21 กุมภาพันธ์ 2551 08:03 น.
พี่ดอกแก้ว
เพ็ญเดือนสามงามผ่องส่องแสงฉาย
เรืองประกายกาสาวพัตร์ระบัดไหว
ณ เวฬุวนาอารามไพร
อัศจรรย์เกริกไกรสี่ประการ
ภิกษุหนึ่งพันสองร้อยห้าสิบ
ล้อมรายลิบรวมกลุ่มไร้สื่อสาร
ล้วนเอหิภิกขุทรงประทาน
อภิญญาครบญาณอรหันต์บุคคล
เป็นคืนเพ็ญเด่นหล้าในครานั้น
ทรงแสดงธรรมอันเป็นเหตุผล
วางแบบแผนเผยแผ่แก่หมู่ชน
ไม่สับสนอุดมการณ์หว่านพืชธรรม
สามหลักการศานติริเริ่มรู้
ผู้เป็นครูต้องอบรมบ่มทวนย้ำ
สัพพะปาปัสสะบาปไม่ทำ
กุสสละสูปะนำถึงพร้อมบุญ
สะจิตตะละรอยหมองมาครองไหม้
ทำจิตใจใสผ่องคล่องแคล่วหนุน
อีกอุดมการณ์สี่ต้องเจือจุน
คือเคยคุ้นขันติธรรมมานำใจ
ไม่เบียดเบียนบีฑาเข้าฆ่าเข่น
ไม่รีดเร้นก่อลำบากสัตว์ยากไร้
กล่าวนิพพานว่าเป็นธรรมอันเกริกไกร
กำจัดทุกข์สิ้นไปจากชีวี
บทสุดท้ายทรงทอดถ่ายวิธีการ
แก่ขบวนธรรมบาลเป็นหกที่
ไม่พูดร้าย..อะนูปะวาโท...แบบวิธี
อะนูปะฆาโต..หลีกหนีทำร้ายกัน
สำรวมชนม์บนพระปาฏิโมกข์
ไม่บริโภค..มัตตัญญุตา..หาเกินฉัน
นั่งและนอนในที่สงบครัน
และเพียรหมั่นประกอบใจให้ยิ่งงาม
ขบวนธรรมจากมคธจึงจรดหล้า
จากเวฬุวนาคราเพ็ญสาม
ทรงอบรมครูธรรมนำนิยาม
ได้ถึงความเป็นผู้ให้ไร้ภัยพาล
ทรงประกาศแบบแผนเป็นแก่นสอน
ให้สังวรกายวาจาคราสืบสาน
ใช้เหตุผลบนธรรมชำนะมาร
ครบประการวันมาฆปุรณมี