21 กุมภาพันธ์ 2548 19:59 น.
พี่ดอกแก้ว
เยื้องพระบาทยาตรามามคธ
ความยิ่งใหญ่ปรากฏหลายสถาน
โปรดสาวกบรรลุปัญญาญาณ
ประดิษฐานขบวนธรรมนำเภรี
อัศจรรย์วันนี้ที่ยิ่งใหญ่
จตุนัยสำคัญวันสักขี
จันทร์เสวยฤกษ์มาฆะบูรณมี
ประชุมสงฆ์ทรงศรีอภิญญา
เพ็ญเดือนสามความหมายในโอวาท
ทรงประกาศหัวใจพระศาสนา
เป็นหลักธรรมนำสู่ปฏิบัติบูชา
แก้ปัญหาชีวิตพ้นพิษภัย
หลักการสามความนำคำโอวาท
ไม่ล่วงชาติบาปธรรมนำจิตใส
ทวารสามถึงพร้อมกุศลมัย
ผุดผ่องใจไร้นิวรณ์ถอนอวิชชา
อุดมการณ์สี่อย่างสร้างความแกร่ง
ตบะแรงอดทนพ้นโทสา
เว้นเบียดเบียนทำร้ายล่วงกายา
สงบตน..ค้นคว้าหานิพพาน
วิธีการหกอย่างสร้างสุจริต
ทุกชีวิตเว้นกล่าวร้ายเบียดประหาร
สำรวมในปาฏิโมกข์รู้ประมาณ
สงัดในสถานและฝึกใจ
ด้วยโอวาทประกาศก้องเป็นคลองวัตร
ธงแห่งธรรมระบัดปลิวไสว
มาฆะฤกษ์เบิกหล้าสู่เวไนย
รับหัวใจแห่งธรรมนำสุขจริง
17 กุมภาพันธ์ 2548 14:52 น.
พี่ดอกแก้ว
จากนาทีถอทักรักเป็นผืน
ผ่านวันคืนผืนรักถักร้อยฝัน
สานน้ำใจกลมเกลียวเกี่ยวสัมพันธ์
เป็นเชิงชั้นลายรักที่ถักทอ
พอปีผ่านนานไปไม่ขยัน
รักผืนนั้นดำด่างร้างเข็มขอ
แต่ยังเห็นลวดลายชัดเจนพอ
แม้นหยุดทอยังเป็นผืนให้ชื่นชม
ครั้นนานเนิ่นเพลินใช้ไม่คิดซ่อม
ซักฟอกย้อมรอยคราบอาบขื่นขม
รักผืนนั้นพลันขาดฟาดอารมณ์
ลายระทมผุดซ้อนตอนรักคลาย
ใจหุนหันพลันทิ้งสิ่งเคยสร้าง
ปล่อยผืนรักเคว้งคว้างปลิวเส้นสาย
รอยขาดเพียงเล็กน้อยกลับวุ่นวาย
ทิ้งดอกรักมากมายไม่เหลียวแล
ไม่นานวันพลันคิดคืนผืนรัก
หมายทอถักซ่อมลายสลายแผล
แต่ต้องเจ็บปวดร้าวหนาวดวงแด
ผืนรักแท้หายลับดับชีพชนม์
15 กุมภาพันธ์ 2548 22:56 น.
พี่ดอกแก้ว
เคยบ้างไหม...สุมไฟใส่ต้นรัก
หรือโค่นหักไมตรีที่แน่นหนา
เหลือเพียงซากบางเบาในพริบตา
ด้วยอารมณ์วูบพาคิดผิดเอง
เคยบ้างไหม...เคืองแค้นใครไม่กล้าโต้
แต่ระบายโทโสเกรี้ยวข่มเหง
กับคนใกล้ในท่าเยี่ยงนักเลง
แพะรับบาปกลัวเกรงหนีหัวซุน
เคยบ้างไหม...พลาดผิดไปไม่ขอโทษ
กลับถือโกรธเพราะอายที่หันหุน
สร้างเรื่องกลบลบรอยอ้างบุญคุณ
ความถือตัววิ่งวุ่นมาค้ำคอ
เคยบ้างไหม...ขอโทษใครในผิดพลาด
และประกาศคุณผู้อื่นเขาบ้างหนอ
ใช้ความดีเป็นสะพานสานถักทอ
เชื่อมรอยต่อที่ร้าวคราวพลั้งไป
เคยบ้างไหม...กลายเป็นแพะชำแหละเชือด
จากความเดือดองศาโกรธพิโรธไหล
ทั้งที่เจ็บปวดท้นจนล้นใจ
แต่อภัยให้มิตรคิดด้านดี
เคยบ้างไหม...ดับไฟที่โหมสุม
หลั่งน้ำใจคลี่คลุมไม่หน่ายหนี
อดทนนิ่งไม่ถอยน้อยฤดี
รอนาทีเพลิงนั้นผันผ่านไป
เคยบ้างไหม...เห็นนัยของความรัก
พบสลักเชื่อมจิตพิศมัย
คือสละ เมตตา ให้อภัย
และเข้าใจ รู้ผิดชอบ มอบแก่กัน
14 กุมภาพันธ์ 2548 07:11 น.
พี่ดอกแก้ว
รัก
ธารน้ำใจไหลหลากจากต้นธาร
กระแสผ่านสองฟากฝากความหมาย
ของไมตรีมีอยู่มิรู้คลาย
ตลอดสายธารใจในสัมพันธ์
ล่องร.เรือเมื่อกระแสแผ่ล้นจิต
ร้อยชีวิตด้วยไม้ผัดร่วมจัดสรร
จับก.ไก่ใส่เรือมาด้วยกัน
กลางกระแสใจนั้นก็คือ..รัก..
มิเคยค้นว่าเมื่อใดที่ใจซึ้ง
รู้เพียงหนึ่งความหมายที่แน่นหนัก
คือรักเธอ ..รักเธอ ..และรัก รัก
ยินยอมภักดิ์และพลีด้วยชีวา
ฉันจะอยู่ตรงนี้หรือที่ไหน
โปรดจำไว้ว่าฉันปรารถนา
ให้เธอเป็นดังเช่นดวงดารา
ประดับฟ้าแห่งสุขไร้ทุกข์ภัย
ธารน้ำใจรินไหลจากใจฉัน
เติมใจให้เธอนั้นอย่าหวั่นไหว
หนุนประคองเรือลอยอย่าน้อยใจ
พร้อมมอบให้มวลมิตรนิจนิรันดร์
13 กุมภาพันธ์ 2548 20:28 น.
พี่ดอกแก้ว
พายุใหญ่ไล่ล่ามาคลุ้มคลั่ง
ร้องหวีดดังทั่วไปในแรงหวน
ไม้บางต้นกิ่งหักเสียงคร่ำครวญ
บางต้นเพียงร่างซวนโอนเอนไกว
ในพายุเดียวกันนั้นต่างผล
เหมือนดั่งคนมีกรรมนำผลักไส
มีความหนักและเบาต่างกันไป
แม้นอยู่ในเหตุการณ์งานเดียวกัน
บางคนถึงลิขิตชีวิตฆาต
บ้างแขนขาเพียงขาดร่างแปรผัน
บ้างสูญทรัพย์เพิ่มหนี้ถูกกดดัน
บ้างเสียขวัญหวั่นใจในภัยพาล
อะไรหรือคือเงื่อนไขให้แตกต่าง
คือกรรมที่เคยสร้างในสังสาร
บาปครั้งเก่าไล่ล่ามารุกราน
ตามกำลังกิเลสมารที่ทำมา
ทัวร์ฉิ่งฉับนับร้อยไร้รอยข่วน
บางขบวนตายสยองต้องกังขา
เรือบางลำคว่ำล้มจมธารา
บางชีวาปลอดภัยไม่ปลิดปลง
อย่าประมาทเวรกรรมว่าทำน้อย
หากทำบ่อยกำลังมีปรี่ประสงค์
ตบยุงวันละตัวอย่างบรรจง
ครบหนึ่งปีเวียนวงหลายร้อยตัว
เมื่อฆ่าเขาเราจึงต้องถูกฆ่า
หากเศษกรรมตามมาถึงเงาหัว
ต้องเจ็บป่วยพิการพาลหม่นมัว
อายุสั้น...คือตัวอย่างผลกรรม