11 มีนาคม 2548 01:34 น.

วาดใจ

พี่ดอกแก้ว

วางกรอบภาพทาบลงตรงใจนี้
จรดพู่กันจุ่มสีที่สดใส
วาดรูปแบบแยบยลบนหัวใจ
สร้างโครงร่างภายในวิจิตรการณ์

จากความคิดผลิตผลบนความหวัง
ออกคำสั่งกายวาจามาสืบสาน
นำภาพใจไขสู่ผู้ทำงาน
วาดลายกรรมนำการเป็นเรื่องจริง

สิ่งสวยงามความก้าวหน้าพาพบสุข
หรือเลวร้ายซ่อนซุกหน้าผีสิง
อุปกรณ์ทันสมัยให้พึ่งพิง
ถอดแบบจากภาพนิ่งที่หัวใจ

ผู้เก่งกาจ...มิใช่ใครไหนอื่น
ผู้หยิบยื่น..มิใช่ใครที่ไหน
ผู้ขยันขันแข็ง..มิใช่ใคร
ผู้เกียจคร้าน...คือใจเพียงผู้เดียว

คำไพเราะเสนาะโสตน่าโปรดปราน
คำสามานย์หยาบคายหน่ายแลเหลียว
ก่อนเปล่งเสียงออกไปสร้างคลื่นเกลียว
เกิดที่ใจก่อนเลี้ยวเป็นวาจา

ถ้ารู้จักฝึกจิตรู้คิดทำ
เรื่องของกรรมไม่กลายเป็นปัญหา
จิตรกรหัวใจใช้ปัญญา
วาดคุณค่าด้วยสีศีลสิ้นจองเวร

............................................................พี่ดอกแก้ว


ให้เส้นแสงสีเงาเป็นเค้าร่าง
ผ้าใบกางเริ่มเขียนเปลี่ยนเส้นสี 
จากพู่กันเพียงหนึ่งซึ่งสุนทรีย์
จิตเพ่งที่มโนภาพเริ่มจับวาง 

ไร้จุดหมายเพียรหมั่นพลันเขียนขีด
เปี่ยมปราณีตแน่แน่วแล้วอิงอย่าง 
จักบรรยายรูปลักษณ์นักปราชญ์พลาง
ฉันจึงอ้างด้วยเส้นเป็นแสงเงา  

สุนทรภู่ครูกวีที่อ้างบท
จิตกำหนดเค้ารูปสรุปเข้า 
ว่านักปราชญ์คงเห็นเช่นแสงเทา
มีมืดเค้าดูขลังดังเวทย์มนต์ 

สุขุมนักยากเขียนเลียนเส้นสี
ซึ่งสุธีเลิศล้ำคำกล่าวกร่น 
เขียนแล้วลงเส้นวาดพิลาสดล
แจ่มกมลรื่นคำร่ำจำเรียง  

ทัศนศิลปะสะคราญนัก
ให้ประจักษ์ลวดลายหมายงามเยี่ยง 
ภูมิทัศน์จัดวางอย่างพอเพียง
ดุจสำเนียงโคลงกลอนตอนประพันธ์


ดูพริ้วไหวกลอนแว่วแนวหวานว่า
เปรียบภาษากวีพจน์รจน์คำฉันท์ 
สละสลวยร่ายเรียงเยี่ยงพระจันทร์
ซึ่งรังสรรค์ด้วยสีที่เพริศแพรว

ลงสีแดงดุดันบรรยายภาพ
ดุจโคลงกาพย์บางบทรจน์ร้อยแก้ว 
ถึงคราวรบเขียนรักมักคงแนว
ก็กาจแกล้วเก่งกล้าสง่างาม 

สีน้ำมันพลันป้ายระบายริ้ว
ด้วยแนวนิ้วจิตเพ่งน่าเกรงขาม 
ท่านร่ายคำเขียนโคลงบ่งเนื้อความ
น่าติดตามเนื้อเรื่องอันเฟื่องฟู  

มิเลอะเทอะเปรอะเปื้อนบิดเบือนภาพ
ยังซึมซาบโศลกซึ้งตรึงใจอยู่ 
ดุจผลงานวรรณกรรมย้ำวิญญู
ว่าท่านภู่เพรียบพร้อมเพื่อน้อมชม 

อันงานเขียนโคลงกานท์ผ่านสมัย
ยังจับใจแจ่มแจ้งสำแดงสม 
แม้นภาพเขียนเปลี่ยนกาลพลันหมองตรม
แต่คารมท่านครูมิรู้ตาย  ฯ 

...........................................................อัลมิตรา				
2 มีนาคม 2548 10:05 น.

๏ เพียงรู้ ๏

พี่ดอกแก้ว

รู้ไม่จริงนิ่งเสียไม่เพลียจิต 
อย่าเบือนบิดกระบวนความตามใจฉัน 
ปากต่อปากฝากสีให้ตีกัน 
ที่สุดนั้นไม่เหลือใครให้ใจจริง 

รู้เพียงนิดอย่าคิดว่ารอบรู้ 
ทำเป็นผู้เชี่ยวชาญชำนาญสิ่ง 
เปิดช่องว่างรอยโหว่ให้ท้วงติง 
คนรู้จริงอาจย้อนสอนให้อาย 

รู้เพียงน้อยอย่าพลอยตื่นตระหนก 
ลูกตาลตกตีความตามมุ่งหมาย 
ให้ใหญ่โตถึงฟ้าถล่มทลาย 
ต้องกลับกลายเป็นนักโทษเพราะโจษความ 

รู้บางสิ่งอย่าหยิ่งเผยอผยอง 
ชูหางเหมือนแมงป่องน่าเหยียดหยาม 
ความรู้นิดพิษน้อยทั้งด้อยทราม 
อย่าหลงตนกร่างตามความพอใจ 

รู้บางกาลนานไปไม่แจ้งชัด 
อย่าคิดว่าเจนจัดทุกสมัย 
กะลาครอบกบหมอบอยู่ข้างใน 
อย่าตีกรอบตนไว้ด้วยอัตตา 

รู้เพียงรู้...ว่าตนไม่รอบรู้ 
แล้วเดินสู่เส้นทางสร้างศึกษา 
รู้เฉพาะตนด้วยสติปัญญา 
รู้เท่านี้มีค่ากว่ารู้ใด 				
21 กุมภาพันธ์ 2548 19:59 น.

เพ็ญเดือนสาม

พี่ดอกแก้ว

เยื้องพระบาทยาตรามามคธ 
ความยิ่งใหญ่ปรากฏหลายสถาน 
โปรดสาวกบรรลุปัญญาญาณ 
ประดิษฐานขบวนธรรมนำเภรี  

 อัศจรรย์วันนี้ที่ยิ่งใหญ่ 
จตุนัยสำคัญวันสักขี 
จันทร์เสวยฤกษ์มาฆะบูรณมี 
ประชุมสงฆ์ทรงศรีอภิญญา     

   เพ็ญเดือนสามความหมายในโอวาท 
ทรงประกาศหัวใจพระศาสนา 
เป็นหลักธรรมนำสู่ปฏิบัติบูชา 
แก้ปัญหาชีวิตพ้นพิษภัย  

   หลักการสามความนำคำโอวาท 
ไม่ล่วงชาติบาปธรรมนำจิตใส 
ทวารสามถึงพร้อมกุศลมัย 
ผุดผ่องใจไร้นิวรณ์ถอนอวิชชา  

   อุดมการณ์สี่อย่างสร้างความแกร่ง 
ตบะแรงอดทนพ้นโทสา 
เว้นเบียดเบียนทำร้ายล่วงกายา 
สงบตน..ค้นคว้าหานิพพาน  

วิธีการหกอย่างสร้างสุจริต 
ทุกชีวิตเว้นกล่าวร้ายเบียดประหาร 
สำรวมในปาฏิโมกข์รู้ประมาณ 
สงัดในสถานและฝึกใจ  

   ด้วยโอวาทประกาศก้องเป็นคลองวัตร 
ธงแห่งธรรมระบัดปลิวไสว 
มาฆะฤกษ์เบิกหล้าสู่เวไนย 
รับหัวใจแห่งธรรมนำสุขจริง  				
17 กุมภาพันธ์ 2548 14:52 น.

ลายรักลายระทม

พี่ดอกแก้ว

จากนาทีถอทักรักเป็นผืน 
ผ่านวันคืนผืนรักถักร้อยฝัน 
สานน้ำใจกลมเกลียวเกี่ยวสัมพันธ์ 
เป็นเชิงชั้นลายรักที่ถักทอ 

พอปีผ่านนานไปไม่ขยัน 
รักผืนนั้นดำด่างร้างเข็มขอ 
แต่ยังเห็นลวดลายชัดเจนพอ 
แม้นหยุดทอยังเป็นผืนให้ชื่นชม 

ครั้นนานเนิ่นเพลินใช้ไม่คิดซ่อม 
ซักฟอกย้อมรอยคราบอาบขื่นขม 
รักผืนนั้นพลันขาดฟาดอารมณ์ 
ลายระทมผุดซ้อนตอนรักคลาย 

ใจหุนหันพลันทิ้งสิ่งเคยสร้าง 
ปล่อยผืนรักเคว้งคว้างปลิวเส้นสาย 
รอยขาดเพียงเล็กน้อยกลับวุ่นวาย 
ทิ้งดอกรักมากมายไม่เหลียวแล 

ไม่นานวันพลันคิดคืนผืนรัก 
หมายทอถักซ่อมลายสลายแผล 
แต่ต้องเจ็บปวดร้าวหนาวดวงแด 
ผืนรักแท้หายลับดับชีพชนม์ 
				
15 กุมภาพันธ์ 2548 22:56 น.

เคยบ้างไหม?

พี่ดอกแก้ว

เคยบ้างไหม...สุมไฟใส่ต้นรัก 
หรือโค่นหักไมตรีที่แน่นหนา 
เหลือเพียงซากบางเบาในพริบตา 
ด้วยอารมณ์วูบพาคิดผิดเอง 

เคยบ้างไหม...เคืองแค้นใครไม่กล้าโต้ 
แต่ระบายโทโสเกรี้ยวข่มเหง 
กับคนใกล้ในท่าเยี่ยงนักเลง 
แพะรับบาปกลัวเกรงหนีหัวซุน 

เคยบ้างไหม...พลาดผิดไปไม่ขอโทษ 
กลับถือโกรธเพราะอายที่หันหุน 
สร้างเรื่องกลบลบรอยอ้างบุญคุณ 
ความถือตัววิ่งวุ่นมาค้ำคอ 

เคยบ้างไหม...ขอโทษใครในผิดพลาด 
และประกาศคุณผู้อื่นเขาบ้างหนอ 
ใช้ความดีเป็นสะพานสานถักทอ 
เชื่อมรอยต่อที่ร้าวคราวพลั้งไป 

เคยบ้างไหม...กลายเป็นแพะชำแหละเชือด 
จากความเดือดองศาโกรธพิโรธไหล 
ทั้งที่เจ็บปวดท้นจนล้นใจ 
แต่อภัยให้มิตรคิดด้านดี 

เคยบ้างไหม...ดับไฟที่โหมสุม 
หลั่งน้ำใจคลี่คลุมไม่หน่ายหนี 
อดทนนิ่งไม่ถอยน้อยฤดี 
รอนาทีเพลิงนั้นผันผ่านไป 

เคยบ้างไหม...เห็นนัยของความรัก 
พบสลักเชื่อมจิตพิศมัย 
คือสละ เมตตา ให้อภัย 
และเข้าใจ รู้ผิดชอบ มอบแก่กัน 
				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพี่ดอกแก้ว