27 พฤษภาคม 2552 09:49 น.
พี่ดอกแก้ว
ในโลกียสุขสี่ประการ
ลาภกับสุขสองสถานมีทั่วถึง
ยศ สรรเสริญมีเฉพาะให้คำนึง
อุปาทานจึงตรึงให้ชูคอ
ผู้มียศ สรรเสริญ เดินไปไหน
ตำแหน่งใหญ่มีคนมาคอยหงอ
ตำแหน่งเล็กมีคนคอยป้อยอ
ตำแหน่งจิ๋วมีคนรอจะเอาใจ
ผู้มีการศึกษาเหมือนมียศ
มีความรู้เป็นกฎสร้างเงื่อนไข
หากขาดคุณธรรมแห่งเวไนย
ความรู้จะนำใจพอกอัตตา
ถือผิดที่คือถือดีมีความรู้
ใจบางส่วนลบหลู่ผู้ด้อยศึกษา
ใช้ความรู้หลอกตนว่ามากปัญญา
ละเลยค่าการปฏิบัติแบบรู้จริง
เราจึงเห็นผู้ล้มเหลวในความรู้
เชี่ยวชาญอยู่กับเนื้อหาทุกส่วนสิ่ง
มากคำถามคำตอบหลักอ้างอิง
แต่ในชีวิตจริงไร้หลักการ
ไม่รู้จักทานศีลภาวนา
ขาดเมตตาขาดอดทนไม่กล้าหาญ
เรื่องการอ่อนน้อมใจไม่เชี่ยวชาญ
ไร้สัจจะกล่าวขานไม่จริงใจ
ผู้มีการศึกษาเหมือนมียศ
ทั้งปรากฏการศึกษาเป็นลาภใหญ่
สุขทุกสิ่งจะเบ่งบานตลอดไป
ต้องรู้ในการปฏิบัติอย่างจัดเจน
20 พฤษภาคม 2552 07:33 น.
พี่ดอกแก้ว
จำเป็นไหมต้องบอกใครว่าเราดี
จำเป็นต้องอวดโน่นนี่กับใครไหม
หรือต้องหาหลักฐานประการใด
มาแสดงเพื่อให้เขาเห็นตาม
จำเป็นไหมต้องข่มใครไว้ทั้งหมด
เพื่อยึดบทตัวเอกน่าเกรงขาม
ให้คนอื่นเป็นผู้ร้ายอยู่ทุกยาม
หรือนำความด้อยกว่ามาอ้างอิง
จำเป็นไหมต้องทำให้แตกสามัคคี
เพื่อตนนี้เป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง
ทำให้ต่างระแวงใจใฝ่ชังชิง
แต่ตนเป็นที่พักพิงทุกฝ่ายไป
จำเป็นไหมต้องบอกใครว่าเราดี
ไม่จำเป็น..อวดโน่นนี่ใครที่ไหน
พฤติกรรมฟ้องความคิดและจิตใจ
ดีหรือไม่ดูที่กรรมใช่คำโว
จำเป็นไหมต้องข่มใครไว้ทั้งหมด
ไม่จำเป็น..ต้องกดใครเพื่อโก้
การให้เกียรติผู้อื่นไม่อวดโต
เท่ากับโชว์กุศลเอกที่เสกใจ
จำเป็นไหมต้องทำให้แตกสามัคคี
ไม่จำเป็น..ต้องมีแผนการณ์ไหน
การเป็นที่รักของใครต่อใคร
ไม่จำเป็นต้องทำให้เขาแตกกัน
จำเป็นไหมต้องตรวจใจอยู่เสมอ
จำเป็นยิ่ง..หากเผลอจะผิดมหันต์
ไปทำร้ายผู้อื่นบาปอนันต์
และตนนั้นพอกบาปเป็นคราบใจ
12 พฤษภาคม 2552 10:23 น.
พี่ดอกแก้ว
เมื่อพินิจพิศเห็นเป็นฉากตอน
ความต่อเนื่องก็จรจากวิถี
เกิดคมชัดภาพกรรมในชีวี
เหมือนดั่งมีเครื่องชลอก่อปัญญา
มีใครทำไม่ดีให้เราเห็น
ก็รู้เป็นวิบากหลากมาหา
ไร้ประโยชน์โกรธเรื่องที่มีมา
หากนำพาจักเกิดบาปอาบที่ใจ
เมื่อเขาทำไม่ดีย่อมมีผล
สนองเขาอย่างเหมาะตนแม้นชาติไหน
เราไม่ต้องสาปแช่งแสดงอะไร
เขาย่อมรับผลชั่วไปอย่างแน่นอน
หากเราพลาดท่าโกรธคาดโทษเขา
ใจของเราบังเกิดความเน่าหนอน
มีกิเลสอกุศลผลร้าวรอน
ตามมาถอนทุนเราเหมือนเขาเลย
เมื่อพินิจพิศเห็นเป็นเหตุผล
เราต้องฝึกใจตนอย่าเพิกเฉย
ฝึกเมตตาแก่ตนให้คุ้นเคย
ป้องกันบาปไม่เผยเข้าสู่ใจ
ความถี่บ่อยจะสร้างรอยแยกชีวิต
เมื่อเราเขาต่างจริตและนิสัย
อนาคตเขากับเราย่อมห่างไกล
เพราะว่าไม่มีความเหมือนมาเลื่อนทาง
เมื่อพินิจพิศเห็นเส้นทางแล้ว
จงแน่แนวฝึกตนให้พ้นหมาง
แก้ไขเขาไม่ได้ก็ปล่อยวาง
แล้วมาสร้างใจเราให้พ้นภัย