23 เมษายน 2547 00:38 น.
พี่ดอกแก้ว
รัตติกาลเคลือบแคลงแสดงเหตุ
ถึงนัยเลศผู้บาปในคาบค่ำ
ชอบช่วงชิงใหญ่ยิ่งใฝ่กระทำ
ใช้เล่ห์กรรมมายามาลวงคน
อย่าเร่งร้อนผ่อนใจให้เย็นนิด
มาครวญคิดอีกหน่อยสักร้อยหน
พระศาสดาตรัสแจ้งแสดงกล
ถึงเหตุผลเสื่อมกาลประหารธรรม
เพราะมนุษย์มิหยุดความชั่วช้า
ยิ่งเวลามาก พ.ศ.ก่อถลำ
คนดีจะลดน้อยถอยจากนำ
ปลีกถือธรรมเดินดงไม่คงเมือง
คนชั่วช้าจักมาครองความใหญ่
สร้างนิสัยนิยมผิดให้คิดเฟื่อง
ผิดเป็นถูกปลูกใจคนทั้งเมือง
และสร้างเรื่องเชิดตนบนอุบาย
ที่ทำได้คือสู้ไปในทางตรง
ด้วยใจจริงอย่างมั่นคงและสืบสาย
ตามอำนาจหน้าที่ไม่เกินกาย
อาจมลายหากเกินตนผลพิษภัย
แล้ววางใจในสิ่งที่ทำแล้ว
คือใจแก้วแน่วแน่คิดแก้ไข
และจะมีผปรากฏประการใด
ต้องยอมรับด้วยใจนักสู้จริง
สุดฝีมือ...คือแค่นี้ที่ทำได้
แล้ววางใจยอมรู้ดูทุกสิ่ง
ที่เกิดขึ้นในตนไม่เอนอิง
พักใจให้สงบนิ่งเพิ่มพลัง
แล้วค่อยหาทางสู้กู้ต่อไป
หากไม่สิ้นชีวิตไซร้อย่าไร้หวัง
ทำเพื่อสาธารณะด้วยพลัง
และจงตั้งใจรักษ์ตนให้พ้นภัย
23 เมษายน 2547 00:33 น.
พี่ดอกแก้ว
ราตรีกาลผ่านไปไม่เคยรั้ง
จะหยุดยั้งรอใครในโลกฝัน
ต่างต้องตื่นมาพบสบตะวัน
เพื่อแบ่งปันชีวาครารุ่งราง
เสียงไก่ขันผันแว่วแก้วเสียงใส
กระจ่างไพรคอยรอคลอฟ้าสาง
ปลุกชีวิตจิตใจให้กู้ทาง
เมื่อสว่างอีกครั้งตั้งชีวี
สู้ต่อไปอย่าให้ใจหม่นเศร้า
มีรอยเงาลบเลือนเปื้อนราศี
สว่างนอกสว่างในใจที่ดี
เปล่งแสงสีสัจธรรมนำหมู่ชน
คนเดินดินจะยินเสียงกล่อมใจ
จากพระธรรมนำชัยไปทุกหน
แม้คลี่คลุมสุมทุกข์ที่รุกตน
ยังคงฉ่ำกมลมีเพื่อนใจ
แม้นราตรีมีเพียงแสงดาวน้อย
ไม่เลื่อยลอยไปตามความหวั่นไหว
คงตั้งมั่นฟันฝ่าหาเส้นชัย
ว่าวันหนึ่งจักได้แสงส่องทาง
เพื่อให้โลกหมดโศกและเศร้าซม
ความช้ำตรมอาลัยในหมองหมาง
ความหดหู่หม่นไหม้ใจเลือนลาง
จะพ่ายแพ้ความสว่างจากแสงธรรม
23 เมษายน 2547 00:29 น.
พี่ดอกแก้ว
เรือเพลี่ยงเลี่ยงคลื่นลม
ไม่ยอมจมใต้สายธาร
ขับฝ่าอย่างกล้าหาญ
แม้นพบพานพายุใจ
แล่นไปแม้นไร้ทิศ
กลับลิขิตทิศขึ้นใหม่
ไปตามแผ่นฟ้าใส
แม้นไร้ใครมาเหลียวแล
22 เมษายน 2547 23:24 น.
พี่ดอกแก้ว
พลัดพรากจากสิ่งคุ้น ........เคยเรียง
คอนที่เคยร่วมเคียง...........ห่างเหย้า
คือเศษแห่งกรรมเพียง......นิดหน่อย
จากเหตุเคยพรากเค้า........เนิ่นแล้วนานกาล
กักขังเพราะเหตุด้วย.........เบียดเบียน
สิ้นอิสระเวียน..................ฟากฟ้า
อาหารที่คลื่นเหียน...........ผิดปาก
วิบากท่วมทับหล้า ...........ไม่พ้นผลกรรม
ปล่อยสัตว์เพื่อช่วยให้.......พ้นขัง
คือกุศลประดัง.................อีกข้าง
ผู้ทำที่มุ่งหวัง ..................เพื่อสุข
มอบอิสระสร้าง................แก่ผู้ถูกเบียน
คนก่อเวรเพื่อได้...............ตัวเขา
วางข่ายเพื่อหมายเอา........นกได้
คือผู้ล่วงบาปเคล้า............คลอจิต
ทุจริตชีพไซร้...................ไม่ช้าคืนสนอง
22 เมษายน 2547 16:16 น.
พี่ดอกแก้ว
หลายชนิดจิตมนุษย์ดุจเหล่าบัว
ผู้ลืมตัวจมกายในตัณหา
คือรากเหง้าอุบลก้นธารา
อวิชชามอมเมาเขลาชีวี
มีกายหยาบใจบาปคราบทรามนัก
อกุศลแน่นหนักรักบัดสี
ดุจแมงเม่าเริงร่าเปลวอัคคี
มิรู้ดีเท่าใดก็วายปราณ
อีกเหล่าบัวกลัวภัยหมายใจพ้น
กออุบลเป็นใบใช่อาหาร
ของเต่าปูอยู่ใต้เบื้องบาดาล
แม้จักใช้เวลานานก็ตั้งใจ
เหล่าที่สามงามมนุษย์ชุดสำรอง
อยู่ปริ่มคลองน้ำขุ่นวุ่นวิสัย
ใกล้มนุษย์ชุดธรรมาธิปไตย
มีบทกรรมนำใจในทางดี
เหล่าที่เลิศประเสริฐคนบัวพ้นน้ำ
คลี่กลีบตามลำแสงพระชินสีห์
เพียงแผ่วผิวกระทบไอสุรีย์
บานเต็มที่กลางบึงตรึงฤทัย