11 กันยายน 2547 07:31 น.

เดินทางอย่างเดียวดาย

พี่ดอกแก้ว

ใจดวงหนึ่งเดินทางอย่างเดียวดาย 
ค้นความหมายไล่ตามความใฝ่ฝัน 
ไร้ชำนาญหลงทิศติดทางตัน 
จนเสียขวัญเสียใจได้น้ำตา 

ย้อนออกทางสายเก่าเศร้าระทม 
ฟังเสียงข่มเยาะเย้ยเอ่ยครหา 
เขาถากถางให้ยินคำนินทา 
แบกความอายกลับมายังต้นทาง 

อ้างว้างใจไร้กำลังจึงรั้งก้าว 
หยุดสืบเท้าแต่ก้าวใจไปในหมาง 
ครุ่นคิดคำที่ปวดใจไม่ละวาง 
ตกหลุมพรางอับอายกลายโกรธา 

โทษผู้อื่นว่าหยันให้หวั่นใจ 
คำพูดนั้นคือภัยที่หนักหนา 
เป็นศัตรูตัวฉกาจฟาดบีฑา 
ทำลายทางตรงหน้าไม่ให้เดิน 

แท้ศัตรูตัวร้ายใช่ใครอื่น 
ความกลัวคือผู้ยื่นความขัดเขิน 
ความกลัวคือผู้ล้าไม่กล้าเผชิญ 
ความกลัวคือผู้เมินความตั้งใจ 

ในโลกนี้ไหนเลยมีนักเดินทาง 
ไม่เคยคว้างหลงทิศจิตหมองไหม้ 
ไม่เคยผ่านตรอกช้ำวาจาภัย 
ไม่เคยตัดสินใจผิดสักครา 

ความล้มเหลวใช่เลวร้ายไปทั้งหมด 
ที่เลวร้ายทุกหยดคือไม่กล้า 
และที่ควรแซ่ซ้องปองปรีดา 
คือความกล้าก้าวข่มความล้มเหลว
				
11 กันยายน 2547 07:22 น.

ชีวิตปลิดใบ

พี่ดอกแก้ว

 ในราวป่าพร่าพรายใบไม้เขียว 
ทรงเกาะเกี่ยวเรียวประดู่สู่พระหัตถ์ 
ตั้งปุจฉาภิกษุผู้ครองวัตร 
ใบในหัตถ์กับป่าไหนใดมากกัน 


ประดู่ลายคลายลงที่ตรงหน้า 
ทรงเทศนาสัพพัญญูที่รู้สรร 
ในทุกสิ่งมากมายเอนกอนันต์ 
ทรงกรองกลั่นมาเฉพาะเปลาะความดี 

ให้ภิกษุได้ทะลุอวิชชา 
ตามพระธรรมเทศนาอย่างถูกที่ 
คลายกำหนัดสงัดสงบพบเสรี 
คือสิ่งที่ทรงสอนรอนทุกข์ภัย 

ที่นอกเหนือเหลือกล่าวคือราวป่า 
มิได้มีคุณค่าที่ตรงไหน 
ในกำมือคือพระธรรมอันอำไพ 
ลบชีวิตปลิดใบไม่เกิด  				
9 กันยายน 2547 23:05 น.

๐๐ เพียงหยุด๐๐

พี่ดอกแก้ว

พื้นภูมิปูมนี้ที่มนุษย์ 
เพียงหยุดยืนอยู่ชั่วขณะ 
เดินทางมาด้วยศีละ 
เบญจธรรมส่งตรงมา 

แตกต่างห่างไกลในโคตร 
ดีโฉดเลิศลอยด้อยค่า 
มีทรัพย์ไม่เทียมศักดา 
เพราะว่าต่างกรรมทำตน 

ที่ควรหวนคิดติดเตือน 
มิอาจลบเลือนอดีตผล 
ต้องสร้างกรรมใหม่ให้ตน 
เพื่อพ้นผองภัยในชีวี 

อวดยศยิ่งใหญ่ให้บ้า 
อัตตาแน่นหนักศักดิ์ศรี 
อยู่สูงอาจจมปฐพี 
หามีสิ่งใดแน่นอน 

เกิดตายมากมายพริบตา 
ปัญญาควรเร่งถ่ายถอน 
เลือกทางงดงามสัญจร 
เมื่อพบกองฟอน..ไม่ร้อนรน 				
9 กันยายน 2547 09:01 น.

..สิ้นสงสัย..

พี่ดอกแก้ว

งามเด่นดรุณวัลย์ 
ผกาพันธุ์แย้มยวนตา 
หลงใหลในทัศนา 
จนลืมความตามที่เป็น 

หน่วงเหนี่ยวน้อมอารมณ์ 
เคลือบผสมสิ่งที่เห็น 
รวมภาพฉาบประเด็น 
เป็นเรื่องราวทุกคราวมอง 

มนต์มารผสานอุรา 
ติดตรึงตาคู่ทั้งสอง 
แปลงสารไม่ผ่านตรอง 
จึงเรื่องยาวทุกคราวชม 

หม่นไหม้ไร้สุขสบ 
ได้เพียงพบแต่ขื่มขม 
หรือชื่นระรื่นรมย์ 
ก็เพราะเรื่องที่เปลืองความ 

วงล้อก่อรอบจักร 
รอบวงปลักไม่เข็ดขาม 
เจียนตายจึงหมายตาม 
หาทางรอดปลอดพิษภัย 

ได้พบมนต์ชีวิต 
ร่ายสะกิดเพื่อแก้ไข 
ธัมมจักรสลักใจ 
ย้อนกงล้อต่อต้านมาร 

เมื่อพิศจึงพึงเพ่ง 
ได้แลเล็งถึงแก่นสาร 
ที่กระทบทุกทวาร 
เพียงรูปนามหางามใด 

สิ้นเรื่องที่เปลืองความ 
สิ้นนิยามให้ครวญใคร่ 
สิ้นแรงกงล้อใจ 
สิ้นสงสัยสัจธรรม  				
8 กันยายน 2547 16:45 น.

๐๐ ความสมบูรณ์ ๐๐

พี่ดอกแก้ว

   เสียงไชโยโห่ร้องก้องสนาม
ภาพของความยินดีปรี่ใบหน้า
ชัยชนะเหรียญทองของกีฬา
ส่งประกายเจิดจ้าสะกดใจ
 
  ให้คึกคักคึกครื้นจนตื่นเต้น
เมื่อได้เห็นธงชาติปลิวไสว
ด้วยภาคภูมิในเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย
ประกาศศักดิ์เกรียงไกรให้โลกยล
 
   บนรางวัลเหรียญทองกล่องนำโชค
ไล่ทุกข์โศกเคราะห์ร้ายอย่างได้ผล
ทิ้งไปสิ้นกลิ่นไอของความจน
กลายเป็นคนมีค่าสง่างาม
 
   เหนือทรัพย์สินเงินทองที่กองให้
เหนือขบวนเกริกไกรที่แหนหาม
เหนือสิทธิพิเศษในเขตคาม
คือเครื่องราชฯทรงนามดิเรกคุณาภรณ์
 
  ย้อนมองภาพข่าวคราวกล่าวยินดี
โอลิมปิกคราวนี้เป็นอุทาหรณ์
นโยบายเรืองรุ่งฟุ้งขจร
เมืองอมรประโคมข่าวทั้งเช้าเย็น
 
 พลันนึกถึงนักเรียนนักศึกษา
เข้าชิงชัยปัญญาให้พบเห็น
โอลิมปิกวิชาการอย่างลำเค็ญ
ผ่านด่านเป็นผู้ครองชัยในวิชา
 
 หากผู้ใหญ่ให้เงินทุนหนุนช่วยบ้าง
การศึกษาจะไม่ร้างไร้ปัญหา
ความสมบูรณ์ทั้งร่างกายและปัญญา
จะเกิดทั่วพาราแผ่นดินไทย
 
   อย่าให้แรงแกร่งกายไร้สมอง
คนไทยต้องมีปัญญาน่าเลื่อมใส
งามสง่าท่วงท่าทุกช่วงวัย
มิใช่งามเช่นพลุไฟเพียงครู่เดียว				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพี่ดอกแก้ว