9 ธันวาคม 2551 08:16 น.
พี่ดอกแก้ว
บรรจงวางชีวิตลิขิตหมาย
อยู่ส่วนท้ายขบวนของมวลผอง
ระวังภัยไล่หลังทั้งหมู่กอง
คอยสอดส่องสิ่งร้ายหมายรุกราน
คงสุขใจอยู่ในส่วนของตน
ไม่หมองหม่นรั้งท้ายไร้ชื่อขาน
ทำหน้าที่ด้วยดีอย่างเชี่ยวชาญ
ไร้คิดอ่านแข่งใครไปนำทาง
ทำงานอยู่ด้วยรักสมัครจิต
อิ่มใจที่มวลมิตรไร้หม่นหมาง
ทุกใบหน้ามีรอยยิ้มไม่จาง
ทำงานอย่างสามัคคีและปลอดภัย
คนเบื้องหน้าหาญกล้าได้เต็มที่
ไม่ต้องมีเบื้องหลังให้สงสัย
ทั้งกลุ่มหมู่อยู่อย่างสบายใจ
ทุกส่วนไร้บกพร่องให้ต้องตรม
งานที่ไร้ชื่อเสียงและเสี่ยงภัย
งานแก้ไขปัญหาพาขื่นขม
งานที่ทำแล้วไร้คำชื่นชม
เป็นงานไม่นิยมกันทั่วไป
แต่หากไม่มีใครทำงานนี้
ส่วนรวมจะไม่มีสุขสดใส
การชิงดีเกิดมีขึ้นที่ใด
ความเสียสละจะไร้ปรากฏการณ์
จักเหมือนคนง่อยเปลี้ยเสียแข้งขา
แต่ใบหน้างดงามความอ่อนหวาน
ไม่สมดุลหนุนชีพให้เบิกบาน
เสื่อมรากฐานแข็งแรงแห่งหมู่ชน
จึงตั้งใจถือทองประคองกราบ
สุขเอิบอาบในหน้าที่สำเร็จผล
ปิดแผ่นทองทีละแผ่นอย่างอดทน
ให้งามล้นด้านหลังพระปฏิมา
2 ธันวาคม 2551 15:27 น.
พี่ดอกแก้ว
ดั่งเศษเสี้ยวธุลีที่ด้อยค่า
ปรารถนาถวายพระพรเป็นกลอนสาร
วโรกาสเฉลิมพระชนมวาร
แปดสิบเอ็ดกาลพรรษาแห่งพระชนม์
ข้าพระพุทธเจ้าเกิดบนแผ่นดินนี้
มากสุขศรีได้ศึกษาและฝึกฝน
มีอาชีพการงานไม่อับจน
สิ้นกังวลมีอิสระในชีวา
ข้าพระพุทธเจ้าได้รับสิ่งดีงาม
โดยเฉพาะเรียนรู้ตามพระศาสนา
มีโอกาสสร้างกุศลสิ่งนานา
เพราะมีพระราชาผู้ครองธรรม
ข้าพระพุทธเจ้าภูมิใจในชีวิต
ได้ครองสิทธิ์คำว่าไทยอย่างอิ่มหนำ
มีประวัติชาติไทยให้จดจำ
มีร่องรอยอารยธรรมที่น่าชม
ข้าพระพุทธเจ้าขอทูนเทิดพระองค์
ผู้บรรจงจัดไทยให้งามสม
ทรงเหน็ดเหนื่อยเพื่อไทยไร้ระทม
ปรับดินฟ้าฝนลมให้สมบูรณ์
ข้าพระพุทธเจ้าขอเชิญเทพเทวา
คุณพระไตรรัตนาไม่เสื่อมสูญ
บันดาลพระพลานามัยให้บริบูรณ์
พระชนม์ยิ่งเพิ่มพูนยั่งยืนนาน
ข้าพระพุทธน้อมถวายพระพรชัย
ขอพระเกียรติเกริกไกรทุกสถาน
ดวงพระราชหฤทัยสุขสราญ
หมู่ภัยพาลแพ้พ่ายพระบารมี
ควรมิควรแล้วแต่จะทรงโปรด
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า ดอกแก้ว.
1 ธันวาคม 2551 16:46 น.
พี่ดอกแก้ว
เมื่อข่าวลือคือข่าวที่ต่อเนื่อง
จึงได้กลายเป็นเรื่องน่าเชื่อถือ
พูดตรงกันหลายคนในข่าวลือ
พวกคนซื่อจึงเชื่อเมื่อได้ฟัง
เมื่อข่าวลือคือข่าวปลุกกระแส
ผู้เฒ่าแก่ไม่รู้เรื่องเบื้องหลัง
เด็กหนุ่มสาวเชื่อในสิ่งที่ฟัง
พูดต่ออย่างจริงจังเป็นตำนาน
เมื่อข่าวลือคือข่าวทำลายคน
จึงก่อผลยิ่งใหญ่มหาศาล
คนในข่าวเป็นเหยื่ออย่างร้าวราน
ไม่มีสิทธิ์ต่อต้านกับข่าวลือ
เมื่อข่าวลือกระพือไปทั่วทิศ
ถูกกลับกลายเป็นผิดให้เชื่อถือ
น่าสงสารผู้เสพสารชอบข่าวลือ
ส่วนข่าวจริงกลับถือว่าข่าวปลอม
เมื่อข่าวลือคือข่าวของชาวบ้าน
คนทั้งหลายต่างวิจารณ์ไม่ถนอม
ตั้งตนเป็นกูรูอยู่หน้าคอม
ทั้งเตรียมพร้อมปล่อยข่าวลวงปวงข่าวลือ
เมื่อข่าวลือคือข่าวที่กล่าวขาน
ปรากฏสารเป็นคำพูดและหนังสือ
จึงกลับกลายเป็นวรรณกรรมเรื่องระบือ
เพราะยึดถือศรัทธาพานิยม
เมื่อข่าวลือคือข่าวของชาวโลก
ความทุกข์โศกจึงมากหลากขื่นขม
ส่วนชาวธรรมนำใจไม่ปรารมภ์
จึงไม่จมเล่ห์ร้ายในข่าวลือ
11 พฤศจิกายน 2551 18:32 น.
พี่ดอกแก้ว
ริมธาราคราเพ็ญเด่นเดือนฉาย
น้อมใจกายยอกระทงขึ้นเหนือขวัญ
อธิษฐานบูชาพระทรงธรรม์
รอยพระบาทเบื้องบรรพกาลมา
อธิษฐานบูชาคงคาคุณ
ที่อุดหนุนชีวีเรานี้หนา
ได้ช่วงใช้ชำระล้างกายา
ใช้ทำมาหากินบนถิ่นไทย
อธิษฐานวันทาบูรพาจารย์
ผ่านห้วงธารผ่านภพทุกสมัย
อำนวยคุณหนุนเคราะห์ให้ห่างไกล
มีชีวิตเป็นไปอย่างร่มเย็น
อธิษฐานพร้อมธูปและเทียนหอม
ขอธรรมย้อมจิตใจให้คลายเข็ญ
รับความสุขสงบงามท่ามคืนเพ็ญ
ชีวิตเย็นเช่นน้ำความเมตตา
อธิษฐานผ่านกระทงคงเป้าหมาย
ให้ชีวิตไม่พลัดพรายจากศาสนา
ให้อยู่ในแผ่นดินธรรมราชา
ให้มีความเพียรกล้าในชีวี
อธิษฐานอีกครั้งยังธารา
ให้ชีวิตถ้วนหน้าในวิถี
ประสบแต่ความสุขทุกฤดี
สมบูรณ์มีในหวังทุกครั้งเทอญ.
5 พฤศจิกายน 2551 10:53 น.
พี่ดอกแก้ว
เหมือนหมอกควันอันหนาคราโรยแสง
ไม่จะแจ้งทิศทางสร้างสงสัย
คล้ายจะรู้คล้ายจะเห็นสิ่งเป็นภัย
แต่กลับเดินเข้าใกล้อย่างหลงทาง
เหมือนจะคว้าจะไขว่เอื้อมได้ถึง
กลับรำพึงถอดใจให้หม่นหมาง
เพียงแค่เอื้อมอีกหน่อยค่อยจับวาง
กลับถอยห่างไม่กล้าน่าเสียดาย
เหมือนจะเป็นของจริงสิ่งสร้างสรรค์
สองมือปั้นผลงานตามมุ่งหมาย
พลันเกียจคร้านวางมืออย่างง่ายดาย
ขาดเพียงลายบางเส้นจะเห็นงาน
เหมือนจะดีมีแต่ความราบรื่น
สุขสดชื่นปรากฏทุกสถาน
พลันฟ้าฝนหล่นพร่างร้างทัดทาน
ความชื่นบานชุ่มโชกกลับโศกใจ
เหมือนจะลิขิตได้ในชีวิต
ดุจมีฤทธิ์เก่งกล้าน่าเลื่อมใส
เพียงภายนอกหลอกภาพฉาบกลิ่นไอ
ไม่มีใครลิขิตแท้ได้แก่ตน
เหมือนจะจริงสิ่งที่ได้พบเห็น
ทุกสิ่งเป็นตามใจได้สมผล
อุปสรรคสิ้นสลายไร้กังวล
ในบัดดลตื่นจากฝันวันฝนพรำ
เหมือนสว่างกลางแสงแห่งภูมิรู้
ยืนมองดูใครเขาเฝ้าคิดขำ
เห็นคนอื่นชัดเจนในทรงจำ
แต่ทำเหมือนผีอำในเรื่องตน
เหมือนจะชัดจัดแจ้งแห่งจริต
เมื่อยิ่งคิดก็ยิ่งมากสับสน
คิดเปะปะคละเคล้าเข้าปะปน
กลายเป็นคนเลือนรางห่างปัญญา