19 มิถุนายน 2551 08:33 น.
พี่ดอกแก้ว
เขาบอกว่าอย่าใจร้อนตอนพบเรื่อง
อาจสิ้นเปลืองเรี่ยวแรงแก้ปัญหา
เพราะรีบเร่งเกินไปไม่ตรวจตรา
จึงนำพาเสียหายมาให้ตน
หากเร่งรีบทำไปเพราะใจชอบ
รีบโกยกอบสิ่งนั้นเพราะหวังผล
อาจขาดทุนย่อยยับพาอับจน
กลุ้มกมลผลสวนทางต่างจากใจ
หากรีบเร่งทำไปเพราะไม่ชอบ
รีบโต้ตอบดุเดือดมุ่งผลักไส
เกิดแตกหักเสียหายกระจายไกล
เป็นเรื่องใหม่เรื่องใหญ่สิ้นไมตรี
เขาบอกให้ใจเย็นเป็นเบื้องแรก
พบสิ่งแปลกแตกต่างจากวีถี
ก่อนโต้ตอบชอบชังคิดให้ดี
ก่อนเปิดเผยวจีใช้กำลัง
อย่าใจร้อน..ให้ใจเย็นเป็นนิสัย
ทำสิ่งใดมีสติเป็นรากฝัง
เพราะสติเจือจุนหนุนพลัง
ช่วยยับยั้งเสียหายได้ฉับพลัน
มีสติ..ดูเหมือนง่ายในภาษา
ทั้งสามัญธรรมดาจนน่าขัน
หลายคนพูดและสอนกันทุกวัน
ว่าให้หมั่นเจริญไว้ในชีวา
มีสติ..มิใช่เพียงรู้สึกตัว
แต่รู้ทั่วยับยั้งใจไม่โถมถา
ไปในบาปอกุศลที่ชินชา
รั้งจิตตาเอาไว้ให้เคียงบุญ
มีสติ..จึงไม่ง่ายในหลักพุทธ
ต้องรู้หยุดสร้างบาปให้เนืองหนุน
รู้จักบาป ไม่ทำบาป ให้ขาดทุน
มีสติเป็นร่มบุญให้ใจเย็น
12 มิถุนายน 2551 12:31 น.
พี่ดอกแก้ว
ดำเนินผ่านย่านรกปรกหญ้าสุม
มีขยุ้มใบคันพันแข้งขา
สะบัดเท้าก้าวข้ามเถาคันมา
ข้างซ้ายขวามีเรียวหนามตามเกี่ยวกาย
เร่งเดินไปเพื่อให้พ้นพงหนาม
รีบก้าวข้ามอุปสรรคที่มากหลาย
แม้จะมากระวังยังไม่วาย
เดินเหยียบสายกับดักเชือกถักใย
หน้าคะมำคว่ำไปไม่เป็นท่า
เชือกมัดขาผูกแน่นยากเคลื่อนไหว
ยิ่งสะบัดยิ่งมัดแน่นเข้าไป
เกิดขัดใจดาลเดือดเลือดนักเลง
แค้นบ่วงบาศคาดโทษโกรธผู้แขวน
รำพันแค้นบ่นหาคนข่มเหง
ปากก็พร่ำด่าว่าไม่กลัวเกรง
ทุ่มถีบเท้าตนเองอยู่ไปมา
จนเหนื่อยอ่อนถึงตอนโทสะลด
เลิกสบถลดแรงถีบแข้งขา
จึงได้รู้ว่าแผลเกิดขึ้นมา
เพราะเชือกสีเมื่อคราดิ้นอย่างแรง
รู้แก่ใจที่ทำไปไม่เข้าท่า
แก้ปัญหาอย่างเพิ่มภัยแอบแฝง
ร้อนรนมากเกินไปอยากเปลี่ยนแปลง
โดยไม่แจ้งปัญหาว่าคืออะไร
การแก้เชือกไม่ต้องดิ้นให้ดินคลุ้ง
ปากไม่ยุ่งร้องถามใครที่ไหน
เพียงอยู่นิ่งใช้สองมือแล้วตั้งใจ
แก้ปมไปโดยไม่ต้องร้อนรน
เมื่ออุปสรรคมาทักทายชีวิต
ต้องตั้งจิตสงบใจไม่สับสน
ดูให้ดีที่ปัญหาอย่ากังวล
วิเคราะห์ตนด้วยเหตุกรรมไม่ช้ำใจ
5 มิถุนายน 2551 20:03 น.
พี่ดอกแก้ว
อันคุณงามความดีที่ปรากฏ
จะงามงดเลิศค่าถ้าสร้างสรรค์
ปลอดจากโทษก่อประโยชน์อเนกอนันต์
พาชีวันพ้นตำหนิพิชิตชัย
ก่อนจะทำสิ่งใดให้ตรึกตรอง
ว่าสอดคล้องหรือข้องขัดธรรมไหน
สัตบุรุษผู้มีหลักประจำใจ
เจ็ดข้อในคุณสมบัติขจัดมาร
คือเป็นผู้รู้เหตุไร้เภทภัย
ทำการใดรู้จักผลที่สืบสาน
สร้างเหตุเพื่อรับผลสุขสราญ
รู้คิดอ่านรอบคอบประกอบกรรม
ต้องเป็นผู้รู้จักตนบนหน้าที่
ทุจริตมิให้มีล่วงถลำ
ไม่กระทบลบหลู่ตู่ถ้อยคำ
อ่อนน้อมนำวินัยไม่ถือดี
ต้องเป็นผู้รู้ประมาณการครองชีพ
ไม่รัดบีบกุศลจนหลีกหนี
รู้จักกาลก่อนกระทำกรรมวิธี
สมควรมีแก่สถานเหมาะกาลกัน
ต้องเป็นผู้รู้จักประชุมชน
ไม่ถือตนเหลือกตาให้น่าขัน
ทุกสถานล้วนมีบุคคลสำคัญ
ไม่หุนหันทำสิ่งขืนฝืนประเพณี
ต้องเป็นผู้รู้จักเลือกคบคน
เพื่อพาตนพ้นภัยในวิถี
ผู้ส้องเสพสิ่งลามกโกหกวจี
ปลีกชีวีสร้างเพลงธรรมนำจิตใจ
แล้วคุณงามความดีที่กระทำ
จะงามล้ำงามงดอย่างสดใส
ไม่กระเทือนใครต้องหม่นหมองใจ
มองเมื่อใดก็ผ่องพิศสัปปุริสธรรม