21 กรกฎาคม 2549 07:59 น.
พี่ดอกแก้ว
ลมอึงอลฝนฟ้ามาคลุ้มคลั่ง
ยากระวังฝุ่นผงหลงกระแส
ปะทะตามร่างกายให้ปรวนแปร
และอาจแพ้ความหนาวคราวฝนปราย
แม้นจะคิดหลบเลี่ยงก็เพียงคิด
แต่ไร้สิทธิ์ห้ามลมฝนพรมสาย
จำต้องรับเดือดร้อนที่ร่างกาย
อาจมากมายหรือน้อยคอยราวี
คนฉลาดอาจเห็นเป็นอุปสรรค
ที่ถามทักให้ต่อสู้รู้หลีกหนี
คนโง่อาจโวยฟ้าไม่ปรานี
โทษลมฝุ่นผงคลีทำร้ายตน
คนสงบพบธรรมที่ล้ำค่า
รู้เหตุการณ์เกิดมาทั้งลมฝน
รับกระทบสิ้นภัยไร้กังวล
เพราะกำหนดที่ตนอย่างไตร่ตรอง
ผลย่อมมีที่มาจากสาเหตุ
ไม่ปฏิเสธให้ใจต้องหม่นหมอง
มีเกิดขึ้นย่อมดับตามครรลอง
เลิกติดข้องหน่วงไว้ในเรื่องราว
รสพระธรรมจึงนำแต่ความสุข
รับรู้ทุกข์แล้ววางร้างสืบสาว
หยุดเชื่อมความวุ่นวายให้ยืดยาว
ยอมรับทุกข์พร่างพราวด้วยจิตดี
3 กรกฎาคม 2549 10:35 น.
พี่ดอกแก้ว
หลายหลากสายธาราคร่าชีวิต
อุบัติพิษอุทกภัยมีให้เห็น
คนและสัตว์เดือดร้อนยากลำเค็ญ
แต่ก็เป็นชั่วคราวไม่ยาวนาน
ต่างกับสายนทีมีสามสาย
ก่อเกิดความวุ่นวายในสังสาร
โลภ โกรธ หลง ไหลท้นท่วมสันดาน
สัตว์จึงไม่พ้นกาลทุกข์เสียที
ภัยธรรมชาติอาจร้ายไม่น่าพบ
แต่รู้จบเมื่อหมดแรงแห่งวิถี
ภัยอกุศลผลร้ายเกินร้อยปี
ยากจะมีรั้วกันอย่างมั่นใจ
และทุกวันเรานั้นต่างต้องพบ
การกระทบอารมณ์ที่หลั่งไหล
เหมือนสายน้ำภายนอกพร้อมสร้างภัย
กระตุ้นน้ำภายในผสมแรง
หากมีเขื่อนกั้นใจอยู่ในบุญ
กันน้ำขุ่นภายนอกเข้าแอบแฝง
ตะกอนใจไร้กระทบให้สำแดง
บุญปรับแปลงน้ำใจให้ใสงาม