13 พฤศจิกายน 2546 05:23 น.
พี่ดอกแก้ว
ขอเป็นเพียงใบไม้ใบเล็กๆ
ที่ได้อยู่ใกล้และดูแลต้นไม้
แม้ต้นไม้จะไม่เคยเห็นความสำคัญ
ของใบไม้ใบนี้เลย...แม้แต่นิดเดียว
เพลงใบไม้ไหวพลิ้วปลิวตามลม
ท่วงทำนองพ้องบ่มเพื่อแมกไม้
แม้นเป็นเพียงหนึ่งน้อยในร้อยกาย
คือใบไม้แห่งรักและภักดี
หวังจะบังแสงกล้าครากลางวัน
แม้นแสงนั้นแผดเผาให้ร้าวศรี
หรือลมร้ายกรายกล้ำย้ำราวี
ก็เพียงมีหวังว่าจะคุ้มครอง
ถึงแม้นมีมากมายหลายใบบัง
ขอเป็นเพียงหนึ่งยังที่คุ้มหมอง
แม้วันหนึ่งปลิดใบตามครรลอง
ยังหมายปองดูแลต้นให้พ้นภัย
11 พฤศจิกายน 2546 22:29 น.
พี่ดอกแก้ว
ลมหายใจมีอยู่คู่ชีวิต
และดวงจิตรับรู้อยู่ทุกหน
แม้นเหนื่อยหนักเพียงใดในกมล
ใจของตนก็รู้ใจ...ไม่เคยลืม
จะทุกข์เศร้าเหงาโศกเพราะโรคร้าย
หรือสบายสนุกสุขปลาบปลื้ม
ความรู้สึกมิอาจให้ใครหยิบยืม
ตั้งใจลืมก็มิได้ในเรื่องราว
ครั้งที่ล้มลุกคลุกคลานลานน้ำตา
ความอ่อนล้ามาชิดใกล้ให้สืบสาว
ลืมเรื่องลมหายใจไปชั่วคราว
เพราะเหน็บหนาวกับเรื่องขมระทมใจ
มองผิดไปว่าหากไร้ใครคนหนึ่ง
ก็อาจถึงชีวิตปลิดหม่นไหม้
มองเห็นทรัพย์กับสรรเสริญเกินจริงไป
ว่าเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ของชีวา
หาคำตอบขอบเป้าหมายไม่สิ้นสุด
โลกมนุษย์มีมากมายให้ค้นหา
แต่งตั้งให้วัตถุนอกกายา
เป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งปัจจัย
หากไม่มีลมหายใจให้รับรู้
ทรัพย์ที่อยู่จะมีค่าหรือไฉน
ยศและลาภที่หาบและคอนไว้
มีความหมายอันใดเมื่อไร้ลม
11 พฤศจิกายน 2546 22:23 น.
พี่ดอกแก้ว
ในห้วงลึกตรึกไว้ไม่เลือนลาง
ความบอบบางของหนึ่งสิ่งอิงแอบไว้
แทรกซึมซับเข้าสู่กระแสใจ
กลายเป็นฝันฉากใหญ่ให้ชวนตรอง
เงาอดีตขีดรอยให้ถอยหลัง
บางครั้งรั้งใจเศร้าให้เราหมอง
บางคราวเพิ่มแรงใจให้ใฝ่ปอง
จึงครอบครองไหวหวั่น...ไม่มั่นใจ
กลายกระแสแผ่อำนาจให้ขาดรู้
เมื่อหมกอยู่กับสิ่งที่น่าหลงใหล
หรือกับสิ่งเจ็บร้าวที่ภายใน
สูญเสียใจ...ไร้สติริปัญญา
10 พฤศจิกายน 2546 23:25 น.
พี่ดอกแก้ว
แสงสีทองของสายัณห์ในวันเหงา
สัมผัสเงาติณชาติให้สาดสี
จำรัสผ่องส่องพรายไล้อินทรี
ให้หญ้ามีแสงงามยามลับวัน
ลมระบัดพัดยอดหญ้าให้พร่าไหว
ล้อลมไกวในเวทีที่พราวฝัน
หญ้าต่ำศักดิ์จักชูช่อล้อสายัณห์
ในเวลาเพียงแค่นั้นก็ชื่นบาน
ขอเพียงมีนาทีหนึ่งซึ่งเฉิดฉาย
เลิศคุณค่าพร้อมใจกายอย่างสุขศานต์
ก็คุ้มในแต่ละวันที่ผันกาล
แม้จะผ่านเพียงพริบตาก็สาใจ
แม้นราตรีมีเพียงเงาเจ้าส่องโสม
เสียงประโคมจากแมลงแฝงหวนไห้
ความหม่นหมางย่อมร้างลับดับหายไป
พร้อมกับแสงอุทัยที่มาเยือน
8 พฤศจิกายน 2546 16:34 น.
พี่ดอกแก้ว
กี่ครั้งคราวก้าวล้มจมน้ำครำ
กี่รอยช้ำฝากผิวริ้วกายนี้
กี่คำหยามเหยียดซ้ำย้ำฤดี
กี่รอยแผลที่มีจากรายทาง
ครั้งที่ล้มตรมร้าวคราวพบทุกข์
ครั้งที่ลุกขึ้นสู้กู้เรือนร่าง
ครั้งที่ผ่านพลบค่ำย่ำเลือนลาง
ครั้งที่วางอุปสรรคเพื่อพักกาย
คือใจก่อไม่ท้อแท้แก่ชะตา
จึงไม่ราความเพียรเรียนความหมาย
จัดชีวิตตามสิทธิ์สู้ไม่รู้วาย
หมดความยากสู่ง่ายด้วยใจจริง
กลับมาบอกน้องๆของพี่ดอกแก้วทุกๆคนว่า..
ชีวิตไม่ได้ง่ายเหมือนจัดวาง
แต่ไม่ยากที่จะจัดการ