24 มิถุนายน 2546 20:17 น.
พี่ดอกแก้ว
รักละลายหายลับไปกับดาว
หล่นจากหาวแล้วคืนนี้ที่สิ้นแสง
เคยสว่างกลางใจไฟเรืองแรง
มิเคยแล้งแสงรักพิทักษ์ใจ
เพ่งความงามยามคืนค่ำถลำจิต
เก็บมาคิดมาฝันจนหวั่นไหว
สร้างสะพานสู่ดวงดาวทุกคราวไป
ความอบอุ่นอ่อนไหวได้เห็นดาว
ฝันไปไกลว่าได้เคียงเรียงคู่ฟ้า
ประดับห้วงนภาเวหาหาว
สะท้อนน้ำยามแสงกระจ่างพราว
เป็นดั่งดาวดวงงามยามคู่กัน
แต่พริบตาพาใจช้ำระกำร้าว
แสงที่พราวมาวูบวับและดับฝัน
ร่วงสู่ดินจนสิ้นไร้สายสัมพันธ์
หมดเยื่อใยจากกันไม่เหลือรอย
มีเพียงฝันวันเก่าที่ร้าวราน
มองท้องฟ้าราตรีกาลยิ่งเศร้าสร้อย
สะพานดาวร้าวฉานราญใจน้อย
ให้รู้ค่าว่าคนคอยด้อยเพียงดิน
24 มิถุนายน 2546 20:11 น.
พี่ดอกแก้ว
ฟังซิฟัง...ทะเลเห่คลื่นรัก
เมื่อลมพักไม่โถมโจมน้ำไหว
ทะเลเงียบเรียบริ้วชลาลัย
กระซิบให้ชายหาดอย่าหวาดกลัว
คลื่นที่พลิ้วปลิวระลอกบอกว่ารัก
หมายสมัครซบทรายทายทักทั่ว
เสียงน้ำเซาะเสนาะพร่ำย้ำระรัว
ทะเลจะเป็นรั้วให้ผืนทราย
อย่าโกรธนะที่ทะเลเทคลื่นบ้า
เพราะบางครามรสุมรุมเหลือหลาย
ใครใครที่ปรี่ทุกข์ปลุกเรื่องร้าย
ก็มาถ่ายทิ้งทะเลเทระทม
ไม่มีเลยมามอบให้เพราะใจสุข
หวังปลิดทุกข์ผ่อนคลายให้หายขม
เห็นทะเลเป็นที่รองรับอารมณ์
มาพักผ่อนหย่อนตรมแล้วจากลา
ฟังทางนี้นะหาดทรายอย่าหายขวัญ
ทะเลนั้นมีเพื่อนแท้ไม่แปรค่า
คือหาดทรายที่เรียบริมปริ่มชลา
ไม่เคยเบือนเลือนหน้าจากทะเล
24 มิถุนายน 2546 20:05 น.
พี่ดอกแก้ว
ก่อไฟผิงอิงแอบแนบผืนผ้า
ห่อกายาคุ้มงอรอรุ่งสาง
ลมราตรีปรี่เชือดเลือดไหลพราง
โลมดวงใจให้อ้างว้างกลางแสงไฟ
รอความรักจากคนที่มีเหลือเฟือ
มาเอื้อเฟื้อให้คลายหนาวคราวจับไข้
รอเมตตาจากคนเมืองที่แสนไกล
มาหยิบยื่นอุ่นไอให้หนาวคลาย
วอนพระจันทร์ผันลมอย่าพรมนัก
กายนี้จักร้าวแล้วแผ่วสลาย
หนาวเหน็บเนื้อเรื้อร้างแทบวางวาย
บอกพระพายโปรดสงสารอย่าราญกัน
ขอให้มีชีวิตอีกสักหน่อย
ให้สมหวังที่คอยรักในฝัน
ได้พบแสงสุริยากล้าตะวัน
อบใจให้สุขสันต์วันหนาวคลาย
23 มิถุนายน 2546 15:41 น.
พี่ดอกแก้ว
ใครเลยมิเคยล้ม
ไม่ช้ำตรมเพราะผิดหวัง
รีรอขอพลัง
ให้กล้าแข็งเพื่อแกร่งใจ
หลายคนที่ท้อแท้
มีรอยแผลแล้วร้องไห้
เลิกหวังและยั้งใจ
ก็ลบล้างไม่สร้างรอย
บางคนที่นักสู้
ยังฝันอยู่ไม่เคยถอย
ไขว่คว้าไม่ล้าคอย
ไม่เลิกสอยด้วยสองมือ
หมายเพียรเรียนทางแก้
ลบรอยแพ้และฝึกปรือ
หมายปองจะครองถือ
สำเร็จหมายได้สักวัน
ขอส่งกำลังใจ
ให้ผู้ใฝ่ในทางฝัน
เพียรมุ่งและหมายมั่น
ได้สมปองทั้งผองเอย
23 มิถุนายน 2546 15:17 น.
พี่ดอกแก้ว
วัฏจักร์ผลักดันผันชีวิต
ไปตามทางลิขิตและความฝัน
มีจุดเริ่มเติมแต่งแห่งชีพชั้น
ให้มุ่งมั่นตามบทกำหนดมา
จากวัยเยาว์เข้าวัยผู้ใหญ่ยิ่ง
หลายหลายสิ่งมอมใจให้โหยหา
ทั้งลาภยศสินทรัพย์นับเงินตรา
เข้าสู่วัยชราไม่ดูตน
ลืมความจริงสิ่งรอบข้างอย่างมืดมัว
ความพลัดพรากมีทั่วไปทุกหน
ความเปลี่ยนแปลงก็แจ้งทุกตัวคน
ไม่มีใดคงทนนิรันกาล
ใบไม้ร่วงควงลิ่วปลิวจากต้น
ใบอ่อนปนหล่นไปในลานบ้าน
หาใช่เพียงใบแก่ที่ร้าวราน
ปลิดปลิวใบจากก้านได้อย่างเดียว
ตะวันขึ้นแล้วลับกลับถิ่นที่
ครั้นบางทีเมฆบังรั้งรอยเสี้ยว
ให้ลับหายก่อนเวลาคราลดเลี้ยว
หมดสิ้นเรียวรัศมีก็มีมา
หาสิ่งใดเป็นไปอย่างยืนยง
ชั่วพริบตาดับลงไปต่อหน้า
ทุกทุกสิ่งต่างมีไตรลักษณา
เป็นผู้กุมชะตาที่แท้จริง