25 กรกฎาคม 2546 17:29 น.
พี่ดอกแก้ว
ผ่านเส้นทางชีวิตลิขิตฝัน
ช่วงหนึ่งนั้นหลากรสกำหนดรู้
ทั้งเข้มขมตรมไหม้ได้เป็นครู
และชื่นชูรสหวานผสานใจ
มาตรงนี้ที่งดงามยามแลเหลียว
สายสัมพันธ์กอดเกี่ยวความสดใส
กอไมตรีผลิช่อล้อลมไกว
ใจต่อใจส่งกระแสแต่ความดี
มีร่มรักพิทักษ์ไว้ให้คลายร้อน
มีบทกลอนสื่อใจในสุขศรี
มีห่วงใยมอบให้ทุกราตรี
มีน้องพี่ผองมิตรสนิทใจ
25 กรกฎาคม 2546 17:24 น.
พี่ดอกแก้ว
ผ่องผุดพรายกระทบสายสุรีย์
เริ่มไหลรี่ผ่านเขาราวความฝัน
หยาดเล็กเล็กรวมใจใต้ตะวัน
เป็นเส้นสายสุขสันต์วันเกิดกาย
มอบความชื่นฉ่ำใจคราได้พบ
ยามบรรจบตรงทางอย่างที่หมาย
พฤกษ์ใหญ่น้อยคอยลำน้ำมาทักทาย
เพื่อสืบสายชีวีมีพืชพันธุ์
เชื่อมหนาวร้อนอ่อนล้าคราหน้าแล้ง
ไม่เหือดแห้งซึมซับกับไอฝัน
คือต้นธารหาญกล้าฝ่าไพรวัลย์
สู่ลำน้ำสำคัญเลี้ยงชีพชน
25 กรกฎาคม 2546 06:36 น.
พี่ดอกแก้ว
เมื่อหมดสิ้นเยื่อใยในรักแล้ว
ดุจดังแก้วแตกกระจายลายร้าวฉาน
อยู่ใกล้กันก็ยิ่งทุกข์ทรมาน
ยากประสานรอยร้าวให้คร้าวคืน
ลืมให้สิ้นวันเวลาคราร่วมฝัน
ลบร่องรอยสุขสันต์แม้สุดฝืน
ลืมเสียเถิดสัญญาใจไม่กลับคืน
ลบร่องรอยขมขื่นด้วยน้ำตา
อย่าทอดวันเวลาให้ช้าล่วง
อย่าทอดบ่วงลวงรักเสน่หา
อย่าหันหลังกลับมาเห็นหยาดน้ำตา
อย่าสงสารจนมิกล้าจะจากไป
แผลในใจที่ฝากไว้จะรับฝาก
จะดูแลมิให้พรากลบเลือนหาย
ให้เป็นดั่งอนุสรณ์ไม่คลอนคลาย
ว่าครั้งหนึ่งใจสลายเพราะคนลวง
25 กรกฎาคม 2546 06:26 น.
พี่ดอกแก้ว
ตรึงใจในมนต์ดลจิต
เพียงพิศคลื่นเล่ห์เสน่หา
เมามายกับสายธารา
พร่างพร่ากับทรายร่ายมนต์
หลงลมชมวิวทิวทัศน์
คลื่นซัดแกล้งทรายหลายหน
หยอกเย้าเคล้าเมทนีดล
ทิวสนพริ้วไหวคล้ายพ้อ
รอคอยรอยคำรำพัน
รักนั้นจริงหรือหยอกล้อ
ฤามนตราเสื่อมแล้วหนอ
จึงพ้อกับห้วงทะเล
24 กรกฎาคม 2546 20:38 น.
พี่ดอกแก้ว
กลางเพลิงเผาเร่าร้อนไม่ผ่อนเชื้อ
เลือดและเนื้อไหม้หมองพองผิวหมาง
กายทุรนบนอัคคีที่คุฟาง
ยังคงไร้ครวญครางจากพิษไฟ
กลางความเย็นยะเยือกเกลือกผิวนี้
หาได้มีเหน็บหนาวชำแรกได้
ยังทะนงคงร่างอย่างมีชัย
เพราะในใจอบอุ่นละมุนมาลย์
เพียงหลับตาพาภาพผ่องนิมิต
สงบจิตดื่มด่ำฉ่ำความหวาน
พิศพักตราพาสิ้นหมองที่พ้องพาล
จะหนาวร้อนไม่สะท้านเพราะมีเธอ