25 กันยายน 2546 23:10 น.
พี่ดอกแก้ว
ริมระเบียงเคียงกันวัน..ฝนพรำ
ช่างสุขล้ำมอง..ฝนหล่นเป็นสาย
พรมใบพฤกษ์ผนึกฝันวัน..ฝนปราย
ฉากนิยายเริ่มต้นเมื่อ..ฝนโปรย
หมายจะปลูกไม้งามยามชื้นฝน
ลงบนเนื้อกมลมิแห้งโหย
พันธุ์แห่งรักคงงามอยู่มิรู้โรย
ความหวังโบยบินไปตามใจตรา
พลันฟ้าฟาดสาดแสงอัสนี
ฝันที่มีเปลี่ยนฉากพร้อมฟากฟ้า
คงต้องเตรียมรับมือกับธารา
พายุกล้าน้ำนองครองปฐพี
พักพันธุ์เพาะเหมาะใจไว้ตรงนั้น
ภาระอันยิ่งใหญ่อยู่ตรงนี้
คือเตรียมบ้านเตรียมงานไว้ให้ดี
แล้วค่อยคิดอีกทีเรื่องพืชพันธุ์
แม้นสิ้นฝนพ้นฟ้าซาเม็ดแล้ว
ยังแน่แน่วเติมต่อก่อเรือนขวัญ
ลืมหัวใจฝากไว้ให้แก่กัน
ล่วงคืนวันพันธุ์ฝ่อระย่อกาย
กว่าจะรู้คู่ช้ำระกำจิต
กว่าจะคิดถึงกันนั้นเมื่อสาย
กว่าจะซับน้ำตาที่พร่าพราย
เมื่อร่างหนึ่งวอดวายกลางไฟราญ
24 กันยายน 2546 06:38 น.
พี่ดอกแก้ว
คราวที่รักฉ่ำใจในวันก่อน
ถ้อยสุนทรไพเราะเสนาะขวัญ
ป้อนคำถามห่วงหาสารพัน
แม้นห่างกันเพียงน้อยคอยห่วงใย
ดั่งสายฝนพรั่งพรูสู่ผืนหล้า
ดับความล้าคราร้อนผ่อนแสงไข
ให้ไพรพฤกษ์ร่มเย็นไร้เข็ญใจ
มอบธารายิ่งใหญ่แก่ลุ่มดิน
คราวที่คลายลายรักเลิกถักสาน
ความกันดารคืนแดนแค้นใจสิ้น
ถ้อยวจีมีอารมณ์ที่ขมลิ้น
ธาราหยุดหลั่งรินระแหงใจ
กลายเป็นดินขรุขระขยะสุม
ไร้ม่านน้ำมาคลุมบังตาไว้
ใจดวงงามหยามกันไม่พรั่นใคร
จากน้ำกลายเป็นไฟกับเชื้อเพลิง
24 กันยายน 2546 00:25 น.
พี่ดอกแก้ว
พสุธาหวั่นไหวใจหวั่นหวาด
กลัวพินาศขาดชีวินสิ้นอาสัญ
บ้านสะเทือนเตือนสัญญาณสะท้านพลัน
ขาดสติริทันต่ออารมณ์
เป็นตัวอย่างทางชีวิตให้คิดรู้
ชีวิตอยู่ไม่ปลอดภัยใจขื่นขม
ไม่มีหนี้ไม่มีโรคให้โศกตรม
แต่ก็ต้องระทมเพราะแผ่นดิน
หากกรรมดีมีสร้างอย่างเมตตา
บุญจักต้องนำพาอย่าถวิล
ธรรมชาติแสดงตนให้ยลยิน
ดุจดั่งสินธุ์มีคลื่นระรื่นพราย
รักษาใจให้สงบพบความนิ่ง
ทุกทุกสิ่งมีต้นตอให้สืบสาย
อันสุขทุกข์นั้นคือผลในเบื้องปลาย
เหตุมากมายอดีตนั้นฉันทำเอง
22 กันยายน 2546 12:22 น.
พี่ดอกแก้ว
ทองเนื้อแท้แม้หลอมกี่ร้อยครั้ง
ความเปล่งปลั่งยังคงอยู่มิรู้ร้าง
แม้นจมดินถิ่นโคลนโดนอำพราง
น้ำมาล้างก็งามงดจรดค่าคุณ
พุทธธรรมนำใจให้ผ่องแผ้ว
อาจมีแววนอกรีตมากรีดหมุน
ให้ดูเหมือนด้อยค่าราคาทุน
ยุให้วุ่นวายชนคนสังฆา
ก็เป็นเพียงเหตุการณ์ให้ขานกล่าว
มิได้ลบอะคร้าวพระศาสนา
ยังสถิตย์ค่าในรัตนา
สร้างสุขได้ทุกเวลาไม่หมองมน
ผู้เดินตามความดียังมีมาก
แม้นลำบากเขาเหล่านั้นยังบั่นหน
ไม่เกรงหนามขามเกี่ยวเหนี่ยวเนื้อตน
เพราะเปี่ยมล้นกตัญญุตาพระพุทธองค์
22 กันยายน 2546 12:15 น.
พี่ดอกแก้ว
ห้วงหุบผาพาใจให้ไหวหวั่น
มีหุบเหวมากั้นระหว่างผา
ความสูงเสียดเบียดยอดสิขรา
มีรอยแยกแตกค่าให้ห่างพลัน
กลายเป็นดินถิ่นแดนแสนน่ากลัว
ความสูงชันผันตัวเป็นช่วงชั้น
เหมือนกับความเคลือบแคลงแหนงใจกัน
มาบี้บั่นใจทะนงตรงสองใจ
ให้ห่างเหินเมินหน้าคราปวดร้าว
และแข็งกร้าวต่อกันนั่นไฉน
สร้างแนวผาขีดรอบกรอบฤทัย
ใจสองใจมีช่องว่างห่างฤดี
สานรอยใจด้วยใยรักอีกครั้ง
ลืมที่พลั้งพลาดก่อนผ่อนวิถี
เริ่มต้นให้โอกาสอีกสักที
ขึงสะพานรักนี้เพื่อเชื่อมใจ