8 สิงหาคม 2546 19:59 น.
พี่ดอกแก้ว
วาดวิมานบนลานทรายใต้ตะวัน
ที่ลดหลั่นองศาคราฟ้าหมอง
ใกล้เวลาสิ้นไร้ลำแสงทอง
สายตาจ้องแสงพรายที่ฉายมา
ช่างเยือกเย็นดวงใจไม่เร่าร้อน
ทอดกายนอนกับพื้นทรายเพื่อคลายล้า
เห็นเมฆเคลื่อนเลือนไปกับนภา
ฝูงวิหคเริงร่าท้าลมบน
อยากเสกมนต์ดลให้กลายร่างนี้
เป็นนกน้อยเสรีที่พร้อมขน
ขยับปีกหลีกทุกข์รุกใจตน
ลอยลมบนไปตามทิศที่คิดไป
ไร้ร่องรอยภาระอะไรแล้ว
บินไปตามถิ่นแนวที่กว้างใหญ่
ชมโลกหล้าไม่คราคร่ำกับคำใคร
ปล่อยให้ลมหายใจเข้าเต็มทรวง
แต่ทำได้คือวาดลายนกน้อยน้อย
เกาะกิ่งไม้นิ่งคอยอยู่ริมสรวง
รอวันหนึ่งหมดหน้าที่ใดทั้งปวง
นกจะออกจากรวงสู่เสรี
8 สิงหาคม 2546 19:50 น.
พี่ดอกแก้ว
คำประนามหยามด่าว่าหนักโลก
แลชุ่มโชกสัญญาณป่ามาเคลือบสิง
มิจักตรองครองตามความถูกจริง
ปล่อยให้สิ่งชั่วร้ายร่ายมนต์มาร
ชักพาใจให้ไขว้เขวเซซัดบาป
ต้องเอิบอาบตัณหาอย่างกล้าหาญ
เบียดเบียนชนสุจริตด้วยคิดพาล
เขาจึงขานว่าคล้ายสัตว์ขัดศีลธรรม
อะไรหรือคือความชั่วจริงแท้
ที่ควรแก้เสียใหม่ให้เลิศล้ำ
ใช่อยู่ที่สำนึกแต่ไม่ทำ
เหมือนกับรำดาบวงไม่ลงมือ
ที่ควรแก้แน่แท้กว่าสิ่งใด
คือแก้ไขที่ความคิดติดยึดถือ
รู้จักบาปบุญให้ใจสัตย์ซื่อ
และฝึกปรือเมตตาธรรมมาย้ำใจ
คงมิใช่เพียงประนามหยามผู้ผิด
แต่ควรคิดช่วยเหลือเอื้อแก้ไข
ปลูกสติริชอบกอปรเกื้อใจ
ให้อภัยผู้พลั้งยั้งลงทัณฑ์
เพราะทำชั่วผลชั่วติดตัวแน่
ต้องย่ำแย่ในทุกข์อย่างมหันต์
เพียงชาตินี้ชี้ทางสว่างกัน
ช่วยเขาออกจากทางตันอย่าซ้ำเติม
มีทางเลือกมากมายให้โลกเบา
คือตัวเขาตัวเราช่วยสร้างเสริม
เติมเมตตาลงไปในโลกเดิม
โลกจะเพิ่มความสวยด้วยมือเรา
7 สิงหาคม 2546 12:57 น.
พี่ดอกแก้ว
หลากอารมณ์ชมน้ำตามกระแส
เดี๋ยวเปลี่ยนแปรเดี๋ยวสงบสยบขวัญ
บางทีคลื่นครืนโถมโหมใส่กัน
เป็นพรายพรรณปะทุฟองนองทะเล
บางครั้งนิ่งดิ่งลึกให้นึกหวาด
ทะเลอาจพลุ่งพลันให้หันเห
แล้วพลิกล่มจมลำเรือตังเก
ให้ลอยคอรอเห่หาฝั่งชล
บางคราปลิวพลิ้วคลื่นระรื่นไหว
กระทบทรายเรียงไล่สู่ไม้สน
ปลุกชายหาดให้ฟื้นชื่นกมล
ทะเลดลความงามยามอรุณ
กี่ครั้งคราวร้าวใจในความช้ำ
ก็กลับมาดื่มด่ำและอบอุ่น
มองทะเลเห่ใจให้ละมุน
ทิ้งความเหนื่อยเป็นทุ่นลอยทะเล
7 สิงหาคม 2546 12:48 น.
พี่ดอกแก้ว
ที่ปลายทางสุดท้ายในชีวิต
ไร้มวลมิตรเคียงข้างอย่างเคยใกล้
เหลือแต่ความโดดเดี่ยวอยู่เปลี่ยวใจ
ความอ่อนโยนสิ้นไร้ผู้นำพา
มอบน้ำใจให้ไปไม่เคยหวง
สร้างความดีทั้งปวงเพื่อโลกหล้า
ยังแพ้พ่ายใจคนบนมายา
มิเห็นค่าน้ำใจที่ให้จริง
ได้แต่ปลอบใจตนให้พ้นโศก
ใดในโลกล้วนเปลี่ยนไปทุกสิ่ง
ที่ได้รับได้เห็นความเป็นจริง
เพราะทำสิ่งเหตุไว้ในก่อนกาล
เมื่อเวลาคราเหมาะเพาะให้ผล
กรรมบันดลให้เป็นไปในสังสาร
แม้นทำดีเพียงใดในสันดาน
แต่ผลพาลอดีตกรรมยังตามทัน
วันนี้รับกรรมเก่าอย่างเข้าใจ
แม้นสิ้นไร้เพื่อนเคียงเรียงความฝัน
เพราะรู้ว่าความดีที่ทำนั้น
อนาคตสักวันส่งผลงาม
ที่ปลายทางสุดท้ายในชีวิต
แม้นไร้มิตรเคียงใกล้คอยไถ่ถาม
ยังยืนยันขันต่อก่อนิยาม
สร้างคุณงามฝากไว้ในปฐพี
6 สิงหาคม 2546 21:14 น.
พี่ดอกแก้ว
จรดขอบฟ้ากว้างใหญ่ในผืนหล้า
จรดเขตขอบพสุธาที่ไพศาล
จรดใจฉันมั่นไว้อย่างเนาว์นาน
จรดฤดีนี้ประสานกาลเวลา
แม้นแสนไกลไม่อาจได้พบพักตร์
จะฝากรักไว้ตรงนี้ที่แผ่นหล้า
จะฝากดินให้ถวิลทุกเวลา
จะฝากคำไว้ว่ารักสุดใจ
ระยะทางห่างแค่ไหนไม่สำคัญ
โปรดจำฉันว่ารักเธอเหนือสิ่งไหน
และจะรออยู่ตรงนี้ตลอดไป
ตราบสิ้นลมหายใจจะรอเธอ