์..
************
คนดี..ดวงใจ..
ดวงบุกป่า..ฝ่าเส้นทางสายงามสายฝันสวรรค์หวาน แสนวิบาก
สู่ผาสูงไพรกว้างทางไกลพะงันงาม..
สู่ไพรรกโตรกธารละหานห้วยงามละไมแห่งไพรฝันไพรวัลย์
ที่มีเถาวัลย์พันเกี่ยว
กับเส้นทางแสนลดเลี้ยวเคี้ยวคด ให้ตื่นเต้นเร้าใจ
ให้อยากไปตามหาฝันทิวาวันแสนดีแสนงาม..ด้วยกัน
ที่น่าแปลกนัก..ในยามเช้า..
กับงามอะคร้าวระเรื่อฉ่ำเย็น
ของม่านหมอกยังหยอกเอินเนินไศล
กับปลั่งแดงแสงระวีฉาดฉายฉาน
งามปานประหนึ่งเรียวไหมในม่านเมฆ
ที่ค่อยๆชักรถผ่านเหลี่ยมโลกช้าช้า
ออกมาทายทักขุนเขาเงื้อมงาม
ยางสูงไสวพร่างเทียมเมฆเทียมฟ้า
ทายทักวิหคนกกา
ที่พากันร่ำร้องระงมไพรระงมใจระงมงาม
ให้หัวใจดวง..แย้มหวานรอรับรอดู
หยาดละออละอองน้ำค้าง..ค่อยค่อยระเหยหาย
กลายเป็นสายหมอกสายเหมยสายไหมในเรียวรุ้งเรียวรัก
ประดับดวงใจรักดวงใจร้าวดวงใจเศร้างาม
ที่เฝ้าแหงนเงยเฝ้ารอดู...
ดวงโชคดี ที่ฟ้าส่ง..น้องชายคนดีที่ดวงแสนรัก
ผู้ที่แสนรู้จักทุกตารางนิ้วในผืนไพรพะงันผืนดินบ้านเกิด
*เกาะสวาทหาดสวรรค์*
มากำนัลมาเป็นสารถีกิติมศักดิ์
ให้มาพาดวงใจรักดวงใจร้าวไปทายทักไพรด้วยกัน.
ในคิมหันต์นี้
ที่ดวงดอกไม้กำลังร่ายฟ้อน
ร่อนช่อละออกลีบอ่อนอ่อนอ้อนป่าระดะดวงไสว
ไปทั้งราวไพรราวป่า..เลยทีเดียว
น้ำตาดวงรินริน..พร่างถวิลในใจตลอดเวลาตลอดเส้นทาง
ด้วยร้างรามานานปี..หลายปี
ใจดวงดายเดียว ดวงเดิมเดิมดิบดิบติดดิน..ถวิลงามเงียบ
ราวย้อนรอยถอยคืนกลับคืนฝันวันเยาว์อีกคราครั้ง
เรียวนัยน์ตานิ่งงันอั้นอึ้งลึกซึ้ง
ยามพาพบสงบงาม..สองข้างทางร้างรกเรื้อ
ที่ยังงามอะเคื้อเหลือพิสุทธิ์ไพร..
ให้ดวงใจดวง แสนไหวงามสุขล้ำ ยากกล้ำกลืนฝืนปิติใจ
งามไม้ ไพร ยาง สูงใหญ่และอีกไม้นานาพรรณ
ลดหลั่นละไล่ราวดงดิบ
กลางเกาะมหัศจรรย์สวรรค์บันดาล..
หัวใจเด็กผู้หญิงช่างฝัน ดวงเดิม
จึงเริ่มร้องไห้ ร้องไห้..ระรินสายภายในใจราวสายฝนพรำ
ตอกย้ำรอยรักรอยหวานรอยกาล อดีตนานา นานเนาเนิ่น..เกินนับ..รอ..
ดวง..สะอื้นเกินรำงับดับละมุนใจ..
ท่ามกลางสายธารสายสวยใสพิสุทธิ์หวานระริน
ที่ดวงกำลังแหวกว่าย
ที่ยังร้างไร้ผู้คนมากมายมากมีค้นพบมาเปิดบริสุทธิ์ให้หยุดงาม
ให้หัวใจดวงหวั่นหวามวิตก...ด้วยเสียดาย เสียใจ
ในวันหนึ่ง วันหน้าที่ดวงคงรอท่า
พึงทำใจเตรียมใจยอมรับ..กับกระแสโลก..กระแสคน
ที่ไหลพร่าบ่าโหมทำลายทุกถิ่นที่มิมีเว้นวาง
ให้ธรรมชาติงามธรรมดาสวยธรรมดาไพร
เหลือน้อยลงน้อยลงทุกทีทุกที..
นาทีนี้..
ดวงจึงทำได้เพียง
ปล่อยให้กระแสธารหวานใสปลอบร่างรานใจร้าว
กับมากเรื่องราวมากมี
ที่ผ่านพบจบมา
ทั้งเมืองนอกเมืองหลวงเมืองลวง
เมืองใจเมืองในฝันในกรุงกรง
ทั้งในโลกฝันสวรรค์ปิดสวรรค์ลา..
ให้สายน้ำแสนงามแสนใสปะปนไป
กับหยาดน้ำตานางไพรนางใจผู้เหว่ว้ามาตลอดชีวาชีวิต
ที่สิ้นไร้ใคร..ไร้ใจ..เข้าใจไยดี..มีแต่พิพากษา
ย่ำยีไร้ปรานีไร้หัวใจเมตตา
ช่างน่าเศร้านัก..
ดวงดำดิ่งอิงธรรมชาติงามลำพัง
หวังปลดปล่อย
ถอนรักคืนหลังฝังรอยงามไว้นะที่แห่งนี้
นะที่ซึ่งสวรรค์ปรานี
โอ้แหล่งที่ดวงตาสวรรค์กำลังใจดี
เปิดประตูรักรับให้มาพักพิง
มาโอบเอื้อให้อ้อมใจไออุ่นอ้อมจากหอมหอมหอมห้วง
จากดวงดวงดอกกรุ่นกลิ่นหวานหวานหวาน
พร่างพร่างพร่างพรายพรมให้ดวงดอมดมจากพวงพยอมไพร
และ
จากสายธารใจราวรับรู้ในนิรันดร์รัก..มิเปรียบปาน
เป็นประมาณดั่งรอยต่อแห่งฝันได้ผสานสวรรค์ไพร
ร้อยรักถักทอดใจพิงพัก
ร่างรักระหว่างวันกับอดีตฝันอันหอมหวานผ่านกาลเวลา
ที่เคยลาเลยลับ..
ให้
ร่างใจดวง..รานรักเหว่ว้า..รอมานานปี
ราวกับมิเคยไยดีจะคืนหลังสู่ฝั่งฝันฝังใจ..จำ
ให้..ใจดวง สุข สงบ พบหวาน เกินคำบรรยาย
ในท่ามกลางแมกไม้ม่านหมอกดวงดอกไม้
ในไพรพง..ในพงไพรพะงัน
ให้ดวงดอกฝันพลันแตกช่อพร่าง
ราวเพชรพรายกระจายกลีบเรณูหอมห้วงในดวงใจ
ราวรวงดาวพราวพร่างรัศมีไสวในรายล้อมอ้อมโอบกาแลกซี่
ที่แสนมหัศจรรย์เกินรำพันรำพึง
ขอบคุณ..นะสวรรค์..นะดวงตาสวรรค์
ที่พร้อมพลีเปิดใจรับขวัญ..ฝัน
มอบกำนัลรับรู้จิตวิญญาณไพร
มอบหอมให้หัวใจลูกผู้หญิงคนนี้
ที่ยอมพลีสิ้น
ราวให้รางวัล
อัญมณีใจ..อัญมณีไพร..
ที่ยิ่งใหญ่..แสนซึ้งตรึงตรา...เกินหาคำมากล่าวแล้วค่ะ
****************
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=92
หนีรัก
ตะเกียกตะกาย
หนีรักไม่พ้น เสียที
ทั้งๆที่
เข็ดรัก เหลือหลาย
สู้หลีกลี้หนีพ้นเพียงกาย
แต่ใจไม่วาย
จะคิด จะใฝ่
หนักจิตกระโจน
พลัดลาหวังรัก นิจจา
ล้ำลึกกว่า
ห้วงเหว ไหนๆ
ตอกห้วงรัก
แล้วยังหายใจ
ตายก็ไม่ตาย
ทรมาน ทรมาน
ถ้ารักสมรัก
สมปรารถนา แห่งใจ
รักไม่เปลี่ยนไป
รักไปชั่วกาล
ถ้ารักไม่หนี
คงไม่หนีรัก ซมซาน
คงรักกันนาน
ตราบวันวอดวาย
เบื่อโลกเต็มทน
เพราะรักไม่พ้น รักราน
ถึงตั้งหน้า
มุ่งหนี รักร้าย
อยากหลีกหนี
ทั้งใจทั้งกาย
อยากให้โลกทลาย
ตายๆ เสีย ที
เบื่อโลกเต็มทน
เพราะรักไม่พ้น รักราน
ถึงตั้งหน้า
มุ่งหนี รักร้าย
อยากหลีกหนี
ทั้งใจทั้งกาย
อยากให้โลกทลาย
ตายๆ เสีย ที...