17 ตุลาคม 2546 20:07 น.
พี่ดอกแก้ว
กระต่ายในม่านจันทร์
เป็นดังฝันในม่านหมอก
คล้ายเรื่องจริงและหลอก
ถึงเรื่องราวคราวเพ็ญจันทร์
กระต่ายที่พ่ายเต่า
เรื่องที่เข้าชัยช้านั้น
เป็นสิ่งเตือนใจกัน
อย่าประมาทโอกาสทอง
กระต่ายตัวสีขาว
ตาแวววาวไม่หม่นหมอง
อยู่ป่าละเมาะมอง
หมายสนุกไม่ทุกข์ทน
กระต่ายที่หมายจันทร์
ก็คือฝันในบางหน
ช่วงหนึ่งของใจตน
ที่คิดไปให้เกินตัว
กระต่ายเจ้าสัตว์น้อย
ฐานะด้อยกว่าเขาทั่ว
คนเมินและเพลินมัว
เหมือนกันทั่วคือถึงตาย
กระต่ายที่ตื่นตูม
วิ่งเปิดปูมไม่เว้นวาย
ไม่อาจระงับกาย
และจิตใจในเหตุการณ์
กระต่ายโพธิสัตว์
ผู้สลัดชีพสืบสาน
สร้างเหตุแห่งสมภาร
เพื่อดับภัยให้นิรันดร์
17 ตุลาคม 2546 20:02 น.
พี่ดอกแก้ว
ทุกคราวที่ลืมตามารู้ตัว
ความสลัวก็คลายม่านอันหมองหม่น
เข้าสู่การเดินทางอย่างทุกข์ทน
คือผู้คนทั่วไปใช้ชีวิต
ทำภาระหน้าที่ที่คั่งค้าง
สร้างทุกอย่างให้สมหวังดังลิขิต
ด้วยแรงกายแรงใจอันน้อยนิด
แต่หมายสิทธิ์ยิ่งใหญ่ในผลงาน
คราวที่ล้มจมน้ำตาคราพลั้งพลาด
ใจแทบขาดคลุ้มคลั่งดั่งประหาร
ทั้งตีอกชกหัวอย่างร้าวราน
หาเหตุการณ์บกพร่องต้องเพิ่มพูน
แต่ละวันผันไปตามใจคิด
เพราะมีจิตต้องการไม่สิ้นสูญ
เส้นทางจึงหลายหลากมากเบื้องมูล
การต่อสู้ทวีคูณเพราะหลายใจ
ไร้จุดหมายไร้จุดยืนบนผืนหล้า
จึงหนักหนาเหนื่อยเหน็ดและเข็ดไข้
ไม่รู้จักชีวิตคืออะไร
และสู้กับสิ่งใดในชีวิต
จึงล่องลอยคอยฝั่งรั้งเวลา
ทวนกระแสไปมาอย่างไร้สิทธิ์
ไม่เข้าใกล้ความสุขเลยสักนิด
เพราะลิขิตเส้นทางอย่างรวนเร
17 ตุลาคม 2546 19:55 น.
พี่ดอกแก้ว
เขามุ่งหมายค้นหาจุดเริ่มต้น
กำเนิดชนม์มนุษย์มาจากไหน
ใครเป็นคนที่เกิดมาก่อนใคร
ชีวิตใดเริ่มแรกแตกเผ่าพันธุ์
ทฤษฎีวิวัฒนาการ
สะท้อนผ่านการสะเทิ้นจากเนินฝัน
สัตว์เซลล์เดียวเกี่ยวก้อยเรียงร้อยกัน
กลายพงศ์พันธุ์จากสัตว์น้ำข้ามสู่ดิน
กลายเป็นสัตว์เลื้อยคลานกันพล่านทิศ
แล้วมีสิทธิ์สันหลังตรงลงถ้ำหิน
กลายเป็นลิงเป็นค่างอย่างใจจินต์
แล้วพลัดถิ่นพัฒนามาเป็นคน
แล้วก็หาว่าคนแรกคือคนไหน
ใครเล่าใครหัวหน้าเผ่าเคล้าสับสน
แล้วแต่ทฤษฎีที่เวียนวน
หาจุดเริ่มของคน ..ย้อนเวลา
อันที่จริงสิ่งที่ผ่านอย่าหาญย้อน
ให้นิวรณ์รุกรบพบปัญหา
เพียงรู้สิ่งมีชีวิตที่เกิดมา
ล้วนมีเหตุปัจจัยพาให้เกิดพลัน
หากเหตุดีก็มีที่สุคติ
สามารถริเริ่มความดีที่สุขสันต์
หากเหตุชั่วก็กลั้วไว้อบายบรรพ์
ไม่อาจมั่นคุณงามและความดี
และให้รู้ดูไว้ในโอกาส
ที่มีชาติเป็นมนุษย์พิสุทธิ์ศรี
ควรดำเนินกัลยาณไมตรี
สมกับที่มีศีลธรรมน้อมนำมา
อยู่กับปัจจุบันที่มั่นใจ
แม้อาจไร้สินทรัพย์เขานับหน้า
หรือยากจนข้นแล้งแห่งเงินตรา
ก็มีค่าใช้ชื่อว่าคือคน
17 ตุลาคม 2546 10:30 น.
พี่ดอกแก้ว
ผ่านแดนดินถิ่นไกลในวันก่อน
การสัญจรขบวนใจในวันนั้น
ร่วมเดินทางอย่างครึกครื้นตื่นใจกัน
ไปเก็บฝันเก็บอารมณ์ที่สมใจ
ตามเส้นทางมิได้วางกลีบกุหลาบ
มีรอยฉาบของหนามตามรุกไล่
ทั้งหลุมบ่อก่อบ่วงมาลวงไว้
ให้เป็นไปแตกต่างทางอารมณ์
ใช้เวลาคราเคลื่อนเตือนใจกัน
ในบางวันทะเลาะเหมาะผสม
บางครั้งหัวเราะให้กับสายลม
บางครั้งชมแมลงปอล้อหยอกกัน
ครั้นถึงจุดชมวิวและทิวทัศน์
ต่างแจงจัดเต๊ะท่าน่าสรวลสันต์
ถ่ายภาพเดี่ยวคู่หมู่อยู่ตรงนั้น
ที่ระลึกแห่งวันและเวลา
กว่าจะได้ภาพถ่ายแต่ละใบ
ต้องร่วมใจไม่ท้อก่อคุณค่า
ไม่แตกแถวแนวขบวนด่วนอำลา
มาพร้อมหน้าตากล้องมองตรงเฟรม
ภาพเดี่ยวนั้นคงให้ฝันที่เข้มแข็ง
ภาพคู่หวานจัดแจงสุขเกษม
ภาพหมู่อยู่ด้วยกันอย่างอิ่มเอม
แต่ละเฟรมผ่านทั้งทุกข์และสุขใจ
คิดถึงทุกคนจังเลยจ๊ะ..ขืนไม่เข้ามาคงร้าวอุราเจียรตาย
พี่ดอกแก้วยังไหวนะคะ เพราะกำลังรอเวลานั้นอยู่ แต่วันนี้มาหาน้องๆของพี่ดอกแก้วก่อนดีกว่า..ร๊ากกกกจิงๆนะ
7 ตุลาคม 2546 10:07 น.
พี่ดอกแก้ว
คำว่าเพื่อนเตือนตาคราโดดเดี่ยว
ใจที่เปลี่ยวจึงแลไปในแห่งหน
พบผู้หนึ่งซึ่งยังอยู่คู่กมล
จะร้อนหนาวคราวหม่นสุขล้นใจ
ใครคนนั้นมิเคยหวั่นวันโชคร้าย
คงเคียงกายเดินคู่อยู่ชิดใกล้
ไม่ปริปากถากคำช้ำหทัย
เพียงมองตารู้ใจไร้ถ้อยคำ
ใครคนนั้นที่แบ่งปันรอยยิ้มไว้
สื่อหัวใจผูกพันมั่นรอยย้ำ
ช่วยแก้ไขอุปสรรคหนักระกำ
ให้จดจำแต่คุณค่าคราล้มลง
ใครคนนั้นหยิบยื่นให้ด้วยไมตรี
มิให้มีความข้องขัดตัดประสงค์
แม้นคำน้อยไม่ถือสาว่าทะนง
มือยังคงกระชับมั่นไม่ผันคลาย
ใครคนนั้นคอยเตือนใจให้คิดรู้
และหมายสู้ปัญหาพาสลาย
ให้คืนคงตรงทางมิว่างวาย
ความจริงใจเคลื่อนกายสู่สายใจ
ใครคนนั้นที่คิดถึงคนึงนี้
ช่างมากมีคุณค่าน่าชิดใกล้
หากใครพบสบแล้วอย่าแคล้วไป
รักษาไว้ให้ยืนยงคงสัมพันธ์