15 ตุลาคม 2550 11:29 น.
พี่ดอกแก้ว
การพูดจาพาคนให้ล้นบาป
เพราะเอิบอาบทุจริตได้เสมอ
ฟังบางคนบ่นพร่ำคำละเมอ
บ้างพลั้งเผลอเชื่อตามถ้อยความไป
แล้วขยายกระจายเสริมเติมแต่ง
หรือตัดทอนเว้าแหว่งตามนิสัย
ทั้งจับแพะชนแกะให้มั่วไป
เป็นเรื่องใหม่เมามันพูดกันเพลิน
คนหูเบาได้ฟังก็พลั้งเชื่อ
บางครั้งเข้าช่วยเหลือไม่ขัดเขิน
เพราะปากเบาเป่าความให้เจริญ
ร่วมดำเนินทุจริตผิดวาจา
ความสุขใจเกิดในสมาคม
ที่นิยมเรื่องผู้อื่นชื่นหรรษา
เว้นเรื่องตนไม่ให้คนมานินทา
ทนไม่ได้เมื่อรู้ว่าใครพาดพิง
การแก้ตัวแก้ตนให้พ้นความ
ก็แก้ตามกิเลสที่สู่สิง
อ้างคนนั้นคนนี้ไม่รู้จริง
ไม่เคยนิ่งวาจาพาบาปยาว
ทุจริตคิดนินทาผิดคราหนึ่ง
จิตโกรธขึ้งคิดแก้ไขให้ตนขาว
ผิดครั้งสองหากต้องพูดแปลงเรื่องราว
อ้างคนอื่นเป็นคนกล่าวมิใช่ตน
ความสุขใจที่ได้จากนินทา
ไม่คุ้มค่าขาดทุนบุญกุศล
หมกมุ่นการเพ้อเจ้อและถือตน
กลายเป็นคนเสื่อมปัญญาน่าอับอาย
4 ตุลาคม 2550 16:00 น.
พี่ดอกแก้ว
อยู่ที่ความพอใจใช่เหตุผล
แต่ละคนเลือกสิ่งปรารถนา
ด้วยความชอบความชังสั่งสมมา
เหตุผลจึงไร้ค่าในอารมณ์
เมื่อใดชอบก็เฝ้าเคล้าคลึงจิต
ถูกหรือผิดไม่พิเคราะห์ความเหมาะสม
แม้นข้อเสียมากมายไม่น่าชม
แต่เพราะชอบนิยมจึงเห็นงาม
เมื่อใดชังก็ฝังโทษผนึก
เหมือนข้าศึกที่ควรย่ำเหยียดหยาม
แม้นข้อดีมากมายในนิยาม
แต่เพราะความชังมากยากเห็นคุณ
ชอบและชังรวงรังอคติ
เกิดทิฏฐิขัดแย้งแบ่งฝ่ายหนุน
ไร้เหตุผลดีชั่วหรือบาปบุญ
เหตุผลใหญ่ที่หนุนคือชอบ-ชัง
ทั้งข้าวของเครื่องใช้ในตลาด
ดารดาษตามพื้นและผนัง
มีให้เลือกมากมายตามชอบ-ชัง
เลือกซื้อหาทุกครั้งเพราะชอบใจ
คือวิถีชีวิตปุถุชน
ที่ทำตามใจตนเป็นนิสัย
จึงบกพร่องเสียประโยชน์อยู่เรื่อยไป
เพราะละเลยเลือกในประสิทธิคุณ
ชอบหรือชังแต่ละครั้งสั่งสมจิต
ให้ชำนาญการคิดสนับสนุน
ตัดสินใจผิดพลาดต้องขาดทุน
ขาดปัญญาค้ำจุนพิจารณา
ชอบหรือชังฝังแน่นกลางแกนใจ
ทำสิ่งใดก็เพิ่มบาปให้ฉาบหนา
ต้องพิเคราะห์ด้วยสติและปัญญา
คือมรรคาชีวีมีกำไร