7 กันยายน 2547 21:19 น.

คำสัญญาเพลงไผ่

พี่ดอกแก้ว

ฟังเพลงไผ่ไหวกอคลอสายลม 
เสียงผสมใบระบัดที่พัดไหว 
ท่วงทำนองผูกรัดมัดหัวใจ 
ให้เผลอไผลวาบหวามยามคำนึง 

รอยยิ้มบางข้างแก้มแซมใบหน้า
ริมธาราครานั้นพลันนึกถึง 
คำสัญญาเพลงไผ่...ให้ตราตรึง 
ระลึกถึงเรื่องราวคราวสุขใจ 

เคยมีคำพูดงามบอกน้ำจิต 
จากมิ่งมิตรเคล้าคลอกอไผ่ไหว 
วาดความฝันแสนหวานซ่านฤทัย 
ฟังเพลงไผ่กล่อมพลิ้วทิวทุ่งทอง 

ลมเอนกอล้อไผ่ให้เปลี่ยนทิศ
คู่เคียงคิดเอนใจไม่สนอง
เวลาแปรคนเปลี่ยนความใฝ่ปอง 
สร้างความฝันสำรองเดินจากไป 

รอยยิ้มบางกลางใจไม่ปวดร้าว
ม่านใบไผ่หล่นพราวเสียงสดใส 
ดึงสำนึกกลับมาที่หัวใจ 
ผ่านมาแล้ว..ผ่านไป ไม่เหมือนเดิม    				
7 กันยายน 2547 07:59 น.

ศิลางาม

พี่ดอกแก้ว

ศิลาทรายหลายแท่งบนแหล่งหล้า 
ต่างราคา ความงาม และความหมาย 
มีเกลื่อนกล่นบนหนถูกทิ้งดาย 
แต่บางแท่งกลับกลายเปี่ยมความงาม 

แกะสลักสักลายในเนื้อผิว 
ใช้ฆ้อนสิ่วสกัดพร้อยดั่งรอยหนาม 
แล้วขัดผิวริ้วรายให้ได้ความ 
เกิดความงามเพราะถูกบั่นหั่นเนื้อทราย 

ยิ่งประณีตยิ่งกรีดยิ่งสกัด 
ยิ่งขุดขัดยิ่งแต่งแบ่งเส้นสาย 
ยิ่งวิจิตรบรรจงลงลวดลาย 
ยิ่งใช้คมมากมายของเครื่องมือ 

จึงงดงามยามพิศจิตซึมซาบ 
บางคราวกราบบูชาพายึดถือ 
บางชิ้นเป็นมรดกเลื่องระบือ 
ตั้งราคาให้ซื้อปฏิมากรรม 

ดั่งมนุษย์ผู้งามด้วยความดี 
ต้องขัดสีเรือนใจให้เข้มขำ 
ด้วยทาน ศีล ภาวนา มากระทำ 
จึงน้อมนำเหนือระดับปรับจิตใจ 

อุปสรรคคือมีดกรีดลงลาย 
อย่าเหนื่อยหน่ายทดท้อพ้อหมองไหม้ 
อดทนรอผลงานอันวิไล
อย่าปล่อยใจให้เป็นหินใต้ดินดอน				
6 กันยายน 2547 07:56 น.

เพราะคาดเดา

พี่ดอกแก้ว

ผุดพร่างพรายดั่งสายชลธาร 
ล้นบาดาลหัวใจไหลสู่หล้า 
เป็นต้นน้ำหลามหลากจากดวงตา 
รินช้าช้าพร้อมความช้ำที่กล้ำกลืน 

ขื่นขมจิตคิดข้างเดียวว่าเดี่ยวโดด 
กำหนดโทษตราใจไม่ขัดขืน 
จินตนาการผ่านเรื่องราวทุกคราวคืน 
ว่าผู้อื่นทอดทิ้งหรือชิงชัง 

นั่งขีดกรอบรอบตนเป็นคนเศร้า 
บ่อยครั้งเข้าเห็นเป็นจริงยิ่งปลูกฝัง 
ทำลายค่าของตนจนภินท์พัง 
เปลี่ยนความหวังเป็นสิ้นหวังพังพริบตา 

ในเรื่องรักบ่อยนักที่คิดผิด 
เพราะใช้จิตอ่อนไหวไขปัญหา 
คาดคะเนเดาความตามสายตา 
คาดน้ำใจเขาว่าต้องเปลี่ยนแปร 

ในครอบครัวรั้วรอบชอบทายใจ 
จึงสร้างภัยด้วยไม่คิดสะกิดแผล 
บางครั้งลูกคิดว่าพ่อแม่ไม่แคร์ 
หรือพ่อแม่คิดว่าน่าควบคุม 

ในมวลมิตรผิดใจในน้ำมิตร 
เพราะใช้จิตเดาคำทำตีขลุม 
แปลความหมายใจน้อยคอยครอบคลุม 
ความเป็นกลุ่มจึงแยกแตกทิศทาง 

เพราะความคิดคาดเดาเขลาความคิด 
เกิดเป็นไฟไหม้จิตจนหมองหมาง 
ใช้ดับเพลิงคือน้ำตามาดับพราง 
อยู่กับความอ้างว้างเพราะคาดเดา 				
5 กันยายน 2547 07:18 น.

พนาไพรใจมนุษย์

พี่ดอกแก้ว

ดนตรีไพรไล่เรียงเสียงประสาน 
ร้องขับขานทำนองดังก้องป่า 
หลายสำเนียงเสียงหวานซ่านวนา 
บางคราวเกรี้ยวกราดมาว่าเดือดดาล 

คราวลมอ่อนวอนกิ่งระวิงไหว 
วิหคไพรเริงร้องซ้องเสียงขาน 
เคียงคู่ที่คาคบสบดวงมาลย์ 
ความเบิกบานเบิกไพรให้น่าชม 
คราวลมนิ่งกิ่งรอขอลมพัด 
หมายสะบัดใบควงร่วงทับถม 
เป็นฉากงามยามผลัดจัดอารมณ์ 
กลายเป็นพรมผืนป่าคราปลิดใบ 

คราวลมร้ายกรายสู่หมู่ไพรกว้าง 
ทำลายร้างภาพก่อนตอนแจ่มใส 
ต่างตระหนกตกขวัญหวั่นผองภัย 
แตกซ่านไปตามแหล่งเพื่อแฝงตน 

พนาไพรใจมนุษย์สุดจะหยั่ง    
ถูกลมคลั่งยากระงับดับสับสน    
คราวสงบอ่อนหวานซ่านกมล 
แต่มากล้นความรกปรกพื้นใจ
				
3 กันยายน 2547 23:18 น.

สวนขวัญบ้านกลอนไทย

พี่ดอกแก้ว


ในสวนงามยามเช้าสกาวแสง
หมู่แมลงเริงร่ากับฟ้าใส
มวลบุปผามาลีคลี่ดอกใบ
เผยกลิ่นให้อวลอาบซาบผกา

หลายหลากพันธุ์สรรหามาต่างถิ่น
ล้วนเป็นเอกทั้งสิ้นในพฤกษา
ด้วยโดดเด่นงดงามตามปรีชา
ต่างมีค่ามีคุณหนุนในตน

ทั้งตำแหน่งแห่งต้นบนลานนี้
จัดสรรสีสลับงามตามห้วงหน
บ้างงามดอกงามใบในปะปน
รวมเป็นความงามล้นแห่งสวนงาม

จะยามไหนชมได้ไม่สิ้นสวย
รื่นระรวยดมดอมหอมล้นหลาม
แม้นโลกเลื่อนเคลื่อนสู่ราตรียาม
ยังคงความสดชื่นให้ตื่นตา

คือสวนขวัญลานกวีศรีอักษร
ปลูกกาพย์กลอนโคลงฉันท์สรรค์ภาษา
ณ สวนบ้านกลอนไทยในพารา
ต่างเป็นเอกเอนกค่ามาสร้างงาน				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพี่ดอกแก้ว