29 สิงหาคม 2546 21:52 น.
พี่ดอกแก้ว
ก้าวที่ผ่าน ยิ่งนาน ยิ่งเมื่อยล้า
แสงแดดกล้า แผดเผา เข้าขุมขน
เสียงของพ่อ ยังก้อง ในกมล
อยู่ที่ตน หาใช่ ใครทำลาย
ความเจ็บช้ำ ลวงหลอก และกลอกกลิ้ง
หาใช่สิ่ง สำคัญ ควรมั่นหมาย
ใจของตน นั่นแหละ ไม่สบาย
จึงแพ้พ่าย คิดไม่ทัน ตันปัญญา
ไม่มีใคร ทำร้าย ใจใครได้
อย่ากล่าวโทษ ผู้ใด สร้างปัญหา
ดูตนเอง และพิเคราะห็์ ให้เหมาะตา
เป็นเวรกรรม ทำมา พาถึงตัว
บางครั้งคำ พูดที่ มีความลวง
หาใช่หมาย ทำบ่วง แกล้งปั่นหัว
เพราะเขาอาจ เกรงใจ และเกรงกลัว
หรือเขาอาจ หวังดีทั่ว กลัวเกรงใจ
เหมือนกับพ่อ ล่อหลอก บอกลูกรัก
อย่าดื้อนัก เดี๋ยวคนบ้า จะหมั่นไส้
อย่าร้องไห้ เดี๋ยวตุ๊กแก กินตับไต
อย่าออกไป เที่ยวเล่น ผีเห็นตัว
คำบางคำ เปี่ยมไซร้ น้ำใจจริง
อาจผิดพลาด บางสิ่ง อย่าหนักหัว
มองให้ถึง เจตนา อย่าเมามัว
ตัดดีชั่ว แค่คำพูด พิสูจน์คน
คำบางคำ พูดพล่อย ด้อยสติ
และดำริ แต่อธรรม ไม่นำผล
จงพินิจ พิจารณา ในคำคน
เพ้อเจ้อหรือ เปี่ยมล้น ด้วยน้ำใจ
จะหนีไป แห่งใด ก็ใจเจ้า
สุขและทุกข์ ยังเร่งเร้า ตามไปได้
เพราะรู้สึก นั้นเกิดขึ้น ที่จิตใจ
อย่าผลักไส เพราะโทโส และโกรธา
ไม่มีใคร รังแกใคร ให้เจ็บจิต
เจ้าจงจำ และขบคิด ให้ดีหนา
เมื่อจะจาก พ่อไป อยู่ไกลตา
จงรักษา ไมตรีจิต ในมิตรดี
อย่าใจเบา คลุกเคล้า แต่คำหวาน
เพราะยาพิษ เคลือบน้ำตาล มีมากสี
อย่าขมใจ ผลักไส คำพูดดี
แม้จะมี ไม่น่าฟัง จงตั้งใจ
ฝึกหัดตน ให้หลุดพ้น จากความโกรธ
ความมัวเมา เฉาโฉด และเหลวไหล
กตัญญู รู้ค่า ในน้ำใจ
ของผู้ให้ ทุกๆคน บนเส้นทาง
29 สิงหาคม 2546 13:59 น.
พี่ดอกแก้ว
รายรายพรายระยับ
วะวาววับกับแสงพราว
เรียงเรียงระเบียงดาว
ระบัดพร่างกลางโพยม
เรื่อยเรื่อยอารมณ์ศิลป์
ก็จารจินต์ความงามสม
เกล็ดดาวพราวราวพรม
เป็นอาภรณ์ซ่อนราตรี
เอิบอิ่มกระหยิ่มใจ
สว่างไสวคืนนี้
ดื่มด่ำในฤดี
มีแสงดาวพราวพร่างใจ
29 สิงหาคม 2546 13:53 น.
พี่ดอกแก้ว
จะส่งเสียง เสียงสรรค์ ปันคำถาม
เป็นนิยาม ยามไร้ ใครส่งเสียง
ให้ครวญคิด คิดถาม ตามสำเนียง
แม้นเป็นเพียง เพียงเงา คราวท้อใจ
เดินมานาน นานนัก เพื่อถักฝัน
เคยฝ่าฟัน ฟันฝ่า มาแต่ไหน
เหนื่อยเหลือเกิน เกินกล่าว กับผู้ใด
กี่ครั้งที่ ที่ไร้ ใครอาทร
เคยเสียใจ ใจเสีย เพลียกายนัก
เคยจมปลัก ปลักตรม ที่ขมขื่น
เคยพ่ายแพ้ แพ้ใจ ให้กล้ำกลืน
เคยทนฝืน ฝืนไว้ ไม่ยอมรา
ที่ผ่านมา มาแล้ว แคล้วคลาดพ้น
นี่อีกหน หนนี้ ที่หนักหนา
ต้องพ้นได้ ได้ชัย ไปอีกครา
จดจำว่า ว่าต้องสู้ อยู่ด้วยใจ
28 สิงหาคม 2546 11:27 น.
พี่ดอกแก้ว
ทำดีย่อมดีแน่
มิผันแปรในผลดี
ทำร้ายย่อมร้ายมี
มิสับสนผลของกรรม
ทำดีกลางความร้าย
คือใจกายที่เลิศล้ำ
ทำดีกลางปรักปรำ
คือใจธรรมหัวใจทอง
ทำดีมีสุขใจ
มิเคยให้ความหม่นหมอง
หม่นมัวที่ครอบครอง
เพราะตั้งใจไว้ไม่ดี
28 สิงหาคม 2546 11:24 น.
พี่ดอกแก้ว
ถอนหายใจหลายครั้ง
น้ำตาหลั่งเป็นเส้นสาย
ครั้งนี้คือแพ้พ่าย
แต่แพ้ใจมิใช่แพ้คน
ถอนหายใจหนักหน่วง
ความเป็นห่วงที่มากล้น
ต้องอัดไว้ในใจตน
มิกล้าพ้นเป็นวจี
ถอนหายใจเงียบงัน
ความฝันพลันหลีกลี้
ได้แต่แลมองคนดี
อยู่ตรงนี้อย่างเศร้าใจ
ถอนหายใจปวดร้าว
คงถึงคราวโหยไห้
คำสัญญาไร้เยื่อใย
เธอจากไปไม่กลับมา