28 เมษายน 2547 23:41 น.
พี่ดอกแก้ว
หากเป็นเช่นแผ่นดิน
ไม่ถวิลเป็นสิงขร
ทำตนไร้ที่ดอน
เป็นลุ่มราบเพื่ออาบธาร
รสแห่งพุทธธรรม
จะน้อมนำให้สุขศานติ์
ไร้แล้งแห้งกันดาร
เพราะสิ้นการอหังการ์
อ่อนโยนโอนอ่อนน้อม
กายใจพร้อมไม่ถือสา
กับผู้คนนานา
ที่ล่วงเกิน..เจริญใจ
วางตนบนความจริง
ไม่ชังชิงหรือเกลียดใคร
ความเย็นจะรินไหล
สู่ใจไร้ความถือตน
28 เมษายน 2547 11:57 น.
พี่ดอกแก้ว
สายน้ำคำรินรื่นชื่นโสตสันต์
สายสัมพันธ์งดงามตามห้วงหน
กระชับมิตรสนิทแน่นแก่นกมล
ด้วยคำจริงเลิศล้นสุจริตใจ
สายน้ำใจไหลหลั่งพรั่งสู่สัตว์
ที่ถูกทุกข์บีบรัดจนหม่นไหม้
ธรรมธาราราดรดปลดทุกข์ภัย
ชำระใจคลายโศกวิโยคตรม
สายธารแห่งเมตตาพาพบสุข
ธรรมวาทีปลอบปลุกให้คลายขม
มีดวงตาสว่างไสวในภาพชม
ไม่หลงลมเหลิงทางร้างปัญญา
28 เมษายน 2547 11:50 น.
พี่ดอกแก้ว
หากชีวิตคือเรือเมื่อล่องลอย แต่ละคนต่างคอยถึงจุดหมาย
ต้องพบกับคลื่นกรรมหลากลวดลายต่างวาดพายเพื่อพ้นหนทางเรือ
คลื่นครอบครัวม้วนตัวให้เรือต้าน คลื่นการงานโถมใส่ไล่หางเสือ
คลื่นความคิดสะกิดลมให้จมเรือ คลื่นสังคมบ่มเอื้อให้เรือวน
ต่างชอกช้ำบทกรรมในเกลียวคลื่น ต่างหาผู้หยิบยื่นช่วยฝ่าหน
ต่างหมายจ้องจังหวะฝ่าสายชล ต่างเร่งค้นสร้างเรือเพื่อแข็งแรง
มุ่งสร้างทางสร้างตนบนโอกาส มุ่งหวังวาดชีวีมีสีแสง
มุ่งศึกษาความจริงสิ่งสำแดง มุ่งหลีกความขัดแย้งไม่เปลืองใจ
ยิ่งศึกษารู้ว่าชีวิตนี้ ยิ่งมากมีเหตุผลบนวิสัย
ยิ่งรู้ค่าขณะจิตมีพิษภัย ยิ่งพลั้งไปง่ายดายในบ่วงมาร
จึงต่างนำเรือตนให้พ้นพิษ จึงลิขิตทางใหม่ให้สุขศานต์
จึงหลีกเร้นเป็นเรือเหนือคลื่นพาล จึงพ้นความชอกช้ำไม่ย้ำทาง
ตามสำเภาลำทองของผู้เลิศ ตามทางมรรคประเสริฐและกว้างขวาง
ตามทางเดียวเกลียวแปดแห่งสายกลาง ตามทางแห่งผู้สร้างประสบชัย
28 เมษายน 2547 11:39 น.
พี่ดอกแก้ว
ผลัดและพรากจากไปในคิมหันต์
มนต์วสันต์พลันพร่างร่างเป็นสาย
สุขและทุกข์มีเกิดมีมลาย
อยู่ไม่นานก็พลัดพรายเพราะหมดแรง
แม้นลมร้อนเริงร่าท้ากายกร้าน
ร้อนไม่นานสานแดดที่แผดแสง
ใบกรอบเกรียมเปี่ยมน้ำตาลพาลจัดแจง
โรยร่างแฝงพื้นดินสิ้นฤดู
สายวรรษาพาผลิริเริ่มสร้าง
ไม้โรยร้างเริ่มใหม่ให้เรียนรู้
ผิดพลั้งไปในอดีตขีดเป็นครู
ฝึกฝนซ้ำไปสู่ความยอดคน
ร้อนจักคลายหายร้อนย้อนรอยแล้ง
สลับแสงอุษาฝ่าสายฝน
ชุบใจจินต์สิ้นฝืนคืนกมล
เป็นนักสู้อีกหนบนสังเวียน
25 เมษายน 2547 21:05 น.
พี่ดอกแก้ว
ดอกบัวสี่เหล่านั้น..............เปรียบชน
แตกต่างสันดานคน...........แบ่งขั้น
เหล่าแรกมากหลากล้น......ปัญญ์เปี่ยม
ลดหลั่นเหล่ารองชั้น..........ยิ่งน้อยปัญญา
โปรดธรรมนำหลักน้อม......อบรม
ผู้ยิ่งปัญญาคม....................มอบให้
ประโยชน์เลิศเลอสม..........เปี่ยมสุข
ทรงมอบธัมมจักรไว้...........ตัดสิ้นกงกรรม
เหล่าผู้ด้อยกว่านี้...............ทรงสอน
พากเพียรพึงสังวร.............เพื่อสร้าง
ประโยชน์สถาพร...............ชาติอื่น
สะสมเสบียงบ้าง..................ไม่ร้างทุนรอน
เหล่าผู้รู้เรื่องน้อย...............ปัญญา
ให้สุจริตวิชา......................ชีพเกื้อ
ทานศีลภาวนา...................สร้างสุข
ปัจจุบันประโยชน์เอื้อ..........เพื่อเว้นบาปเวร
บุญบอกลำดับชั้น................เชิงกรรม
เปี่ยมพร้อมปัญญาธรรม......จักให้
ผลมากกว่าเพียงทำ.............ตามอื่น
แม้นไม่หวังใดไซร้.............เหตุให้ผลตาม