3 กรกฎาคม 2546 20:18 น.

ม่านดวงใจ

พี่ดอกแก้ว

มองผ่านม่านดวงใจในยามเหงา 
มองรอยเงาเคยหวามยามเคลื่อนไหว 
มองผ่านคราบน้ำตาที่อาบใจ 
มองรอยไหม้เพราะไฟรักมาทักทาย 

ความหวานล้ำฉ่ำรสพจนารถ 
ความขมฝาดน้ำคำที่ทำร้าย 
ความอาทรอ่อนเอื้อเมื่อเคียงกาย 
ความแพ้พ่ายรักร้าวคราวเปลี่ยนใจ 

กลับมาทำดวงใจไหวทุกครั้ง 
กลับมาสร้างพลังให้สดใส 
กลับมาสานรอยรักถักรอไว้ 
กลับมาให้อภัยคนรักกัน 

ไม่มีใครทำได้ดีทั้งหมด 
ไม่มีกฏบังคับจับใจมั่น 
ไม่มีใครได้สิทธิ์ปิดใจกัน 
ไม่มีความผูกพันไม่สั่นคลอน 

ยิ้มกับชีวิตที่เคยมีรัก 
ยิ้มให้อุปสรรคที่หลอกหลอน 
ยิ้มให้ความพลาดพลั้งครั้งวัยอ่อน 
ยิ้มให้ความเอื้ออาทรที่เคยมี 

				
28 มิถุนายน 2546 10:15 น.

มีสิทธิ์ฝัน..กันทุกคน

พี่ดอกแก้ว

คนที่มีชีวิต...มีสิทธิ์ฝัน 
มีสิทธิ์มั่นหมายปองครองความหวัง 
มีสิทธิ์สร้างโลกส่วนตัวเป็นรั้ววัง 
มีสิทธิ์หลั่งน้ำตาคราช้ำใจ 

ไม่ผิดเลยที่ฝันไกลไปถึงฟ้า 
ฝันเป็นดวงดาราสว่างไสว 
ไม่ผิดเลยที่ฝันปองครองหทัย 
เป็นเจ้าของดวงใจใครสักคน 

เพียงต้องรู้อยู่ที่ฝันนั้นสูงค่า 
ต้องมุ่งมั่นฟันฝ่าไปหาผล 
ต้องใช้แรงมากมายจากกายตน 
ต้องใช้ใจอดทนเพื่อผลงาน 

ยิ่งฝันไกลเส้นทางไปยิ่งทอดยาว 
ความปวดร้าวยิ่งเกลื่อนกล่นลนเผาผลาญ 
อุปสรรคกีดขวางทางกันดาร 
ที่ต้องผ่านสู่เส้นชัยที่หมายปอง 

เมื่อทุกข์สุมรุมเร้าเข้าประชิด 
ต้องหมั่นคิดใคร่ครวญทวนสนอง 
จะยอมพ่ายหรือจะหมายไปครอบครอง 
ความฝันที่ใฝ่ปองมาทุกยาม 

ทางยิ่งไกลใจยิ่งด้อยคอยลมแล้ง 
หวังให้พัดปัดแรงแซงขวากหนาม 
เปลี่ยนได้ไหม....ทางที่ไกลไม่งดงาม 
มาเพิ่มฝันแต้มตามระหว่างทาง 

ฝันยิ่งใหญ่ยังฝันไว้ให้สูงเด่น 
เส้นทางไปที่แลเห็นว่าอ้างว้าง 
กำหนดโค้งกำหนดเลี้ยวที่เปลี่ยวราง 
ปักธงชัยระหว่างโค้งที่ไป 

เก็บธงชัยขั้นต้นที่ค้นพบ 
รู้สำเร็จที่ประสบระยะใกล้ 
เป็นพลังให้มีก้าวต่อต่อไป 
เพราะหัวใจไม่พ่ายแพ้แก่เส้นทาง				
27 มิถุนายน 2546 00:28 น.

เพลิงภัย

พี่ดอกแก้ว

พิศฉากก็ไหลหลง 
จึงจบลงตรงมายา 
พรางสีเพื่อลวงตา 
ก็ลุ่มหลงในดงกาม 

ดมดอมหอมมอมใจ 
ก็คว้าไขว่ให้ได้ตาม 
จำนงคงคำถาม 
เพื่อครอบครองที่ปองใจ 

ยิ่งใกล้ยิ่งไล้กลิ่น 
ให้โบยบินไปเคียงใกล้ 
ติดกับจึงหลับไหล 
ในห้วงหวานน้ำตาลเมา 

เพลิงภัยที่ไล้โลก 
ให้เปื้อนโศกยังความเศร้า 
ชีวิตติดพิษเผา 
ทุกนาทีมิเหลือจุณ 

ก้าวสู่ประตูเพลิง 
อย่างร่าเริงและวายวุ่น 
จมปลักจนหลักหมุน 
มิพ้นคืบชะตากรรม 

เวียนวนระคนทุกข์ 
ด้วยหวังสุขมากรายกล้ำ 
ไขว่คว้าหาสุขล้ำ 
แท้ผิดทางอย่างนี้เอง				
27 มิถุนายน 2546 00:24 น.

ระลึกรู้

พี่ดอกแก้ว

สติคือระลึกได้ในกุศล 
ไม่หลงตนลืมไปให้เพลี่ยงพล้ำ 
เป็นประธานสานสัมปยุตธรรม 
จดจ่อนำต่ออารมณ์อย่างคมคาย 

หาใช่เรื่องระลึกได้ในทุกสิ่ง 
สติอิงแต่กุศลผลมั่นหมาย 
ระลึกอื่นผ่านมาเรื่องน่าอาย 
มิใช่สายสืบสติผลิดำรง 

สัมปชัญญะละไม่รู้ดูที่จิต 
รู้ความคิดรู้ความจริงไม่นิ่งหลง 
รู้อะไรเกิดขึ้นและดับลง 
รู้สว่างกระจ่างตรงตลอดธรรม 

มิใช่เพียงรู้สร้างอย่างที่รู้ 
มิใช่ทฤษฎีผู้ที่เพ้อพร่ำ 
รู้ขวนขวายในกิจที่ควรทำ 
เรียกอีกชื่อคือคำว่าปัญญา 

ธรรมทั้งคู่อยู่ร่วมจึงเจริญ 
และเพลิดเพลินไร้ราคีที่เคยหนา 
เจริญอยู่ในทางวิปัสสนา 
มิใช่นั่งหลับตาบริกรรม 

ศีลจะสานสะพานดาวสาวไปสู่ 
รากฐานที่เลิศหรูวิสุทธิล้ำ 
คือสำรวมอินทรีย์ที่ฐานกรรม 
สมาธิปราศธรรมคือนิวรณ์ 

ความสว่างกระจ่างแจ้งแห่งปัญหา 
คือปัญญาที่ทำลายความหลอกหลอน 
และพาไปจากโลกที่ลุ่มดอน 
ไม่กลับย้อนคืนกิเลสเหตุชีวี 
				
26 มิถุนายน 2546 20:56 น.

ฝนจ๋า..

พี่ดอกแก้ว

...ฝนจ๋า...

คือสายใยเชื่อมใจฟ้ามาสู่ดิน 
มิเคยร้างห่างสิ้นถวิลหา 
ยังโรยรื่นชื่นสายให้ธารา 
เชื่อมแผ่นดินแผ่นฟ้าให้ใกล้กัน 

คือสายธารที่รินไหลจากใจฟ้า 
สู่แหล่งหล้าให้เย็นล้ำฉ่ำวสันต์ 
ชำระโลกโศกเศร้าที่ร้าวรัญ 
ให้สดใสสิ้นวันแล้งน้ำใจ 
				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพี่ดอกแก้ว