13 สิงหาคม 2546 23:01 น.

ที่ปลายทาง

พี่ดอกแก้ว

ที่ปลายทางสุดท้ายในชีวิต 
ไร้มวลมิตรเคียงข้างอย่างเคยใกล้ 
เหลือแต่ความโดดเดี่ยวอยู่เปลี่ยวใจ 
ความอ่อนโยนสิ้นไร้ผู้นำพา 

มอบน้ำใจให้ไปไม่เคยหวง 
สร้างความดีทั้งปวงเพื่อโลกหล้า 
ยังแพ้พ่ายใจคนบนมายา 
มิเห็นค่าน้ำใจที่ให้จริง 
ได้แต่ปลอบใจตนให้พ้นโศก 
ใดในโลกล้วนเปลี่ยนไปทุกสิ่ง 
ที่ได้รับได้เห็นความเป็นจริง 
เพราะทำสิ่งเหตุไว้ในก่อนกาล 

เมื่อเวลาคราเหมาะเพาะให้ผล 
กรรมบันดลให้เป็นไปในสังสาร 
แม้นทำดีเพียงใดในสันดาน 
แต่ผลพาลอดีตกรรมยังตามทัน 

วันนี้รับกรรมเก่าอย่างเข้าใจ 
แม้นสิ้นไร้เพื่อนเคียงเรียงความฝัน 
เพราะรู้ว่าความดีที่ทำนั้น 
อนาคตสักวันส่งผลงาม 

ที่ปลายทางสุดท้ายในชีวิต 
แม้นไร้มิตรเคียงใกล้คอยไถ่ถาม 
ยังยืนยันขันต่อก่อนิยาม 
สร้างคุณงามฝากไว้ในปฐพี 
				
13 สิงหาคม 2546 22:54 น.

ให้คะนึงคิดถึงกัน

พี่ดอกแก้ว

สายรุ้งพรรณรายหลายร้อยสี 
เหลือบรวีงามเด่นเฉกเช่นฝัน 
ความดีงามความหวังยังผูกพัน 
จึงได้กลั่นอักษราภาษาจินต์ 

ผดุงค่าเทิดคำลำนำพจน์ 
ร้อยเรียงจรดประพันธ์วรรณศิลป์ 
ฝากเพื่อนพ้องน้องพี่ให้ยลยิน 
ณ แดนถิ่นเคยเนายามเข้ามา 

สายรุ้งพลุ่งพลาดวาดเส้นสาย 
เป็นลวดลายประดับกับเวหา 
สายเพลงพจน์บทนี้จากอุรา 
คนรักษ์ค่าอักษรกลอนประพนธ์ 

จากฤดีที่กระจ่างมิร้างเลือน 
มาย้ำเตือนน้องพี่นี้อีกหน 
น้อยมาลัยวจีฤดีดล 
ฝากแด่คนเคยคุ้นให้อุ่นใจ 

แพรรวีสีรุ้งจรุงเด่น 
เหมือนจะเน้นนภาจ้าสดใส 
แพรพจน์บทประพันธ์อันวิไล 
จะส่องใจให้คะนึงคิดถึงกัน 

แม้มิพบสบพักตร์สักเพียงนิด 
ถ้อยลิขิตเตือนตาพาสุขสันต์ 
มาร่วมวงศ์ดำรงลักษณ์อีกสักวัน 
ถ้อยคำอันล้ำค่าอย่าได้เลือน 				
13 สิงหาคม 2546 22:49 น.

เลิกย้ำกรรมเวร

พี่ดอกแก้ว

เย็นย่ำพลบค่ำแล้ว สนธยา 
หมายแมกไม้พักพา ผ่อนไข้ 
เหิรลมฝ่าลมมา ลำบาก 
เหนื่อยยากทุกวันให้ ทุกข์ท้นหนทาง 

ค่ำคืนฝืนหลับค้าง แรมเคียง 
แผ่วแผ่วแว่วสำเนียง สะท้อน 
พฤกษ์ไพรสะพรึงเสียง นกป่า 
ดุดันหมายขู่ข้อน ยอกย้อนเหยื่อกาม 

พรั่นพรึงถึงพิษผู้ หมายปอง 
โดดเดี่ยวตามครรลอง ชีพสู้ 
หลายพวกหลายหมู่จอง จับโจทย์ 
ด้วยโกรธที่ล่วงรู้ ว่าร้ายหมายเลว 

พร่างแสงสูรย์ส่องไม้ เลือนลาง 
อรุณรุ่งพรายพราง เบิกฟ้า 
เตรียมผินสู่เส้นทาง กำหนด 
จรดจิตเจิดจ้า ดั่งท้าแสงทอง 

แม้นพบกับสิ่งร้าย ไล่ตาม 
แม้นจักหลบหลีกขาม ไม่พ้น 
แม้นติดบ่วงที่ลาม รุกไล่ 
แม้นจะพบทุกข์ล้น ไม่พ้อต่อเพรง 

ที่ได้รับเช่นนี้ เพราะใคร 
คือพิษที่ตนวางไว้ ก่อนหน้า 
ทำเหตุที่โยงใย ให้พบ 
จึงแพ้ภัยเองอ้า ไม่พ้นผลกรรม 

ได้รู้เหตุผลไซร้ ใจเบา 
บินสู่เป้าหมายเรา ไม่ช้า 
ทำสิ่งคลายโง่เขลา ให้สิ้น 
จึงผกผินทายท้า เลิกย้ำกรรมเวร 

กำหนดจิตล่วงรู้ อารมณ์ 
กระทบแล้วไม่ตรม เมื่อเคล้า 
ปัญญาตัดด้วยคม สมเหตุ 
แปรเปลี่ยนผลสิ่งเร้า กลับร้ายกลายดี 

รู้ร้อนหนาวทุกครั้ง ยั้งใจ 
ไม่เสพทุกข์ทางใจ สะท้อน 
เพียงรู้ว่ารูปใด กำหนด 
ตัดสิทธิ์ที่คิดย้อน ส่งผลกลกรรม 

บินไปสู่แหล่งหล้า เสรี 
ด้วยหมั่นรู้อย่างนี้ ที่ได้ 
จักพบกับสุขที่ ไร้โศก 
พ้นโลกพ้นทุกข์ไร้ ไม่ต้องเกิดกาล 
				
13 สิงหาคม 2546 22:46 น.

แม้นเดือนดับ

พี่ดอกแก้ว

แสงเรื่อรายพรายพร่างกลางแผ่นฟ้า 
ดาริกาสุกสกาวพราวไสว 
แม้นเดือนดับลับห้วงนภาลัย 
ฟ้ายังไม่ไร้รัศมีดาว 

แม้นแสงน้อยด้อยประกายไม่แจ่มฟ้า 
แต่มีค่าสามัคคีที่กลางหาว 
รวมพลังคลังแสงแห่งดวงดาว 
ส่องวับวาวพราวศรัทธายามราตรี 

สร้างรอยฝันสรรค์เส้นทางทุกย่างก้าว 
เพื่อให้ผู้ปวดร้าวได้สุขศรี 
ไม่มืดมิดไร้พลังสร้างความดี 
ค่ำคืนนี้ยังมีดาวที่พราวตา 
				
12 สิงหาคม 2546 08:10 น.

ตายแล้ว..ไปไหน?

พี่ดอกแก้ว

เป็นคำถามตามวัยให้ต้องตอบ 
วัยเด็กชอบถามผู้ใหญ่อย่างใคร่รู้ 
ทำงานคืออะไรใคร่ถามดู 
อยากจะรู้อนาคตอย่างจดใจ 

ครั้นเติบโตเป็นผู้ใหญ่ใคร่ถามเด็ก 
ตอนยังเล็กนี้อยากทำสิ่งไหน 
เมื่ออยากแล้วก็รีบทำให้สมใจ 
เพราะโตเป็นผู้ใหญ่ไร้เสรี 

ครั้นชราถามกันว่าตายเมื่อไหร่ 
และตายแล้วจะไปไหนกันล่ะนี่ 
ไม่มีใครตอบได้เลยสักที 
คำถามนี้ช่างมืดมนน่าสนใจ 

เสียงพระท่านพลันแว่วแจ้วกังวาน 
สาธยายขับขานอย่างแจ่มใส 
ชีวิตคนเรานี้ไม่มีใด 
เพราะมีกรรมจึงทำให้เราเกิดมา 

เป็นวงจรศรรักปักข้ามชาติ 
เป็นคนดีขี้ขลาดหรือเก่งกล้า 
เป็นเพราะความชำนาญสานกรรมมา 
เป็นนิสัยให้ปัญญาไม่เทียมกัน 

ทั้งกรรมดีและชั่วที่กลั้วกล้ำ 
ได้เคยทำไว้ตอนชาติก่อนนั้น 
คือพืชเชื้อที่เพาะให้เหมาะพันธุ์ 
ตายแล้วเกิดทันควันไม่ล่องลอย 

เกิดขึ้นเป็นอะไรในชาติต่อ 
เนื่องจากกรรมที่ก่อแม้เล็กน้อย 
เป็นแรงส่งสู่คติภพต่อรอย 
จากมนุษย์อาจด้อยเป็นนกกา 

หรือจากสัตว์ที่บัดซบสู่ภพเปรต 
หรือเข้าเขตนรกใหญ่มีไฟกล้า 
หรือแรงบุญหนุนนำลำชีวา 
เกิดในครรภ์มารดามนุษย์พงศ์ 

หรืออาจมีบุญหนักศักดิ์ประเสริฐ 
ถือกำเนิดเป็นเทวาน่าใหลหลง 
แต่จะเกิดเป็นอะไรให้คิดปลง 
ว่ายังคงไม่พ้นทุกข์ที่รุกรน 

เพราะชีวิตทั้งกายจิตนี้เป็นทุกข์ 
เดี๋ยวสนุกเดี๋ยวทุกข์โศกโรคสับสน 
เดี๋ยวดีใจเดี๋ยวเสียใจให้ระคน 
ทุกสิ่งเปลี่ยนไปพ้นจากจีรัง 

คือสภาพของทุกข์ที่รุกเร้า 
ไม่อาจทนอย่างเก่าให้ยืนยั่ง 
ต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนไปให้ระวัง 
คำพระสั่งสอนไว้ในมนต์ตรา 

คำถามว่าตายแล้วจะไปไหน 
หากไม่สิ้นไร้ยางแห่งตัณหา 
ต้องกำเนิดเกิดใหม่ในโลกา 
เป็นอย่างไร..อยู่ที่ว่าทำกรรมใด 
				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพี่ดอกแก้ว