27 สิงหาคม 2546 09:31 น.
พี่ดอกแก้ว
ในกำมือ...มีพันธุ์ไม้หมายปลูกฝัง
ในดวงใจ...มุ่งหวังให้เติบกล้า
ในกำมือ...พลิกฟื้นผืนทุ่งนา
ในดวงใจ...ศรัทธาปลูกกล้าพันธุ์
ฟื้นแผ่นดินสิ้นไร้ใยรกเรื้อ
ฟื้นใจเกื้อก่อหวังพลังฝัน
ฟื้นความหมายมากมายในสัมพันธ์
ฟื้นเผ่าพันธุ์มั่นรักสามัคคี
จรดพันธุ์ลงตรงเนื้อใจผู้ใกล้ชิด
จรดดวงจิตฝังสายพันธุ์อันสุขศรี
จรดอาหารคือเมตตาและปรานี
จรดภักดีแทนเสาค้ำลำต้นตรง
ตั้งตาดูหมู่ไม้ได้เติบยิ่ง
ตั้งใจจริงทิ้งใบร้ายไม่ประสงค์
ตั้งตารอกอไม้ได้มั่นคง
ตั้งใจตรงดัดไม้ให้งดงาม
หวังไม้ใหญ่ให้ผลอันล้นค่า
หวังศรัทธาปลูกไว้ยิ่งไหลหลาม
หวังชีวีที่นิดน้อยไม่ด้อยความ
หวังคุณงามเปี่ยมพ้นล้นชีวี
27 สิงหาคม 2546 09:26 น.
พี่ดอกแก้ว
ความรู้สึกทั้งมวลที่หวนคิด
เป็นความผิดที่มองใจไม่กระจ่าง
เมื่อเธออยู่เคียงใกล้กลับเลือนลาง
ยามมาห่างร้างไกลใจจึงตรอง
คงได้แต่ขอโทษอย่าโกรธฉัน
ไม่เห็นค่าครั้งนั้นอย่าหม่นหมอง
คนที่ทุ่มเทใจใฝ่ประคอง
ฉันกลับมองข้ามไปเพราะไร้ตา
กว่าจะรู้ใจนี้ที่รักล้น
เมื่อเธอพ้นผินหลังชังน้ำหน้า
ใจสลายกลายร่างที่พรางตา
ร่ำร้องเธอกลับมา..ช้าเกินไป
26 สิงหาคม 2546 19:25 น.
พี่ดอกแก้ว
สะท้อนพรายสายนทีมีแสงฟ้า
สนธยามาเยือนเหมือนใจหาย
แสงสุรีย์นี้จางจักห่างกาย
และจมสายธาราคราอัสดง
คงโดดเดี่ยวเปลี่ยวร้างกลางคืนค่ำ
ความมืดดำนำพาให้ล้าหลง
มีเพียงใจดวงนี้ที่มั่นคง
หมายดำรงเส้นทางแม้ลางเลือน
26 สิงหาคม 2546 19:03 น.
พี่ดอกแก้ว
ดุจดังมนต์ดลใจให้ฉ่ำหวาน
เมื่อพบพานครั้งแรกแปลกนักหนา
เธอกับฉันอยู่ไกลกันเหลือคณา
แต่กลับมาใกล้ชิดสนิทใจ
คราพบเพียงอักษรสุนทรถ้อย
ก็เรียงร้อยใจฉันให้หวั่นไหว
ตกในห้วงบ่วงรัดมัดฤทัย
ตรึงจิตไว้ให้คิดถึงคนึงครวญ
มาครั้งที่ได้พบประสบแล้ว
ดุจดังแก้วแคล้วไปได้คืนหวน
มาเติมใจให้ซ่านหวานรัญจวน
การรอคอยทั้งมวลก็สิ้นลง
26 สิงหาคม 2546 11:44 น.
พี่ดอกแก้ว
หนึ่งชีพชนม์ของคนบนเส้นทาง
ทุกก้าวย่างก้าวไปด้วยใจหวัง
อาจเหนื่อยอ่อนถอนท้อรอพลัง
หรือถึงฝั่งดังใจที่หมายปอง
ค่าของคนมิใช่ชนที่ก้าวมาก
หรือลำบากเพียงลำพังอย่างหม่นหมอง
ระหว่างก้าว..ก้าวด้วยช่วยประคอง
มีน้ำใจเนืองนองแก่ผู้คน
ดุจเล่มเทียนเพียรกล้าท้าลมแรง
ขับเปลวไฟให้แสงสว่างหน
ทำหน้าที่เสียสละแก่ปวงชน
ไม่ไร้ผลดั่งเทียนเพียรคุณงาม
แม้นเทียนดับลับตาลงครานี้
ยังมากมีเทียนเล่มใหม่ให้ล้นหลาม
ที่พร้อมก้าวด้วยรู้ค่าอยู่ทุกยาม
และเดินตามเพื่อเปล่งแสงแห่งแรงเทียน