29 มกราคม 2548 22:17 น.
พี่ดอกแก้ว
ดาวดวงนั้น...เธอฝันจะไปถึง
และฝังตรึงความหวังในจุดหมาย
วาดโครงร่างเพริศแพร้วแววประกาย
สุขไม่คลายในหวังตั้งใจปอง
หลายเดือนปีคงมีแต่ความหวัง
โครงการยังไม่เริ่มเพิ่มสนอง
ไร้กำหนดจรดงานสานครรลอง
ได้แต่มองดวงดาวไม่ก้าวเดิน
เหมือนอยากรวยติดอันดับรับเงินล้าน
มีทรัพย์สินล้นพานเทียมเขาเขิน
แต่นอนวาดวิมานฝันหวานเพลิน
ทั้งมองเมินทำมาหาเลี้ยงตน
แม้นเป้าหมายวางไว้อย่างสูงค่า
มิใช่สิ่งบ่งว่าจะสบผล
ด้วยมิอาจวัดคุณภาพคน
ว่าพากเพียรอดทนมากเพียงไร
เหมือนความดีที่หมายจะได้ดี
เรียนเพียงทฤษฎีได้ไฉน
ต้องเริ่มฝึกที่กายวาจาใจ
หาเพียงใช่แม่นหลักการอ่านหลักธรรม
แผ่เมตตาอย่าว่าค่าน้อยนิด
หมั่นฝึกจิตคลายโกรธโทษถลำ
บริจาคแม้น้อยตั้งใจทำ
กุศลจักน้อมนำให้เปี่ยมแรง
คือก้าวแรกแยกชีวิตให้คิดถูก
เริ่มฝังปลูกบันไดไปหาแสง
บำเพ็ญไตรสิกขาไม่คลางแคลง
ประจักษ์แจ้งจุดหมายได้สักวัน
28 มกราคม 2548 14:29 น.
พี่ดอกแก้ว
เยื้องกิ่งงามยามลมพรมพลิ้วไหว
ช่อดอกไกวกลิ่นหอมย้อมนาสา
พิศลำต้นมั่นคงตรงกายา
คำนึงย้อนเวลาที่ดูแล
เริ่มจากความห่างเหินเมินดวงหน้า
รอยยิ้มพาเพาะมิตรจิตแยแส
ผูกไมตรีบางเบาราวเนื้อแพร
แล้วผันแปรเป็นใยในสัมพันธ์
คอยดูแลแผ่สุขปลุกใจชื่น
ชี้ชวนให้เริงรื่นยามโศกศัลย์
ดั่งฟูกฟักกล้าน้อยใต้ตะวัน
ให้ดำรงพืชพันธุ์อย่างแข็งแรง
หลั่งน้ำใจรินรดจรดโคนไม้
กลบเพลิงร้อนความร้ายที่แอบแฝง
ใต้ผืนดินสิ้นทุกข์ที่รุกแซง
กลบความแล้งของมิตรให้จิตดี
หลั่งน้ำคำย้ำทวนให้หวนคิด
ผลัดกันลิดก้านยื่นฝืนวิถี
อาจดูเหมือนรุนแรงในบางที
แต่วจีจริงใจไร้เล่ห์กล
ผ่านทิวาราตรีที่นานเนิ่น
ร่วมทางเดินฝ่าไปในทุกหน
อาจเบาะแว้งแกล้งว่าเข้ามาปน
ก็คือคนและคนมาคบกัน
จวบวันนี้จึงอยู่เป็นคู่มิตร
ผ่านวิกฤตทดสอบใจไม่แปรผัน
หยั่งรากแก้วยืนยงคงสัมพันธ์
คือชีวันผู้โชคดีที่มีมิตร
20 มกราคม 2548 21:34 น.
พี่ดอกแก้ว
เรือนหลังงามถูกตามองค์ประกอบ
ต้องรอบคอบจากฐานที่แน่นหนา
ทั้งพื้นเรือนเรื่อยไปถึงหลังคา
ควรตีตราแข็งแรงแสดงตน
รูปโครงสร้างสมดุลทุ่นน้ำหนัก
มีเสาหลักปักตรึงถึงพื้นหน
ในแนวตั้งฝังรากสู่เบื้องบน
และแนวนอนผ่อนปรนด้วยเสริมคาน
เพื่อให้เรือนคงร่างสร้างเป็นหลัง
ไม่ล้มพังเอียงแตกแยกจากฐาน
สิ่งสำคัญต้องประกอบด้วยตัวคาน
รับน้ำหนักชั้นบ้านและหลังคา
เหมือนความดีที่เพียรสู่เป้าหมาย
ปูพื้นศีลเรียงรายอย่างแน่นหนา
ลงขันติเสาหลักในมรรคา
มีอินทรีย์ทั้งห้าเป็นคานรอง
พร้อมศรัทธาเพียรไปใฝ่ระลึก
ตั้งมั่นตรึกเพื่อละชนะหมอง
รู้เว้นบาปกระทำบุญสร้างทุนทอง
อินทรีย์คือคานรองเรือนยอดงาม
บ้านทั้งหลังจึงยังเด่นสง่า
มีหลังคาความดีที่ล้นหลาม
ตั้งบนคานอินทรีย์ที่แกร่งนาม
สมบูรณ์ความเป็นเรือนเหมือนความดี
18 มกราคม 2548 13:02 น.
พี่ดอกแก้ว
ภาพของคนนิ่วหน้าคราร้อนรุ่ม
เพราะกลัดกลุ้มเรื่องโกรธถูกโทษขึง
ทั้งอากาศปรวนใจให้เครียดตรึง
อีกหน้าบึ้งพราะฤทธิ์พิษโรคภัย
มีภาระล้นบ่าหลากมาซ้ำ
ยิ่งตอกย้ำความอดทนจนหวั่นไหว
ความเครียดจากภายนอกและภายใน
หรือโรคภัยไล่ล่ามาเหลือทน
บางครั้งเขาเบื่อมิตรที่ชิดใกล้
ด้วยจิตใจไม่พร้อมแจงเหตุผล
เพราะมุ่งหวังรักษาจิตดับพิษตน
จึงเหมือนคนเจ้าอารมณ์ขมวาจา
หากพบใครคนนี้ที่ขมฝาด
อย่าได้สาดอารมณ์ใส่โทสา
ควรเห็นใจให้โอกาสและเวลา
สงบคำเจรจาอย่าชวนตี
เพราะปัญหา อากาศ และอาการ
คือเหตุพาลมาพร้อมเพื่อย้อมสี
ให้คนป่วยยิ่งป่วยจิตพิษทวี
มิตรชิดใกล้ต้องมีหลักของใจ
อย่าซ้ำเติมเพิ่มปัญหาพาหงุดหงิด
รอสักนิดรอนาทีที่สดใส
เมือหน้านิ่วคิ้วขมวดนั้นคลายไป
ค่อยสานใยวจีมีเยื่องาม
เมื่อทุกฝ่ายเริ่มพร้อมยอมพบพักตร์
สายสัมพันธ์แห่งรักจักไหลหลาม
อย่าหักพร้าด้วยเข่าไม่เข้ายาม
จักถึงความแตกใจไม่เหมือนเดิม
14 มกราคม 2548 09:32 น.
พี่ดอกแก้ว
กว่าจะเป็นเม็ดฝนหล่นจากฟ้า
ผ่านเวลากระบวนกวนสสาร
จากละอองบางเบาเคล้าควบนาน
จึงหลั่งเป็นสายธารสู่พื้นดิน
หยาดหยดไปไม่เลือกเทือกเถาไม้
พรมโปรยปรายไม่เว้นเช่นผาหิน
พร่างละอองทุกหยดเพื่อรดริน
อำนวยสินธุ์สิ้นตนบนฟ้าไกล
ดั่งครูบาอาจารย์ท่านเพียรสอน
ทุกบทตอนผดุงปรุงวิสัย
ทุ่มเทด้วยชีวิตและจิตใจ
หวังเพื่อให้ศิษย์ตนพ้นกันดาร
กว่าจะเขียนกอไก่ได้งามงด
ครูต้องจรดแก่นตรึงถึงรากฐาน
จับมือเขียนเพียรฝนจนเชี่ยวชาญ
สร้างตำนานกอไก่ใส่ลายมือ
กว่าจะรู้ผิดชอบกอปรวิชา
ท่านค้นคว้าเพื่อให้ไม่ยึดถือ
ทั้งแนะนำจี้ไชให้ฝึกปรือ
บางหน้าคือครูร้ายไล่โง่งม
กว่าจะรู้เส้นทางสร้างความดี
ครูต้องมีอุบายให้เหมาะสม
ตามจริตจิตใฝ่ในอารมณ์
ผ่านทุกข์ตรมมาก่อนจึงสอนการ
ต่างจากศิษย์ผู้เป็นเช่นพืชพันธุ์
บ้างเหนือชั้นรับฝนจนแตกฉาน
บ้างเป็นเพียงหัวตอไร้พุ่มพาน
แม้นรับฝนที่ซ่านจากฟ้าเดียว
กราบบูชาวันทาครูค่ะ
พี่ดอกแก้ว