22 ตุลาคม 2547 08:33 น.
พี่ดอกแก้ว
มวลแมกไม้หลายพันธุ์บรรเจิดค่า
ละลานตาในสวนล้วนสดสี
ด้านทิศเหนือเกื้อหนุนบารมี
ประดับว่านนามดีเพื่อปลอดภัย
ปลูกมะพลับกับมะปรางทางทิศใต้
เสริมดวงให้รวยรุ่งพุ่งสดใส
ตะวันออกปลูกมะพร้าวเป็นราวไกว
สารภีมีไผ่ให้เสริมดวง
ตะวันตกยกเภทภัยคดีความ
ปลูกมะขามมะยมข่มข้าหลวง
จัดสวนงามตามทิศปิดกลลวง
เชื่อว่าไม้ทั้งปวงเสริมมงคล
คือความเห็นครูบาคราโบราณ
สร้างเบิกบานพฤกษ์ไพรไปทุกหน
ใช้แมกไม้ปรับจิตอย่างชิดชนม์
รับร่มผลความเชื่อเกื้อร่มเงา
หากสวนใจไร้ศีลสิ้นกลิ่นศักดิ์
ไร้ต้นรักแนบชิดจิตเสลา
ขาดดอกจานเมตตามาแนบเนาว์
จักอับเฉาที่ตนคนปลูกเอง
ต่อให้มีสวนศรีต้องทิศา
แต่มนาฝักใฝ่ในข่มเหง
อวดอำนาจบาตรใหญ่ไม่ยำเกรง
เขานั้นเองปลูกอุตพิดที่จิตตน
ไม้มงคลที่สวนส่วนภายนอก
ต้องช้ำชอกเพราะสวนใจสับสน
สิ้นความดีหนีลับอัปมงคล
อย่าโทษต้นไม้นี้ไม่มีคุณ
21 ตุลาคม 2547 08:29 น.
พี่ดอกแก้ว
ทอไหมฝันวันฟ้าใสใจเจิดจ้า
เป็นลวดลายลออตาจรัสศรี
ถักเส้นฝันมั่นใจในไมตรี
สลับกับความดีเป็นลายพราง
วางความหวังตั้งไว้ในกลางช่อ
สานใจก่อศรัทธาอย่ารู้หมาง
เป็นลายดอกบอกให้สู้บนเส้นทาง
ขัดลายขวางวางใจไว้ในธรรม
เก็บริมชายด้วยลายของความรัก
พร้อมลายปักเมตตามาเน้นขำ
ให้ผองมิตรลิขิตวัตรตัดรอยกรรม
และน้อมนำสุขไว้ในทุกชนม์
คือผืนฝันผันฟ้ามาห่มขวัญ
ร่วมสร้างสรรค์อาภรณ์ซ้อนเหตุผล
ตกแต่งร่างอย่างสง่าและน่ายล
เพื่อทุกคนงดงามทุกยามมอง
20 ตุลาคม 2547 12:13 น.
พี่ดอกแก้ว
คราวผิดหวังครั้งใดใจมืดมิด
โทสะปิดดวงตาพาหม่นหมอง
แม้นโลกกว้างสว่างไปด้วยแสงทอง
กลับเพ่งมองแต่รอยดำความช้ำใจ
แล้วอำพรางสร้างฉากฝากเรื่องเศร้า
เพราะใจเขลาย้ำคิดติดนิสัย
เหมือนสีดำซ้ำทาหนาทึบไป
ดังราวไพรรกร้างห่างสมบูรณ์
เปิดม่านไพรเปิดใจให้ไร้ม่าน
เปิดห้วงกาลสู้ใหม่ไม่สิ้นสูญ
เปิดรอยก้าวประสบการณ์เพื่อเพิ่มพูน
เปิดตำนานทวีคูณจากสงคราม
เป็นบทเรียนเพียรฝึกให้นึกรู้
เลือดนักสู้ฆ่าได้ไม่ควรหยาม
หากล้มลงถูกปลงชีพคุกคาม
ดีกว่าความอ่อนแอแพ้ใจตน
ใบไม้ผลัดผลิใหม่ไม่ยอมท้อ
ยังแตกช่อล้อไกวไปทุกหน
ตราบถึงวันสิ้นแรงจะบันดล
คือวันที่สิ้นตนเพราะความตาย
อย่าทำร้ายตัวเองด้วยเพลงเศร้า
อย่าโทษเขาว่ามิใช่มิตรสหาย
อุปสรรคอยู่ที่เราไม่ฟื้นกาย
ทำใจวายด้วยมือตนคนอ่อนแอ
19 ตุลาคม 2547 06:57 น.
พี่ดอกแก้ว
ดาวเรืองเรื่อเรืองใจ
ร้อยมาลัยซ้อนมาลี
บูชาพุทธบดี
สถิตย์ที่แท่นทรงธรรม
เรืองรองส่องเวไนย
ถึงห้วงใจให้จดจำ
แจ่มแจ้งกระจ่างคำ
ส่องสว่างดั่งสุรีย์
ดาวเรืองเรื่อเรืองรอง
หมายใจปองสุขเสรี
ทาบทอก่อความดี
เป็นพื้นฐานประสานใจ
แม้นดาวสิ้นเรืองรอง
กลีบหล่นกองทั่วไผท
อุดมการณ์ยังคงไว้
ไม่เคยท้อต่อเหตุการณ์
ซึมซับกระแสใจ
จากมิตรไว้นานเท่านาน
มิโรยมิร้างราน
ยังเรืองรองผ่องดาวเรือง
17 ตุลาคม 2547 19:50 น.
พี่ดอกแก้ว
ปลูกเรือนไว้หมายพบประสบขวัญ
กี่ร้อยวันยังรอขอเคียงหมาย
โรยไมตรีแทนรั้วไว้ล้อมกาย
ขึงเส้นสายรักระหว่างทางสัญจร
รอผู้มาเยี่ยมเยือนเรือนแห่งนี้
น้อมฤดีสู่ใจไม่ทอดถอน
ขอต้อนรับสัมผัสด้วยอาทร
และต่อกลอนเพลงกานท์ประสานกัน
เมื่อใดหนอรอวันนั้นมาถึง
เพียงคำนึงถึงเธออย่างเพ้อฝัน
ได้แต่ส่งห่วงใยไปให้กัน
ทุกคืนวันส่งไปไม่รอรี
เรือนแห่งรักจักรอขอพบรัก
ด้วยสลักใจไว้ไม่หน่ายหนี
อาจเงียบเหงาคราวร้างห่างฤดี
หัวใจนี้ยังปองครองรักเธอ
อย่าเพ้อเศร้าร้าวรานปานรักลวง
ใจอีกดวงห่วงหาอยู่เสมอ
เหนื่อยมากไหมในภาระที่พบเจอ
เรือนหลังน้อยคอยเธอมาผ่อนกาย
ฝากกระซิบริมโสตขอโทษนะ
อาจเลยละการรับกลับเมื่อสาย
ด้วยจัดเตรียมความรักไว้มากมาย
จนบดบังรูปกายไม่พบกัน