25 สิงหาคม 2547 17:45 น.
พี่ดอกแก้ว
ก้าวที่ผ่าน ยิ่งนาน ยิ่งเมื่อยล้า
แสงแดดกล้า แผดเผา เข้าขุมขน
เสียงของพ่อ ยังก้อง ในกมล
อยู่ที่ตน หาใช่ ใครทำลาย
ความเจ็บช้ำ ลวงหลอก และกลอกกลิ้ง
หาใช่สิ่ง สำคัญ ควรมั่นหมาย
ใจของตน นั่นแหละ ไม่สบาย
จึงแพ้พ่าย คิดไม่ทัน ตันปัญญา
ไม่มีใคร ทำร้าย ใจใครได้
อย่ากล่าวโทษ ผู้ใด สร้างปัญหา
ดูตนเอง และพิเคราะห็์ ให้เหมาะตา
เป็นเวรกรรม ทำมา พาถึงตัว
บางครั้งคำ พูดที่ มีความลวง
หาใช่หมาย ทำบ่วง แกล้งปั่นหัว
เพราะเขาอาจ เกรงใจ และเกรงกลัว
หรือเขาอาจ หวังดีทั่ว กลัวเกรงใจ
เหมือนกับพ่อ ล่อหลอก บอกลูกรัก
อย่าดื้อนัก เดี๋ยวคนบ้า จะหมั่นไส้
อย่าร้องไห้ เดี๋ยวตุ๊กแก กินตับไต
อย่าออกไป เที่ยวเล่น ผีเห็นตัว
คำบางคำ เปี่ยมไซร้ น้ำใจจริง
อาจผิดพลาด บางสิ่ง อย่าหนักหัว
มองให้ถึง เจตนา อย่าเมามัว
ตัดดีชั่ว แค่คำพูด พิสูจน์คน
คำบางคำ พูดพล่อย ด้อยสติ
และดำริ แต่อธรรม ไม่นำผล
จงพินิจ พิจารณา ในคำคน
เพ้อเจ้อหรือ เปี่ยมล้น ด้วยน้ำใจ
จะหนีไป แห่งใด ก็ใจเจ้า
สุขและทุกข์ ยังเร่งเร้า ตามไปได้
เพราะรู้สึก นั้นเกิดขึ้น ที่จิตใจ
อย่าผลักไส เพราะโทโส และโกรธา
ไม่มีใคร รังแกใคร ให้เจ็บจิต
เจ้าจงจำ และขบคิด ให้ดีหนา
เมื่อจะจาก พ่อไป อยู่ไกลตา
จงรักษา ไมตรีจิต ในมิตรดี
อย่าใจเบา คลุกเคล้า แต่คำหวาน
เพราะยาพิษ เคลือบน้ำตาล มีมากสี
อย่าขมใจ ผลักไส คำพูดดี
แม้จะมี ไม่น่าฟัง จงตั้งใจ
ฝึกหัดตน ให้หลุดพ้น จากความโกรธ
ความมัวเมา เฉาโฉด และเหลวไหล
กตัญญู รู้ค่า ในน้ำใจ
ของผู้ให้ ทุกๆคน บนเส้นทาง
23 สิงหาคม 2547 23:52 น.
พี่ดอกแก้ว
วันที่เธอสุขกายสบายจิต
ฉันคือมิตรที่อยู่ไกลไม่เห็นหน้า
คอยฟังข่าวความสุขเธอเรื่อยมา
ยินดีกับชีวาที่เปรมปรีดิ์
วันใดที่เมฆหม่นบนท้องฟ้า
ความสุขที่มีมานั้นหลีกหนี
อย่ายอมแพ้แก่ฟ้านะคนดี
แสงต้องมีส่องฉายได้สักวัน
ฉันส่งใจมาให้พร้อมสายลม
ยามขื่นขมหมองหมางอย่าห่างฉัน
ฉันจะปัดเมฆหมอกและม่านควัน
ให้ฟ้านั้นแจ่มแสงแห่งทิวา
หากวันที่มีน้ำตาจนพร่าเลือน
ยังมีเพื่อนคนนี้ที่ห่วงหา
พร้อมจะกลับมาเคียงทุกเวลา
ซับน้ำตาปลอบใจให้เหมือนเดิม
23 สิงหาคม 2547 05:58 น.
พี่ดอกแก้ว
เดินมานานผ่านวันอันรวดร้าว
แต่ละก้าวเปี่ยมแรงแห่งความหวัง
กำหนดทิศลิขิตทางอย่างจริงจัง
หมายไปยังดวงดาวที่พราวพรรณ
ไม่รั้งรอขอร้องกองโชคเสริม
มุ่งตนเพิ่มเข้มแข็งแรงมหันต์
ทุกนาทีที่ผ่านกาลคืนวัน
เพียงบากบั่นด้วยตนบนผองภัย
ในบางคราวก้าวล้าคราเหนื่อยหนัก
อยากพิงพักกายผ่อนนอนหลับไหล
เหลียวหาคนเคียงข้างบนทางไกล
เหม่อมองไปไร้เพื่อนช่างเลือนลาง
ใจวูบวับลับแสงแห่งความหวัง
หลายหลายครั้งพ่ายตนจนหม่นหมาง
อยากลบดาวความหวังที่ปลายทาง
แรงต่อสู้เจือจางจากหัวใจ
เมื่อคร่ำครวญหวนไห้จึงได้คิด
หนึ่งชีวิตต้องต่อสู้และแก้ไข
อุปสรรคคือผู้มาเตือนภัย
หากไม่ก้าวต่อไปต้องอัปปาง
สร้างความหวังพลังใจในวงล้อม
ดั่งเบ้าหลอมความแกร่งแห่งเรือนร่าง
งามตามพิมพ์นักสู้ผู้กู้ทาง
แกะแบบวางข้างดาวเข้าครองชัย
21 สิงหาคม 2547 07:58 น.
พี่ดอกแก้ว
เผลอไผลฟังระฆังหวานกังวานแว่น
จับจิตแล้วเสียงใสใจประสาน
ท่วงทำนองต้องมนต์จนลืมวาร
อยู่กับกาลฝันใฝ่ในฤดี
มีเสียงบอกหยอกเย้า....รักเท่าฟ้า
แว่วกระซิบพร่างพร่าไม่หน่ายหนี
ที่ริมโสตสดับซึ้งตรึงวจี
จับใจนี้จองจำคำว่ารัก
สร้างวิมานผ่านอากาศวาดสวนศรี
ล้อมชีวีสราญปานตำหนัก
มีแต่สิ่งงดงามยามพิงพัก
มายารักดุจม่านพลิ้วปลิวบังตา
ครารักโรยโหยไห้ใจครวญคร่ำ
ความระกำโทรมใจให้ไร้ค่า
นึกถึงคำเคยฟัง...หลั่งน้ำตา
อดีตพาเล่นละครยอกย้อนใจ
เสียงผ่านหู....รู้ความหมายในคำกล่าว
เกิดเรื่องราวต่อความยามขานไข
ปรุงแต่งความรู้สึกขึ้นที่ใจ
แล้วบอกไปว่าวาบหวานซ่านฤดี
ที่เกิดเหตุเลศนัยไปทุกสิ่ง
ก็เพราะใจไม่รู้จริงในเสียงสี
ยึดติดรูปและเสียงที่มากมี
ชอบไม่ชอบ...เพราะใจนี้ตัดสินความ
โลกจึงจมด้วยทุกข์ปลุกไม่ตื่น
เพราะไม่ฝืนฝึกใจใฝ่คำถาม
รูปและเสียงผ่านมาเพียงชั่วยาม
แต่ใจกลับติดตามยึดติดตน
17 สิงหาคม 2547 09:51 น.
พี่ดอกแก้ว
เมื่อกำเนิดเกิดมาเป็นมนุษย์
ประเสริฐสุดเกินสัตว์ในสงสาร
มีบุญมากยากสัตว์ใดมาเปรียบปราน
เทพประทานทุกสิ่งให้เรามา
เรามาพร้อมกายใจเหมือนใครอื่น
เรายังตื่นมองโลกไม่กังขา
ทุกสิ่งอย่างเรารู้เห็นตลอดมา
ต้องรับว่าเขาก็เป็นเช่นกับเรา
ทุกคนพบความแปรเปลี่ยนในชีวิต
ทุกคนคิดหาทางแก้ปัญหา
ทุกคนดิ้นต่อสู้เพื่อชีวา
เพียงแต่ว่าบ้างประสบพบทางดี
แล้วใยเราต้องมาท้อแท้จิต
ใยต้องคิดติดลบจนหมองศรี
ใยต้องเศร้าเหงาใจให้ราคี
ใยต้องหนีความจริงสิ่งต้องเจอ
รีบลุกขึ้นค้นหาชีวิตใหม่
เตรียมจิตใจไว้สู่อย่ามัวเผลอ
ให้เข้าใจความจริงอย่าละเมอ
สิ่งที่เจอมีทางแก้แน่นอนจริง